Pete's Dragon (David Lowery,2016) คะแนน B
By Form Corleone
" มังกรตัวเขียว ขนปุกปุย กับเด็กชายชื่อ พีท " หนังเปิดเรื่องไม่ค่อยดีเทาที่ควร ไม่ชวนดึงดูดให้เรื่องราวดูน่าสนใจสำหรับการพบกันระหว่างเด็กน้อยชื่อพีท กับ มังกรที่ถูกตั้งชื่อว่า เอลเลียต หลังจากประสบอุบัติเหตุ 'พีท' อาศัยอยู่กับเอลเลียตเป็นเวลา 6 ปี หลังจากนั้นหนังก็ให้พล็อตเรื่องที่ไม่แตกต่างจากหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ เมื่อมนุษย์พบเจอสิ่งมีชีวิตแปลกๆสิ่งแรกที่ทำคือ ออกตามล่า มนุษย์ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธ์เดียวในโลกนี้ที่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตสายพันธ์อื่นมากที่สุด รวมไปถึงใช้ทรัพยากรต่างๆในโลกนี้เกินขอบเขต โลเคชั่นของหนังถ่ายทำในชานเมืองรายล้อมไปด้วยป่าเขา ภาพที่ถ่ายเลยดูเป็นธรรมชาติ สะท้อนแสงแดด ตัดกระทบใบไม้ รวมไปถึงเจ้าตัวเขียวขนฟู ก็ทำได้น่ารักน่าชัง เป็นมังกรที่แตกต่างจากมังกรเรื่องอื่นๆที่เราเคยเห็น ด้วยความเป็น 'ดิสนีย์' ไม่น่าแปลกที่จะจัดสรรองค์ประกอบของ 'เอลเลียต' ดูเป็นมังกรที่เป็นมิตรกับเด็กเล็กเป็นที่สุด ระหว่างดูไม่รู้ว่าคนทำจงใจให้พฤติกรรมของเอลเลียต ใกล้เคียงกับสัตว์เลี้ยงประจำบ้านหรือเปล่า เราเลยสัมผัสและเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครได้ไม่ยาก แม้หนังจะเปิดเรื่องมาได้ไม่ดี แต่ส่วนกลางเรื่องและท้ายเรื่องกลับทำได้ดีในส่วนนั้น เรียกว่าเปิดเรื่องไม่น่าสนใจแต่จบได้อย่างน่าพอใจ
หนังดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่สลับซับซ้อน ดูง่ายและเพลินง่าย + ภาพสวย แสดงมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวถึงแม้ว่าจะตื้นเกินไปหน่อยแต่ก็เหมาะสมกับหนังประเภทนี้ มิตรภาพระหว่างคนกับสิ่งมีชีวิตสายพันธ์อื่น ประเด็นที่เหมือนจะเยอะในช่วงเริ่มแรกคือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในการตัดไม้ทำลายป่า แต่สุดท้ายก็กลายเป็นประเด็นที่เบาบางและจางหายไปในท้ายเรื่อง ซึ่งน่าเสียดายมากๆในส่วนนั้น ตัวละครในเรื่องควรจะได้บทเรียนจากเรื่องนี้ เรายังคงมีความเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่เคารพธรรมชาติ ท้ายสุดแล้วธรรมชาติจะเล่นงานเรากลับคืน เหมือนที่เอลเลียตแสดงให้เห็นในเรื่อง
สิ่งหนึ่งที่ 'Pete's Dragon' สะท้อนได้ดีคือ มิติของตัวละคร แตกต่างจากเรื่องอื่น มิติของคนที่โดน เอลเลียต ทำร้ายครั้งแรกที่เจอ ย่อมมีมุมมองต่อสิ่งมีชีวิตสายพันธ์นี้ แตกต่างจาก 'พีท' ที่พบเอลเลียตครั้งแรกในสภาพที่นุ่มนวล น่าคิดว่าแท้จริงแล้วนั้นสัตว์ต่างๆที่มีอยู่ในโลกนี้นั้น เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่ บางทีมันอาจจะไม่ได้ดุร้ายถ้าผ่านการเล่าจากคนที่ได้เป็นมิตร หรือมันคงจะดุร้ายมากๆถ้าผ่านมุมมองของคนที่เป็นศัตรูกับเจ้าสิ่งนั้น เราคงตัดสินสิ่งมีชีวิตในมุมมองเดียวไม่ได้ เช่นเดียวกับที่หนังนำเสนอ เมื่อคนที่เคยเป็นศัตรูเห็นมุมมองที่ต่างออกไป เขาก็เปิดใจที่จะรับมิตรภาพเหล่านั้น
สุดท้าย 'Pete's Dragon' ให้งานสร้างสรรค์ ผลิตมังกรออกมาได้น่ารัก น่าเอ็นดู สนุกดูเพลิน ถ่ายทอดความสันพันธ์ของคนในครอบครัวได้อบอุ่น แม้จะมีจุดขัดใจบ้างในบางจุด แต่ภาพรวมถือว่าเกินคาด เป็นหนังอีกเรื่องที่นำเสนอ 'มังกร' ในอีกแง่มุมหนึ่ง เราอาจเคยเห็นมังกรดุร้ายจากหลายๆเรื่อง แต่สำหรับเรื่องนี้นั้นเราจะหลงรัก 'มังกร' ตัวเขียวแน่นอน ใครจะรู้ว่า "สิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่จริง”
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/ 
Review: Pete's Dragon (David Lowery,2016) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
" มังกรตัวเขียว ขนปุกปุย กับเด็กชายชื่อ พีท " หนังเปิดเรื่องไม่ค่อยดีเทาที่ควร ไม่ชวนดึงดูดให้เรื่องราวดูน่าสนใจสำหรับการพบกันระหว่างเด็กน้อยชื่อพีท กับ มังกรที่ถูกตั้งชื่อว่า เอลเลียต หลังจากประสบอุบัติเหตุ 'พีท' อาศัยอยู่กับเอลเลียตเป็นเวลา 6 ปี หลังจากนั้นหนังก็ให้พล็อตเรื่องที่ไม่แตกต่างจากหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ เมื่อมนุษย์พบเจอสิ่งมีชีวิตแปลกๆสิ่งแรกที่ทำคือ ออกตามล่า มนุษย์ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธ์เดียวในโลกนี้ที่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตสายพันธ์อื่นมากที่สุด รวมไปถึงใช้ทรัพยากรต่างๆในโลกนี้เกินขอบเขต โลเคชั่นของหนังถ่ายทำในชานเมืองรายล้อมไปด้วยป่าเขา ภาพที่ถ่ายเลยดูเป็นธรรมชาติ สะท้อนแสงแดด ตัดกระทบใบไม้ รวมไปถึงเจ้าตัวเขียวขนฟู ก็ทำได้น่ารักน่าชัง เป็นมังกรที่แตกต่างจากมังกรเรื่องอื่นๆที่เราเคยเห็น ด้วยความเป็น 'ดิสนีย์' ไม่น่าแปลกที่จะจัดสรรองค์ประกอบของ 'เอลเลียต' ดูเป็นมังกรที่เป็นมิตรกับเด็กเล็กเป็นที่สุด ระหว่างดูไม่รู้ว่าคนทำจงใจให้พฤติกรรมของเอลเลียต ใกล้เคียงกับสัตว์เลี้ยงประจำบ้านหรือเปล่า เราเลยสัมผัสและเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครได้ไม่ยาก แม้หนังจะเปิดเรื่องมาได้ไม่ดี แต่ส่วนกลางเรื่องและท้ายเรื่องกลับทำได้ดีในส่วนนั้น เรียกว่าเปิดเรื่องไม่น่าสนใจแต่จบได้อย่างน่าพอใจ
หนังดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่สลับซับซ้อน ดูง่ายและเพลินง่าย + ภาพสวย แสดงมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวถึงแม้ว่าจะตื้นเกินไปหน่อยแต่ก็เหมาะสมกับหนังประเภทนี้ มิตรภาพระหว่างคนกับสิ่งมีชีวิตสายพันธ์อื่น ประเด็นที่เหมือนจะเยอะในช่วงเริ่มแรกคือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในการตัดไม้ทำลายป่า แต่สุดท้ายก็กลายเป็นประเด็นที่เบาบางและจางหายไปในท้ายเรื่อง ซึ่งน่าเสียดายมากๆในส่วนนั้น ตัวละครในเรื่องควรจะได้บทเรียนจากเรื่องนี้ เรายังคงมีความเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่เคารพธรรมชาติ ท้ายสุดแล้วธรรมชาติจะเล่นงานเรากลับคืน เหมือนที่เอลเลียตแสดงให้เห็นในเรื่อง
สิ่งหนึ่งที่ 'Pete's Dragon' สะท้อนได้ดีคือ มิติของตัวละคร แตกต่างจากเรื่องอื่น มิติของคนที่โดน เอลเลียต ทำร้ายครั้งแรกที่เจอ ย่อมมีมุมมองต่อสิ่งมีชีวิตสายพันธ์นี้ แตกต่างจาก 'พีท' ที่พบเอลเลียตครั้งแรกในสภาพที่นุ่มนวล น่าคิดว่าแท้จริงแล้วนั้นสัตว์ต่างๆที่มีอยู่ในโลกนี้นั้น เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่ บางทีมันอาจจะไม่ได้ดุร้ายถ้าผ่านการเล่าจากคนที่ได้เป็นมิตร หรือมันคงจะดุร้ายมากๆถ้าผ่านมุมมองของคนที่เป็นศัตรูกับเจ้าสิ่งนั้น เราคงตัดสินสิ่งมีชีวิตในมุมมองเดียวไม่ได้ เช่นเดียวกับที่หนังนำเสนอ เมื่อคนที่เคยเป็นศัตรูเห็นมุมมองที่ต่างออกไป เขาก็เปิดใจที่จะรับมิตรภาพเหล่านั้น
สุดท้าย 'Pete's Dragon' ให้งานสร้างสรรค์ ผลิตมังกรออกมาได้น่ารัก น่าเอ็นดู สนุกดูเพลิน ถ่ายทอดความสันพันธ์ของคนในครอบครัวได้อบอุ่น แม้จะมีจุดขัดใจบ้างในบางจุด แต่ภาพรวมถือว่าเกินคาด เป็นหนังอีกเรื่องที่นำเสนอ 'มังกร' ในอีกแง่มุมหนึ่ง เราอาจเคยเห็นมังกรดุร้ายจากหลายๆเรื่อง แต่สำหรับเรื่องนี้นั้นเราจะหลงรัก 'มังกร' ตัวเขียวแน่นอน ใครจะรู้ว่า "สิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่จริง”
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/