พอดีเราเจอกับตัวตอนที่ไปทริปเที่ยว 5 เกาะที่เสม็ด และเจอคุณลุงชาวต่างชาติเดินถือเปลือกหอย และเศษปะการังมาเต็มมือใส่ถุงพลาสติก ตอนนั้นก็แค่รู้สึกเสียดายที่จะมีคนเหล่านั้นไปเป็นของส่วนตัว แล้วก็ไม่พอใจนิดๆ จนกระทั่งเห็นว่าในถุงพลาสติกยังมีก้อนปะการังใหญ่มาก (คิดว่าความยาวประมาณ 10-15 ซม.เลยค่ะ) และอื่นๆ อีกเพียบ!!!! โห..ตอนนั้นเลือดรักธรรมชาติมาเต็มเปี่ยม แต่อีกใจก็ไม่อยากจะไปมีเรื่องกับใครในระหว่างการท่องเที่ยว พอถามแฟน (แฟนเป็นชาวต่างชาติ) ว่าเราควรจะห้ามเค้าดีไหม แฟนก็บอกว่า "ที่นี่เป็นประเทศคุณ แล้วแต่คุณ...ว่าจะทำยังไง ถ้ามีนักท่องเที่ยวมาหอบเอาของที่เป็นของประเทศคุณไป"
พอได้ฟังแบบนั้นแล้ว ก็ทนอยู่เฉยๆ ไม่ไหวแล้วค่ะ เลือดรักชาติมาเปี่ยม เลยตัดสินใจถามคุณลุงไปว่า "ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณมาจากที่ไหน"
คุณลุงก็พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้อีก ภรรยาคุณลุงก็เดินเข้ามาหาละทีนี้ แล้วก็ตอบเราว่า "เรามาจากสเปน"
เราก็เลยบอกไปว่า "ชั้นไม่คิดว่าคุณจะเอาของพวกนี้กลับไปได้นะ...ชั้นคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่สมควร ชั้นเป็นคนไทย และชั้นก็ไม่ชอบที่เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเอาของพวกนี้กลับไป เหมือนพวกคนจีนที่มาเที่ยว เอะอะก็หยิบนั่นหยิบนี่จากแหล่งธรรมชาติในเมืองไทยไป คนไทยก็เลยไม่ค่อยชอบนักท่องเที่ยวชาวจีนไง (มีการพูด-ดันประเทศอื่น..ทั้งที่ความจริงไม่สมควร ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ตอนนั้นอารมณ์ไม่ค่อยดีจริงๆ)
ภรรยาคุณลุงก็เลยพนมมือแล้วบอกเราว่า "โอ้..พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าห้ามหยิบอะไรไป ขอโทษด้วย" แล้วคุณลุงก็เทของทุกชิ้นลงบนทรายเหมือนเดิม แต่ก็ยังหันมาถามเราว่า "แล้วเปลือกหอย (มีอยู่ 3-4 ชิ้นในมือ) นี่ล่ะ เอาไปได้ไหม"...........
ตอนนั้น เราก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วนะคะ เพราะเค้าก็ขอโทษแล้วและเทของคืนแล้ว แต่พอโดนคุณลุงถามมาแบบนั้น เราก็อึ้งเหมือนกัน และลำบากใจด้วยที่จะต้องมาทำหน้าที่คล้ายผู้ตัดสิน หรืออัยการสูงสุดของสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งประเทศไทย เพราะตอนนั้นยังเหมือนต้องควบตำแหน่งผู้อำนวยการกระทรวงท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วย (55+) ก็เลยได้แต่ตอบไปว่า "ความจริงแล้วเราก็ไม่ควรหยิบอะไรติดไม้ติดมือไปจากแหล่งท่องเที่ยวนะคะ" (ตอบได้ดีที่สุด และเป็นกลางๆ ที่สุดได้แค่นี้..โล่งอกไป) คุณลุงก็เลยตัดสินใจไม่เอาอะไรไปทั้งนั้น
ในระหว่างทริปเที่ยว 5 เกาะนั้น ก็เห็นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกหลายคนนะคะ เยอะแยะเลย ที่เดินหาเปลือกหอยสวยๆ ก้อนหินสวยๆ หรือเศษปะการังติดไม้ติดมือเป็นของฝากให้ตัวเอง เราเลยอยากจะรู้ว่า ทุกคนจะทำอย่างไรค่ะ...จะพูดเตือนนักท่องเที่ยวไหม หรือจะทำเฉยๆ ไป หรือมองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ หรือไม่ควรจะเป็นปัญหาเลย
ป.ล. ที่ป้ายหน้าที่ทำการเกาะต่างๆ มีข้อความแจ้งให้นักท่องเที่ยวช่วยกันอนุรักษ์ และห้ามเคลื่อนย้าย หรือหยิบอะไรจากเกาะไปด้วย แต่อาจจะไม่มีใครสนใจ (น่าเศร้าใจ)
ถ้าพบนักท่องเที่ยวต่างชาติเก็บเศษปะการัง เปลือกหอย หรือหินจากเกาะ คุณจะทำยังไงค่ะ
พอได้ฟังแบบนั้นแล้ว ก็ทนอยู่เฉยๆ ไม่ไหวแล้วค่ะ เลือดรักชาติมาเปี่ยม เลยตัดสินใจถามคุณลุงไปว่า "ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณมาจากที่ไหน"
คุณลุงก็พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้อีก ภรรยาคุณลุงก็เดินเข้ามาหาละทีนี้ แล้วก็ตอบเราว่า "เรามาจากสเปน"
เราก็เลยบอกไปว่า "ชั้นไม่คิดว่าคุณจะเอาของพวกนี้กลับไปได้นะ...ชั้นคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่สมควร ชั้นเป็นคนไทย และชั้นก็ไม่ชอบที่เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเอาของพวกนี้กลับไป เหมือนพวกคนจีนที่มาเที่ยว เอะอะก็หยิบนั่นหยิบนี่จากแหล่งธรรมชาติในเมืองไทยไป คนไทยก็เลยไม่ค่อยชอบนักท่องเที่ยวชาวจีนไง (มีการพูด-ดันประเทศอื่น..ทั้งที่ความจริงไม่สมควร ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ตอนนั้นอารมณ์ไม่ค่อยดีจริงๆ)
ภรรยาคุณลุงก็เลยพนมมือแล้วบอกเราว่า "โอ้..พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าห้ามหยิบอะไรไป ขอโทษด้วย" แล้วคุณลุงก็เทของทุกชิ้นลงบนทรายเหมือนเดิม แต่ก็ยังหันมาถามเราว่า "แล้วเปลือกหอย (มีอยู่ 3-4 ชิ้นในมือ) นี่ล่ะ เอาไปได้ไหม"...........
ตอนนั้น เราก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วนะคะ เพราะเค้าก็ขอโทษแล้วและเทของคืนแล้ว แต่พอโดนคุณลุงถามมาแบบนั้น เราก็อึ้งเหมือนกัน และลำบากใจด้วยที่จะต้องมาทำหน้าที่คล้ายผู้ตัดสิน หรืออัยการสูงสุดของสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งประเทศไทย เพราะตอนนั้นยังเหมือนต้องควบตำแหน่งผู้อำนวยการกระทรวงท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วย (55+) ก็เลยได้แต่ตอบไปว่า "ความจริงแล้วเราก็ไม่ควรหยิบอะไรติดไม้ติดมือไปจากแหล่งท่องเที่ยวนะคะ" (ตอบได้ดีที่สุด และเป็นกลางๆ ที่สุดได้แค่นี้..โล่งอกไป) คุณลุงก็เลยตัดสินใจไม่เอาอะไรไปทั้งนั้น
ในระหว่างทริปเที่ยว 5 เกาะนั้น ก็เห็นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกหลายคนนะคะ เยอะแยะเลย ที่เดินหาเปลือกหอยสวยๆ ก้อนหินสวยๆ หรือเศษปะการังติดไม้ติดมือเป็นของฝากให้ตัวเอง เราเลยอยากจะรู้ว่า ทุกคนจะทำอย่างไรค่ะ...จะพูดเตือนนักท่องเที่ยวไหม หรือจะทำเฉยๆ ไป หรือมองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ หรือไม่ควรจะเป็นปัญหาเลย
ป.ล. ที่ป้ายหน้าที่ทำการเกาะต่างๆ มีข้อความแจ้งให้นักท่องเที่ยวช่วยกันอนุรักษ์ และห้ามเคลื่อนย้าย หรือหยิบอะไรจากเกาะไปด้วย แต่อาจจะไม่มีใครสนใจ (น่าเศร้าใจ)