ด้วยผมคนเชียงใหม่อยากกลับไปเที่ยวบ้านญาติของคุณตาที่ฉะเชิงเทรา ผมเคยมีโอกาสได้ทำบุญในวัดภาคกลางกรุงเทพ แห่งหนึ่งด้วยความที่อยากทำบุญกับพระและชอบเที่ยวสำรวจวัดว่าในวัดมีวัฒนธรรมประเพณีอะไรบ้าง สิ่งที่พบเจอในบริเวณวัดก็คือจะมีพิธีกรรมที่แปลกประหลาด ที่ไม่ใช่พุทธ เช่นมีพิธีนอนในโลงศพและให้พระบังสุกุลเป็นบังสุกุลตาย อ้างว่าช่วยปัดเคราะห์แก้กรรมได้? ................ มีการให้บูชาพระเครื่อง หลวงปู่นั่นหลวงพ่อนี่ อ้างว่าทำมาจากมวลสารนั้นสารเคมีนี่ อ้างว่าศักดิ์สิทธิ์ ฟันไม่เข้าแทงไม่ออก ทำให้ค้าขายรำ่รวยกิจการเจริญก้าวหน้า? ทั้งๆที่เป็นสัญญาซื้อขายพระเครื่องเงินจ่ายได้กรรมสิทธิ์ทันที แต่ก็หลอกเล่นคำให้ดูดีว่าให้บูชา คือแจกให้ฟรีๆโดยไม่หวังผลกำไร หรือให้เช่า คือ ให้ยืมทรัพย์สินไปใช้ตามกำหนดเวลาแล้วนำไปคืน ได้แค่ครอบครองชั่วคราวไม่ได้กรรมสิทธิ์แต่อย่างใด ..............มีจุดวางจำหน่ายเครื่องดอกไม้บูชา แม่ค้าหลายคนก็กวักขยั้นขะยอเรียกให้มาซื้ออยู่นั่นแหละ ผมนี่ตัดสินใจไม่ซื้อเลยยอมไหว้มือเปล่าก็ได้ๆบุญเหมือนกัน.............. มีการกำหนดด้วยว่าถ้าทำบุญน้อยไม่ได้วัตถุมงคลหรือได้บุญน้อย แต่ถ้าทำบุญมากจะได้วัตถุมงคลตามมูลค่าของสิ่งนั่นหรือได้บุญมากมีโอกาสได้ไปสวรรค์นิพพาน.........บางวัดสร้างกุฏิที่หรูปูด้วยหินอ่อนสวยงาม เปิดแอร์ใช้สบายทั้งวัน มีรถยนต์ที่หรูระดับ พรีเมี่ยมคลาสใช้อีกด้วย.................วัดที่ไปนั้นรู้สึกว่ามีแต่อาคารไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ๆที่ให้ความร่มรื่น ไม่มีศาลาหรือซุ้มพักผ่อนให้นั่งเล่น มีแต่ไม้ประดับที่มีการตัดแต่งเรียบร้อยดูไม่เป็นธรรมชาติ.............การออกแบบศิลปะงานก่อสร้างวัดโบสถ์เน้นอลังการงานสร้างไม่ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายแต่เป็นลวดลายที่ดูเคร่งขึมศักดิ์สิทธิ์ร้อนแรงแตะต้องไม่ได้.........วัดที่สอนให้คนใช้ความคิดมีปัญญาไม่งมงายอย่างวัดชลประทานมีน้อยเหลือเกิน...........วัดแข่งขันกันสร้างของที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด ทันสมัยที่สุด หรูที่สุด เอาใจโยมที่สุด แข่งกันชิงรางวัลวัดพัฒนาดีเด่น(พัฒนาแค่วัตถุหรือจิตใจคนกันแน่)จนกลายเป็นการทำการตลาดไปแล้ว...............การปล่อยนกปล่อยปลาเมื่อปล่อยแล้วจะมีคนนำไปเก็บคืนหลังจากคุณทำบุญเสร็จแล้วเป็นวงจรอย่อย่างนี่ ทำบุญเมตตาสัตว์?....................แข่งกันทำพัดยศแข่งกันเลื่อนขั้นชั้นสมณะศักดิ์................มีการนำสังฆทานที่ประชาชนนำไปทำบุญเสร็จแล้วไปเวียนขายให้ร้านสังฆ์ภัณฑ์ขายต่อ..........มีแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น้อยอันได้แก่วิธีการทำเครื่องสักการะเป็นพุทธบูชา การทำดาบ การแต่งชุดพื้นเมือง วรรณกรรม ตำหรับยา ความเชื่อ ประเพณี งานอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม.........................................มีการผูกขาดธุรกิจงานศพบางอย่างเช่น ถ้าใครจัดงานศพวัดนี้จะต้องใช้บริการพระวัดนี้เท่านั้นห้ามนิมนต์พระวัดอื่น บางที่มีการพ่วงคอนเนคชั่นกันด้วยเช่น ต้องใช้หีบศพ จัดแต่งซุ้มดอกไม้ หรืออาหารขนมว่างของเจ้านี้เท่านั้น พระบางรูปกำหนดกัณฑ์เทศน์ขั้นตำ่กี่บาทถ้าใส่มากพระชอบ ถ้าใส่น้อยพระไม่สวด มีการคิดค่าบริการศาลา ค่านำ้ ค่าไฟ ค่าเมรุ ค่าบำรุงมีราคาแพงเกินจริง พุทธพาณิชย์?.....................................................................................ประเพณีการเผาศพในวัดแบบภาคกลาง มักทำในวัดแบบผูกขาดเบ็ดเสร็จ และแน่นอนคงหนีไม่พ้นปัญหามลพิษที่เกิดจากควันในการเผาศพในบางวัดที่เผากับเตาเผาศพแบบเก่าที่ไม่ปลอดมลพิษและเป็นภาพที่ไม่สวยงามของควันพิษที่ออกมาจากปล่องเมรุเผาศพที่คนในชุมชนที่อยู่ใกล้วัดต้องอยู่อย่างไม่มีความสุขและหวาดผวาเสียทั้งสุขภาพกายหรือจิตใจ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเมื่อทางวัดได้ปรับปรุงบูรณะเมรุให้เป็นเตาเผาแบบปลอดมลพิษแล้วทำไมยังคงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อชุมชนที่อยู่ไกล้วัดโดยยังคงเหลือปล่องเมรุสูงๆปลายปล่องแบบดำๆอยู่ กลัวคนที่เดินสัญจรไปมาหรือคนไกล้วัดเขาไม่รู้เหรอว่าเป็นเมรุเผาศพ ไม่ต้องอวดต้องโชว์ก็ได้เจ้าปล่องเมรุหน่ะ แค่ปล่องเมรุสแตนแลส(สูงประมาณไม่เกิน 1 เมตรจากสันหลังคา)มันก็พอแล้วเพราะยังไงเผาศพแบบปลอดมลพิษควันดำก็ไม่มีอยู่แล้วมีแค่ไอร้อนๆเท่านั้นจะกลัวอะไร เพราะมันเป็นการสร้างมลภาวะทางอากาศมีผลเสียต่อปอดของคุณ มลภาวะทางตาเห็นแล้วหดหู่ซึมเศร้า หวาดกลัวทำลายพลังงานในร่างกายของคุณ เป็นสาเหตุทำให้คนไม่อยากมาวัดเพราะสิ่งแวดล้อมในวัดมันไม่ดีและน่ากลัว แม้แต่จะแก้ฮวงจุ้ยยังไงก็ไม่เป็นผลสำเร็จเลย บางทีวัดกับพระต้องปรับตัวกันบ้างบางทีก็อย่าเห็นแก่ศักดิ์ศรีของตัวเองมากจนไม่เห็นตัวชาวบ้าน ..............การจัดงานบุญหรืองานมหรสพหรือเสียงพระสวดที่ใช้เครื่องขยายเสียงจนทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชนใกล้วัด.............องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจัดให้ทำสิ่งสาธารณูปโภคที่เป็นสวัสดิการของประชาชน อย่างเช่นฌาปนสถานของเทศบาลที่ไม่ได้สังกัดของวัดให้จัดตั้งห่างจากวัดห่างจากชุมชน โดยมีเตาเผาศพปลอดมลพิษจำนวนอย่างน้อยสองเตาไว้ในศาลาที่ใช้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลและใช้ฌาปนกิจในหลังเดียวกัน โดยการออกแบบนั้นจะเน้นศิลปะท้องถิ่น แต่สามารถทำให้คนทุกชนชั้น ทุกศาสนา สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ ราคาต้องมาตรฐาน ศพคนจนยากไร้จัดฟรีมีกองทุนให้ จะทำให้ไม่เกิดธุรกิจงานศพที่ผูกขาดและเกื้อกูลสังคม.......................
สุดท้ายก็คงหวังว่ากระทู้นี้จะทำให้ทุกคนตระหนักมีจิตสำนึกและช่วยกันเฝ้าระวังปกป้องพระศาสนาไม่ให้ถูกทำลายมัวหมองไปมากกว่านี้ และทำให้พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจวัดกับชุมชนจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขอย่างแท้จริง
วัด คือที่พึ่งจริงๆ?
สุดท้ายก็คงหวังว่ากระทู้นี้จะทำให้ทุกคนตระหนักมีจิตสำนึกและช่วยกันเฝ้าระวังปกป้องพระศาสนาไม่ให้ถูกทำลายมัวหมองไปมากกว่านี้ และทำให้พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจวัดกับชุมชนจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขอย่างแท้จริง