[CR] ทัวร์คนแก่ ณ คันไซ (โอซาก้า-เกียวโต-โกเบ-นารา) 10 วัน 9 คืน



        นี่คือการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา ทริปอาจจะมึนๆงงๆไปบ้าง ก็หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนได้บ้างลองเอาไปปรับใช้กัน (^-^)

         เราเลือกไปช่วงกลางเดือนมิถุนายน เพราะความสะดวกและตั๋วเครื่องบินราคาน่าสนใจ ช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นฤดูร้อน มีฝนแทบทุกวัน จริงๆเราอยากไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าแต่ว่ารอถึงตอนนั้นคงจะไม่ได้ไปอีก ไหนๆก็ว่างแล้ว ไปเลยดีกว่า เครื่องบินเราเลือกจองกับสายการบินหางเหลืองเพราะเวลาดี ไม่เหนื่อย แต่ก็แอบหวั่นๆจากรีวิวสายการบินนี้อยู่ ส่วนตัวเราว่าเครื่องโอเคนะ เครื่องรุ่นใหม่ที่นั่งกว้าง เราชอบที่ปรับกระจกมาก เลือกระดับความมืดของหน้าต่างได้เองในขนาดที่เรายังเห็นวิวข้างนอกอยู่

         ที่พักเพื่อนญี่ปุ่นแนะนำว่า Namba กับ Umeda (อุเมดะ) โอเคสุดเพราะต่อรถง่าย เป็นสถานีใหญ่มีรถไฟออกนอกเมืองหลายสาย ที่พักเราอยู่แถว Namba (นัมบะ)  เราจองกับ Airbnb ที่พักถือว่าโอเคมากเลย มีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนอยู่บ้านเลย ราคาก็ย่อมเยาว์กว่าโรงแรม บ้านพักของเราต้องนั่งรถจากสถานีนัมบะไปประมาณ 2 สถานี (180 เยน) เงียบสงบดี เหมาะแก่การพักผ่อน และโชคดีที่เป็นจุดตัดรถไฟใต้ดินถึง 2 สาย บางวันเราเลือกนั่งสายเลี่ยงเมือง (ไม่ผ่านนัมบะ อุเมดะ )เพื่อเลี่ยงการถูกอัดเป็นปลากระป๋องในรถไฟ  

         ค่าใช้จ่ายของเราโดยประมาณ : ตั๋วเครื่องบิน 18,000 + ค่าที่พัก 12,500 + ค่าpass ต่างๆ 3,640 (20,800 Yen) + ค่าไปกลับสนามบิน 1,400 (4,000 Yen) + ค่ารถอื่นๆ 760 (2160 Yen) รวม 36,300 บาท ต่อสองคน ไม่รวมค่ากิน, ค่าเข้าชมสถานที่และอื่นๆ

         ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับการจัดทริปนี้คือ การวางแผนซื้อpass ต่างๆ อย่างที่รู้กันญี่ปุ่นมีรถไฟหลายสาย Pass ก็เยอะแยะ เรางมในขั้นตอนนี้นานเป็นอาทิตย์กว่าจะตัดสินใจได้ เราจะสรุปวิธีง่ายๆให้นะ ซึ่งเราก็ได้มาจากรีวิวในพันทิปนี่แหละ

1. ต้องวางแผนให้เสร็จ จะไปที่ไหน วันไหน โดยให้เลือกสถานที่ที่ต้องไป ไล่มาถึงที่ที่เผื่อมีเวลาเหลือ เว็บแนะนำคือ Japan-guide.com ในนี้มีแผนที่ให้ด้วยนะ ปริ๊นออกมาเลยจะได้ดูง่ายขึ้น

2. ศึกษาPass ต่างๆว่าครอบคลุมการเดินทางอะไรบ้าง ครอบคลุมไปถึงสถานที่ที่เราจะไปรึเปล่า เราดูใน  Osaka-info และที่เค้ารีวิวกัน คือดูคร่าวๆว่ามีอะไรน่าสนใจ จากนั้นหาข้อมูลในเว็บของมันโดยตรง บางPass ใช้ได้แค่ข้ามเมือง บางอันรวมรถเมล์ ใต้ดินในเมืองนั้นๆด้วย บางอันรวมค่าเข้าชม มีส่วนลด ต้องลองดู

3. เอาข้อ 1 และ 2 มาประกบกัน ดูข้อจำกัดของบัตรต่างๆ เช่น ใช้ติดกันได้มั๊ย มีบริการการเดินทางในจังหวัดนั้นๆหรือไม่ หรือแค่เดินทางข้ามเมือง ส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่

4. ลองคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ โดยวางแผนการใช้พาสไว้หลายๆแบบ แล้วเปรียบเทียบราคาดู รวมถึงดูว่าครอบคลุมในส่วนที่เราจะเดินทางหมดหรือยัง หรือมีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติม จำไว้ว่าแบบที่ถูกที่สุดไม่จำเป็นต้องดีที่สุด เราเลือกแผนที่มันครอบคลุมที่สุดคือ ถ้าเดินเที่ยวแล้วเหนื่อยหรือรีบๆก็ขึ้นรถไฟ หรือรถเมล์ได้เลย ถ้าต่างกันนิดหน่อยแนะนำให้เลือกแบบครอบคลุมกว่า จะดีกว่า

5. ข้อนี้สำคัญมาก เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็หยุดคิดมันซะ เตรียมจัดกระเป๋า ลิสต์รายการกิน ช็อป ดีกว่า เพราะยิ่งคิด ยิ่งหา เราก็จะยิ่งเปลี่ยนแล้วมันจะไม่เสร็จสักที พอคิดได้แล้วก็หยุดเลย คนอื่นถูกกว่าช่างเค้าไปเถอะเพราะแผนแต่ละคนไม่เหมือนกัน

                                     ******************************************

Pass ที่เราใช้
1. Osaka Amazing 2 Days Pass : ใช้เดินทางภายในโอซาก้า 3000 เยน
ข้อดี : รวมรถไฟใต้ดิน ,Osaka loop line (รถเมล์ที่วิ่งในเมือง แต่ไม่เคยได้ใช้) และค่าเข้าสถานที่สำคัญ
ข้อจำกัด : ต้องใช้ติดต่อกัน  
เหมาะกับ : คนที่ไปเที่ยวครั้งแรก หรือ เที่ยวในสถานที่ที่รวมค่าเข้าแล้ว คุ้มมากบัตรนี้

2. Kintetsu Pass 2 Days : ใช้เดินทางระหว่างเมืองโอซาก้า-เกียวโต-นารา
ข้อดี : รวมรถเมล์ในนารา ต่อรถใกล้นัมบะ (จากบ้านไป 180 เยน)
ข้อจำกัด : ต้องใช้ติดต่อกัน เส้นทางไปเกียวโตมาจากทางใต้ของสถานีรถไฟเกียวโต ผ่านวัด Toji ไม่ครอบคลุมทั้งเกียวโต ใช้เวลาเดินทางไปเกียวโตค่อนข้างนานและต้องต่อรถ ไม่รวมรถไฟใต้ดินในโอซาก้า

3. Kansai Thru Pass (KTP) : เดินทางข้ามจังหวัดโอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา และอื่นๆ
ข้อดี : รวมการเดินทางภายในจังหวัดด้วย เช่น ในโอซาก้าใช้รถไฟใต้ดินได้ ในเกียวโตรวมการเดินทางทั้งรถเมล์และใต้ดิน ในโกเบรวมการเดินทางบางส่วน ใช้แยกวันได้ ค่อนข้างยืดหยุ่น มีส่วนลดค่าเข้า ร้านอาหาร (แต่ไม่เคยใช้) ขึ้นรถได้หลายสาย เช่น โอซาก้า-โกเบ มีรถไฟ 2 สาย อันนึงใกล้นัมบะ เน้นวิ่งนอกเมือง ไม่ต้องไปเป็นปลากระป๋อง อีกสายที่ อุเมดะ
ข้อเสีย : คิดๆแล้วราคาค่อนข้างสูง ถ้าวางแผนเที่ยวเป็นจุดๆซื้อพาสอื่นคุ้มกว่า

4. Nankai Line : รถไฟต่อสนามบินเข้าเมืองโอซาก้า 1000 เยน
ข้อดี : เชื่อมสถานีนัมบะ ราคารวมรถไฟใต้ดินในโอซาก้าแล้ว
ข้อเสีย : สำหรับคนไปครั้งแรกเราว่ามีหลง คือตัวสถานีแยกจากรถไฟใต้ดินแม้ว่ามีทางเดินเชื่อมใต้ดิน แต่มันเดินไกลมากกกก



แผนเดินทางของเรา :
Day 1 : Airport – Home : Nankai Line
Day 2-3 : Osaka Amazing Pass for 2 Days
Day 4 : Nara : Kintetsu pass 2 Days
Day 5 : South of Kyoto : Kintetsu pass 2 Days  , Nara JR pass
Day 6-7 : Kyoto : Kansai Thru Pass 3 Days
Day 8 : Kobe : Kansai Thru Pass 3 Days
Day 9 : Osaka : subway
Day 10 : Home - Airport : Nankai Line

Day 1 : Arrive Osaka
           วันแรกของเราไม่มีอะไรเลย เครื่องลงประมาณ 5 โมงเย็น เลยกะว่าเข้าที่พักหาอะไรกินพอแล้ว เราเลือกซื้อตั๋วรถไฟสายNankai เพราะราคาถูกสุด ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็ไปถึงนัมบะ ต่อรถอีกนิดนึงก็ถึงบ้าน ข้อเสียคือ จากNankai line คนที่เยอะเหมือนในการ์ตูน สถานีสยามบ้านเรานี่เด็กๆไปเลย ไปถึงบ้านพักโฮสต์ก็ออกมาต้อนรับพร้อมแนะนำเล็กๆน้อยๆ บ้านที่เราพักมีไวไฟแบบ pocket wifi เจ้าของก็ใจดีให้เราเอาไปใช้ได้ตลอดเวลาที่พัก ประหยัดค่า pocket wifi ได้วันละ 200 บาทแหนะ ข้างๆบ้านมีบาร์ร้านอาหารเล็กๆแต่เราทนกลิ่นบุหรี่ไม่ไหว มื้อแรกเลยฝากท้องไว้กับมินิมาร์ทแถวบ้าน


                                                                              บรรยากาศแถวบ้าน

Day 2 : Osaka
         เริ่มต้นทริปด้วย Osaka Castle จุดไฮไลท์ของโอซาก้า ที่สำคัญมันรวมค่าเข้าในพาสแล้ว โชคดีที่อากาศดีแดดแรงเหมาะกับการเที่ยวสถานที่กลางแจ้ง วันที่เรามาเหมือนมีการหาเสียงหน้าปราสาท (ช่วงเลือกตั้งพอดี) ไอศกรีมชาเขียวที่นี่น่ากินมาก แต่รสชาติเราว่าเหมือนร้านไอศกรีมในสวนสนุก (ไม่ต้องอร่อย เพราะขายได้แน่ๆ)



         ร้านอาหารเช้าในณี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นคาเฟ่ ขายขนมปัง กาแฟ หายากมากๆที่จะเปิดช่วงเช้าๆ ร้านที่เราเจออยู่ข้างแมคโดนัล ขึ้นจากสถานี Tenimachi 4 Chome ออกประตู 1B (ตามแผนที่ที่เค้าแนะนำ) ร้านอาหารสีแดงตรงข้ามสถานีที่ขึ้นมาเลย ส่วนร้านที่เราไปโดนมา เดินเข้าไปหน่อย (ตอนแรกไม่เห็นร้านนี้) ราคาไม่เกิน 500 เยน รสชาติเราว่ากลางๆนะ เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ใจดีบริการดีเข้าใจต่างชาติ



         สถานที่ที่สอง โดนรีเควสจากคุณนายแม่ขอกิจกรรมในร่มเพราะแดดมันแรงมากๆ นางเริ่มเพลียกับแดด เลยไปจบกันที่ Umeda แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร เราเลือกนั่ง Hep Five Wheel ชิงช้ายักษ์สีแดงที่ห้าง Hep Five (รวมค่าเล่นในบัตร) เอาจริงๆเราไม่ค่อยชอบ Umeda เลย มันซับซ้อนมาก พอออกจากรถไฟได้ก็เป็นทางเดินใต้ดินแยกย่อยหลายทาง เหมือนเดินในห้าง ห้างหนึ่งแต่มันไม่ใช่ พอโผล่ขึ้นบนดินได้ก็งงอีกเราเดินมาจากตรงไหน กว่าเราจะเข้าใจผังเมืองที่นี่ก็เกือบวันกลับแล้วล่ะ

         ร้านอาหารที่แนะนำมากๆ คือ ร้านราเมง Arauma Dou ป้ายร้านที่มีแต่ภาษาญี่ปุ่น (ชื่ออังกฤษได้จากการถามเพื่อนญี่ปุ่นมา) หลักการเลือกร้านอาหารของเราคือมีคนต่อคิวเยอะและเน้นเป็นคนพื้นเมือง 555 ร้านดงร้านดังนี่ไม่มีในลิสต์เลย เพราะเราไม่อยากแพลนทริปแบบแน่นเกินไป ร้านนี้จัดว่าดีเยี่ยมเป็น The Best ในทริปเลย อร่อยจริงๆคนแน่นร้านตลอด พิกัดร้าน อยู่ในสถานีรถไฟใกล้ๆ Hankyu Kobe line ข้ามถนนจาก Hep Five มาจะมีร้านราเมงสีขาวคิวแน่น หน้าร้านมีเครื่องกดเมนูอาหาร คนต่อคิวส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นเราเลยผ่าน เดินไปนิดมีร้านคาเฟ่ ออกแนวร้านวนิลาแถวสยาม อยู่หน้าซอยเล็กๆเดินเข้าไไม่ไกลก็ถึง Arauma Dou ทางค่อนข้างซับซ้อนเราค้นพบโดยบังเอิญ ถ้าเข้าซอยแล้วร้านค่อนข้างหาง่ายเพราะเป็นร้านราเมงที่คิวยาว บรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ คือ เน้นขายอาหาร ไม่เน้นแต่งร้าน 555 ของตกแต่งส่วนใหญ่เป็นไม้บรรยากาศดูดี





          หลังมื้ออาหารเห็นว่ายังพอมีเวลาเหลือ เลยแวะไป Housing and living museum การจำลองบ้านสมัยก่อนเป็นหมู่บ้านเล็กๆ นั่งรถไฟสายสีม่วงจาก Umeda ไป 2 สถานี ลงที่ Tenjibashi 6 chome  ที่นี่มีให้เช่าชุดกิโมโนด้วยนะ 300 เยนต่อคน พนักงานเค้าแนะนำให้ไปก่อนเวลาเปิดครึ่งชั่วโมงเพราะมันจำกัด 300 ชุดต่อวัน เราไปบ่ายๆแล้วเลยอด ข้างๆนี่เป็นซอยละลายทรัพย์ที่คนไทยตั้งชื่อให้ จดพิกัดไว้วันหลังๆคอยมาช๊อป

          ที่สุดท้ายของค่ำคืนนี้ไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Umeda Sky Building นั่งรถไฟไปลงสถานี Umeda เดินต่อไปอย่างไกลประมาณ 2-3 กิโลได้ ไม่มีการขนส่งมวลชนใดๆไปถึงนอกจากพี่แท๊ก(ซี่) ฉะนั้นต้องทนเดินไป พอไปถึงโอเคล่ะวิวสวยดี เราไปถึงช่วงเกือบเย็นอีกประมาณชั่วโมงครึ่งพระอาทิตย์ถึงจะตกดิน ผู้คนมาจับจองที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินกันพอสมควร



             ไอ่ตึกนี้แหละที่ยอมเดินไกลมาก วงกลมด้านบนที่ส่วนของสวนลอยฟ้า ที่เปิดให้ชมวิว

ปล. ที่เหลือจะมาต่อให้พรุ่งนี้นะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นเน้นธรรมชาติ ทริปไม่เหนื่อย(มาก) คุ้มต่า และถูกใจแม่มาก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่