การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจจะดีขึ้น?

คำว่าการเมืองนิ่ง หมายถึงสถานการณ์ ณ ปัจจุบันนี้ใช่ไหมครับ?





คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 24
จริงๆ เศรษฐกิจโลก มีส่วนไม๊.. มีส่วนครับ.

แต่ เศรษฐกิจ ทุกประเทศไม่ได้แย่เหมือนกันหมด โดยเฉพาะภูมิภาคนี้..
เอาง่าย ๆคือ..ความสามารถในการแข่งขัน.. ของเราต่ำลง..คู่แข่งที่เคย กระจอกมากๆ ในสายตา เรา เริ่มแข็งแรงขึ้น

คือเราไม่ใช่เป้นประเทศ ที่ อาศัยการบริโภคภายในเป้นหลัก.. ประชากรเราไม่เยอะมาก..จากที่ผ่านมา ประเทศเราโตเพราะ
เราเป้นฐานที่ใช้ในการผลิตเพื่อการส่งออก.. หรือ บางส่วนส่งออกด้วยสินค้าของเราเอง...

แต่ปัจจุบัน จะด้วยการบริหารที่ผิดพลาด. หรือ การมองภาพของผุ้มีอำนาจ ที่ผิดไปจากเดิม..
การเลือกข้าง ในการ ร่วมมือ กับ ขั้วอำนาจ ที่ไม่ถูกตาม พื้นฐานเศรษฐกิจ ..ล้วนมีผลทำให้เศรษฐกิจเราแย่ลง
แต่กลับกัน.เศรษฐกิจของเพื่อนบ้านเป้นไปในทิศทางบวก..

ส่วนตัวผมว่า การที่เรา เริ่มหันหลังให้ กับอเมริกา กับ กลุ่ม อียู และเริ่มจะประกาศ ว่าจะพึ่งพา จีน .เหมือนกับเราพยายามตีจากขั้วอำนาจ เดิม ที่เราเคยพึ่งพิงอยู่.. ซึ่งกลุ่มอำนาจกลุ่มนี้..เป็นคู่ค้าทางด้านการค้าที่เราได้เปรียบได้ดุลย์ มาโดยตลอด..ทั้งด้านการค้า..และเม็ดเงินลงทุน
คือ มันไม่ได้หายไปซะทีเดียว... แต่เค้าก็สามารถ ตั้งกำแพงการค้าโดยการ ลดการนำเข้า หรือพยายามลดโอกาสในการค้าของเราลง..ทำให้เราค้าขายกับเค้ายากขึ้น.. และการลงทุน เค้าก็เริ่มเคลื่อนย้ายการลงทุนในภาพ เรียลเซ็คเตอร์.. ไปยังประเทศเพื่อนบ้านของเรา แม้ว่า ด้วยศักยภาพ เรายังเป้นต่อ.. แต่เราเจริญเติบโตช้าลง ถดถอย..แต่กลับกัน.แม้ว่าเพื่อนบ้านยังไม่แข็งแรงเท่าเรา.แต่เค้าเริ่มเจริญเติบโต เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

ด้วยตัวผลิตภัณท์ หรือสินค้าส่งออก โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมหลักๆ ที่เป้นของเราเอง ยังเป้นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเกษตร..และสินค้าเกษตรต่างๆซึ่งมันไปตรงกับ ขั้วอำนาจใหม่ ที่เราพยายามจะไปพึ่งพิง.คือจีน.. สินค้าเกษตร ต่างๆ..ที่เราต้องการขาย เค้าก้สามารถผลิตเองได้ และบางรายสินค้าเค้า ผลิตได้มากกว่าเรา จนเป้นคู่แข่งเราด้วยซ้ำ..และแน่นอน..เราขาดดุลย์การค้า กับขั้วอำนาจใหม่นี่มาตลอดแทบไม่เคยได้ดุลย์ เลยตลอดสิบปีที่ผา่นมา

การเลือกพึ่งพิง ขั้วอำนาจทีผ่ิดจาก ฐานการผลิตเดิมของเรา.. ทำให้เรา เจอกำแพงการค้า แบบไม่เปิดมากขึ้น บางรายสินค้ามีการแอนตี้ โดยการใช้ หลักเกณท์ ของเค้า มีการบอยคอต ในบางรายสินค้าแบบเปิดเผย

คือ จากการช่วยเหมือนเดิม หรืออลุ่มอล่วยใน บาเงรื่อง ก็เริ่มตึงขึ้น แข็งขิ้น ทำให้การค้า ยากขึ้นๆ เรื่อย ส่วนคู่ค้าที่เราหวังพึ่งใหม่..เราก็ไม่สามารถ จะค้าขายด้วยได้จนเกินดุลย์..

ตอนนี้ ก็เหมือน จับปลาสองมือ..ที่เอาดีทางไหนไม่ได้เลย..หันซ้ายก็พลาด คิดจะพึ่งขวาก็ วืด..ในหลายๆ เรื่อง
แน่นอน เศรษฐกิจตก ความต้องการสินค้าและบริการต่ำลง. แต่ มาร์เก็ตแค็ปของตลาดการค้าเรา..ไม่ได้ใหญ๋โต มากสำหรับการค้าระดับโลก
คือถ้าเรายัง สามารถเปิดตลาดใหม่ๆ ได้..ถ้าเรายังสามารถ ดึงเงินลงทุน ในภาคผลิต ภาคอุตสาหกรรมได้..ถ้าเรายังไม่เจอกำแพงต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้

ด้วยความสามารถของทีมเศรษฐกิจ ที่มาจากรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับ.. ซึ่งผู้นำของเรา สามารถพูดคุยต่อรองในสัญญาในเรื่องการค้าได้ ..อย่างมีประสิทธิภาพ..ผมเชื่อว่าเรายังโตได้อีกเยอะ และปิดโอกาส ความเจริญของเพื่อนบ้าน

แต่มาถึงวันนี้ มันเริ่มไม่ใช่..จะบอกว่า ผุ้นำเราเป้นที่ยอมรับ. (เอาจริงๆ ไปในแบบที่ไม่สามารถ ไปลงนามสัญญาการค้าการลงทุนอะไรใหม่ๆ เลยสักครั้ง)  ไม่มีผุ้นำจากต่างประเทศหลักๆ เดินทางมาเยือน เพื่อตกลงการค้า เลย (เงียบมาก ไม่เคยมีข่าว)

แล้วเอา จริงๆ  เราแทบไม่มี คณะรัฐมนตรี ที่ออกนโยบาย หรือ ทำนโยบายอะไร เพื่อกระตุ้นอะไรเลย.. ผมถามเล่นๆ เลยว่า ห้องนี้ บ้าๆ การเมืองกัน
มีคนรุ้ชื่อ คณะรัฐมนตรี..ของรัฐบาล นี้ กี่คน..?? แทบไม่เคยมีข่าวคราว. มีแต่ วัน แมน โชว์ อยู่คนเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่