" PERHAPS  WE  ARE  ALL  WAITING  FOR  THAT HORRIBLE THING

THAT’S  WITHIN  US  THAT  WE  FEAR."

“ แท้จริงแล้วสิ่งที่ชวนหวาดหวั่น สุดแสนน่าสะพรึงที่ตามหลอกหลอน

และกำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเราทั้งหมดทั้งมวลนั้น

ล้วนแล้วอาจคือสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวตนของเราต่างหาก

ที่ในท้ายที่สุดเราควรตระหนักและหวาดกลัว”

ประวัติความเป็นมาโดยย่อ : ประมาณ 60 กว่าปีที่แล้ว โปรดิวเซอร์บริษัทโตโฮภาพยนตร์  โทโมยูกิ ทานากะ เดินทางโดยเครื่องบินผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อโทโมยูกิมองลงไปบนผืนน้ำที่กว้างใหญ่ราบเรียบสงบนิ่ง.. โทโมยูกิก็นึกมโนไปว่า สมมุติถ้ามีสัตว์ประหลาดยักษ์โผล่ขึ้นมาจากใต้มหาสมุทร และขึ้นฝั่งที่อ่าวโตเกียวทำลายเมืองซะราบคาบจะเป็นยังไง?

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มีข่าวนึงที่ดังไปทั่วโลก เมื่อเรือเดินสมุทรที่ชื่อ Lucky Dragon No.5 ได้ล่มลงบริเวณแนวปะการังของเกาะบิกินี หรือ เกาะมฤตยู (ต้นกำเนิดการเรียกชื่อชุดว่ายน้ำชนิดหนึ่งว่า บิกินี่) อันเป็นพื้นที่ทดลองนิวเคลียร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง โทโมยูกิจึงเอามายำใส่กันซะเลย กำเนิดเป็นความคิดต้นแบบ เมื่อสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์กำเนิดมาจากการทดลองนิวเคลียร์  

จินตนาการและไอเดียนี้ถูกส่งต่อมาให้ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างที่ชื่อ อิชิโร ฮอนดะ เพื่อเปลี่ยนความคิดบรรเจิดแจ่มจรัสนี้ให้เป็นภาพยนตร์ เมื่อมีการระดมสมองคิดชื่อสัตว์ประหลาด จึงผุดไอเดีย โดยการนำเอาชื่อกอริลล่าและปลาวาฬในภาษาญี่ปุ่นมามิกซ์กัน เกิดเป็นชื่อ โกจิร่า..

วันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ.1954 หลังจากผ่านกระบวนการสร้างที่มาราธอน บริษัทโตโฮภาพยนตร์ก็นำ โกจิร่า ออกฉายให้คนญี่ปุ่นได้ดูกัน  สร้างกระแสโกจิร่าฟีเวอร์ไปทั่วประเทศ ความนิยมโกจิร่าลุกลามไปในหลายๆประเทศแถบเอเชีย โกจิร่าทำกำไรมหาศาลให้โตโฮภาพยนตร์เป็นอย่างมาก ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกโกจิร่าว่า ไคจู อีกชื่อหนึ่งด้วย



(NOTE : ไคจูในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ ในปัจจุบัน ไคจูจึงกลายเป็นชื่อเรียกสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ทุกชนิดทั่วโลก ไม่ใช่โกจิร่าอย่างเดียว)

2 ปีต่อมา กระแสความฮ็อทของโกจิร่า ทำให้สหรัฐฯขอนำมาฉายให้อเมริกันชนดูบ้าง โดยการตัดต่อและเพิ่มบทนักแสดงอเมริกันเข้าไปเสริม พร้อมกับมีชื่อสากลว่า Godzilla, King of the Monsters! หลังจากนั้นก็ออกฉายแบบนานาชาติเลย ไม่ว่าจะเป็น สวีเดน, สเปน, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, เยอรมัน, โปรตุเกส, ฮังการี่, เม็กซิโก, อาร์เจนติน่า, คิวบา, ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, โปแลนด์, บราซิล ฯลฯ ซึ่งคนทั่วโลกจะรู้จักในชื่อ ก็อดซิลล่า มากกว่า..

60 กว่าปีที่ผ่านมา บริษัทโตโฮภาพยนตร์ยังได้สร้างโกจิร่า หรือ ก็อดซิลล่า ต่อเนื่องในเวอร์ชั่นภาพยนตร์มาอีก 28 ภาค รวมไปถึงลิขสิทธิ์ อนิเมะ เกม ของใช้ และของเล่นต่างๆออกมามากมาย ฯลฯ จนถึงขนาดที่ประเทศญี่ปุ่นประกาศว่า การกำเนิดโกจิร่า คือประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว..

ปี ค.ศ. 2016 การคืนชีพของก็อดซิลล่า (GODZILLA  RESURGENCE) บริษัทโตโฮภาพยนตร์กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยการออกฉายโกจิร่าออริจินอลภาคที่ 29 อย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ภาคแยกหรือต่างชาติซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้าง ซึ่งกำหนดวันฉายทั้งโลกนั้นไม่ตรงกัน ในไทยมีกำหนดฉายวันที่ 8 กันยายน 2016




เรื่องย่อ "Shin Godzilla" : ในวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง.. เกิดอุบัติเหตุนักหนาสาหัสเอาการ ในอุโมงค์ใต้น้ำเส้นทางผ่านอ่าวโตเกียว โดยไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร?  หน่วยงานของภาครัฐบาลญี่ปุ่นหลากหลายหน่วยงาน จึงนัดประชุมฉุกเฉินด่วนที่สุด เพื่อรับมือกับสถานการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นนี้

จนกระทั่งในที่สุดรัฐบาลญี่ปุ่นก็พบว่า ต้นเหตุวิกฤตนี้คือ "อสูรกาย" ขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 118.5 เมตร ซึ่งจู่ๆก็ปรากฏตัวบุกขึ้นฝั่งอ่าวโตเกียว สร้างความเสียหายโกลาหลวุ่นวายไปทั่ว



อสูรกายขนาดยักษ์ตัวนี้ได้เข้าไปทำลายบ้านเมืองอย่างย่อยยับ ตั้งแต่นอกเมืองไล่เข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงของกรุงโตเกียว นำมาซึ่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จึงเกิดการลุกขึ้นต่อสู้จากชนชาติญี่ปุ่น เพื่อปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากอภิมหาสัตว์ประหลาดที่ไม่มีใครเคยเอาชนะได้ และชาวญี่ปุ่นก็ขนานนามมันว่า.. "ก็อดซิลล่า"


ประเภท                     Action, Thriller

กำหนดฉาย                  8 กันยายน 2016

บริษัทจัดจำหน่าย         มงคลภาพยนตร์

อำนวยการสร้าง            มินามิ อิชิคาว่า (Confessions, Wolf Children), ไทจิ อุเอดะ (Our Little Sister)

กำกับ                           ฮิเดะอากิ อันโนะ (Evangelion 1.0,2.0), ชินจิ ฮิงุชิ (Attack on Titan)

เขียนบท                       ฮิเดะอากิ อันโนะ

แสดงนำ                       ซาโตมิ อิชิฮาระ (Attack on Titan, Sadako 3D, H2, The Bandage Club), ฮิโรกิ ฮาเซกาว่า (Attack of the Titans, I’m Mita ,YourHousekeeper), ยูทากะ ทาเคโนะอุจิ (WithLove, Beach Boys, Boss), โนโซมิ เดอ ลองเคอแซง (Equals, The Forest), ชินยะ สึคาโมโตะ (Tokyo Fist, A Snake of June)