สวัสดีครับ คือเรากำลังทำงานวิจัยเรื่องจิตสาธารณะในสังคมไทยอยู่น่ะครับ เลยอยากรู้ความคิดเห็น หรือมุมมองหลายๆมุมที่แตกต่างกันออกไป
ปัญหาจิตสาธารณะในสังคมไทย - ขยะในสังคม
ปัจจุบันนี้เราทราบกันดีว่าขยะเป็นอีกหนึ่งปัญหาของประเทศไทยที่ยากจะกำจัดให้หมดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือปัญหาต่างๆทั่วไป
เช่น หญ้าที่ขึ้นยาวจนดูรก แม้น้ำลำคลองที่เต็มไปด้วยขยะ หรือปลาที่ตายเต็มไปหมด ถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
เคยนึกสงสัยไหมครับ ว่าทำไมเราจึงไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำไมจึงรอแต่เทศบาลหรืออบต. ผมว่าถ้าเราช่วยกันผลที่ได้จะสามารถยกระดับประเทศไทยได้ในอีกระดับหนึ่งแน่ๆ
สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีการจัดตั้งเทศบาลหรืออบต.ขึ้นมา ชาวบ้านก็มักจะออกมาช่วยกันถางหญ้าบริเวณรอบๆบ้านให้สะอาด ทำความสะอาดคลอง เลี้ยงปลากันเป็นชุมชน สมัยผมยังเป็นเด็ก ทุกๆเดือน ชาวบ้านของหมู่บ้านจะร่วมมือร่วมใจเดินรอบหมู่บ้านแล้วถางป่าถางหญ้าให้เตียนแลดูสวยงาม มีคนหาไม้แหลมคอยจิ้มขยะที่ปลิวเข้ามาในป่า หรือข้างถนน ระหว่างเดินก็ร้องรำทำเพลงไปด้วย เดินผ่านบ้านไหนก็เรียกเพื่อนบ้านออกมาช่วยกัน เพื่อนบ้านก็สวมงอบและรีบวิ่งออกไปด้วยความเต็มไจ จนกระทั่ง ทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อความเจริญเข้ามา ถนนที่เคยเป็นหลุม ก็ช่วยกันหาดินมากลบ กลับรอเทศบาลมาทำอย่างเดียว หญ้าที่เคยถางทุกเดือน ก็ปล่อยให้ขึ้นรก รอให้เทศบาลมาเก็บ ขยะที่เคยรวมแรงรวมใจกันกำจัดก็รอให้เทศบาลมาจัดการให้ คลองที่เคยใสสะอาด จากการพายเรื่องเก็บขยะกันประจำ ก็รอให้เทศบาลเป็นฝ่ายมาเก็บให้
จึงเกิดเป็นความสงสัยขึ้นมาคือ พอมีความเจริญเข้ามา มีคนมาอำนวยความสะดวกให้ มันก็เป็นเรื่องดีแล้วไม่ใช่หรือ แต่เหตุใด กิจวัตรของพวกเขาจึงเปลี่ยนไป หรือมองว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนแล้วหรืออย่างไร มันเป็นเรื่องน่าเศร้านะครับ ที่สิ่งๆหนึ่งที่ทุกคนเคยทำร่วมกัน มาวันหนึ่งความสบายเข้ามา ทุกคนกลับเปลี่ยนไป มันควรจะเป็นเรื่องที่ดีสิ ว่าไหม ที่มีคนมาชวยอำนวยความสะดวกให้
ปัจจุบัน แม้แต่หญ้าที่ขึ้นรกตามหน้าบ้านตัวเองยังต้องรอให้เทศบาลมาตัดให้ สุนัขที่บ้านตาย ต้องให้เทศบาลเป็นคนฝังให้
จิตสาธารณะที่เคยพบเห็นจนคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ปัจจุบันมันกลับหาดูได้ยากยิ่งนัก จะมีทีก็กลายเป็นเรื่องแปลกเข้ามาทันทีเลย
หลายคนอาจจะลืมกันไปแล้วว่า ครั้งหนึ่งเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอดแท้ๆ
แต่สิ่งที่แปลผันไปคือความสะดวกสบายงั้นหรือ...หรือเพราะอะไรกันแน่...
ผมจึงเลือกที่จะทำวิจัยเรื่องนี้โดยตั้งประเด็นคำถามที่ใกล้ตัวแต่เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้เสียที
จึงอยากจะทราบหลายๆความคิดเห็นครับว่า รู้สึกอย่างไหร หรือเพราะอะไร สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไป
แสดงความคิดเห็นตามที่ท่านรู้สึกเลยครับ ขอบคุณมากครับ
ผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วย
ทำไม ปัจจุบันจิตสาธารณะของคนดูเหมือนจะยิ่งลดลง
ปัญหาจิตสาธารณะในสังคมไทย - ขยะในสังคม
ปัจจุบันนี้เราทราบกันดีว่าขยะเป็นอีกหนึ่งปัญหาของประเทศไทยที่ยากจะกำจัดให้หมดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือปัญหาต่างๆทั่วไป
เช่น หญ้าที่ขึ้นยาวจนดูรก แม้น้ำลำคลองที่เต็มไปด้วยขยะ หรือปลาที่ตายเต็มไปหมด ถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
เคยนึกสงสัยไหมครับ ว่าทำไมเราจึงไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำไมจึงรอแต่เทศบาลหรืออบต. ผมว่าถ้าเราช่วยกันผลที่ได้จะสามารถยกระดับประเทศไทยได้ในอีกระดับหนึ่งแน่ๆ
สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีการจัดตั้งเทศบาลหรืออบต.ขึ้นมา ชาวบ้านก็มักจะออกมาช่วยกันถางหญ้าบริเวณรอบๆบ้านให้สะอาด ทำความสะอาดคลอง เลี้ยงปลากันเป็นชุมชน สมัยผมยังเป็นเด็ก ทุกๆเดือน ชาวบ้านของหมู่บ้านจะร่วมมือร่วมใจเดินรอบหมู่บ้านแล้วถางป่าถางหญ้าให้เตียนแลดูสวยงาม มีคนหาไม้แหลมคอยจิ้มขยะที่ปลิวเข้ามาในป่า หรือข้างถนน ระหว่างเดินก็ร้องรำทำเพลงไปด้วย เดินผ่านบ้านไหนก็เรียกเพื่อนบ้านออกมาช่วยกัน เพื่อนบ้านก็สวมงอบและรีบวิ่งออกไปด้วยความเต็มไจ จนกระทั่ง ทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อความเจริญเข้ามา ถนนที่เคยเป็นหลุม ก็ช่วยกันหาดินมากลบ กลับรอเทศบาลมาทำอย่างเดียว หญ้าที่เคยถางทุกเดือน ก็ปล่อยให้ขึ้นรก รอให้เทศบาลมาเก็บ ขยะที่เคยรวมแรงรวมใจกันกำจัดก็รอให้เทศบาลมาจัดการให้ คลองที่เคยใสสะอาด จากการพายเรื่องเก็บขยะกันประจำ ก็รอให้เทศบาลเป็นฝ่ายมาเก็บให้
จึงเกิดเป็นความสงสัยขึ้นมาคือ พอมีความเจริญเข้ามา มีคนมาอำนวยความสะดวกให้ มันก็เป็นเรื่องดีแล้วไม่ใช่หรือ แต่เหตุใด กิจวัตรของพวกเขาจึงเปลี่ยนไป หรือมองว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนแล้วหรืออย่างไร มันเป็นเรื่องน่าเศร้านะครับ ที่สิ่งๆหนึ่งที่ทุกคนเคยทำร่วมกัน มาวันหนึ่งความสบายเข้ามา ทุกคนกลับเปลี่ยนไป มันควรจะเป็นเรื่องที่ดีสิ ว่าไหม ที่มีคนมาชวยอำนวยความสะดวกให้
ปัจจุบัน แม้แต่หญ้าที่ขึ้นรกตามหน้าบ้านตัวเองยังต้องรอให้เทศบาลมาตัดให้ สุนัขที่บ้านตาย ต้องให้เทศบาลเป็นคนฝังให้
จิตสาธารณะที่เคยพบเห็นจนคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ปัจจุบันมันกลับหาดูได้ยากยิ่งนัก จะมีทีก็กลายเป็นเรื่องแปลกเข้ามาทันทีเลย
หลายคนอาจจะลืมกันไปแล้วว่า ครั้งหนึ่งเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอดแท้ๆ
แต่สิ่งที่แปลผันไปคือความสะดวกสบายงั้นหรือ...หรือเพราะอะไรกันแน่...
ผมจึงเลือกที่จะทำวิจัยเรื่องนี้โดยตั้งประเด็นคำถามที่ใกล้ตัวแต่เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้เสียที
จึงอยากจะทราบหลายๆความคิดเห็นครับว่า รู้สึกอย่างไหร หรือเพราะอะไร สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไป
แสดงความคิดเห็นตามที่ท่านรู้สึกเลยครับ ขอบคุณมากครับ
ผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วย