เที่ยวยุโรปโดยงบน้อยใน 5 ประเทศแสนถูก แต่ได้บรรยากาศเหมือนประเทศที่แพงกว่า

ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกอยากจะไปยุโรป แต่มีงบประมาณที่จำกัด ? และถึงจะมีงบประมาณที่จำกัด แต่ก็ยังคงต้องการสนุกกับวันหยุดพักผ่อนของคุณโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายให้มาก ? หรือคุณไม่แคร์เพราะมีเงินเยอะอยู่แล้ว แต่อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ได้รู้จักกับวัฒนธรรมที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ? (กระทู้นี้จะไม่พูดถึงเรื่องวีซ่านะคะ จะแยกทำเป็นอีกกระทู้เพื่อความไม่รก)
วันนี้ผู้หญิงพายเรืออยากให้ผู้อ่านลองมาทำความรู้จักกับ 5 ประเทศในยุโรป ที่ไม่ค่อยดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยมากเท่าไหร่ค่ะ แต่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการท่องเที่ยวแบบแหวกแนวนิดๆ ดิบหน่อยๆ แต่ยังคงได้ดื่มดำความ "ยุโรเปี้ยน" (อย่าลืมดัดเสียง เพิ่มความดูมีอะไร)
ในฐานะ Digital Nomads แฟนผู้เขียนและผู้เขียนเองตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในปี 2016 ร่าเริงอยู่ในยุโรปทั้งปีเลยค่ะ หนึ่ง—เพื่อที่จะอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวก่อนที่จะไปไกลจริงๆในปีถัดไป (เมริกาใต้เลยนะ ! )  สอง—เพื่อได้ทำความรู้จักยุโรปมากขึ้นค่ะ เพราะเอาจริงๆ เราสองคนก็รู้จักกันแค่ประเทศที่มีชื่อเสียงมีความป๊อปๆอยู่แล้ว  อย่างฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี, เยอรมนี, ออสเตรีย... ทำนองนี้ ซึ่งการท่องเที่ยวบ้านเขามันดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวเยอะมาก เราจึงอยากจะมีความติสท์กับเขาบ้าง ลองไปเที่ยวในประเทศแปลกๆดู
อีกเหตุผลหนึ่งคือเหล่าประเทศ popular นี้ มีค่าครองชีพสูงมาก และบางครั้งด้วยความแพงของสิ่งของและการบริการต่างๆนานา เงินที่มี (ไม่พอ 555) จึงไม่สามารถสนองกิเลสตัณหาของพวกเราผู้รักการท่องเที่ยวได้
การขาดการสนอง need มักจะตามมาด้วยความรู้สึกเสียดายที่จะติดเป็นตราบาปของคุณไปตลอดชีวิต ช่างน่าเศร้า...
แต่ก็เพราะยุโรปมีความแน่นปึกทางวัฒนธรรม แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มีประเทศมากมายให้ได้ทำความรู้จัก พวกเรา Digital Nomads ที่พร้อมจะตะลุยเสมอ จึงตัดสินใจว่าจะหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าเช่าที่อยู่เดือนละ 40,000 บาท (การเช่าห้องแบบระยะสั้น ค่าเช่าจะแพงกว่ามาก) บาทแล้วนำเงินนี้ไปทำตัวเป็นเศรษฐีในประเทศที่ค่าครองชีพถูกๆดีกว่า ส่วนถ้าให้พูดถึงความมีดีนั้น ประเทศเหล่านี้มันมีดีจริง ไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศ popular อื่นๆในยุโรปเลย !  ลองมามาดูกันนะคะว่า 5 ประเทศ Alternative ชั้นดีที่ผู้เขียนได้ไปประสบมาแล้วนี้ มีอะไรบ้าง

เกริ่นไว้ก่อนว่า แน่นอนว่าไม่มีประเทศอะไรที่จะเหมือนกันเป๊ะๆ หรือมาแทนที่กันได้ แต่ละสถานที่เที่ยวก็มีเสน่ห์เป็นของตัวเองทั้งนั้น ใจอยากจะไปเที่ยวที่ไหน กายก็จงไปที่นั่น แต่ให้คิดเสียว่า กระทู้นี้มีมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากจะไปสัมผัสบรรยากาศความเป็นยุโรปที่ยังคงยุโรปอยู่คล้ายคล้ายกับประเทศที่มีชื่อเสียงกว่า แต่โดยใช้งบประมาณน้อยกว่าค่ะ หรือว่าจะสำหรับคนที่อยากจะไปสัมผัสอะไรที่แตกต่างออกไปจากเดิมบ้างก็ได้ เพิ่มอรรถรสในการท่องเที่ยวค่ะ หาประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเราใช้ประสบการณ์การท่องเที่ยวและการได้ใช้ชีวิตอยู่ในยุโรปมาตั้งแต่เด็กของตัวเองเป็นตัวช่วยบอกคุณผู้อ่านว่า ถ้าอยากได้บรรยากาศแบบนี้ที่ไหนพอจะได้ฟิลลิ่งเดียวกันกับประเทศที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วค่ะ

เคล็ดลับดีๆในการเลือกตั๋วเครื่องบินให้ได้ถูกที่สุด เชิญทางนี้ ⇒ http://ppantip.com/topic/35541730

1. หาบรรยากาศโรแมนติก ⇒ ประเทศเช็กเกีย, ได้ฟิลสไตล์ฝรั่งเศสและออสเตรีย

ถ้านึกถึงความโรแมนติกใครๆก็นึกถึงปารีสใช่ไหมคะ ลองเปลี่ยนมาเที่ยวเมืองปราก ในประเทศเช็กเกียกันบ้างสิ
แน่นอนว่าเมืองนี้มันก็เป็นที่รู้จักค่อนข้างมากอยู่แล้วในหมู่นักท่องเที่ยว แต่คุณจะตกใจเมื่อทราบว่าค่าครองชีพที่นี่นั้นถูกมากๆ (ถ้าไม่ได้ไปตกกับดักนักท่องเที่ยวที่มีอยู่เพียบนะคะ) ด้วยความที่เขาใช้เงิน Kč ไม่ใช่ยูโร โดย1 บาท = 0,69 CZK (แต่จะขอแทนค่าเงินเป็นยูโรในกระทู้นะคะ เพื่อความสะดวก)
เพชรเม็ดเล็กๆแห่งยุโรปเม็ดนี้ (ฉายานี้ตั้งเองนะ ปรากเป็นเมืองที่ผู้เขียนรักที่สุดเลยค่ะ) จะไม่มีวันทำให้คุณเบื่อได้เลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะในช่วงคริสมาส ที่จะมีตลาดปีใหม่เต็มไปด้วยความสุขในหลายๆรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบกลิ่น cinnamon ตลบอบอวลของขนมม้วนขึ้นชื่อ  หรือแบบแสงสว่างวาบของไฟตกแต่งคริสมาส ที่ดูดีมีความ multicolor มากกว่าแสงไฟกระสือ (ไม่ได้เกี่ยวกันเลยนะ)
ผู้เขียนคงจะบรรยายว่าเมืองปรากมีบรรยากาศโรแมนติกที่อบอุ่นกว่าปารีส แต่ไม่เต็มไปด้วยผู้คนบ้าคลั่งที่พยายามจะทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆรักปารีสน้อยที่สุด !

สถาปัตยกรรมของปรากมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ Roman, Gothic, Baroque, Rococo หรือ Art Nouveau ซึ่งถ้าใครรักศิลปะตะวันตกก็เป็นเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้ปารีสเลยทีเดียว บางวิวมีความคล้ายคลึงกับ Salzburg ประเทศออสเตรีย แต่มีสีสันมากกว่า น่ากินเหมือนขนมเลยค่ะ
เมืองอื่นที่แนะนำ ก็คงจะมี Český Krumlov และ Karlovy Vary ค่ะ ที่ได้ความโรแมนติกไม่แพ้กัน

บรรยากาศโดยรวม :  โรแมนติก  ผสมความดิบนิดๆของการเคยเป็นคอมมิวนิสต์ สีสันน่ารัก มีไออบอุ่น
ทำอะไร : Prague : เที่ยวพิพิธภัณฑ์ เดินหลงในถนน เดินตลาดนัดริมน้ำ เดินดูหงษ์ใต้สะพาน Charles ขึ้นเนินเขาชมวิวพระอาทิตย์ตก
Český Krumlov : เดินเล่นในเมืองเก่าแก่ที่อยู่ในมรดกโลก Unesco ดื่มไวน์ร้อน
Karlovy Vary :  เดินเล่นและ เข้า spa  เมืองนี้ขึ้นชื่อมากในน้ำแร่ธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในด้านการบำบัดร่างกาย
กินอะไรดี : Knedlinky, Goulash, Trdelnik (ขนมปังม้วนปิ้ง), Sausage, เบียร์สด,  Apple Strudle สไตล์เช็ค
กินที่ไหน : Prague : ร้านกาแฟ : Coffee lounge
แฮมเบอร์เกอร์ : The Tavern
พื้นเมือง : U Bansetu (ร้านนี้ไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่ไปถึงกินเป็ดได้เลยอร่อยที่สุดในสามโลก จานละ 4 €)  
Karlovy Vary : Le marché อาหารออกไปในทางหรู ราคาค่อนข้างสูงหน่อย ประมาณ 15-20€ ต่อคน
ผู้คน : ประเทศนี้มีคนแปลกๆเยอะมาก แปลกแบบไม่สนใจใคร (อย่างเช่นพูดคนเดียวกับป้ายรถเมล์) แต่ก็ไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ โดยรวมสื่อสารภาษาอังกฤษค่อนข้างง่าย
อาหาร 1 มื้อใหญ่ : 3-8€
taxi 1 เที่ยว : 3-5 €
ห้องระดับกลางคุณภาพดีใน Airbnb (2 คน) : ≈ 25€













2. ชาวอารมณ์อาร์ต ⇒ เซอร์เบีย, ได้ฟิลสไตล์เยอรมันหรือประเทศ Nordic
ประเทศเซอร์เบียนี้ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่าที่เราคิด Belgrade เมืองหลวงนั้น มีความ hipster สุดๆ ใครที่ชอบความรู้สึก underground แบบมีการศึกษา (แฮ่ !) คงจะต้องตกหลุมรักกับเมืองนี้ได้ค่ะ มันเต็มไปด้วยร้านกาแฟคุณภาพดีที่เสิร์ฟอาหารและขนมอร่อยๆ บรรยากาศและการตกแต่งเป็นเลิศ มีร้าน design เก๋เก๋ๆเต็มไปหมด ในถนนที่รื่นรมย์ไปด้วยต้นไม้และ street art เป็นเมืองที่ดูผ่านๆเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะมีความน่ารักกิ๊บเก๋ ความอาร์ต แฝงอยู่เต็มไปหมดเหมือนกับ Berlin เลยค่ะ แต่อาจจะเป็นเบอร์ลินในแบบ 20 ปีก่อนทำนองนี้ คล้ายๆกับบางเมืองในประเทศแถบสแกนดิเนเวียด้วย มีฟิลลิ่ง sense of design
นอกจากนี้แล้วประเทศเซอร์เบียยังมีแหล่งธรรมชาติที่น่าเที่ยวเต็มไปหมด  อย่างเช่น Tara National Park ภูเขาสวยๆกับวิวแม่น้ำ น่าเที่ยวดีค่ะ ถ้าใครได้ไปในช่วงหน้าร้อน จะมีลูกพรุนให้เด็ดกินหวานๆ ตามทางเดิน อร่อยกว่าที่ซุปเปอร์มาเก็ตมากๆ

การเดินทางในประเทศนี้อาจจะมีความช้านิดหน่อย วิธีที่ดีที่สุดก็คือการนั่งรถบัส รถไฟนั้นก็ช้าหน่อยแต่ถูกมากจริงๆค่ะ ไปได้ทั่วประเทศ (Belgrade-Novi Sad ไปกลับ แค่ 160 บาท !) มีตั้งแต่รุ่นโคตรจะเก่าไปจนถึงโคตรใหม่ ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ฟินไปอีกแบบ วิธีการจองนั้นก็หาได้ในอินเตอร์เน็ตง่ายๆค่ะ หรือจะไปจองที่สถานีเลยก็ได้ สถานีรถไฟและรถบัสอยู่ติดกัน
เมืองที่ผู้เขียนได้ไปและแนะนำก็คงจะมี Novi Sad และ Mokra Gora
เมืองอื่นๆก็มี Nis, Subotica ที่น่าเที่ยวไม่แพ้กัน… ถ้าอยากเช่ารถเที่ยวทั่วประเทศนั่นก็ดีงามค่ะ ประเทศนี้เหมาะกับการ road trip ค่าเช่ารถวันละประมาณ  800 บาท ค่าน้ำมันไม่แพงมาก ตกอยู่ที่ลิตรละประมาณ 45 บาท ถ้าไปกันหลายคนช่วยกันหารก็คุ้มดีค่ะโดยที่นี่ใช้เงินสกุล Serbian Dinar (1 บาท = 3,14 RSD)
บรรยากาศโดยรวม :  เก๋ เหมาะแก่การถ่ายรูปแบบ urban ค่อนข้าง “young” มีความติสท์สุดๆ และร่มรื่นดีค่ะ
ทำอะไร : เที่ยวกินกาแฟ ดื่มน้ำผลไม้สด เที่ยวโบสถ์ในสไตล์ Orthodox ชม street art ได้ในทั่วประเทศ
กินอะไรดี : อาหารของที่นี่เป็นแนว Balkan ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปิ้งย่าง ชนิด Kebab Cevapi แต่แนะนำให้ชิมกาแฟจริงๆค่ะ ไปให้ทุกร้านเลย ในเมืองใหญ่ๆจะมีร้านกาแฟน่ารักเยอะแยะมาก
กินที่ไหน : รายชื่อร้านใน Belgrade แทบจะเขียนไม่หมดแต่เอาให้นิดหน่อยละกัน
Mandarina (ขนม)
Manufaktura (อาหารพื้นเมือง, ร้านนี้การบริการแปลกๆ แต่อาหารอร่อยดี)
ร้านกาแฟ : Koffein, Aviator, Radionica, 19 grams, Przionica …
ร้านไอศกรีม Moritz
บาร์ริมแม่น้ำ Danube
ผู้คน : ค่อนข้างใจดีนะคะคนที่นี่ เวลาไปซื้อขนมปังมักจะได้ของแถมมาเสมอ ผู้คนพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดีค่ะ
อาหาร 1 มื้อใหญ่ : 3-10 €
taxi 1 เที่ยว : 3-5 € (2-5 km)
ห้องระดับกลางคุณภาพดีใน Airbnb (2 คน) : ≈ 20-30€
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่