หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] Timeless Moment อยากหยุดเวลาไว้ที่เธอ (เวลาเวียน)
กระทู้รีวิว
โรงแรมรีสอร์ท
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
สวัสดีค่ะ หน้าฝนสำหรับหลายๆคนคงไม่ค่อยอยากออกไปไหน เพราะเดี๋ยวฝนก็ตกหนัก เดี๋ยวก็ลมพายุ บางพื้นที่ยังเกิดน้ำท่วมขัง ยุ่งยากกับการเดินทาง แต่กับนักเดินทางแล้ว หน้าฝนเนี้ยแหละค่ะแพลนกันยาวๆยันสิ้นปีก็มี เพราะสถานที่ท่องเที่ยวบางที่หรือแม้แต่ที่พักรีสอร์ทเองก็ตาม อาจจะทำให้เจอทะเลหมอก หรือหมอกลอยจางๆ ให้เห็น แค่นี้ก็ถือว่าฟินและคุ้มค่าแล้วสำหรับทริปหน้าฝน จนบางคนถึงกับยกให้หน้าฝนเนี้ยแหละ น่าเที่ยวสุดดดด
"ฤดูฝนอาจทำให้คนเหงา..ได้โดยไม่มีสาเหตุ" จริงรึเปล่าไม่รู้ เพราะทริปนี้เรามากับแฟน แฮร่ๆ
ยิ่งสถานที่ ที่เราจะพาไปเที่ยวพักผ่อนนี้ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลยค่ะ ฝนไม่เป็นอุปสรรคแน่นอน แถมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางยังเขียวขจี จนน่าปิดแอร์ เปิดกระจกรถรับอากาศดีๆ สำหรับเช้าวันใหม่ ที่ทำให้สดชื่นหัวใจตลอดเส้นทางกันจริงๆ
การเดินทางจาก กทม.
ขับรถไปทางสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าเส้นมิตรภาพ แล้ววนเข้าเส้นเขาใหญ่ จนเกือบถึงทางเข้า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลย ค่อยเลี้ยวซ้าย แล้วขับตามทางไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ก็มาถึงที่พักของเราแล้ว เวลาเวียน รีสอร์ท... วังน้ำเขียว
ภาพมุมสูงของพื้นที่รีสอร์ท ล้อมรอบด้วยต้นไม้ ดอกไม้เต็มไปหมด
มาถึงรีสอร์ท ก็ต้องแอบว้าววว..ตรงสระว่ายน้ำที่ทำให้เห็นวิวด้านหน้าของรีสอร์ททั้งหมด
พร้อมกับน้ำองุ่นสด ของวิลเลจฟาร์ม เป็นไร่องุ่นขึ้นชือของ อ.วังน้ำเขียวค่ะ ดื่มคนเดียวไป 3 แก้วเลย (เอ้า! ลืมแบ่งแฟน)
ไม่เป็นไรนะ ที่นี้ยังมีมุมน่ารักๆ ให้ได้นั่งดื่มกาแฟพักผ่อน อ่านหนังสือกันแบบชิวๆ ลมเย็นๆใต้ต้นไม้ใหญ่นี้ด้วยค่ะ รวมถึงร้านอาหารและร้านกาแฟในรีสอร์ ลูกค้าที่ไม่ได้พัก สามารถเข้ามาทานได้นะคะ เปิดทุกวันค่ะ
เวลาเวียน รีสอร์ท มีกฎอยู่ว่า กรุณาถอดนาฬิกาเก็บไว้ในกล่องที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ เพราะความหมายของชื่อรีสอร์ท มาจากความตั้งใจที่เจ้าของรีสอร์ท อยากให้เป็นที่พักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ และปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่มีอะไรมากวนใจ
คืนแรกเราพักห้องนี้ค่ะ Moment Suit ห้องพักแต่ละห้องจะตั้งอยู่ด้านบนของเนินเขาจึงมองเห็นวิวทิวเขาแบบพาโนราม่า ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ลอฟท์ เน้นการตกแต่งแนวปูนเปลือยสีเทาอ่อน ให้ความรู้สึก โล่ง โปร่งสบาย แฝงด้วยความอบอุ่นจาก เฟอร์นิเจอร์ สีไวท์โอ๊ค ทุกห้องพักแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องอาบน้ำที่มีอ่างอาบน้ำสุดโรแมนติกด้วยแหละ
หลังจากเก็บกระเป๋ากันแล้วเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนี้เรายังมีเวลา ไปดูกระทิง บนเขาแผงม้ากันด้วย จะเห็นหรือจะแห้ว ลุ้นมากๆค่ะ
ถึงเวลาไปส่องกระทิงกันแล้วววว เวลาที่เหมาะสมคือ 17.00-18.30 กระทิงเค้าจะออกมากินหญ้ากินน้ำช่วงเวลานั้นพอดีค่ะ
ส่องกันอยู่ ครึ่งชม.ก็ยังไม่ออกมา จนพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นสักตัวเลย สงสัยคงอดแน่ๆ
แต่กลิ่นของเค้าจะค่อนข้างแรงนิดนึง เราได้กลิ่นเค้าอยู่สักพัก จ๊ะเอ๋..ออกมาเถอะ อยากเจอ
และแล้วเราก็เจอตัวแรกหลังจากที่รอมานาน (แอบกรี๊ดในใจเพราะเสียงดังไม่ได้ เค้าจะหนีบไปซะก่อน) เค้ายืนเล็มหญ้าอยู่ประมาณ 5 นาที และก็หายเข้าไปในป่าอีก
เจ้าหน้าที่เกิดความสงสารค่ะ เลยขับรถลงไปดูระหว่างทางว่ากระทิงเค้าออกมาบริเวณไหนบ้าง ละแล้ว เจ้าหน้าที่ก็กลับมาพร้อมบอกว่า ระหว่างทางขากลับลงไปนิดนึง จะเจออีกฝูงกำลังเล็มหญ้าอยู่ประมาณ 3-4 ตัว มีลูกน้อยด้วย ห้ามเข้าใกล้และอยู่ห่างๆเพราะเค้าจะดุ หวงลูกมาก
เราก็ไม่รอช้า ขับรถลงไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก ก็ได้เจอกับเจ้ากระทิงฝูงนี้ น่าจะมาเป็นครอบครับ มีลูกตัวเล็กอยู่ 2 ตัว และตัวใหญ่ 3-4 ตัว ยังถือว่าโชคดีมากที่ได้เจอ เราเฝ้าถ่ายรูปได้เพียงไกลๆ เพราะกลัวจะเป็นการรบกวนเค้ามากเกินไป
ระหว่างทาง ที่นี้จะมีรวดไฟฟ้ากลั้นรอบเขาเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัยในขณะที่เราเจอกระทิง ควรอยู่บนรถ หรือทิ้งช่วงห่างจากเค้าไว้ดีที่สุด
ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็กลับมาถึงที่พักก็ยังไม่หิวเท่าไรนะ แต่พอเห็นอาหารที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ โอ้ยย..มีความหิวขึ้นมาทันทีค่ะ ฮ่าๆ ^^
อิ่มแล้วก็ง่วงตามระเบียบค่ะ ขอตัวพักผ่อนและนอนฝันถึงแสงสวยๆของฟ้าวันใหม่พรุ่งนี้ เพี้ยงงงขอให้ฝนตก เจอทะเลหมอกทีเถอะ
อรุณเบิกฟ้านกกาโบกบิน เราไม่เจอทะเลหมอก เจอแต่แดดอุ่นๆ แฮร่ๆ
เหมาะสมกับการถ่ายรูปบรรยากาศฝ่ายในรีสอร์ทมากค่ะ ไปค่ะ เราจะพาไปชมความสวยสงบของเวลาเวียนกัน
ทุกห้องจะออกแบบมาให้เป็นส่วนตัวมากที่สุด เช่นห้องนี้จะมองเห็นวิวแบบกว้างขวาง ยาวยันหน้ารีสอร์ทเลยค่ะ
มาในส่วนของห้องแบบ Camping Capsule เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มาพักผ่อนแบบชิวๆ สบายๆ ไม่เน้นหรูหรา แต่มีความเก๋ไก๋นะจ๊ะ
อีกห้องจะอยู่ด้านบนของตัวรีสอร์ทเดินจากที่จอดรถประมาณ 5 นาทีค่ะ ห้องนี้จะได้เห็นวิวมุมสูงสุดสายตา และยังสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนด้วย ห้อง Deluxe Twin Room
ชอบมุมห้องน้ำเป็นพิเศษ ธรรมชาติสุดๆค่ะ อาบน้ำทามกลางแสงพระอาทิตย์ แสงพระจันทร์ ที่ลอดผ่านเถาวัลย์ลงมา โอ้ยฟินนน^^
หลังจากที่เดินเล่น ถ่ายรูปกันมาสักพักใหญ่ นี้ก็บ่ายแล้ว แอบได้ยินเสียงท้องร้องว่า หิว หิว อยากกินข้าว(ขนาดนั้นเลยละ) 5555 กลับมาที่ห้องพักสามารถโทรสั่งอาหารมาทานได้เลย แบบรวดเร็วทันใจมากค่ะ เมนูบ่ายนี้เป็นต้มยำ ปีกไก่ทอด และเมนูที่อยากแนะนำที่สุดสำหรับคนที่ชอบทานน้ำพริก คือ "น้ำพริกเวลาเวียน" จัดผักมาแบบเต็มจานมาก ปลาทูตัวใหญ่ๆกรอบๆ พลาดไม่ได้นะคะ ใครได้มาพักที่นี้ต้องสั่งมาลองค่ะ
ทานข้าวเสร็จแล้วเราก็ได้รับแจ้งจากพนักงานว่าได้ย้ายห้องไปพักที่ HOUR POOL VILLA ห้องพักแบบพูลวิลล่า มีทั้งหมด 4 ห้อง ขนาด 60 ตร.ม. ตั้งอยู่ด้านบนสุดของเนินเขาจึงมองเห็นวิวเขาแผงม้า ภายในตกแต่งสไตล์ลอฟต์ โดยใช้สีโทนดำและขาว โซนละ 2 ห้องมี เพิ่มความพิเศษส่วนตัวด้วยห้องนั่งเล่นกึ่งกลางแจ้ง ที่สามารถนั่งชมทิวทัศน์ภูเขา พร้อมกับแช่น้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัว
ไม่รอช้าค่ะ รีบเก็บของกันอย่างรวดเร็ว ฮ่าๆ จากห้องนี้เดินขึ้นไปด้านบนของรีสอร์ทประมาณ 5 นาทีค่ะ ถัดจากห้องก่อนหน้านี้ไปนิดเดียว มาดูแต่ละมุมของห้องกันค่ะ 1 โซนนี้จะมี 2 ห้อง ด้านบนและด้านล่าง ส่วนห้องนั่งเล่นและสระว่ายน้ำจะอยู่ในส่วนกึ่งกลางแจง
ห้องด่านบน
ถึงเวลาลงเล่นน้ำแล้วว มองดูวิวภูเขา ต้นไม้ที่กำลังไหว ทำให้ได้คิดไรเพลินๆ จนไม่รู้ว่าแช่น้ำอยู่ตรงนั้นนานเท่าไรแล้ว
หลังจากแช่น้ำกันจนตัวจะเปื่อย ^^ ฝนก็ทำท่าจะตก ลมเย็นๆพัดผ่านมาตลอด เราก็แอบงีบไปจนเกือบค่ำ และได้ออกมาเจอกับแสงสวยๆหลังฝนตก ที่นี้มีมุมถ่ายรูปเยอะมากค่ะ เย็นนี้เราทานข้าวกันที่รีสอร์ทเช่นเคย อาหารที่นี้อร่อยค่ะ บวกกับบรรยากาศพลบค่ำ ฟ้าสวยๆหลังพระอาทิตย์ตก ทำให้สามารถนั่งทานอาหารได้นานๆ แบบไม่รู้สึกเบื่อ
แอบเขินเล็กน้อยเมื่อตั้งกล้องถ่ายกันเอง ประหนึ่งว่าแฟนพามาเดท ฮ่าๆๆ
ราตรีสวัสดิ์กับภาพสนามหญ้ามุมบนของรีสอร์ทนี้ค่ะ
เราสองคนตื่นเช้ามากเพื่อจะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นกันที่อ่างเก็บน้ำ
แฟนพาขับรถดูวิว สูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงเช้าไปเลื่อยๆจนถึง "อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง" ค่ะ
ไหนค่ะพระอาทิตย์ เรามาผิดมุมจ้า มุมที่มองเห็นได้ชัดไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะเป็นพื้นที่ของทางรีสอร์ทอื่น ไม่เป็นไรนะ แค่วิวที่อยุ่ตรงหน้านี้ก็สวยงามแล้ว
ระหว่างทางกลับที่พัก เราก็แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งทานกันบนรถ ทำให้เห็นภาพบรรยากาศของชาวบ้านระแวกนั้น ยืนรอพระ ใส่บาตรกันเกือบทุกบ้าน มีหมาน้อยนั่งเฝ้าไม่ห่าง รู้สึกอบอุ่น ปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก
กลับมาที่พัก ก็อดถ่ายดอกไม้ดอกหญ้าที่ฟรุ้งฟริ้งเต็มรีสอร์ทไปหมดนี้ไม่ได้
ชื่อสินค้า:
เวลาเวียน รีสอร์ท
คะแนน:
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
วันหยุดยังเหลือแวะสกลฯ นครพนม ทานข้าว กลับบ้านที่ชลบุรี พาไหว้พระสามวัด และพากินก๋วยเตี๋ยวปลาแบบดั้งเดิม EP3
วันหยุดก็คืบคลานไปเรื่อยๆ ขากลับก็ล่องมาทางสกลนคร แวะทานข้าว และ พักนครพนม 1 คืน แล้วเช้าก็ค่อยๆ ล่องกลับมาที่ชลบุรี ถึงบ้านสามทุ่มกว่าๆ ใช้เส้นทางเขาปัก ผ่านเข้ามหาสารคม ไปเรื่อยๆ
fillerneck
VERAVIEN RESORT (เวลาเวียน รีสอร์ท) วังน้ำเขียว เขาใหญ่
รับอากาศโอโซน อันบริสุทธิ์ Timeless Moment ช่วงเวลาที่ดีที่สุด กับ ครอบครัว
สมาชิกหมายเลข 887484
เวลาเวียน รีสอร์ท <veravian> Timeless moment รีสอร์ทที่ไม่อยากให้เวลาเวียนไปไหน วังน้ำเขียวไม่ได้มีดีแค่โอโซน
:)เวลาเวียนรีสอร์ทวังน้ำเขียว กับ 2 วัน 1 คืน มาเริ่มกันเลยดีกว่าช่วงที่เราไปพักเป็นช่วงจะปลายฝนแล้วแต่ฝนยังตกหนักอยู่ และเป็นช่วงน้ำท่วม เราไปเดือนต.ค. 23-24 เราอยากไปเที่ยวประมาณปลายฝนต้นหนาวอะไรแบ
สมาชิกหมายเลข 2486178
รีสอร์ทไหนสามารถนำเต็นท์ไปกางได้บ้างคะ
รบกวนช่วยแนะนำรีสอร์ท 3-5 ดาวที่สามารถกางเต็นท์ได้หน่อยค่ะ พอดีช่วงนี้ WFA เลยมีโอกาสได้ออกไป camping ยาวๆบ่อยขึ้น ชอบที่ได้นั่งทำงานและนอนพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ สนุกกับการทำอาหารง่ายๆกินเอง แต่ก็ยังค
สมาชิกหมายเลข 854389
ทักทายฝนแรก นอนแช่สระส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติ ที่ "เวลาเวียน รีสอร์ท"
สวัสดีและทักทายกันอีกครั้งครับ รู้สึกปีนี้ฝนจะมาเร็วกว่าทุกปี วันนี้เพจ "FreeLanceบ้าเที่ยว" เลยมีรีสอร์ทโคตรชิลที่เหมาะกับหน้าฝนนี้เป็นอย่างมาก มาฝากกัน เผื่อใครจะมีแพลนไปเที่ยวแถวเขาใหญ่แล
i am korawitz
ลีลาวดีรีสอร์ทฟาร์ม
💒ลีลาวดีรีสอร์ทฟาร์ม ที่พักบ้านเป็นหลัง สีสันสดใสตามสีของวันจันทร์-อาทิตย์ มีพื้นที่สนามหญ้าส่วนตัวหน้าบ้าน สามารถตั้งแคมป์ได้ มีระเบียงหน้าบ้านไว้นั่งเล่น มีชั้นดาดฟ้าไว้ขึ้น
สมาชิกหมายเลข 6872732
โรงแรมในเมืองทำเลดี...เดินทางสะดวก...อาหารอร่อย Dusit Princess Srinakarin, Bangkok
สวัสดีค่ะ มาพักผ่อนชิลๆในเมืองกันค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศกันเบาๆ แบบไม่ต้องเดินทางไกล ครั้งนี้ครอบครัวเรามาพักผ่อนกันที่ Dusit Princess Srinakarin, Bangkok โรงแรม 4 ดาว ทำเลดี ที่อยู่ใกล้ห้างซีค
พี่ผัก
ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ
“ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ” ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นชอบมีความเชื่อว่าหลังจากที่ร่างกายตายไปแล้ว ใจนี้ยังอยู่ยังมีดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณที่ไปเกิดต่อไป ที่จะไปรับผลบุญต่อไป จะไปเกิดเป็นเทพบ้าง ก
สมาชิกหมายเลข 2748147
KC Grande Resort Koh Chang รีสอร์ทติดทะเล วิวสุดปัง
ซัมเมอร์นี้ ทะเลคือจุดหมาย พามาเที่ยว พักผ่อนที่ KC Grande Resort Koh Chang ที่พักติดหาดสุดชิล พร้อมมุมถ่ายรูปสวย ๆ อีกเพียบเลยครับ เกริ่นเร
แล้วแต่ตัว (Laewtaetaw)
เที่ยวเขาใหญ่หน้าฝน นอนโดมกลางเขา ที่ Oh la la glamping
เข้าหน้าฝนแบบนี้ ต้องขึ้นเขาไปนอนฟินที่เขาใหญ่กันหน่อยค่ะ ทริปนี้เรามาพักกันที่ Oh la la glamping เต้นท์โดมสไตล์ Glamping ที่นี่ตั้งอยู่บนเขาเลย ตอนเย็น ๆ&
พาไปหน่อย
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
โรงแรมรีสอร์ท
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 66
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] Timeless Moment อยากหยุดเวลาไว้ที่เธอ (เวลาเวียน)
สวัสดีค่ะ หน้าฝนสำหรับหลายๆคนคงไม่ค่อยอยากออกไปไหน เพราะเดี๋ยวฝนก็ตกหนัก เดี๋ยวก็ลมพายุ บางพื้นที่ยังเกิดน้ำท่วมขัง ยุ่งยากกับการเดินทาง แต่กับนักเดินทางแล้ว หน้าฝนเนี้ยแหละค่ะแพลนกันยาวๆยันสิ้นปีก็มี เพราะสถานที่ท่องเที่ยวบางที่หรือแม้แต่ที่พักรีสอร์ทเองก็ตาม อาจจะทำให้เจอทะเลหมอก หรือหมอกลอยจางๆ ให้เห็น แค่นี้ก็ถือว่าฟินและคุ้มค่าแล้วสำหรับทริปหน้าฝน จนบางคนถึงกับยกให้หน้าฝนเนี้ยแหละ น่าเที่ยวสุดดดด
"ฤดูฝนอาจทำให้คนเหงา..ได้โดยไม่มีสาเหตุ" จริงรึเปล่าไม่รู้ เพราะทริปนี้เรามากับแฟน แฮร่ๆ
ยิ่งสถานที่ ที่เราจะพาไปเที่ยวพักผ่อนนี้ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลยค่ะ ฝนไม่เป็นอุปสรรคแน่นอน แถมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางยังเขียวขจี จนน่าปิดแอร์ เปิดกระจกรถรับอากาศดีๆ สำหรับเช้าวันใหม่ ที่ทำให้สดชื่นหัวใจตลอดเส้นทางกันจริงๆ
การเดินทางจาก กทม. ขับรถไปทางสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าเส้นมิตรภาพ แล้ววนเข้าเส้นเขาใหญ่ จนเกือบถึงทางเข้า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลย ค่อยเลี้ยวซ้าย แล้วขับตามทางไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ก็มาถึงที่พักของเราแล้ว เวลาเวียน รีสอร์ท... วังน้ำเขียว
ภาพมุมสูงของพื้นที่รีสอร์ท ล้อมรอบด้วยต้นไม้ ดอกไม้เต็มไปหมด
มาถึงรีสอร์ท ก็ต้องแอบว้าววว..ตรงสระว่ายน้ำที่ทำให้เห็นวิวด้านหน้าของรีสอร์ททั้งหมด
พร้อมกับน้ำองุ่นสด ของวิลเลจฟาร์ม เป็นไร่องุ่นขึ้นชือของ อ.วังน้ำเขียวค่ะ ดื่มคนเดียวไป 3 แก้วเลย (เอ้า! ลืมแบ่งแฟน)
ไม่เป็นไรนะ ที่นี้ยังมีมุมน่ารักๆ ให้ได้นั่งดื่มกาแฟพักผ่อน อ่านหนังสือกันแบบชิวๆ ลมเย็นๆใต้ต้นไม้ใหญ่นี้ด้วยค่ะ รวมถึงร้านอาหารและร้านกาแฟในรีสอร์ ลูกค้าที่ไม่ได้พัก สามารถเข้ามาทานได้นะคะ เปิดทุกวันค่ะ
เวลาเวียน รีสอร์ท มีกฎอยู่ว่า กรุณาถอดนาฬิกาเก็บไว้ในกล่องที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ เพราะความหมายของชื่อรีสอร์ท มาจากความตั้งใจที่เจ้าของรีสอร์ท อยากให้เป็นที่พักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ และปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่มีอะไรมากวนใจ
คืนแรกเราพักห้องนี้ค่ะ Moment Suit ห้องพักแต่ละห้องจะตั้งอยู่ด้านบนของเนินเขาจึงมองเห็นวิวทิวเขาแบบพาโนราม่า ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ลอฟท์ เน้นการตกแต่งแนวปูนเปลือยสีเทาอ่อน ให้ความรู้สึก โล่ง โปร่งสบาย แฝงด้วยความอบอุ่นจาก เฟอร์นิเจอร์ สีไวท์โอ๊ค ทุกห้องพักแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องอาบน้ำที่มีอ่างอาบน้ำสุดโรแมนติกด้วยแหละ
หลังจากเก็บกระเป๋ากันแล้วเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนี้เรายังมีเวลา ไปดูกระทิง บนเขาแผงม้ากันด้วย จะเห็นหรือจะแห้ว ลุ้นมากๆค่ะ
ถึงเวลาไปส่องกระทิงกันแล้วววว เวลาที่เหมาะสมคือ 17.00-18.30 กระทิงเค้าจะออกมากินหญ้ากินน้ำช่วงเวลานั้นพอดีค่ะ
ส่องกันอยู่ ครึ่งชม.ก็ยังไม่ออกมา จนพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นสักตัวเลย สงสัยคงอดแน่ๆ
แต่กลิ่นของเค้าจะค่อนข้างแรงนิดนึง เราได้กลิ่นเค้าอยู่สักพัก จ๊ะเอ๋..ออกมาเถอะ อยากเจอ
และแล้วเราก็เจอตัวแรกหลังจากที่รอมานาน (แอบกรี๊ดในใจเพราะเสียงดังไม่ได้ เค้าจะหนีบไปซะก่อน) เค้ายืนเล็มหญ้าอยู่ประมาณ 5 นาที และก็หายเข้าไปในป่าอีก
เจ้าหน้าที่เกิดความสงสารค่ะ เลยขับรถลงไปดูระหว่างทางว่ากระทิงเค้าออกมาบริเวณไหนบ้าง ละแล้ว เจ้าหน้าที่ก็กลับมาพร้อมบอกว่า ระหว่างทางขากลับลงไปนิดนึง จะเจออีกฝูงกำลังเล็มหญ้าอยู่ประมาณ 3-4 ตัว มีลูกน้อยด้วย ห้ามเข้าใกล้และอยู่ห่างๆเพราะเค้าจะดุ หวงลูกมาก
เราก็ไม่รอช้า ขับรถลงไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก ก็ได้เจอกับเจ้ากระทิงฝูงนี้ น่าจะมาเป็นครอบครับ มีลูกตัวเล็กอยู่ 2 ตัว และตัวใหญ่ 3-4 ตัว ยังถือว่าโชคดีมากที่ได้เจอ เราเฝ้าถ่ายรูปได้เพียงไกลๆ เพราะกลัวจะเป็นการรบกวนเค้ามากเกินไป
ระหว่างทาง ที่นี้จะมีรวดไฟฟ้ากลั้นรอบเขาเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัยในขณะที่เราเจอกระทิง ควรอยู่บนรถ หรือทิ้งช่วงห่างจากเค้าไว้ดีที่สุด
ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็กลับมาถึงที่พักก็ยังไม่หิวเท่าไรนะ แต่พอเห็นอาหารที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ โอ้ยย..มีความหิวขึ้นมาทันทีค่ะ ฮ่าๆ ^^
อิ่มแล้วก็ง่วงตามระเบียบค่ะ ขอตัวพักผ่อนและนอนฝันถึงแสงสวยๆของฟ้าวันใหม่พรุ่งนี้ เพี้ยงงงขอให้ฝนตก เจอทะเลหมอกทีเถอะ
อรุณเบิกฟ้านกกาโบกบิน เราไม่เจอทะเลหมอก เจอแต่แดดอุ่นๆ แฮร่ๆ
เหมาะสมกับการถ่ายรูปบรรยากาศฝ่ายในรีสอร์ทมากค่ะ ไปค่ะ เราจะพาไปชมความสวยสงบของเวลาเวียนกัน
ทุกห้องจะออกแบบมาให้เป็นส่วนตัวมากที่สุด เช่นห้องนี้จะมองเห็นวิวแบบกว้างขวาง ยาวยันหน้ารีสอร์ทเลยค่ะ
มาในส่วนของห้องแบบ Camping Capsule เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มาพักผ่อนแบบชิวๆ สบายๆ ไม่เน้นหรูหรา แต่มีความเก๋ไก๋นะจ๊ะ
อีกห้องจะอยู่ด้านบนของตัวรีสอร์ทเดินจากที่จอดรถประมาณ 5 นาทีค่ะ ห้องนี้จะได้เห็นวิวมุมสูงสุดสายตา และยังสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนด้วย ห้อง Deluxe Twin Room
ชอบมุมห้องน้ำเป็นพิเศษ ธรรมชาติสุดๆค่ะ อาบน้ำทามกลางแสงพระอาทิตย์ แสงพระจันทร์ ที่ลอดผ่านเถาวัลย์ลงมา โอ้ยฟินนน^^
หลังจากที่เดินเล่น ถ่ายรูปกันมาสักพักใหญ่ นี้ก็บ่ายแล้ว แอบได้ยินเสียงท้องร้องว่า หิว หิว อยากกินข้าว(ขนาดนั้นเลยละ) 5555 กลับมาที่ห้องพักสามารถโทรสั่งอาหารมาทานได้เลย แบบรวดเร็วทันใจมากค่ะ เมนูบ่ายนี้เป็นต้มยำ ปีกไก่ทอด และเมนูที่อยากแนะนำที่สุดสำหรับคนที่ชอบทานน้ำพริก คือ "น้ำพริกเวลาเวียน" จัดผักมาแบบเต็มจานมาก ปลาทูตัวใหญ่ๆกรอบๆ พลาดไม่ได้นะคะ ใครได้มาพักที่นี้ต้องสั่งมาลองค่ะ
ทานข้าวเสร็จแล้วเราก็ได้รับแจ้งจากพนักงานว่าได้ย้ายห้องไปพักที่ HOUR POOL VILLA ห้องพักแบบพูลวิลล่า มีทั้งหมด 4 ห้อง ขนาด 60 ตร.ม. ตั้งอยู่ด้านบนสุดของเนินเขาจึงมองเห็นวิวเขาแผงม้า ภายในตกแต่งสไตล์ลอฟต์ โดยใช้สีโทนดำและขาว โซนละ 2 ห้องมี เพิ่มความพิเศษส่วนตัวด้วยห้องนั่งเล่นกึ่งกลางแจ้ง ที่สามารถนั่งชมทิวทัศน์ภูเขา พร้อมกับแช่น้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัว
ไม่รอช้าค่ะ รีบเก็บของกันอย่างรวดเร็ว ฮ่าๆ จากห้องนี้เดินขึ้นไปด้านบนของรีสอร์ทประมาณ 5 นาทีค่ะ ถัดจากห้องก่อนหน้านี้ไปนิดเดียว มาดูแต่ละมุมของห้องกันค่ะ 1 โซนนี้จะมี 2 ห้อง ด้านบนและด้านล่าง ส่วนห้องนั่งเล่นและสระว่ายน้ำจะอยู่ในส่วนกึ่งกลางแจง
ห้องด่านบน
ถึงเวลาลงเล่นน้ำแล้วว มองดูวิวภูเขา ต้นไม้ที่กำลังไหว ทำให้ได้คิดไรเพลินๆ จนไม่รู้ว่าแช่น้ำอยู่ตรงนั้นนานเท่าไรแล้ว
หลังจากแช่น้ำกันจนตัวจะเปื่อย ^^ ฝนก็ทำท่าจะตก ลมเย็นๆพัดผ่านมาตลอด เราก็แอบงีบไปจนเกือบค่ำ และได้ออกมาเจอกับแสงสวยๆหลังฝนตก ที่นี้มีมุมถ่ายรูปเยอะมากค่ะ เย็นนี้เราทานข้าวกันที่รีสอร์ทเช่นเคย อาหารที่นี้อร่อยค่ะ บวกกับบรรยากาศพลบค่ำ ฟ้าสวยๆหลังพระอาทิตย์ตก ทำให้สามารถนั่งทานอาหารได้นานๆ แบบไม่รู้สึกเบื่อ
แอบเขินเล็กน้อยเมื่อตั้งกล้องถ่ายกันเอง ประหนึ่งว่าแฟนพามาเดท ฮ่าๆๆ
ราตรีสวัสดิ์กับภาพสนามหญ้ามุมบนของรีสอร์ทนี้ค่ะ
เราสองคนตื่นเช้ามากเพื่อจะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นกันที่อ่างเก็บน้ำ
แฟนพาขับรถดูวิว สูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงเช้าไปเลื่อยๆจนถึง "อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง" ค่ะ
ไหนค่ะพระอาทิตย์ เรามาผิดมุมจ้า มุมที่มองเห็นได้ชัดไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะเป็นพื้นที่ของทางรีสอร์ทอื่น ไม่เป็นไรนะ แค่วิวที่อยุ่ตรงหน้านี้ก็สวยงามแล้ว
ระหว่างทางกลับที่พัก เราก็แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งทานกันบนรถ ทำให้เห็นภาพบรรยากาศของชาวบ้านระแวกนั้น ยืนรอพระ ใส่บาตรกันเกือบทุกบ้าน มีหมาน้อยนั่งเฝ้าไม่ห่าง รู้สึกอบอุ่น ปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก
กลับมาที่พัก ก็อดถ่ายดอกไม้ดอกหญ้าที่ฟรุ้งฟริ้งเต็มรีสอร์ทไปหมดนี้ไม่ได้