" กล่าวถึงเกรียนเทพบาโลเตลลี มีภาษีแข้งดังหวังหนักหนา
ต้องลาจากกับเกรียนกันอีกครา หวังวันหน้ากลับมาให้อาวร
ถึงจากใกลแต่ใจยังห่วงหา อยากให้ป๋าสบตาโอ้ก่อนจากจร
ความดีโอ้ครั้งนั้นมิปลิ้นปลอก แค่อยากบอกเดอะคอปเราโชคดี "
มารีโอ บาร์วูอา บาโลเตลลี ( Mario Barwuah Balotelli ) นักฟุตบอลอาชีพชาวอิตาลี เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวรุก เคยติดทีมชาติอิตาลี ทั้งนี้บาโลเตลลีเป็นนักฟุตบอลที่เป็นที่รับรู้กันดีว่า มีพฤติกรรมส่วนตัวที่แย่กับหลายสโมสร
บาโลเตลลี เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1990 เป็นชาวอิตาลีเชื้อสายกานา ครอบครัวมีฐานะยากจนมาก แถมมีปัญหาสุขภาพตั้งแต่เด็ก ทำให้พ่อและแม่ต้องตัดสินใจส่งให้กับผู้ที่มีฐานะร่ำรวยกว่าดูแลเมื่ออายุ 3 ขวบ
กับหงส์แดง
บาโลเตลลีได้ย้ายจาก เอ.ซี. มิลาน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ โดย บาโลเตลลี ได้สวมเสื้อหมายเลข 45 ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014 บาโลเตลลี ได้ลงสนามนัดแรก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ ไวต์ฮาร์ตเลน 3-0 ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2014
บาโลเตลลี ได้ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จาก บัลแกเรีย 2-1 ได้ที่สนามแอนฟีลด์ ต่อมา ในแคปปิตอล วัน คัพ รอบที่ 3 บาโลเตลลี ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ มิดเดิลส์เบรอ 1-1 ในเวลา 90 นาที
และในช่วงต่อเวลาพิเศษเสมอ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ และ บาโลเตลลี ยิงจุดโทษเข้า 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะในการยิงจุดโทษ 14-13 ต่อมา ในแคปปิตอล วัน คัพ รอบที่ 4 บาโลเตลลี ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง และยิงประตูตีเสมอในช่วงท้ายการแข่งขัน ก่อนที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สวอนซีซิตี 2-1 ได้ที่สนามแอนฟีลด์
แต่การเล่นในพรีเมียร์ลีก บาโลเตลลียิงไม่ได้เลยจนกระทั่งจบปี ค.ศ. 2014 จนถูกวิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งทางเบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการทีมก็ได้ยอมรับว่าบาโลเตลลีมีรูปแบบการเล่นที่ไม่เข้ากับทีม อีกทั้งเจ้าตัวก็ได้รับการลงโทษจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ
(FA) ให้แบน 1 นัด ในนัดที่ลิเวอร์พูลพบกับ อาร์เซนอล ที่สนามแอนฟีลด์ และปรับเงิน 25,000 ปอนด์ จากการที่เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวในลักษณะเหยียดเชื้อชาติ
บาโลเตลลี มายิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ในนัดที่ 25 ที่ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายพบกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามแอนฟีลด์ ซึ่งในขณะนั้นทอตนัมฮอตสเปอร์กำลังอยู่ในช่วงที่เล่นได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถเอาชนะได้ทั้งเชลซีซึ่งเป็นจ่าฝูง และอาร์เซนอลมาแล้วก่อนหน้านั้น แต่บาโลเตลลีซึ่งเป็นผู้เล่นสำรอง
ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ในนาทีที่ 74 เป็นผู้ยิงประตูสุดท้ายให้กับลิเวอร์พูลได้ในนาทีที่ 83 ทำให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 3-2 ต่อมา ในยูฟ่ายูโรปาลีก บาโลเตลลีได้ยิงจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบซิกตัส จาก ตุรกี 1-0
ฤดูกาล 2015-16
หลังจากไม่ประสบความสำเร็จที่ลิเวอร์พูล หลังสิ้นสุดฤดูกาล ในช่วงต้นฤดูกาลใหม่ บาโลเตลลีได้ย้ายกลับไปยังเอ.ซี. มิลาน อีกครั้ง ด้วยการยืมตัว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ให้คำยืนยันว่าจะปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองเสียใหม่
2016-2017 กลับคืนรัง
หลังจากบังเหียนหงส์แดงเปลี่ยนมือ เจอเก้น คลอปป์ ออกมาเปิดเผยว่าเกรียนโอ้ ไม่ได้อยู่ในแผนทำทีมของตน เหตุนี้จึงเป็นโอกาสให้เกรียนโอ้เสาะหาทีมใหม่
ล่าสุดนั้น เป็น นีซ ที่ได้ตัวเขาไป จากอ้อกอดชาวเรา
" จงร่ำไห้อย่างอาวร อย่าเสียใจที่ปล่อยเขาไป "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[กระทู้อำลา] "มารีโอ บาโลเตลลี" จากไปและคืนถิ่น... และก็จากไปอีกครั้ง [By T.I.A]
" กล่าวถึงเกรียนเทพบาโลเตลลี มีภาษีแข้งดังหวังหนักหนา
ต้องลาจากกับเกรียนกันอีกครา หวังวันหน้ากลับมาให้อาวร
ถึงจากใกลแต่ใจยังห่วงหา อยากให้ป๋าสบตาโอ้ก่อนจากจร
ความดีโอ้ครั้งนั้นมิปลิ้นปลอก แค่อยากบอกเดอะคอปเราโชคดี "
มารีโอ บาร์วูอา บาโลเตลลี ( Mario Barwuah Balotelli ) นักฟุตบอลอาชีพชาวอิตาลี เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวรุก เคยติดทีมชาติอิตาลี ทั้งนี้บาโลเตลลีเป็นนักฟุตบอลที่เป็นที่รับรู้กันดีว่า มีพฤติกรรมส่วนตัวที่แย่กับหลายสโมสร
บาโลเตลลี เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1990 เป็นชาวอิตาลีเชื้อสายกานา ครอบครัวมีฐานะยากจนมาก แถมมีปัญหาสุขภาพตั้งแต่เด็ก ทำให้พ่อและแม่ต้องตัดสินใจส่งให้กับผู้ที่มีฐานะร่ำรวยกว่าดูแลเมื่ออายุ 3 ขวบ
กับหงส์แดง
บาโลเตลลีได้ย้ายจาก เอ.ซี. มิลาน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ โดย บาโลเตลลี ได้สวมเสื้อหมายเลข 45 ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014 บาโลเตลลี ได้ลงสนามนัดแรก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ ไวต์ฮาร์ตเลน 3-0 ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2014
บาโลเตลลี ได้ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จาก บัลแกเรีย 2-1 ได้ที่สนามแอนฟีลด์ ต่อมา ในแคปปิตอล วัน คัพ รอบที่ 3 บาโลเตลลี ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ มิดเดิลส์เบรอ 1-1 ในเวลา 90 นาที
และในช่วงต่อเวลาพิเศษเสมอ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ และ บาโลเตลลี ยิงจุดโทษเข้า 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะในการยิงจุดโทษ 14-13 ต่อมา ในแคปปิตอล วัน คัพ รอบที่ 4 บาโลเตลลี ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง และยิงประตูตีเสมอในช่วงท้ายการแข่งขัน ก่อนที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สวอนซีซิตี 2-1 ได้ที่สนามแอนฟีลด์
แต่การเล่นในพรีเมียร์ลีก บาโลเตลลียิงไม่ได้เลยจนกระทั่งจบปี ค.ศ. 2014 จนถูกวิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งทางเบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการทีมก็ได้ยอมรับว่าบาโลเตลลีมีรูปแบบการเล่นที่ไม่เข้ากับทีม อีกทั้งเจ้าตัวก็ได้รับการลงโทษจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ
(FA) ให้แบน 1 นัด ในนัดที่ลิเวอร์พูลพบกับ อาร์เซนอล ที่สนามแอนฟีลด์ และปรับเงิน 25,000 ปอนด์ จากการที่เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวในลักษณะเหยียดเชื้อชาติ
บาโลเตลลี มายิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ในนัดที่ 25 ที่ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายพบกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามแอนฟีลด์ ซึ่งในขณะนั้นทอตนัมฮอตสเปอร์กำลังอยู่ในช่วงที่เล่นได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถเอาชนะได้ทั้งเชลซีซึ่งเป็นจ่าฝูง และอาร์เซนอลมาแล้วก่อนหน้านั้น แต่บาโลเตลลีซึ่งเป็นผู้เล่นสำรอง
ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ในนาทีที่ 74 เป็นผู้ยิงประตูสุดท้ายให้กับลิเวอร์พูลได้ในนาทีที่ 83 ทำให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 3-2 ต่อมา ในยูฟ่ายูโรปาลีก บาโลเตลลีได้ยิงจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบซิกตัส จาก ตุรกี 1-0
ฤดูกาล 2015-16
หลังจากไม่ประสบความสำเร็จที่ลิเวอร์พูล หลังสิ้นสุดฤดูกาล ในช่วงต้นฤดูกาลใหม่ บาโลเตลลีได้ย้ายกลับไปยังเอ.ซี. มิลาน อีกครั้ง ด้วยการยืมตัว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ให้คำยืนยันว่าจะปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองเสียใหม่
2016-2017 กลับคืนรัง
หลังจากบังเหียนหงส์แดงเปลี่ยนมือ เจอเก้น คลอปป์ ออกมาเปิดเผยว่าเกรียนโอ้ ไม่ได้อยู่ในแผนทำทีมของตน เหตุนี้จึงเป็นโอกาสให้เกรียนโอ้เสาะหาทีมใหม่
ล่าสุดนั้น เป็น นีซ ที่ได้ตัวเขาไป จากอ้อกอดชาวเรา
" จงร่ำไห้อย่างอาวร อย่าเสียใจที่ปล่อยเขาไป "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้