๕ อันดับวิชาทางไสยศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัว

กระทู้สนทนา
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ตำนานเรื่องเล่าสยองขวัญ
The Ghost Tellers

ให้เสียงภาษาไทยโดย มัทรี

สำหรับเรื่องผี เรื่องไสยศาสตร์นั้นต้องยกให้เรา เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญและ ผู้สืบสานตำนานสยองขวัญ ประติมากรรมลึกลับ ถ้าอยากฟังต่อให้กด Subscribe นะคะ

วันนี้เสนอตอน  ๕ อันดับวิชาทางไสยศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัว

ไสยศาสตร์ เป็นวิชาเกี่ยวกับเวทมนตร์ คาถา และ เลขยันต์ ประกอบกับการใช้อำนาจสมาธิจิต การสาธยายเวทมนตร์คาถา การภาวนา และการปลุกเสก

ศาสตร์มืด หรือการทำ "คุณไสย" ในพจนานุกรมไทยให้คำจำกัดความ คุณไสย ว่า "เป็นพิธีกรรมเพื่อทำร้ายอมิตร" เป็นศาสตร์ที่ทางวิทยาศาสตร์ไม่อาจจะพิสูจน์ได้ แต่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป และมีคนเชื่อและผู้ปฏิบัติทั่วโลก
ในแต่ละชุมชนจะมีรูปแบบของไสยศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป แต่สรุปแล้วไสยศาสตร์ก็คือการทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น โดยผิดแปลกจากกฎของธรรมชาติ เช่น ทำให้สามีภรรยาที่ดีกันทะเลาะและแยกทางกัน ทำให้สาวหลงรักหนุ่มที่เคยเกลียด ซึ่งปกติแล้วจะใช้ไสยศาสตร์มาใช้ในทางที่ชั่วร้าย โดยเฉพาะการทำ "คุณไสย" ที่เป็นพิธีกรรมเพื่อทำร้ายผู้ไม่เป็นมิตรด้วยการปลุกเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เข้าไปในตัว หรือฝังรูปฝังรอย หรือการทำเสน่ห์ยาแฝด ลงนะ จากผู้ที่อ้างตัวว่ามีอาคม ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกที่ทำมาหากินด้วยการหลอกลวงผู้คน หรือที่เรียกว่า พวกสิบแปดมงกุฎ ถึงกระนั้นก็ตาม“คุณไสย” หรือ “มนต์ดำ” ยังมีผู้หลงงมงายมากมาย
ไสยศาสตร์ถือเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และมีทั่วโลกแม้กระทั่งในเวลาปัจจุบัน แม้รูปแบบจะแตกต่างกัน แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การทำอันตรายต่อผู้คนด้วยวิธีที่ลี้ลับ
ลัทธิไสยศาสตร์ คือการรวมอำนาจจิต รวมพลังงานทางจิตซึ่งได้ทำการอบรมจิตใจให้มีความยึดมั่น เชื่อถือ อย่างจริงจัง ดำเนินไปตามหลักทางไสยศาสตร์ ตามวิธีการนั้น ๆ ก็จะสามารถแสดงฤทธิ์ปาฎิหารย์ได้ด้วยกระแสคลื่นแห่งพลังอำนาจจิตอันแรงกล้า ของ มโนภาพ สมาธิ จิตตานุภาพ ทั้งสามประการนี้ จึงเป็นบ่อเกิดแห่งอำนาจที่ประหลาดมหัศจรรย์ขึ้นได้

ลัทธิไสยศาสตร์ ได้เกิดขึ้นมาก่อนพุทธกาล ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ไตรเพท ในลัทธิของพราหมณ์ ได้แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ
1.             ฤคเวทย์ เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์และสรรเสริญพระเจ้า
2.             ยชุรเวทย์ เป็นคำร้อยแก้วให้สำหรับท่องบ่นเวลาบวงสรวงบูชาพระเจ้า
3.             สามเวทย์ เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์ทำพิธีถวายน้ำโสม
4.             อาถรรพเวทย์ เป็นคัมภีร์ประกอบด้วยเวทยมนต์คาถาเรียกผีสาง เทวดาให้ช่วยป้องกันอันตรายให้ และให้มีการแก้อาถรรพ์ ทำพิธีสาปแช่งให้เป็นอันตรายได้ด้วย

ในทางพระพุทธศาสนาได้เรียกไสยศาสตร์ว่า เดรัจฉานวิชา ซึ่งเป็นคำกล่าวดูถูกของพระพุทธเจ้า เพราะไม่ใช่ทางหลุดพ้นจากความทุกข์ และยังเป็นที่ขวางกั้นทางไปสู่นิพพาน แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้มีความสุขได้แต่ก็ยังไม่พ้นทุกข์อยู่ดี และอีกอย่างยังนำมาซึ่งความหายนะ มีความอันตรายถึงแก่ชีวิตต่อผู้อื่นและตนเองได้

ต่อไปนี้คือ ๕ อันดับสุดยอดไสยศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัว

อันดับที่ 1. ของเขมร
เป็นที่เลื่องลือและขึ้นชื่อมากที่สุด ในความน่ากลัวของคุณไสย ใครที่เคยดูหนังเรื่องลองของหรือหนังที่เกี่ยวกับคนเล่นของ อาจมีบางฉากที่เราคุ้นกันดีอย่างการเสกหนังควายเข้าท้อง เสกต่อแตน เสกควายธนู เสกเส้นผมและใบมีด สารพัดสิ่งที่จะเสก คนเล่นของเขมรนั้นมักจะเอาให้ถึงตาย หรือไม่ก็ทำให้พิการ ใครที่โดนของเขมรจะโชคร้ายหน่อย เพราะใช้เวลาและการรักษาที่ยากพอสมควร สิ่งที่คนเล่นของเขมรสามารถนำไปทำของได้ก็คือสิ่งของตามร่างกายเราอย่างเส้น ผม เล็บมือ เสื้อผ้า ภาพถ่าย วันเดือนปีเกิด และอีกหลายอย่าง ที่สามารถเอาไปทำคุณไสยได้ง่ายๆ ของเขมรที่ได้ยินบ่อยๆคือ พราย น้ำมันพราย กุมารทอง ผี วัว-ควายธนู

อันดับที่ 2. ไสยศาสตร์จากแดนเหนือ
รู้สึกไม่ค่อยคุ้นหู แต่ความน่ากลัวจัดอยู่ในอันดับที่2ทีเดียว เป็นไสยศาสตร์ที่มาจาชาวเขาทางภาคเหนือ ของขลังที่ถูกทำขึ้นจากฝีมือหมอผีของชนเผ่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวกะเหรี่ยง แม้ว อาข่า เย้า หากพูดถึงวิชาที่ขึ้นชื่อ ทุกคนต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอน มันคือ “ยาสั่ง” ที่ถูกแบบผสมมากับอาหารหรือน้ำดื่ม หากใครกินเข้าไปแล้ว ก็บอกลาโลกได้เลย เล่นถึงตายเลยทีเดียว แม้แต่พระหรือคนที่เล่นของที่มีวิชาไม่แก่กล้าพอ ก็ต้องจบชีวิตไปเช่นกัน

อันดับที่ 3. ไสยเวทย์ฝั่งตะวันตก
เป็นศาสตร์จากฝั่งตะวันตกและเอเชีย ตะวันตก ไสยศาสตร์จากกลุ่มนี้จะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างศาสนาและวิทยาศาสตร์ ไม่ดูเป็นความเชื่อแบบสุดโต่งไปซะทีเดียว เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติ ก็มักจะนำเอาวิทยาศาสตร์มาหาทางอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไสยศาสตร์จาก ตะวันตกจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “คำสาป” เป็นคำสาปที่เจ็บปวดเหมือนโดนของแหลมคมทิ่ม จะคุ้นหูคุ้นตายหน่อยถ้าเอ่ยถึงตุ๊กตาวูดู ที่ใช้ประกอบพิธีกรรม เอาเข็มมาจิ้มตามร่างกายของตุ๊กตา คนที่ตกเป็นเหยื่อก็จะรู้สึกเจ็บจี้ดแบบโดนของแหลมทิ่ม อาจฟังดูไม่ค่อยน่ากลัว แต่ก็มีระดับความรุนแรงเหมือนกันนะ

อันดับที่ 4. มุสลิม-อิสลาม
แม้ตามหลักศาสนาของอิสลามจะมีข้อห้ามใน การแตะเรื่องไสยศาสตร์ แต่ก็ยังมีบางกลุ่มพวกที่ไม่เชื่อฟังคำสอนอยู่ดี การทำคุณไสยของอิสลามจะเรียกว่า “ญิน” อาการของผู้ที่ถูกญินสิงร่างจะถูกข่มขวัญและจิตใจ เป็นการข่มขี่ทางจิตวิทยา มองเห็นญิน ภาพหลอน หรือสัตว์ประหลาด ได้ยินเสียง สร้างความปั่นป่วนภายในจิตใจโดยการนำจุดอ่อนหรือข้อเสียของผู้ที่ถูกญินสิง มาพูดกรอกหู ยุแหย่ และนำพาไปสู่การกระทำที่ศาสนาห้าม

อันดับที่ 5. สยามประเทศ
อันดับสุดท้ายคือประเทศไทย คุณไสยของไทยนั้นเป็นวิชาที่อ่อนที่สุดจาก 4 อันดับที่กล่าวมา ที่บอกว่าอ่อนที่สุดเพราะจริงๆแล้ว วิชาอาคมของไทยจะเน้นในเรื่องของการป้องกันตัวและ การรักษามากกว่าการเล่นของทำร้ายคนอื่น อีกทั้งยังไปหยิบยืมวิชาจากประเทศอื่นมาใช้ซะมากกว่า สมัยก่อนนั้นเล่นคุณไสยหรือวิชาอาคมไว้เพื่อการสู้รบ การสักยันต์ป้องกันมีด ดาบ ปืน ยิงไม่เข้าฟันไม่เข้า แต่หากเทียบกับของเขมรแล้วก็ยากที่จะต่อกร เพราะอ่อนวิชากว่าเขาเยอะ จึงต้องใช้เล่ห์เหลี่ยม กลอุบาย ในการสู้รบมากกว่า เหนื่อยหน่อยแต่ชัวร์ขึ้น ในสมัยก่อนนั้นพระสงฆ์เองก็พอมีวิชาอาคมจากฝั่งเขมรอยู่บ้าง มีการนำมาปรับใช้กลายเป็นรอยยันต์ที่สักตามร่างกาย เห็นได้ตามเรือนร่างของคนสมัยก่อนนั่นล่ะ พุทธคุณจะเน้นส่งเสริมการป้องกันจากคุณไสยอื่นๆทั้งปวง


จาก 5 วิชาทางไสยศาสตร์ที่กล่าวมา เรียกได้ว่าขึ้นชื่อเรื่องความขลัง ความน่ากลัวสุดๆแล้ว และใช่ว่าใครก็ได้ที่จะสามารถเรียนวิชาอาคมเหล่านี้ได้ตามต้องการ หากไม่มีครูอาจารย์ที่แก่กล้าดูแล จิตใจไม่เข้มแข็งพอ หรือเรียนรู้ไม่มากพอ ศาสตร์มืด-มนต์ดำ ของชั่วอวิชาต่างๆ มันจะย้อนกลับเข้าสู่ตัวเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่