โคจรเจอกันครั้งแรกในละครแอ๊กชั่นดราม่าเรื่อง "บัลลังก์หงส์" บทประพันธ์ของ กานติมา โดยค่ายสามัญการละครของผู้จัด- ผู้กำกับฯ "ตั้ว"ศรัณยู วงษ์กระจ่าง สำหรับพระเอกหนุ่ม "ไมค์"ภัทรเดช สงวนความดี ที่รับบท "ปริวัตร" กับนางเอกสาวหมวย "ใบเฟิร์น"พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ในบท "จ๋อม" หรือ "จอมขวัญ" หญิงสาวสู้ชีวิตที่กลายมาเป็น "มิสโจว" นักธุรกิจสาวเก่งที่พกพาความแค้นมาชิงบัลลังก์ตระกูลต้นกำเนิด ปะทะบทบาทกับสาวสองพันปี "ต่าย"เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ในบท "หลี่ซวง"

      ร่วมด้วย "แม็ค"วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล(ว่าน), "สา"อนิสา นูกราฮา(ดารารัตน์), "แพร"พรรัมภา สุขได้พึ่ง(สิริวิภา), "เฟิร์น"ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร(สิริกานดา), "พลอย" รัญดภา มันตะลัมพะ(สิริวิมล), "กัสเบล"พีรกร โพธิ์ประเสริฐ(พิทักษ์พงศ์), "นิว"ปทิตตา อัธยาตมวิทยา(มุนิน), "เติ้ล"สุทธิ์คุณ วันทานุ(ทัศน์), "แดน"ดนัย สมุทรโคจร(มาร์ค), "กลม"นพพล พิทักษ์โล่พานิช(โสภณ), สุเชาว์ พงษ์วิไล(มิสเตอร์คิม) ฯลฯ





      โดยผู้กำกับฯ เผยถึงละครว่า "เรื่องนี้เป็นแนวแอ๊กชั่นดราม่า บทประพันธ์อ่านแล้วมีรสชาติที่รู้สึกว่าน่าจะถูกจริตคนไทย ผมเห็นแง่มุมที่มีพาร์ตดราม่าแบบคนไทยเข้าใจได้และมีอารมณ์ร่วมได้ มีพาร์ตที่ผมปรับให้มีแอ๊กชั่นสนุก ไม่ใช่ดราม่าดูแล้วหนักอย่างเดียว มันจะมีการเคลื่อนไหวของตัวละครในสถานการณ์ต่างๆ มากมาย ตรงนี้ทำให้เห็นว่าเรื่องน่าสนใจ"

      ทำไมเลือก "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก" มารับบทนางเอกเรื่องนี้ ตั้วกล่าวว่า "ใบเฟิร์นนี่ผมเลือกเลย อยากได้น้องมาเล่นด้วย จริงๆ เลือกเขาหลายเรื่องแล้วแต่ช่องไม่เคยให้มา ผมเห็น ใบเฟิร์นตั้งแต่เล็กๆ ก่อนเล่นหนังอีก คุยกันเมื่อ 10 ปีที่แล้วเขายังเป็นเด็ก ตอนนั้นถ่ายโฆษณาอะไรไม่รู้ ผมกำลังจะทำหนังวัยรุ่น เขาเป็นหนึ่งคนที่เอามาจับลงคลาสเรียนอยู่เลย แต่พอดีผมหยุดโปรเจ็กต์หนังไป จำได้ว่าเขาเก่ง มีพรสวรรค์ที่ผมชอบ หลังจากนั้นก็แยกกันไป เห็นน้องโตขึ้น ไปเล่นหนังเรื่องหนึ่ง เราก็เห็นมาตลอด อยากร่วมงาน พอมาเรื่องนี้ตัวเดินเรื่องคือตัวนางเอก เรื่องของผู้หญิง มันเหมาะกับเขามาก ก็เสนอไปที่ช่อง พอดีจังหวะช่องให้ก็เลยลงตัว"


      เรื่องนี้จับใบเฟิร์นปรับลุกส์โตขึ้น เพราะที่ผ่านมาเห็นแต่เล่นบทใสๆ "จะมองว่าเปลี่ยนก็ได้ แต่ด้วยวัยเขาในตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันเหมาะแล้ว ตัวละครตัวนี้เล่นตั้งแต่เป็นเด็กมัธยมปลาย มีความสดใสในชีวิตจนไปเจอจุดเปลี่ยนของชีวิต ไปเจอบางสิ่งบางอย่างกระทบกระเทือนต่อจิตใจและชีวิตเขา จากคนใสๆ ก็ทำให้แกร่งขึ้น เพราะฉะนั้นเฟิร์นจะอยู่ในวัยที่เหมาะจะไปได้ทั้งสองทาง ซึ่งน้องทำได้ดีมาก เขาขยันทำการบ้านมาตลอด และเรื่องนี้ผมส่งเขาไปเรียนคิวบู๊ด้วย เพราะอยากให้มันคล่อง ทั้งไปเรียนบู๊ เรียนขี่ม้า เขาทำได้ดี ไปเรียนไม่กี่ครั้งทักษะได้แล้ว"


     แล้วกับพระเอก "ไมค์-ภัทรเดช" ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งเป็นยังไงบ้าง ผู้กำกับฯ เผยว่า "ไมค์โอเคเลย คุ้นเคยกัน จากเรื่องที่แล้วไมค์เขาเห็นมาหมดแล้วว่าเป็นยังไง เขาก็สบายตัวไป เขารู้แล้ว เริ่มเคี่ยวแล้ว"

       เคี่ยวหนักกว่าเดิมไหมกับไมค์ในเรื่องที่สองที่ร่วมงานกัน "เรื่องที่แล้วมันเป็นเรื่องของเขาเลย เขาจะอยู่ในทุกๆ การเคลื่อนไหวของเรื่อง เขาก็จะหนักกับหลายๆ อย่าง แต่เรื่องนี้เขาจะสบายมาก เพราะเป็นเรื่องของผู้หญิงที่เป็นตัวเส้นเรื่อง บทบาทเขาในเรื่องนี้จะแตกต่างจากเรื่องที่แล้ว เขามาเป็นผู้ถูกกระทำเวลาที่เรื่องมันเกิด มันไม่ได้เกิดที่เขา เขาจะเป็นตัวรับ ตัวละครทุกตัวสำคัญก็ต้องหาจังหวะว่ามีตัวละครนี้อยู่นะ ซึ่งไมค์ก็เข้าใจ แต่ว่าเขาดังแล้วก็มีบ้างที่งอแงมาสาย พอเริ่มจะมีปัญหาก็ต้องเริ่มบอกเขาให้เขารู้ว่าไม่ได้นะ"


      และตัวละครสำคัญอีกตัวในเรื่องคือ "หลี่ซวง" ที่แสดงโดย "ต่าย-เพ็ญพักตร์" "พี่ต่ายเรื่องนี้หนักครับ เฟิร์นกับพี่ต่ายเป็นคู่ปะทะกันหนักๆ เลย มันหนักทั้งอารมณ์ทั้งบทอะไรหลายๆ อย่าง บางทีแกเหนื่อยเสียงหายเราก็เห็นใจให้เวลาแก แต่ออกมาแล้วด้วย แอ๊กติ้ง ลุกส์ ทำไว้ดีมาก"


      โลเกชั่นส่วนใหญ่เป็นที่ไหน "โลเกชั่นจะมีบ้าน มีบริษัท มันเป็นเรื่องคนเมือง ธุรกิจบริษัทใหญ่ มีบ้านของเศรษฐีหลังใหญ่ ตัวละครจะอยู่ในสังคมคนเมือง คอนโดฯ อันนั้นเป็นหลักของเรื่อง นอกจากนั้นแล้วแต่ว่าเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งในตลาด ในสนามม้า ทุ่งหญ้าที่เกาหลีก็ว่ากันไป หลากหลายที่"

      มีบินไปถ่ายทำที่เกาหลีด้วยเป็นยังไงบ้าง "หนาวมาก (หัวเราะ) ไปช่วงหนาว เพราะผมอยากได้บรรยากาศหนาวๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีของนักแสดงทุกคน แต่ละที่ที่ไปถ่ายทำคนเกาหลียังบอกเลยว่าคุณไปที่ที่เขาไม่ไปกันเลย เก่งมาก ยอมไปในที่ลำบาก ก็อยากให้ได้ภาพที่มันต่างไปบ้าง ไปประมาณ 10 วัน ถ่ายที่เกาหลีน่าจะ 15 เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ถ้านับเป็นความยาวของเรื่องมันไม่เยอะเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในพาร์ตเกาหลีมันเป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง"

       สำหรับความคาดหวังในละคร ผู้กำกับฯ เผยว่า "ผมคาดหวังทุกเรื่องเพราะทำ เต็มที่ เมื่อเลือกจะทำเรื่องอะไร นั่นคือผมเห็นแง่มุมที่อยากจะพูดอยากจะเสนอ คาดหวังว่าถ้าคนได้ดูในสิ่งที่เราบอกเล่า แล้วเขาเข้าใจ มีความสุข แค่นั้นผมก็มีความสุขแล้ว นั่นคือเราสื่อสารกันได้ ผมคาดหวังแค่ว่าคนได้ดูแล้วสนุก กับมัน ได้แง่มุมอะไรที่ใส่ไปและรับรู้ได้ แค่นั้นแฮปปี้แล้ว"

ติดตามชมละคร "บัลลังก์หงส์" ทุกจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7



.....ดีใจและขอบคุณพี่ตั้วที่ตั้งใจเลือกใบเฟิร์นรับบทนี้นะคะ