"สัญญานะ ว่าจะไม่โกหก" ความรู้สึกหลังจากได้ดู แฟนเดย์ #แฟนกันแค่วันเดียว



ส่วนตัวเป็นคนชอบดูหนัง แต่ไม่ค่อยจะระบายความรู้สึกของตัวเองให้คนอื่นรับรู้เท่าไหร่ ถ้าหากว่าไม่หลงไหลได้ปลื้มหนังเรื่องนั้นจริงๆ ซึ่งหนึ่งในหนังที่ชอบในปีนี้นั่นก็คือเรื่อง แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียวนั่นเอง

บอกก่อนว่านี่ไม่ใช่การรีวิว แค่บอกความรู้สึกของตัวเองหลังจากไปดูมาเท่านั้น ไม่มีความรู้เรื่อง ภาพยนตร์ หรือการเขียนบทวิจารณ์ เป็นพิเศษ เนื้อหามีสปอยล์เท่ากับที่มีในตัวอย่างหนัง ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ คนยังไม่ดูก็สามารถอ่านได้นะคะ

ต้องบอกเลยว่าคาดหวังกับหนังเรื่องนี้ไว้สูงพอสมควร ด้วยบทความรีวิวรอบสื่อที่ออกมาเป็นบวกเกือบหมด และ ผลงานเก่าๆ ของ ผกก. โต้ง ซึ่งช่วงแรกก็เสียวๆ แล้วว่าอาจจะผิดหวัง เพราะหนังเดินเรื่องได้ค่อนข้างเอื่อย เล่าเรื่องเยิ่นเย้อไปหน่อยสำหรับเรา แต่หากดูจนจบจะเข้าใจว่าที่เกริ่นไว้ตอนแรกนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลสนับสนุนให้ตัวละครตัดสินใจกระทำเรื่องราวต่างๆ ลงไป จนถึงจุดพีคในท้ายเรื่อง ชอบที่ตัวละครเรื่องนี้เป็นสีเทา ไม่มีใครดีสุด หรือ เลวสุด ทั้ง เด่นชัย และ นุ้ย ต่างก็เป็นคนที่เห็นแก่ตัว ยอมทำเรื่องผิดๆ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่สมควร แต่เราก็ยังคงมีความรู้สึกว่าอยากเอาใจช่วยสองคนนี้จริงๆ ไม่อยากให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปเลย นี่ยอมรับว่า เสียน้ำตาไปตั้งแต่ฉากที่นุ้ยเริ่มเปิดใจให้เด่นแล้วนะ ทั้งที่มันไม่ใช่ฉากเรียกน้ำตาแม้แต่น้อย แต่เราก็คิดไปล่วงหน้าแล้วว่า หากถึงวันพรุ่งนี้เมื่อไหร่ ความรู้สึกดีๆ ทั้งหมดของเขาที่อยากสัมผัสมาตลอดมันจะเลือนหายไปพร้อมกับนุ้ย แค่คิดก็หดหู่และสงสารจับใจแล้ว

ชอบบทโดยรวมของหนัง ที่คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์แบบเด่นชัย แค่เพียงคุณเคยแอบรักใครสักคน ทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว หรือรู้ว่าตัวเราไม่คู่ควรกับเขา คุณก็สามารถอินกับมันได้แล้ว เพราะถ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียวที่คุณจะได้ใกล้ชิดกับคนคนนั้น เป็นใครก็คงจะทำแบบเด่นชัยกันทั้งนั้น การเปรียบเปรยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ ก็ทำได้ดี บทพูดและการแสดงของตัวละครที่ดูมีเสน่ห์ เหมือนมนุษย์จริงๆ ที่เขาพูดกัน เด่นชัยดูเป็น "หมาวัด" อย่างแท้จริง ทั้งรูปร่าง การแต่งกาย การพูดจา ที่มองเผินๆ แล้ว ไม่มีอะไรเลยที่จะคู่ควรกับ "เครื่องบิน" อย่างนุ้ย ที่ทั้งสวย มีเสน่ห์ เฟรนลี่ และ เต็มไปด้วยคนที่คู่ควรรายล้อมรอบตัวเธอ ที่คงมีมาให้เลือกมากมาย ดูยังไงก็แทบไม่มีทางเลยที่คนทั้งคู่จะมาคบกันเป็นแฟนได้

อีกประเด็นที่อยากพูดถึงคือ การมองคนที่รูปลักษณ์ภายนอกก่อนจิตใจข้างในเสมอ แค่คุณยังไม่ทันได้ทำอะไรก็อาจผิดแล้ว ซึ่งแม้แต่คนอย่างนุ้ยเองก็ตาม แม้ว่าพื้นขึ้นมาจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม เพียงแค่เด่นชัยบอกว่าเธอคือแฟนของเขา หล่อนก็แทบบืนปากใส่ จนไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง หรือแม้กระทั่งบอกว่าเขาคือหัวหน้าของหล่อนก็ตาม นั่นหมายความว่านุ้ยเองก็มองว่าเด่นนั้นอยู่คนละระดับกับเธอตั้งแต่เห็นแค่เบ้าหน้าแล้ว จนหนังค่อยๆ สร้างเหตุการณ์ให้นุ้ยเริ่มเปิดใจกับเด่นชัยทีละน้อย ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่ดูน่าเชื่อถือ และไม่เกินจริง ถ้าเราเป็นนุ้ย เราก็คงคิดว่าเห้ย "หมอนี่มันก็น่ารักดีนี่หว่า" จนท้ายสุดเธอก็เชื่อจนหมดใจว่าผู้ชายเฉิ่มๆ คนนี้คือ แฟนตัวจริงของเธอ!

จนบทสรุปที่เราทุกคนต่างก็รู้ว่ามันจะต้องลงเอยยังไงได้มาถึง นั่นคือจุดที่เราชอบมากๆ ที่นุ้ยพยายามจะทำทุกอย่างให้ตัวเองไม่ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนึ่งวันนี้ ส่วนตัวเด่นเองก็รู้ดีเช่นกันว่า หากพ้นวันนี้ไป นุ้ยก็จะกลับมาเป็นนุ้ยคนเดิม คนที่ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันคงจะเจ็บกว่าหลายเท่านัก ทั้งคู่ต่างก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งตรงนี้เรารู้สึกสงสารทั้งคู่จับใจ และปวดใจทุกครั้งที่รู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงรุ่งสาง หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น? เป็นคำถามที่ทุกคนอยากรู้ และหาคำตอบ

ขอไม่บอกว่าหนังจบอย่างไร แต่ส่วนตัวคิดว่ามันสมบูรณ์แล้วสำหรับหนังแนวนี้ ยังไงก็บอกได้เลยว่า แฟนเดย์ คือหนังของคนแอบรักที่ดีที่สุดของเราตั้งแต่เคยดูมา ด้วยองค์ประกอบทุกอย่าง นักแสดง บท โลเคชั่น องค์ประกอบศิลป์มันดีมาก ดีจนกลบข้อด้อยเล็กๆของหนังลงไปได้ และ ไม่พ้นต้องดูซ้ำอีกแน่นอน

จริงๆอยากเขียนอะไรให้ได้เยอะกว่านี้ แต่เป็นคนบรรยายไม่เก่ง ไว้คิดอะไรได้จะมา edit เพิ่มนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่