ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จะมีคนบางคนที่ปรับแอร์อย่างสุดโต่งจนลืมคิดถึงคนอื่นในห้องเรียนดังนี้
เมื่อมีคนรู้สึกหนาวจัด
คนๆนั้นจะปรับแอร์ไปที่30องศา หรือไม่ก็ปิดไปเลย ผลที่เกิดขึ้น คือ เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่นึงอากาศแปรเปลี่ยนเป็นความร้อน เพราะคนในห้องเรียนเยอะมาก ก็จะมีคนเดินไปปรับแอร์เป็น20องศาหรือหนักกว่านั้น ทำให้คนที่หนาวต้องเดินมาปรับอีก เป็นวงจรอุบาทหมุนเวียนไปไม่มีที่สิ้นสุดหาจุดพอดีไม่ได้ เดี๋ยวปรับขึ้น-ปรับลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือคนที่เดินไปปิดแอร์ไปเลยนี่น่าเกลียดมาก อย่าลืมคิดสิว่าในห้องคนเกินร้อย ถ้าปิดไปเลยจะเอาอากาศที่ไหนหายใจ เดี๋ยวก็ต้องมีคนเดินไปเปิดอีก เปิด-ปิดๆๆๆ ไม่จบสักที คนที่นั่งอยู่แถวๆที่ปรับแอร์ก็จะเสียสมาธิเพราะ คนเดินไปเดินมาบ่อย นี่น่าจะเป็นวิทยาศาสตร์แบบเด็กๆเลยนะเรื่องอากาศหายใจเนี่ย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเรียนสายวิทย์มาก็คิดได้
สำหรับคนที่อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าตัวเองได้รับผลกระทบ อยากให้ลองสังเกตตัวเองใหม่ โดยการตั้งคำถาม3คำถามโดยคิดต่อเนื่องกัน
1.ถ้าคนขาดอากาศไปเลย ผลคือ ??? (ตาย/ไม่ตาย)
2.กรณีในห้องเรียนมันไม่ถึงขนาดนั้นแต่การที่คนมากกว่าร้อยนั่งอยู่ถ้าออกซิเจนเจือจางลงเรื่อยๆ เท่ากับว่าปริมาณออกซิเจนจะน้อยกว่าปริมาณคนที่อยุ่ในห้อง ซึ่งก็แปลว่า ต้องแย่งอากาศกันหายใจ เมื่อต้องแย่งอากาศกันหายใจ แต่ละคนย่อมได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ เมื่อได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่สมองจะทำงานได้ปรอดโปร่งเหมือนเดิมหรือไม่??
เมื่อสมองทำงานได้ไม่ปรอดโปร่งโล่งสบายเท่าที่ควร ผลที่เกิดขึ้นก็คืออาการรู้สึกเริ่มเฉื่อยชา ไปจนรู้สึกมึนๆหนักหัว อย่างที่หลายๆคนคิดว่านั่นคืออาการง่วงนอนจากความขี้เกียจของตัวเอง จากนั้นก็หลับไป จริงๆแล้วมันคืออาการได้รับออกซิเจนน้อยร่างกายจะไม่สดชื่นทำให้เพลียแล้วหลับไป ดังนั้นจึงขอเรียนท่านที่มีอาการแบบนี้ให้ทราบไว้ว่าท่านไม่ได้ขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะมีเพื่อนจอมซื่อบื่อในคลาสที่จบมัธยมมาโดยไม่ได้รู้เรื่องวิทยาศาสตร์เด็กม.ต้นเอาซะเลยกำลังทำร้ายท่านๆทั้งหลาย เพราะฉะนั้นถ้าใครเจอเจ้าคนที่ชอบบิดแอร์ไปที่30องศา(บิดจนสุดไม่ต่างอะไรจากปิดไปเลย)หรือปิดแอร์ ขอให้ช่วยกันบอกเขาหน่อยว่าเราเข้าใจว่าคุณหนาวแต่ควรคิดถึงอากาศที่คนส่วนรวมใช้หายใจด้วย ถ้าหนาวมากคุณควรเตรียมเสื้อหนาๆมาหรือไม่ก็รบกวนปรับแอร์ลงมาที่อุณหภูมิห้องที่กำหนดกันเป็นมาตรฐานโลกคือ25องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิกลางๆไม่หนาวไปหรือร้อนไป win-winทั้งพวกขี้ร้อนและขี้หนาวทั้งคู่ หรือ ไม่ถ้าคุณที่ขี้หนาวต้องการปิดแอร์จริงๆ ให้คุณกรุณาเปิดหน้าต่างให้คนอื่นด้วย เพราะหลายๆคนเขาก็ไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้มีใครปิดแอร์หรือยังไง เขาเลยคิดว่าเขาง่วงเพราะตัวเขาเอง ที่จริงเขาง่วงเพราะคุณที่ขี้หนาวไปลดระดับออกซิเจนในห้องโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
การปิดแอร์ในห้องเรียนโดยไม่เปิดหน้าต่างส่งผลต่อการเรียนนะ
เมื่อมีคนรู้สึกหนาวจัด
คนๆนั้นจะปรับแอร์ไปที่30องศา หรือไม่ก็ปิดไปเลย ผลที่เกิดขึ้น คือ เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่นึงอากาศแปรเปลี่ยนเป็นความร้อน เพราะคนในห้องเรียนเยอะมาก ก็จะมีคนเดินไปปรับแอร์เป็น20องศาหรือหนักกว่านั้น ทำให้คนที่หนาวต้องเดินมาปรับอีก เป็นวงจรอุบาทหมุนเวียนไปไม่มีที่สิ้นสุดหาจุดพอดีไม่ได้ เดี๋ยวปรับขึ้น-ปรับลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือคนที่เดินไปปิดแอร์ไปเลยนี่น่าเกลียดมาก อย่าลืมคิดสิว่าในห้องคนเกินร้อย ถ้าปิดไปเลยจะเอาอากาศที่ไหนหายใจ เดี๋ยวก็ต้องมีคนเดินไปเปิดอีก เปิด-ปิดๆๆๆ ไม่จบสักที คนที่นั่งอยู่แถวๆที่ปรับแอร์ก็จะเสียสมาธิเพราะ คนเดินไปเดินมาบ่อย นี่น่าจะเป็นวิทยาศาสตร์แบบเด็กๆเลยนะเรื่องอากาศหายใจเนี่ย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเรียนสายวิทย์มาก็คิดได้
สำหรับคนที่อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าตัวเองได้รับผลกระทบ อยากให้ลองสังเกตตัวเองใหม่ โดยการตั้งคำถาม3คำถามโดยคิดต่อเนื่องกัน
1.ถ้าคนขาดอากาศไปเลย ผลคือ ??? (ตาย/ไม่ตาย)
2.กรณีในห้องเรียนมันไม่ถึงขนาดนั้นแต่การที่คนมากกว่าร้อยนั่งอยู่ถ้าออกซิเจนเจือจางลงเรื่อยๆ เท่ากับว่าปริมาณออกซิเจนจะน้อยกว่าปริมาณคนที่อยุ่ในห้อง ซึ่งก็แปลว่า ต้องแย่งอากาศกันหายใจ เมื่อต้องแย่งอากาศกันหายใจ แต่ละคนย่อมได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ เมื่อได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่สมองจะทำงานได้ปรอดโปร่งเหมือนเดิมหรือไม่??
เมื่อสมองทำงานได้ไม่ปรอดโปร่งโล่งสบายเท่าที่ควร ผลที่เกิดขึ้นก็คืออาการรู้สึกเริ่มเฉื่อยชา ไปจนรู้สึกมึนๆหนักหัว อย่างที่หลายๆคนคิดว่านั่นคืออาการง่วงนอนจากความขี้เกียจของตัวเอง จากนั้นก็หลับไป จริงๆแล้วมันคืออาการได้รับออกซิเจนน้อยร่างกายจะไม่สดชื่นทำให้เพลียแล้วหลับไป ดังนั้นจึงขอเรียนท่านที่มีอาการแบบนี้ให้ทราบไว้ว่าท่านไม่ได้ขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะมีเพื่อนจอมซื่อบื่อในคลาสที่จบมัธยมมาโดยไม่ได้รู้เรื่องวิทยาศาสตร์เด็กม.ต้นเอาซะเลยกำลังทำร้ายท่านๆทั้งหลาย เพราะฉะนั้นถ้าใครเจอเจ้าคนที่ชอบบิดแอร์ไปที่30องศา(บิดจนสุดไม่ต่างอะไรจากปิดไปเลย)หรือปิดแอร์ ขอให้ช่วยกันบอกเขาหน่อยว่าเราเข้าใจว่าคุณหนาวแต่ควรคิดถึงอากาศที่คนส่วนรวมใช้หายใจด้วย ถ้าหนาวมากคุณควรเตรียมเสื้อหนาๆมาหรือไม่ก็รบกวนปรับแอร์ลงมาที่อุณหภูมิห้องที่กำหนดกันเป็นมาตรฐานโลกคือ25องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิกลางๆไม่หนาวไปหรือร้อนไป win-winทั้งพวกขี้ร้อนและขี้หนาวทั้งคู่ หรือ ไม่ถ้าคุณที่ขี้หนาวต้องการปิดแอร์จริงๆ ให้คุณกรุณาเปิดหน้าต่างให้คนอื่นด้วย เพราะหลายๆคนเขาก็ไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้มีใครปิดแอร์หรือยังไง เขาเลยคิดว่าเขาง่วงเพราะตัวเขาเอง ที่จริงเขาง่วงเพราะคุณที่ขี้หนาวไปลดระดับออกซิเจนในห้องโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์