ขอปรึกษาเรื่องกฎหมายหน่อยครับ (เครืยดมากๆเลย)

พอดีผมไปค้ำประกันเงินกู้ประเภทสินเชื่อกรุงไทย โดยคนกู้โดนไล่ออกจากงานและไม่ได้จ่ายตั้งแต่ปี 53 จนมีหมายศาลรอบแรกมาถึงผมเมื่อปี 55 ผมและคนกู้ก็ไปหน้าบัลลังค์และเจรจากับทนายของแบงค์วันนั้นว่า คนกู้จะไปติดต่อธนาคารและขอผ่อนชำระและปรับโครงสร้างหนี้เอง  แต่เมื่อเช็คไปทางธนาคารคนกู้ก็บ่างเบี่ยงลบเลี่ยงไม่ไปจ่ายตามที่เขาสัญญาไว้ ผมได้โทรไปเช็คกับทางทนายของแบงค์ว่าเรื่องถึงไหนแล้ว ทางคนกู้ได้จ่ายไปบ้างรึยัง เขาบอกว่ายังและได้มีหมายศาลรอบสองแล้ว แต่ผมไม่รู้เรื่องว่าต้องไปศาลอีกและผมก็ไม่ได้รับหมายศาลด้วย ซึ่งผมต้องไปเจรจาต่อรองกับแบงค์เอง จน ณ ปัจจุบันทางธนาคารได้ติดต่อมาและให้ผ่อนชำระเป็นงวดๆ ตามขั้นบันได จากเดือนละ 1000 บาท ปีแรก ปี ที่สอง 2000 บาท และมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 5  ปี แต่ผมได้ทำหนังสือขอลดยอดที่มันเกินมากจากดอกเบี้ย มาเกือบแสน แต่ทางธนาคารไม่ยอม ทั้งๆที่เราก็ได้ส่งใบสลิปเงินเดือนให้เขาแล้วว่าเงินไม่พอกิน และเขาก็น่าจะรู้ดีว่าเงินเราเหลือเท่าไรเพราะเงินเดือนผ่านบัญชีกรุงไทย เขาบอกให้เราต้องผ่อนตามที่เขากำหนด ซึ่งมันไม่แฟร์เลยสำหรับคนค้ำที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่

ขอสอบถามผู้ที่มีประสบการณ์หน่อยครับ ว่ากรณีนี้ผมต้องต่อสู้อย่างไรเพื่อความยุติธรรมของผมเอง เพราะว่าผมคงผ่อนตามที่เขากำหนดไม่ได้ถ้าเขาไม่ยอมลดดอกเบี้ยให้

ผมมีคอนโดที่ผ่อนอยู่กับ ธอส. เขาจะมายึดมั้ยครับ และถ้าเขาจะมายึดบ้านและขายทอดตลาดจะมีหมายศาลมาอีกรึมั้ย หรือกรมบังคับคดีมายึดเลยครับ เผื่อผมจะได้ไปเจรจาต่อรองที่หน้าศาลขอลดดอกเบี้ยกันที่นั้นเลยจะได้จบๆกันไปครับ

ถ้าบ้านโดนยึดและถูกขายทอดตลาดเราจะทำยังไงครับ

ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่