“Chiangrai Offline”
เชียงราย ไม่มีสัญญาณ
"ตื่นเช้า มาทำงาน กินข้าวเที่ยง ทำงาน ทำโอที กลับบ้าน"
เชื่อว่าหลายคนคงมีกิจวัตรแบบนี้ วนไปครับ ....
นั่นครับเหตุผลที่ทำให้มนุษย์ออฟฟิศอย่างผม อยากพาตัวเองหนีจากความคุ้นเคย
ยอมรับว่า “เชียงใหม่” ผุดขึ้นในหัวทุกครั้งเมื่อคิดว่าจะออกเดินทาง ก็เลยเกิดความคิดอยากเปลี่ยนจังหวัดเที่ยวดูบ้าง
แล้ว “เชียงราย” ก็กลายเป็นโจทย์ที่น่าสนใจขึ้นมาทันที
รออะไรครับคุณ ... ขอลาเจ้านาย จัดการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก หาข้อมูล จัดกระเป๋าเตรียมเดินทางกันเลยครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
DAY 1 : เดินทาง
[เช้าวันที่ 19.08.16]
เราออกเดินทางไปเชียงรายด้วยไฟท์เช้าสุดของวันนั้น เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวมากขึ้น
หลังจากพักสายตาถึงขั้นหลับลึกบนเครื่องบินมาชั่วโมงนิดๆ และแล้วเราก็มาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย
ยังไงต่อละครับทีนี้ ... แทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรถสาธารณะของที่นี่ในหัวเลย จนสบตากับพี่แท็กซี่อู้คำเมืองใจดี
เมื่อสอบถามราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังที่พักของเราทันที
HAPPYNEST HOSTEL
ที่พักโฮสเทลภายใต้ตึกสามคูหาติดถนนใหญ่ในอำเภอเมืองเชียงราย ได้กลายเป็นหนึ่งที่ที่ทำให้ผมตัดสินใจมาเที่ยวที่นี่
และก็ไม่ผิดหวังครับ .... เราเดินผ่านประตูเข้ามาข้างใน ความเป็นทางการก็ลดลงทันที
เมื่อได้เห็นการตกแต่งที่จัดสรรพื้นที่ออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา รวมถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ให้ความรู้สึกที่น่ารัก จับต้องได้ อบอุ่นในทุกมุม แถมยังดูเป็นกันเองอีกด้วย
ขึ้นบันไดมาชั้นสอง เราสามารถมองจากชั้นลอยลงไปเห็นโซฟาด้านล่างให้ความรู้สึกโล่งสบาย
HAPPYNEST HOSTEL มีห้องพักด้วยกันหลายแบบ ทั้ง shared room เตียง 2 ชั้น สำหรับการมาเที่ยวเป็นแกงค์
หรือว่าใครที่มาแบบครอบครัวก็มีห้องแบบ family room แต่ครั้งนี้จอง shared room ไม่ทันก็เลยคว้า private room มาแทน
ในห้องตกแต่งให้กลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นเน้นโทนสีขาวตัดด้วยสีน้ำตาลของเฟอร์นิเจอร์ไม้
เอนหลัง... คิดที่เที่ยวสำหรับวันแรกอยู่สักพัก เราก็ตัดสินใจใช้วิธีการเดินเท้าลัดเลาะในเมืองเชียงราย
แวะวัด ไหว้พระบ้าง เข้าร้านกาแฟบ้าง แล้วก็เริ่มเปิด Google Map ไปจุดหมายแรก “วัดเจ็ดยอด”
ระหว่างทางจากโฮสเทลก่อนจะถึงวัดที่อยู่ไม่ไกล เราแวะเติมพลังที่ร้านพอใจ
"ร้านพอใจ"
ข้าวซอยกะทิรสเข้มข้นพระเอกของที่นี่ ตามด้วยไส้อั่วรสชาติดั้งเดิม หรือว่าจะเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยวก็ล้วนถูกปาก อร่อยทุกอย่างเลยฮะ
อิ่มท้องตึงแบบเลเวล 9 เราเดินกันต่อไม่ไกลก็ถึงวัดเจ็ดยอด ที่สร้างขึ้นตามศิลปะของล้านนา
แต่องค์ประธานยังอยู่ในช่วงบูรณะซ่อมแซมเพราะแผ่นดินไหว
จากวัดเจ็ดยอด เราเดินต่อมาที่วัดมิ่งเมือง ที่สร้างขึ้นโดยเจ้านางตะละแม่ศรี มเหสีของพญามังราย
ผ่านซุ้มประตูเข้ามาเราก็จะเป็นวิหารไม้ลายคำที่สวยงามโดดเด่นเป็นศิลปะระหว่างไทใหญ่กับล้านนา ด้านในมีหลวงพ่อพระศรีมิ่งเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี
ก่อนจะเป็นลมแดดตอนบ่ายสาม 555 ไปร้านกาแฟหาอะไรชื่นใจๆกินกันเถอะ
Laan-Tim's Cafe' & Gallery
“หลานติ๋ม” แค่ชื่อก็สะดุดหูชวนสงสัย
นั่นแหละครับร้านกาแฟเปิดใหม่ดีไซน์โดดเด่นที่ตั้งอยู่หน้าโฮเทลบ้านนอนเพลิน
ที่นี่ทำให้ผมได้รู้จักคุณป้อง หนุ่มวิศวะเจ้าของผู้ควบตำแหน่งบาริสต้าอารมณ์ดี ที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายได้แบบเป็นกันเอง
นอกจากจะมีกาแฟทั้งร้อน – เย็น และอิตาเลี่ยนโซดาให้ชื่นใจคลายร้อนแล้ว หลานติ๋มคาเฟ่ยังมีขนมเอาไว้ให้ทานเล่นกันอีกด้วย
นั่งชาร์ตพลังจนแดดเริ่มอ่อน เราก็เดินเท้ากันต่อไปที่วัดพระแก้ว
วัดพระแก้ว
วัดพระแก้ว ... ทำไมชื่อเหมือนกับวัดพระแก้วที่กรุงเทพ ก็เพราะที่นี่เป็นที่ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ
และที่เห็นก็คือ "พระหยก" ที่สร้างขึ้นใหม่ ในวาระที่สมเด็จย่าฯ มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา
โดนแผนที่จากอากู๋หลอกให้เดินจนขาล้าแล้วครับคุณผู้ชม แต่ใจมันไม่ยอมง่ายๆ ก็ขอไปปิดท้ายเชียงรายวันแรกที่พาละเมอคาเฟ่ก่อนเข้าที่พัก
ถึงโฮสเทลด้วยความอ่อนเพลียเหมือนกลับมาจากเดินทางไกลสมัยเรียนลูกเสือ 5555 เราก็อาบน้ำอาบท่าเตรียมออกไปหาข้าวเย็นกิน
จากอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงกลางวัน ทำให้ทุ่มกว่าๆของวันแรกที่เชียงราย ... เม็ดฝนก็เริ่มตกลงมาทักทายแบบไม่ขาดสาย
ทำไงได้เปียกไม่กลัว กลัวหิว กางร่มสิครับ เดินผ่าฝนไปเลย
คืนนั้นเราพับโปรแกรมแฮงค์เอาท์ลง กลับมานั่งเล่นที่ล็อบบี้โฮสเทล
ตกกลางคืนบรรยากาศดีแบบนี้ไม่ต้องไปไหนแล้วละครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[CR] Chiangrai Offline : ไปเต๊อะไปแอ่ว
เชียงราย ไม่มีสัญญาณ
เชื่อว่าหลายคนคงมีกิจวัตรแบบนี้ วนไปครับ ....
นั่นครับเหตุผลที่ทำให้มนุษย์ออฟฟิศอย่างผม อยากพาตัวเองหนีจากความคุ้นเคย
แล้ว “เชียงราย” ก็กลายเป็นโจทย์ที่น่าสนใจขึ้นมาทันที
รออะไรครับคุณ ... ขอลาเจ้านาย จัดการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก หาข้อมูล จัดกระเป๋าเตรียมเดินทางกันเลยครับ
https://web.facebook.com/Dreams-Story-1398357820483097/photos/?tab=album&album_id=1670517179933825
[เช้าวันที่ 19.08.16]
หลังจากพักสายตาถึงขั้นหลับลึกบนเครื่องบินมาชั่วโมงนิดๆ และแล้วเราก็มาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย
ยังไงต่อละครับทีนี้ ... แทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรถสาธารณะของที่นี่ในหัวเลย จนสบตากับพี่แท็กซี่อู้คำเมืองใจดี
เมื่อสอบถามราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังที่พักของเราทันที
เมื่อได้เห็นการตกแต่งที่จัดสรรพื้นที่ออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา รวมถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ให้ความรู้สึกที่น่ารัก จับต้องได้ อบอุ่นในทุกมุม แถมยังดูเป็นกันเองอีกด้วย
หรือว่าใครที่มาแบบครอบครัวก็มีห้องแบบ family room แต่ครั้งนี้จอง shared room ไม่ทันก็เลยคว้า private room มาแทน
แวะวัด ไหว้พระบ้าง เข้าร้านกาแฟบ้าง แล้วก็เริ่มเปิด Google Map ไปจุดหมายแรก “วัดเจ็ดยอด”
ข้าวซอยกะทิรสเข้มข้นพระเอกของที่นี่ ตามด้วยไส้อั่วรสชาติดั้งเดิม หรือว่าจะเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยวก็ล้วนถูกปาก อร่อยทุกอย่างเลยฮะ
แต่องค์ประธานยังอยู่ในช่วงบูรณะซ่อมแซมเพราะแผ่นดินไหว
นั่นแหละครับร้านกาแฟเปิดใหม่ดีไซน์โดดเด่นที่ตั้งอยู่หน้าโฮเทลบ้านนอนเพลิน
ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ
จากอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงกลางวัน ทำให้ทุ่มกว่าๆของวันแรกที่เชียงราย ... เม็ดฝนก็เริ่มตกลงมาทักทายแบบไม่ขาดสาย
ทำไงได้เปียกไม่กลัว กลัวหิว กางร่มสิครับ เดินผ่าฝนไปเลย
คืนนั้นเราพับโปรแกรมแฮงค์เอาท์ลง กลับมานั่งเล่นที่ล็อบบี้โฮสเทล