ขออภัยถ้าเขียนๆไป จะมีสำนวนนิยายกำลังภายในเล็กๆ
มีอะไรบางอย่าง รู้สึกถึงความที่บทประพันธ์ และผู้เขียนมีอารมณ์บางอย่างคล้ายๆเรา
ไม่แน่ใจว่าใครอ่านมังกรหยกภาคสองบ้าง ถ้าอ่านและดูเรื่องนี้ จะเห็นว่ามีการลิงค์เรื่องสื่อถึงกันจากเกมส์ที่เล่น
โดยเฉพาะฉากที่อี้เซียวไน่เหอต้องช่วยหลูเหวยเว่ยเว่ย ให้ได้ใน 16 ชั่วโมง
เหมือน เอี้ยก้วยรอเหล่งนึ่ง 16 ปี แล้วก็ขี่อินทรีมาเลย
บางอย่างของเซียวไน่กับเว่ยเว่ย มีอารมณ์ของเอี้ยก้วยกับเหล่งนึ่งค่อนข้างมาก
ไม่ได้เหมือนในแง่ประวัติชีวิต แต่มีอารมณ์และบุคลิกภาพคล้ายๆกัน โดยเฉพาะในช่วง 16 ปีหลัง
ทั้งสี่คนนี้ มีลักษณะของไอดอลชัดเจนมาก ชวนให้ผู้คนล้วนต่างงวยงงประทับใจ
พวกเขาล้วนโดดเด่น สง่างาม องอาจ เปี่ยมด้วยบุคลิกภาพสูงส่งบริสุทธิ์ มิแปดเปื้อนฝุ่นละออง
คำพูดและทัศนคติ ล้วนมิได้มองเห็นผู้คนอยู่ในสายตา แม้ว่าเย่อหยิ่งทะนงตน กลับเปี่ยมน้ำใจต่อมิตรสหายอย่างลึกซึ้ง
เอี้ยก้วยและเหล่งนึ่งในตอนหลังถึงกับ มิได้แยแสผู้คน
ซึ่งต่างกับเซี่ยวไน่และเว่ยเว่ยที่พรั่งพร้อมด้วยมิตรภาพอุ่นระอุ
อารมณ์ของก๊วยเซียง ที่เป็นติ่งเอี้ยก้วย ปลาบปลื้มชื่นชม อยากใกล้ชิดไอดอล
มีปรากฎให้เห็น ทั้งเรื่อง จากเซี่ยวไน่ถึงเว่ยเว่ย ทว่าทั้งสองล้วนมิได้นำพาต่อผู้คน
ยังเป็นตัวของตัวเอง
อารมณ์ของเมิ่งอี้หร่าน กับ ก๊วยฮู จะต่างกันเล็กน้อย ก๊วยฮูไม่รู้ว่าตัวเองเข้าข่ายซาแซง
แต่เมิ่งอีหร่าน นี่หวังว่าจะได้เป็นมากกว่าแฟนคลับ ถึงขั้นเป็นแฟน
สำหรับเซี่ยวไน่กับเว่ยเว่ย เหมือนเป็นคำตอบที่ถามว่า ไอดอล หนุ่มป๊อบสาวป๊อบ เขาคิดเขาทำอะไรกัน
ทั้งสองคนนี้คงเป็นตัวแทนไอดอลที่น่าเลียนแบบ คือ วันๆตั้งใจทำหน้าที่ เรียนให้ดี เล่นให้สุด ก้าวหน้าให้มาก
และไม่ต้องสนใจว่า โลกเรียกร้องอะไร เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด
ขอย้ำอีกทีว่า วันอังคารหน้าก็จบแล้ว
ไม่รู้ว่าเซี่ยวไน่จะถูกชะตากรรมทดสอบหนักขนาดไหน แล้วเว่ยเว่ย จะทำหน้าที่เป็นซาซ้อที่ดีได้อย่างไร
มาเอาใจช่วยความรักของไอดอลทั้งสองกันเถอะ
เว่ยเว่ย-- Just One Smile is Very Alluring - รู้สึกเหมือนเป็นก๊วยเซียง ติ่งบ้านคู่เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่ง
มีอะไรบางอย่าง รู้สึกถึงความที่บทประพันธ์ และผู้เขียนมีอารมณ์บางอย่างคล้ายๆเรา
ไม่แน่ใจว่าใครอ่านมังกรหยกภาคสองบ้าง ถ้าอ่านและดูเรื่องนี้ จะเห็นว่ามีการลิงค์เรื่องสื่อถึงกันจากเกมส์ที่เล่น
โดยเฉพาะฉากที่อี้เซียวไน่เหอต้องช่วยหลูเหวยเว่ยเว่ย ให้ได้ใน 16 ชั่วโมง
เหมือน เอี้ยก้วยรอเหล่งนึ่ง 16 ปี แล้วก็ขี่อินทรีมาเลย
บางอย่างของเซียวไน่กับเว่ยเว่ย มีอารมณ์ของเอี้ยก้วยกับเหล่งนึ่งค่อนข้างมาก
ไม่ได้เหมือนในแง่ประวัติชีวิต แต่มีอารมณ์และบุคลิกภาพคล้ายๆกัน โดยเฉพาะในช่วง 16 ปีหลัง
ทั้งสี่คนนี้ มีลักษณะของไอดอลชัดเจนมาก ชวนให้ผู้คนล้วนต่างงวยงงประทับใจ
พวกเขาล้วนโดดเด่น สง่างาม องอาจ เปี่ยมด้วยบุคลิกภาพสูงส่งบริสุทธิ์ มิแปดเปื้อนฝุ่นละออง
คำพูดและทัศนคติ ล้วนมิได้มองเห็นผู้คนอยู่ในสายตา แม้ว่าเย่อหยิ่งทะนงตน กลับเปี่ยมน้ำใจต่อมิตรสหายอย่างลึกซึ้ง
เอี้ยก้วยและเหล่งนึ่งในตอนหลังถึงกับ มิได้แยแสผู้คน
ซึ่งต่างกับเซี่ยวไน่และเว่ยเว่ยที่พรั่งพร้อมด้วยมิตรภาพอุ่นระอุ
อารมณ์ของก๊วยเซียง ที่เป็นติ่งเอี้ยก้วย ปลาบปลื้มชื่นชม อยากใกล้ชิดไอดอล
มีปรากฎให้เห็น ทั้งเรื่อง จากเซี่ยวไน่ถึงเว่ยเว่ย ทว่าทั้งสองล้วนมิได้นำพาต่อผู้คน
ยังเป็นตัวของตัวเอง
อารมณ์ของเมิ่งอี้หร่าน กับ ก๊วยฮู จะต่างกันเล็กน้อย ก๊วยฮูไม่รู้ว่าตัวเองเข้าข่ายซาแซง
แต่เมิ่งอีหร่าน นี่หวังว่าจะได้เป็นมากกว่าแฟนคลับ ถึงขั้นเป็นแฟน
สำหรับเซี่ยวไน่กับเว่ยเว่ย เหมือนเป็นคำตอบที่ถามว่า ไอดอล หนุ่มป๊อบสาวป๊อบ เขาคิดเขาทำอะไรกัน
ทั้งสองคนนี้คงเป็นตัวแทนไอดอลที่น่าเลียนแบบ คือ วันๆตั้งใจทำหน้าที่ เรียนให้ดี เล่นให้สุด ก้าวหน้าให้มาก
และไม่ต้องสนใจว่า โลกเรียกร้องอะไร เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด
ขอย้ำอีกทีว่า วันอังคารหน้าก็จบแล้ว
ไม่รู้ว่าเซี่ยวไน่จะถูกชะตากรรมทดสอบหนักขนาดไหน แล้วเว่ยเว่ย จะทำหน้าที่เป็นซาซ้อที่ดีได้อย่างไร
มาเอาใจช่วยความรักของไอดอลทั้งสองกันเถอะ