รู้จักอิสลามผ่านความเกลียดอิสลาม

กระทู้คำถาม
คืองี้ครับ .. บอกก่อนเลยว่าผมเป็นมุสลิมน่ะครับ

ทุกวันนี้ท่ามกลางกระเเสต่างๆต่ออิสลาม ทั้งอิสลาโมโฟเบีย (จริงๆอิสลามโมโฟเบียมีมาพันๆปีล่ะ แต่พึ่งมาบูมๆเมื่อไนน์วันวัน 911) มาจนถึงทุกวันนี้
ทั้งที่มีกระเเสหล่าวนี้ แต่เรากลับพบว่า มีผู้เข้ารับอิสลามเพิ่มจำนวณมากขึ้น ส่วนหนึ่งของผู้เข้ารับอิสลามก็รับจากความเกลียดอิสลามเป็นพื้นฐาน

คือบางคนยิ่งเกลียดหรือยิ่งไม่รู้อะไรเขาจะยิ่งต้องรู้สิ่งนั้นให้ได้ โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิดครุ่นคิด ไตร่ตรอง ตามหา สืบเสาะอยู่ตลอดเวลาคนพวกนี้มักจะค้นพบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับอิสลาม

ซึ่งไม่นับคนประเภทใช้ชีวิตกินดื่มและรื่นเริงน่ะครับ  คนประเภทนี้ ไม่ได้มีอะไรมาก ไม่ได้ตามหาอะไร ใช้ชีวิตล่องลอย. ไปวันๆ เฮฮาปาตี้ไม่ได้ครุ่นคิด ใครเกลียดอะไร ก็เกลียดไปตามนั้น ข่าวเสนออะไรก็เออ. ออ ไปตามนั้น ไม่ได้ใช้สติปัญญาที่สูงส่งวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นคนเเบบนี้ไม่ค่อยพบอะไรหรอกครับ
....
ที่สำคัญผมเชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ พื้นฐานเป็นคนเเบบประเภทเเรก คือครุ่นคิด ตามหา อะไรสักอย่างเเละมักใช้ความคิดไตร่ตรองอยู่ตลอดเวลา
เพราะไม่อย่างนั้น ก็ไม่เข้ามาอ่าน ไม่เข้ามาด่า เเละไม่เข้ามาวิจารณ์ในกระทู้นี้แน่นอน. มาถึงประโยคนี้เเล้วก็"ยินดีที่ได้รู้จักน่ะครับ" ^^
....
ผมมีโอกาสรู้จักมุสลิมใหม่คนหนึ่ง บ้านเขาอยู่สันป่าตองเชียงใหม่ เป็นวัยรุ่นชายราวๆ 21 ปีน่ะครับ รับอิสลาม มาตอนนี้จะครบหนึ่งปีแล้ว เขาก็เล่าน่ะครับว่า จากที่ไม่เคยรู้จักอิสลามมาก่อน จนรู้จักชื่อพระเจ้า แล้วก็นำชื่อพระเจ้ามาล้อเลียนอยู่บ่อยๆ วันดีคืนดี รู้สึกอยากรู้จักอิสลาม อยากรู้จักภาษาอะหรับ อยากรู้จักว่าทำไมคนอะหรับเเต่งตัวเเปลกๆ. อยากรู้จักว่าก่อการร้าย ร้ายไปทำไม อะไรใครคือก่อการร้าย เลยลองหาอ่านจาก"กูเกิ้ล"ดู ,

จนมาถึงอยากรู้จักอิสลามมากขึ้นเลยเข้าไปพูดคุยถามไถ่จากอิสลามที่อยู่หน้าปากซอยหมู่บ้าน กระทั่งเข้าใจมากขึ้น จึงรับอิสลามเมื่อปลายๆปี58, แล้วก็เป็นพี่น้องร่วมกับผมมาจนถึงทุกวันนี้( นอกจากจะเป็นพี่น้องร่วมชาติไทยเเล้วยังเป็นพี่น้องร่วมศาสนาน่ะครับ รวมไปถึงพี่น้องร่วมโลกด้วย)^^

....
จริงๆกระทู้นี้ก็ไม่ได้มีอะไรน่ะครับ ต้องขอโทษด้วยสำหรับท่านที่คิดว่ามีอะไร แต่กลับไม่มีอะไร @@. ผมก็เขียนไปเรื่อยละครับ ถือเสียว่าเปิดกระทู้ให้ท่านๆ หลายๆท่านเเวะเข้ามาด่าทอ วิจารณ์ดูหมิ่น เสียดสี !ไม่สิ แลกเปลี่ยนความเห็นกันเสียมากกว่า -- "
...
คือผมมีความสุขกับอิสลามครับ ,ผมรู้ว่าผมมาจากไหน รู้ว่ากำลังทำอะไร รู้ว่าทำเพื่อใคร แล้วรู้ว่ากำลังจะไปไหน.. ,,ทั้งหมดนี้มันเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า"ความสุขที่เเท้จริงของการมีชีวิตคืออะไร" ...
....
แต่ความสุขของเเต่ละคนอาจจะเเตกต่างกันไป ความสุขของเอทิตส์คือการตื่นขึ้นมาโดยไม่มีพระเจ้า ความคิดตัวเองคือพระเจ้าสูงสุด การทำมุกสิ่งทุกอย่างได้โดยไม่มีขอบเขต ขึ้นอยู่กับหลักเหตุและหลักผล ใช้เหตุและผลตัวเองเป็นขอบเขตในการดำเนินชีวิต , ใช้ชีวิต ไปจนถึงสิ้นสุดชีวิต พอตายก็จบ กลายเป็นซากศพเน่าเปื่อยให้เเมลงสัตว์มากัดกิน หรือไม่ก็เป็นผุยผง ไหม้เกรียม แล้วถือเป็นการสิ้นสุดชีวิต , ความดีความชั่วที่ทำไปก็สิ้นสุดกันบนโลกนี้ ...
....
พูดแบบนี้เเล้วถ้าเอทิตส์เข้ามาอ่านละโดนถล่มเเน่ เพราะส่วนใหญ่แล้วเอทิสต์มักเป็นคนที่ครุ่นคิดใช้สติปัญญาอยู่ตลอดเวลา พูดอะไร ทำอะไร เก่งนักหนา^^
....
หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะเขียนไปทำไม ... "ก็ผมมีขนมหวานที่อร่อยอยู่ ผมเลยอยากให้หลายๆคนได้ชิม ไม่ใช้เเค่ดูและฟังจากปากคนอื่นว่ามันไม่อร่อย เเล้วก็สรุปไปว่าขนมที่ผมถืออยู่ไม่อร่อย"
...
ยังไงก็ขอบคุณต่างศาสนิกอิสลามมากน่ะครับที่เข้ามาอ่านพร้อมๆกับเเบะปากมองบนอยู่ตลอดเวลามาจนถึงบรรทัดนี้

สวัสดีครับ^^
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
Facepalmม้าม้าม้าม้าม้าม้าม้า
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่ได้เกลียดศาสนาอิสลามครับ เเต่กลัวคนที่นำศาสนาอิสลามไปบิดเบือนไล่ฆ่าคนไปทั่วเเล้วตะโกน  อัลเลาะอัคบาร์  ว่าเเต่ว่าพวกคุณทำไมเฉยๆ  บางทีเถียงเเทน  บางทีอ้อมแอ้มแบ่งรับเเบ่งสู้  ในเมื่อมันมีผลไม่ดีกับศาสนาคุณทำไมไม่รวมตัวจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ดีขึ้น  ผมไม่เข้าใจตรงนี้เเหละ     เห็นพวกพุทธไม๊เขาสู้กันถึงขนาดจะให้สึก  จะให้ติดคุกติดตะรางกันเชียวนาครับ    ช่วยตอบที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่