ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 23 San pedro Sula ฮอนดูรัส อันตรายที่สุดในโลกจริงหรือ
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=nDUFLfKjqRI&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN&index=38
https://www.youtube.com/watch?v=OB0lZD0Je6k&index=39&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
พุธที่ 6 ก.ค. ก่อนเริ่มวันใหม่ ขอเก็บตกเหตุการณ์ก่อนเข้านอนเล็กน้อย เรามีโอกาสได้รู้จักกับเจ้าของหอพักด้วย เขาคือ หนุ่มพนง.ต่อนรับคนเก่ง ตอนที่เรามาถึงนั่นเอง เขาชื่อ Hernan Segurado และMagarita แฟนสาวที่ช่วยงานตอนกลางคืน เขาเป็นคนหนุ่มอนาคตไกลทีเดียว เก่งภาษา มากข้อมูล มีสำนึกในการให้บริการ และมีวุฒิภาวะ
หอพัก Palmira กำลังอยู่ในระหว่างการต่อ ขยาย พนง.ที่ทำงานกับเขา รักเขามาก ดูได้จากการปฏิบัติต่อเขา และความตั้งใจในการทำงาน แม้จะไม่ได้ภาษาอังกฤษ แต่แขกส่วนใหญ่ก็พูดภาษาสเปน
ตอนที่ Hernan กับ Magarita เข้ามาในครัว เรานั่งกินอาหารอยู่ที่โต๊ะ มาการิต้า เข้ามาก่อน เอาของออกจากตู้เย็น มากองบนโต๊ะ พอเออร์นาน เข้ามา ก็เปิดห่อผ้าที่ห่อถุงปิ๊ต้า แผ่นแป้งกลมประกบ เปิดด้านบนไว้สำหรับยัดไส้ มาการิต้า ให้ดูว่า มีไก่ทอดอยู่ในกล่อง ผักดองฝอย ชีส เธอเอาแผ่นปิ๊ต้า ไปอุ่นในไมโครเวฟ ในระหว่างที่รอก็กินผักดอง และเอาอะโวคาโด มาผ่า พออุ่นปิ๊ต้าเสร็จก็เอาสิ่งที่เธอมี ยัดไส้ เอาช้อนควักเนื้ออะโวคาโด ใส่ แล้วก็เริ่มต้นการกิน พอเออร์นนาน เริ่มกิน พนง.ชายที่ทำงานกะกลางคืน ก็ยกเก้าอี้มาให้ 2 ตัว พอเราขอถ่ายรูป เขาก็บอกให้รอ เขาจะให้คนของเขาเป็นคนถ่าย ลุงจะได้เข้ากล้องด้วย...เสียดาย ตอนถ่ายวิดีโอ ลุงไม่ได้ใส่แว่น ทำให้ไม่สมบูรณ์
เขาถามว่า ทำไม ตอนบ่ายพวกเราไม่ไปทัวร์รอบเมืองกับเขา ป้าบอกว่า เราไปกันเองแล้ว และขากลับเราหลง เลยกลับมาไม่ทัน
เขาดูผิดหวัง เพราะเขาเป็นคนพาไปเอง ด้วยรถคันที่จอดอยู่หน้าหอพัก ฯลฯ
เช้านี้ เราออกจากหอพักก่อน 05.30 น. มองไปที่ป้ายหน้าหอพัก มันหายไป พอเราจะถ่ายรูป พนักงานที่เฝ้ากะกลางคืน บอกว่า รอเดี๋ยว เขาไปชักรอกให้ป้ายโผล่ออกมา 😐 อันนี้เป็นข้อสงสัย ว่า ทำไมต้องเก็บป้ายจอนกลางคืน😐
เดินออกไปขึ้นรถเมล์ คนเมืองนี้ตื่นสายมาก นานๆ จะเห็นคนเดินสักคน 2 คน รถเมล์ยังไม่วิ่ง มีแต่แท็กซี่ ขยะมีให้เห็นทุกที่ สภาพอาคารบ้านเรือนเป็นน้องอินเดียพอประมาณ อินเดียตั้งใจเลี่ยงภาษี โดยสร้างบ้านไม่เสร็จ แต่เตกูซิกัลปา เป็นแบบนั้นจริงๆ อาคารชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น ก่ออิฐไม่ฉาบปูน หลังคาตัดไปเฉยๆ ถ้าทาสี ก็ทาเฉพาะด้านที่มองเห็นชัดจากถนน
ทางเท้าแคบ และอาจเหยียบสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ ถ้าเดินไม่ระวัง ลุงบอกว่า คงเป็นของหมา แต่ป้าให้ข้อสังเกตว่า เราไม่เคยเห็นหมาเลย และขนาดคนยังไม่ค่อยจะพอกิน จะมีคนเลี้ยงหมารึ? กลิ่นปัสสาวะโชยอยู่ทั่วไปในอากาศ บนถนนมีรถพ่นไอเสียดำตั้งแต่เช้า เรายังไม่เห็นว่า จะมีการฉกชิง วิ่งราว และทำร้ายผู้คน ที่เดินทางไป มา
เรามุ่งหน้าไปที่ทำเนียบ ที่เราเจอรถที่จะข้ามน้ำไปท่ารถที่จะไปซานเปโดร ซูล่า เมื่อวานนี้ ใช้เวลาเดินไป แวะไป แค่ 15 นาที
เอาแผนที่กับสิ่งที่เราเขียนให้เด็กที่ท่ารถดู เหมือนเอาให้คนขับรถดู เมื่อวานนี้ แล้วเขาบอกว่า ไปกับเขาได้เลย... เด็กเอาไปให้คนขับรถดู...คนขับรถชี้ออกไปที่เซนโตร้...พวกเขาหน้านิ่งมาก ไม่มีรอยยิ้มทั้งคู่ เด็กฯทำท่า ให้เราเดินตาม เขาชี้ให้เราดูถนนที่มาจากเซนโตร้ ผ่านหน้าซุปเปอร์ฯ ที่เราซื้อของเมื่อวาน เราเข้าใจ จึงขอถ่ายรูปด้วย เขายินดี และยิ้มเล็กน้อย🤗🙄😉
เราเดินผ่านที่ที่เมื่อวานนี้ มีนักเรียนหญิงสวมกระโปรงลายสก็อต เกือบ 100% ทาปากด้วยสีแดงสด กับนักเรียนชายสวมกางเกงขายาว ผ้าเหมือนกระโปรงนักเรียนหญิง ค่อยๆ ทยอยออกมาจากประตูลูกกรงเหล็กแคบๆ ออกมายืนออเต็มทางเท้า มีนักเรียนหญิงทาปากสีสด 2 คน ถามขายมะเขือเทศ พริก มะนาว กระเทียม กับหอมหัวใหญ่บรรจุถุง วางบนทางเท้า หลังเลิกเรียน ในเวลา 12.00 น.😊 เราไม่รู้ว่า โรงเรียนเลิกเวลาเท่าไร แต่เราเห็น วัยรุ่นแต่งชุดเหมือนลูกเสือ กับเนตรนารี เดินไป มา ตั้งแต่ก่อนเที่ยงวัน....
ก่อนถึงเซนโตร ด้านหนึ่งเป็นธนาคารที่ป้าเข้าไปแลกเงิน เมื่อวานนี้ ฝั่งตรงข้ามเป็นซุปเปอร์ฯ ตรงมุมก่อนเซนโตร้ แม่ค้ากำลังตั้งโต๊ะขายของ ท่ามกลางขยะและกลิ่นปัสสาวะคละคลุ้ง เราตรงไปที่จนท.ตร. ที่ยืนอยู่ 3 คน ทำเหมือนตอนที่เราบอกเด็กท่ารถ แต่กว่า พวกเขาจะเข้าใจ ป้าก็ต้องทั้งพูดชื่อสถานที่ และทำมือประกอบว่า ต้องข้ามสะพานไป พวกเขาจึงเข้าใจ แล้วเอาแผนที่ที่เราเขียนเดินไปถาม คนขับรถ คนขับรถไม่แสดงอาการรับรู้ใดๆ 😣🙄😉
เราไม่ได้ยินเขาพูด
แต่ตำรวจเดินมา ทำท่าให้เราขึ้นรถ แล้วอธิบาย ยืดยาว ป้ารู้แต่ว่า ก่อนถึง จะเจอห้างใหญ่ แล้วเราก็ต้องเดินต่อ
พอขึ้นรถก็ส่งเงินให้คนขับ 22 ลิมปิรัส เขารับเงินด้วยอาการนิ่งๆ ไม่พูด ไม่ยิ้ม ไม่พยักหน้า😉😄🙄 เรานั่งเบาะข้างหลังเขาเพราะมันว่าง และคิดว่า เขาคงจะบอกให้เราลง เมื่อถึงที่หมาย แล้วก็จริง เขาบอกก่อนถึงที่หมาย ก่อนลงเขาอธิบายประกอบ พร้อมทำมือประกอบ เราต้องข้ามถนน เดินลงเขาไป😃
เขากลัวเราไม่เข้าใจ จึงไม่ออกรถ มองตามจนเราเดินไปตามทางที่เขาบอก ป้าหันไปโบกมือ เขาจึงออกรถไป....เขาทำทุกอย่างภายใต้ความนิ่ง🙄🙄🙄🙄
จากจุดจอดรถ เดินลงเขาประมาณ 300 เมตร ก็ถึงท่ารถ ที่มีประตูรั้วโปร่ง ล็อคกุญแจ เห็นรถจอดอยู่ มีคนคอยเรียกแขกอยู่ตรงทางเข้าห้องรอรถ
ค่าตั๋วคนละ 178 ลิมปิรัส รถออกเวลา 06.30 น. เป็นรถปรับอากาศ ไม่มีห้องน้ำ พาเราข้ามสะพาน อีกสะพานหนึ่ง ที่มองเห็นอีกสะพาน ห่างกันประมาณ 100 เมตร ผ่านเมืองอีกด้านหนึ่ง ที่มีลักษณะไม่ต่างกับด้านที่เราผ่านมา อยู่บนเขา หุบเขา ที่สูง การนั่งรถในอเมริกากลาง ต้องกลืนน้ำลายไล่อาการหูอื้อเป็นระยะ😃😃😃😃นี่ขนาดยังไม่เข้าเขตเปรู ที่หมอบอกว่า ต้องเอายาติดมา ถ้ารู้สึกว่า อึดอัด เวียนหัว ตาลาย ให้รีบกินยา😇😇😇😇
พอออกนอกเมือง มีป่าสน ลุงบอกว่า คล้ายๆ ทางไปแม่ฮ่องสอน แต่ไม่อุดมสมบูรณ์เท่า รถวิ่งอยู่บนที่สูง ผ่านภูเขาที่เป็นป่าเสื่อมสภาพ และภูเขาหินปูน
บ้านเรือนชั้นเดียวเป็นส่วนใหญ่ ใช้สังกะสีมุงหลังคา มีกระเบื้องสลับบ้าง ผลไม้ที่เห็นเป็นกล้วย มะม่วง มะพร้าว.....
เวลา 08.30 น. รถจอดให้กินอาหารเช้าที่ร้านอาหาร ของเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง...เดาเอา😅 เพราะเห็นมีร้านอาหาร และโรงแรมพราว😁😁😁ป้าซื้อโยเกิร์ต กับอะไรปั้นๆ คิดว่า เป็นข้าวตอกคลุกน้ำอ้อย เหมือนที่ชาวบ้านเคยทำ แล้วห่อด้วยใบควง หรือ ใบตองตึง ที่เคยกินตอนเป็นเด็ก...แต่พอเอามากิน มันเป็นข้าวโพดคั่วสีขาว คลุกน้ำอ้อยปั้น
เวลา 08.55 น. ออกเดินทางต่อ ยิ่งเหนือขึ้นไป ความชุ่มชื้นยิ่งเพิ่มขึ้น ลักษณะสวนเหมือนทางใต้ มีร้านขายสับปะรด กล้วย มะพร้าว ข้างถนน ยาวหลายกม. ต้นไม้มีเฟิร์น กับเคราฤาษีเกาะ เห็นมีเงาะอยู่ต้นหนึ่งดกมาก ต้นขี้เหล็ก กับ ฝรั่งขี้นก ก็มี มีทะเลสาบใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยว อยู่ทางซ้ายมือ ไม่รู้ชื่ออะไร แต่มีบ้านเรือน และร้านค้า บังทัศนียภาพ เกือบหมด😥😥😥 ถนนที่รถวิ่งสวนกัน ไม่ค่อยมีรถ วิ่งได้สบายๆ คุณภาพถนนดีทีเดียว
เวลา 10.30 น. ก็ถึง San Pedro Sula ท่ารถใหญ่มาก มีบริษัทรถหลายบริษัท เราต้องซื้อตั๋วไปโคปาน ที่หนึ่ง กับ ไปกัวมา... นิคารากัว อีกที่หนึ่ง ไป-กลับ ซานเปโดร ซูล่า ของบริษัท Hedman Alas, S.A. de C.V. extende pasaje al sr(a) ดูเหมือนว่า ลูกสาว 2 คน จะรับช่วงธุรกิจ สวย รวย เก่ง ทั้งคู่ พนง.สื่อสารภาษาอังกฤษ ไม่ได้เลย แต่สองสาวเก่ง มาคอยกำกับพนักงาน....ค่าตั๋วทั้งหมด $ 80 จ่ายแบงค์ 100 ทอนมาเป็นลิมปิรัส กินค่าส่วนต่างเยอะมาก คิดให้แค่ 20 HNL : $1 ราคาตลาดอยู่ที่ 22.786😣😣😣😣
ตั๋วไปมานากัว ซื้อที่ TICABUS บริษัทที่เรามาจาก El Sanvador พนง.เรียกคนขับแท็กซี่มาเป็นล่าม มีรถออกวันละ 1 เที่ยว เวลา 05.30 น. ต้องไปถึงท่ารถเวลา 04.30 น. แท็กซี่ถามเราว่า จะให้ไปรับไหม มีโรงแรม หรือ ยัง จะเอาราคาเท่าไร เริ่มตั้งแต่คนละ $ 25 ต่อ คืน โรงแรมในเมืองจะถูกกว่าใกล้ท่ารถ ที่มีแต่โรงแรม 5 ดาว ราคา $ 125 ขึ้นไป เหมือนที่ไมอามี่ เลย😣😣😣😣 ป้าถามว่า ทำไมพูดภาษาอังกฤษเก่ง เขาบอกว่า เคยไปอยู่เมกา มา....ค่าตั๋วไปมานากัว คนละ 828 ลิมปิรัส....
กว่าจะซื้อตั๋วเสร็จ ก็หิวพอดี กินอาหารที่ ศูนย์อาหาร 2 ถาด 155 HNL เป็นข้าวผัดเค็มๆ กับผัดผักไม่ใส่โปรตีน อกไก่ในซัลซ่า กับ แกงกุ้งกะทิ ให้ทอร์ทิลล่า มาจานละ 2 แผ่น คิดว่าแถม ดูจากใบเสร็จ แผ่นละ 1 HNL😥😥😥😥
แล้วก็หารถเมล์ไปโรงแรม ได้สายรถเมล์มาจาก สาวสวยบริษัท Hedman ว่าให้เดินเลยศูนย์อาหาร ลงบันได เดินตรงไปจนถึงร้านกาแฟเอสเปรสโซ่ เลี้ยวออกไปเจอท่ารถ ไปรถที่มีป้ายบอกว่า Choloma .... พออกไปถึง มีคนต้อนผู้โดยสาร ราวกับว่า ต่างคนต่างแย่งแขก ทั้งๆ ที่ คิวใครคิวมัน🙄🙄🙄🙄
ป้าเอาชื่อ กับที่อยู่โรงแรมให้คนขับดู La Madrugada Hostel 8 Calle 8 y 9 Avenida N.O. เขารับไปดูแล้วพยักหน้า ค่ารถคนละ 8 HNL เขาปล่อยเราลง ที่ที่เขาคิดว่าใช่...พอลงรถแล้วก็ต้องถาม หลายคน เดินวนไปวนมา เจอแท็กซี่ บอกว่า เป็นย่านที่ขื่อ Migoilette ท่ามกลางแดดตอนเที่ยงวัน ลุงบอกว่า ลุงไม่เดินแล้ว จะเฝ้ากระเป๋า ให้ป้าไปคนเดียว ป้าเดินข้ามถนนไปถามหนุ่มคนหนึ่ง เขากำลังจะออกเดินทาง เขาให้เข้าไปรอในบริษัท แล้วก็ไปเสิร์จจากคอมให้ ลงมา เขียนขื่อย่านให้ บอกว่า ต้องไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ให้นั่งแท็กซี่ไป ลุงไม่ยอมหรอก เขามองเราว่าเราจะทำตามที่แนะนำไหม เราเดินไปข้างหน้า รถเมล์สายเดิมจอดพอดี ป้าเอาชื่อย่านให้เขาดู เขาบอกให้ขึ้นไป ป้าส่งแบงค์ 20 ให้ กระเป๋ารูปหล่อ คิดว่าเราไม่รู้ กะชักดาบเงินทอน จนต้องทวงก่อนลงรถ เขาจึงทอนให้ 4 HNL😉😉😉😉😉 เขาบอกให้เราลงรถ เราเดินผ่านตลาด และต้นไม้ใหญ่ ถามคนที่จอดรถอยู่ เจาบอกให้เรา ตรงไป เลี้ยวขวาข้างหน้า พอเราเดินตรงไปก็เห็นป้าย Hostel อยู่ตรงมุมถนน ไม่เหมือนในรูปที่โพสต์ในเน็ต
(ยังมีต่อ)
ประตูปิด พอกดออด เจ้าของโรงแรมหนุ่ม ชื่อคุณ Josue Santos ก็ออกมารับ จ่ายค่าห้องเป็นดอลล่าร์ $ 35 ทอนเป็นลิมปิรัส แต่รายนี้ให้ $1 = 22 ไม่ขูดเลือด พอรับได้ เราเก็บของเข้าห้อง ก่อนออกไปไปนั่งเรียงเงินลิมปิรัส ตรงเก้าอี้ใต้กรงนกมาคอว์ แล้วก็จะออกประตู คุณ Jusue เดินออกมาเปิดประตูให้....บอกทางไปมหาวิหารกลาง ซึ่งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมือง เป็นเวลาโรงเรียนเลิกพอดี มีคนพลุกพล่านพอสมควร วิหารใหญ่โตสวยงาม สีออกไปทางส้มเหลือง....ตอนเดินไปมันย้อนไปย้อนมา จนกลัวกลับไม่ถูก เห็นสาวคนหนึ่งเดินมา จึงลองถามดู เธอเป็นนักเคมี หรือ เภสัชกร คนเมืองนี้ยิ้มแย้ม บ้านเมืองสะอาดกว่า เตกูซิกัลปา เยอะ กิตติศัพท์เลื่องลือว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่อันตรายที่สุดในโลก เคยมีนักท่องเที่ยวถูกฆ่าตายวันละ 3 คน น่าจะตกไป (หลายปีมาแล้ว) เพราะเราเดินอยู่ก็ไม่เห็นจะมีอะไร มีรปภ.ยืนเฝ้ารถมอเตอร์ไซด์ ขยับออกจากที่ไม่ได้อยู่ 4 คน ที่ตลาดมีทหารถือปืนกลอยู่ 2 นาย กลางถนนมีจราจรโบกรถ ทีละ 2 นายกับ 1 นาง ตัวปุ๊กลุก ตามร้านค้ามีลูกกรงเหล็ก คนซื้อของต้องยืนนอกลูกกรง เหมือนแอนติ๊กั้ว กัวเตมาลา มีคนไร้บ้านนั่งพิงกำแพง อยู่ใกล้ๆ แยกที่ตำรวจโบกรถ บางคนก็เดินสวนกับเรา...เราก็หลบๆ เอา...แต่ตอนกลางคืน เราก็ไม่อยากออกไปพิสูจน์ หรอกนะ ว่า จริง หรือ ไม่ เพราะคนที่เขียนก็เอาสถิติ การฆ่ากันตาย เพราะเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเคยมาเสพยา แล้วถูกฆ่าตายเมื่อหลายปีมาแล้ว มาเขียนขู่กัน จนคนไม่กล้ามาเที่ยว😣😣😣😣😣
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ เมกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26ประเทศ74วัน ตอน23 San pedro Sulaฮอนดูรัส อันตรายหรือ
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=nDUFLfKjqRI&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN&index=38
https://www.youtube.com/watch?v=OB0lZD0Je6k&index=39&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
พุธที่ 6 ก.ค. ก่อนเริ่มวันใหม่ ขอเก็บตกเหตุการณ์ก่อนเข้านอนเล็กน้อย เรามีโอกาสได้รู้จักกับเจ้าของหอพักด้วย เขาคือ หนุ่มพนง.ต่อนรับคนเก่ง ตอนที่เรามาถึงนั่นเอง เขาชื่อ Hernan Segurado และMagarita แฟนสาวที่ช่วยงานตอนกลางคืน เขาเป็นคนหนุ่มอนาคตไกลทีเดียว เก่งภาษา มากข้อมูล มีสำนึกในการให้บริการ และมีวุฒิภาวะ
หอพัก Palmira กำลังอยู่ในระหว่างการต่อ ขยาย พนง.ที่ทำงานกับเขา รักเขามาก ดูได้จากการปฏิบัติต่อเขา และความตั้งใจในการทำงาน แม้จะไม่ได้ภาษาอังกฤษ แต่แขกส่วนใหญ่ก็พูดภาษาสเปน
ตอนที่ Hernan กับ Magarita เข้ามาในครัว เรานั่งกินอาหารอยู่ที่โต๊ะ มาการิต้า เข้ามาก่อน เอาของออกจากตู้เย็น มากองบนโต๊ะ พอเออร์นาน เข้ามา ก็เปิดห่อผ้าที่ห่อถุงปิ๊ต้า แผ่นแป้งกลมประกบ เปิดด้านบนไว้สำหรับยัดไส้ มาการิต้า ให้ดูว่า มีไก่ทอดอยู่ในกล่อง ผักดองฝอย ชีส เธอเอาแผ่นปิ๊ต้า ไปอุ่นในไมโครเวฟ ในระหว่างที่รอก็กินผักดอง และเอาอะโวคาโด มาผ่า พออุ่นปิ๊ต้าเสร็จก็เอาสิ่งที่เธอมี ยัดไส้ เอาช้อนควักเนื้ออะโวคาโด ใส่ แล้วก็เริ่มต้นการกิน พอเออร์นนาน เริ่มกิน พนง.ชายที่ทำงานกะกลางคืน ก็ยกเก้าอี้มาให้ 2 ตัว พอเราขอถ่ายรูป เขาก็บอกให้รอ เขาจะให้คนของเขาเป็นคนถ่าย ลุงจะได้เข้ากล้องด้วย...เสียดาย ตอนถ่ายวิดีโอ ลุงไม่ได้ใส่แว่น ทำให้ไม่สมบูรณ์
เขาถามว่า ทำไม ตอนบ่ายพวกเราไม่ไปทัวร์รอบเมืองกับเขา ป้าบอกว่า เราไปกันเองแล้ว และขากลับเราหลง เลยกลับมาไม่ทัน
เขาดูผิดหวัง เพราะเขาเป็นคนพาไปเอง ด้วยรถคันที่จอดอยู่หน้าหอพัก ฯลฯ
เช้านี้ เราออกจากหอพักก่อน 05.30 น. มองไปที่ป้ายหน้าหอพัก มันหายไป พอเราจะถ่ายรูป พนักงานที่เฝ้ากะกลางคืน บอกว่า รอเดี๋ยว เขาไปชักรอกให้ป้ายโผล่ออกมา 😐 อันนี้เป็นข้อสงสัย ว่า ทำไมต้องเก็บป้ายจอนกลางคืน😐
เดินออกไปขึ้นรถเมล์ คนเมืองนี้ตื่นสายมาก นานๆ จะเห็นคนเดินสักคน 2 คน รถเมล์ยังไม่วิ่ง มีแต่แท็กซี่ ขยะมีให้เห็นทุกที่ สภาพอาคารบ้านเรือนเป็นน้องอินเดียพอประมาณ อินเดียตั้งใจเลี่ยงภาษี โดยสร้างบ้านไม่เสร็จ แต่เตกูซิกัลปา เป็นแบบนั้นจริงๆ อาคารชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น ก่ออิฐไม่ฉาบปูน หลังคาตัดไปเฉยๆ ถ้าทาสี ก็ทาเฉพาะด้านที่มองเห็นชัดจากถนน
ทางเท้าแคบ และอาจเหยียบสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ ถ้าเดินไม่ระวัง ลุงบอกว่า คงเป็นของหมา แต่ป้าให้ข้อสังเกตว่า เราไม่เคยเห็นหมาเลย และขนาดคนยังไม่ค่อยจะพอกิน จะมีคนเลี้ยงหมารึ? กลิ่นปัสสาวะโชยอยู่ทั่วไปในอากาศ บนถนนมีรถพ่นไอเสียดำตั้งแต่เช้า เรายังไม่เห็นว่า จะมีการฉกชิง วิ่งราว และทำร้ายผู้คน ที่เดินทางไป มา
เรามุ่งหน้าไปที่ทำเนียบ ที่เราเจอรถที่จะข้ามน้ำไปท่ารถที่จะไปซานเปโดร ซูล่า เมื่อวานนี้ ใช้เวลาเดินไป แวะไป แค่ 15 นาที
เอาแผนที่กับสิ่งที่เราเขียนให้เด็กที่ท่ารถดู เหมือนเอาให้คนขับรถดู เมื่อวานนี้ แล้วเขาบอกว่า ไปกับเขาได้เลย... เด็กเอาไปให้คนขับรถดู...คนขับรถชี้ออกไปที่เซนโตร้...พวกเขาหน้านิ่งมาก ไม่มีรอยยิ้มทั้งคู่ เด็กฯทำท่า ให้เราเดินตาม เขาชี้ให้เราดูถนนที่มาจากเซนโตร้ ผ่านหน้าซุปเปอร์ฯ ที่เราซื้อของเมื่อวาน เราเข้าใจ จึงขอถ่ายรูปด้วย เขายินดี และยิ้มเล็กน้อย🤗🙄😉
เราเดินผ่านที่ที่เมื่อวานนี้ มีนักเรียนหญิงสวมกระโปรงลายสก็อต เกือบ 100% ทาปากด้วยสีแดงสด กับนักเรียนชายสวมกางเกงขายาว ผ้าเหมือนกระโปรงนักเรียนหญิง ค่อยๆ ทยอยออกมาจากประตูลูกกรงเหล็กแคบๆ ออกมายืนออเต็มทางเท้า มีนักเรียนหญิงทาปากสีสด 2 คน ถามขายมะเขือเทศ พริก มะนาว กระเทียม กับหอมหัวใหญ่บรรจุถุง วางบนทางเท้า หลังเลิกเรียน ในเวลา 12.00 น.😊 เราไม่รู้ว่า โรงเรียนเลิกเวลาเท่าไร แต่เราเห็น วัยรุ่นแต่งชุดเหมือนลูกเสือ กับเนตรนารี เดินไป มา ตั้งแต่ก่อนเที่ยงวัน....
ก่อนถึงเซนโตร ด้านหนึ่งเป็นธนาคารที่ป้าเข้าไปแลกเงิน เมื่อวานนี้ ฝั่งตรงข้ามเป็นซุปเปอร์ฯ ตรงมุมก่อนเซนโตร้ แม่ค้ากำลังตั้งโต๊ะขายของ ท่ามกลางขยะและกลิ่นปัสสาวะคละคลุ้ง เราตรงไปที่จนท.ตร. ที่ยืนอยู่ 3 คน ทำเหมือนตอนที่เราบอกเด็กท่ารถ แต่กว่า พวกเขาจะเข้าใจ ป้าก็ต้องทั้งพูดชื่อสถานที่ และทำมือประกอบว่า ต้องข้ามสะพานไป พวกเขาจึงเข้าใจ แล้วเอาแผนที่ที่เราเขียนเดินไปถาม คนขับรถ คนขับรถไม่แสดงอาการรับรู้ใดๆ 😣🙄😉
เราไม่ได้ยินเขาพูด
แต่ตำรวจเดินมา ทำท่าให้เราขึ้นรถ แล้วอธิบาย ยืดยาว ป้ารู้แต่ว่า ก่อนถึง จะเจอห้างใหญ่ แล้วเราก็ต้องเดินต่อ
พอขึ้นรถก็ส่งเงินให้คนขับ 22 ลิมปิรัส เขารับเงินด้วยอาการนิ่งๆ ไม่พูด ไม่ยิ้ม ไม่พยักหน้า😉😄🙄 เรานั่งเบาะข้างหลังเขาเพราะมันว่าง และคิดว่า เขาคงจะบอกให้เราลง เมื่อถึงที่หมาย แล้วก็จริง เขาบอกก่อนถึงที่หมาย ก่อนลงเขาอธิบายประกอบ พร้อมทำมือประกอบ เราต้องข้ามถนน เดินลงเขาไป😃
เขากลัวเราไม่เข้าใจ จึงไม่ออกรถ มองตามจนเราเดินไปตามทางที่เขาบอก ป้าหันไปโบกมือ เขาจึงออกรถไป....เขาทำทุกอย่างภายใต้ความนิ่ง🙄🙄🙄🙄
จากจุดจอดรถ เดินลงเขาประมาณ 300 เมตร ก็ถึงท่ารถ ที่มีประตูรั้วโปร่ง ล็อคกุญแจ เห็นรถจอดอยู่ มีคนคอยเรียกแขกอยู่ตรงทางเข้าห้องรอรถ
ค่าตั๋วคนละ 178 ลิมปิรัส รถออกเวลา 06.30 น. เป็นรถปรับอากาศ ไม่มีห้องน้ำ พาเราข้ามสะพาน อีกสะพานหนึ่ง ที่มองเห็นอีกสะพาน ห่างกันประมาณ 100 เมตร ผ่านเมืองอีกด้านหนึ่ง ที่มีลักษณะไม่ต่างกับด้านที่เราผ่านมา อยู่บนเขา หุบเขา ที่สูง การนั่งรถในอเมริกากลาง ต้องกลืนน้ำลายไล่อาการหูอื้อเป็นระยะ😃😃😃😃นี่ขนาดยังไม่เข้าเขตเปรู ที่หมอบอกว่า ต้องเอายาติดมา ถ้ารู้สึกว่า อึดอัด เวียนหัว ตาลาย ให้รีบกินยา😇😇😇😇
พอออกนอกเมือง มีป่าสน ลุงบอกว่า คล้ายๆ ทางไปแม่ฮ่องสอน แต่ไม่อุดมสมบูรณ์เท่า รถวิ่งอยู่บนที่สูง ผ่านภูเขาที่เป็นป่าเสื่อมสภาพ และภูเขาหินปูน
บ้านเรือนชั้นเดียวเป็นส่วนใหญ่ ใช้สังกะสีมุงหลังคา มีกระเบื้องสลับบ้าง ผลไม้ที่เห็นเป็นกล้วย มะม่วง มะพร้าว.....
เวลา 08.30 น. รถจอดให้กินอาหารเช้าที่ร้านอาหาร ของเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง...เดาเอา😅 เพราะเห็นมีร้านอาหาร และโรงแรมพราว😁😁😁ป้าซื้อโยเกิร์ต กับอะไรปั้นๆ คิดว่า เป็นข้าวตอกคลุกน้ำอ้อย เหมือนที่ชาวบ้านเคยทำ แล้วห่อด้วยใบควง หรือ ใบตองตึง ที่เคยกินตอนเป็นเด็ก...แต่พอเอามากิน มันเป็นข้าวโพดคั่วสีขาว คลุกน้ำอ้อยปั้น
เวลา 08.55 น. ออกเดินทางต่อ ยิ่งเหนือขึ้นไป ความชุ่มชื้นยิ่งเพิ่มขึ้น ลักษณะสวนเหมือนทางใต้ มีร้านขายสับปะรด กล้วย มะพร้าว ข้างถนน ยาวหลายกม. ต้นไม้มีเฟิร์น กับเคราฤาษีเกาะ เห็นมีเงาะอยู่ต้นหนึ่งดกมาก ต้นขี้เหล็ก กับ ฝรั่งขี้นก ก็มี มีทะเลสาบใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยว อยู่ทางซ้ายมือ ไม่รู้ชื่ออะไร แต่มีบ้านเรือน และร้านค้า บังทัศนียภาพ เกือบหมด😥😥😥 ถนนที่รถวิ่งสวนกัน ไม่ค่อยมีรถ วิ่งได้สบายๆ คุณภาพถนนดีทีเดียว
เวลา 10.30 น. ก็ถึง San Pedro Sula ท่ารถใหญ่มาก มีบริษัทรถหลายบริษัท เราต้องซื้อตั๋วไปโคปาน ที่หนึ่ง กับ ไปกัวมา... นิคารากัว อีกที่หนึ่ง ไป-กลับ ซานเปโดร ซูล่า ของบริษัท Hedman Alas, S.A. de C.V. extende pasaje al sr(a) ดูเหมือนว่า ลูกสาว 2 คน จะรับช่วงธุรกิจ สวย รวย เก่ง ทั้งคู่ พนง.สื่อสารภาษาอังกฤษ ไม่ได้เลย แต่สองสาวเก่ง มาคอยกำกับพนักงาน....ค่าตั๋วทั้งหมด $ 80 จ่ายแบงค์ 100 ทอนมาเป็นลิมปิรัส กินค่าส่วนต่างเยอะมาก คิดให้แค่ 20 HNL : $1 ราคาตลาดอยู่ที่ 22.786😣😣😣😣
ตั๋วไปมานากัว ซื้อที่ TICABUS บริษัทที่เรามาจาก El Sanvador พนง.เรียกคนขับแท็กซี่มาเป็นล่าม มีรถออกวันละ 1 เที่ยว เวลา 05.30 น. ต้องไปถึงท่ารถเวลา 04.30 น. แท็กซี่ถามเราว่า จะให้ไปรับไหม มีโรงแรม หรือ ยัง จะเอาราคาเท่าไร เริ่มตั้งแต่คนละ $ 25 ต่อ คืน โรงแรมในเมืองจะถูกกว่าใกล้ท่ารถ ที่มีแต่โรงแรม 5 ดาว ราคา $ 125 ขึ้นไป เหมือนที่ไมอามี่ เลย😣😣😣😣 ป้าถามว่า ทำไมพูดภาษาอังกฤษเก่ง เขาบอกว่า เคยไปอยู่เมกา มา....ค่าตั๋วไปมานากัว คนละ 828 ลิมปิรัส....
กว่าจะซื้อตั๋วเสร็จ ก็หิวพอดี กินอาหารที่ ศูนย์อาหาร 2 ถาด 155 HNL เป็นข้าวผัดเค็มๆ กับผัดผักไม่ใส่โปรตีน อกไก่ในซัลซ่า กับ แกงกุ้งกะทิ ให้ทอร์ทิลล่า มาจานละ 2 แผ่น คิดว่าแถม ดูจากใบเสร็จ แผ่นละ 1 HNL😥😥😥😥
แล้วก็หารถเมล์ไปโรงแรม ได้สายรถเมล์มาจาก สาวสวยบริษัท Hedman ว่าให้เดินเลยศูนย์อาหาร ลงบันได เดินตรงไปจนถึงร้านกาแฟเอสเปรสโซ่ เลี้ยวออกไปเจอท่ารถ ไปรถที่มีป้ายบอกว่า Choloma .... พออกไปถึง มีคนต้อนผู้โดยสาร ราวกับว่า ต่างคนต่างแย่งแขก ทั้งๆ ที่ คิวใครคิวมัน🙄🙄🙄🙄
ป้าเอาชื่อ กับที่อยู่โรงแรมให้คนขับดู La Madrugada Hostel 8 Calle 8 y 9 Avenida N.O. เขารับไปดูแล้วพยักหน้า ค่ารถคนละ 8 HNL เขาปล่อยเราลง ที่ที่เขาคิดว่าใช่...พอลงรถแล้วก็ต้องถาม หลายคน เดินวนไปวนมา เจอแท็กซี่ บอกว่า เป็นย่านที่ขื่อ Migoilette ท่ามกลางแดดตอนเที่ยงวัน ลุงบอกว่า ลุงไม่เดินแล้ว จะเฝ้ากระเป๋า ให้ป้าไปคนเดียว ป้าเดินข้ามถนนไปถามหนุ่มคนหนึ่ง เขากำลังจะออกเดินทาง เขาให้เข้าไปรอในบริษัท แล้วก็ไปเสิร์จจากคอมให้ ลงมา เขียนขื่อย่านให้ บอกว่า ต้องไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ให้นั่งแท็กซี่ไป ลุงไม่ยอมหรอก เขามองเราว่าเราจะทำตามที่แนะนำไหม เราเดินไปข้างหน้า รถเมล์สายเดิมจอดพอดี ป้าเอาชื่อย่านให้เขาดู เขาบอกให้ขึ้นไป ป้าส่งแบงค์ 20 ให้ กระเป๋ารูปหล่อ คิดว่าเราไม่รู้ กะชักดาบเงินทอน จนต้องทวงก่อนลงรถ เขาจึงทอนให้ 4 HNL😉😉😉😉😉 เขาบอกให้เราลงรถ เราเดินผ่านตลาด และต้นไม้ใหญ่ ถามคนที่จอดรถอยู่ เจาบอกให้เรา ตรงไป เลี้ยวขวาข้างหน้า พอเราเดินตรงไปก็เห็นป้าย Hostel อยู่ตรงมุมถนน ไม่เหมือนในรูปที่โพสต์ในเน็ต
(ยังมีต่อ)
ประตูปิด พอกดออด เจ้าของโรงแรมหนุ่ม ชื่อคุณ Josue Santos ก็ออกมารับ จ่ายค่าห้องเป็นดอลล่าร์ $ 35 ทอนเป็นลิมปิรัส แต่รายนี้ให้ $1 = 22 ไม่ขูดเลือด พอรับได้ เราเก็บของเข้าห้อง ก่อนออกไปไปนั่งเรียงเงินลิมปิรัส ตรงเก้าอี้ใต้กรงนกมาคอว์ แล้วก็จะออกประตู คุณ Jusue เดินออกมาเปิดประตูให้....บอกทางไปมหาวิหารกลาง ซึ่งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมือง เป็นเวลาโรงเรียนเลิกพอดี มีคนพลุกพล่านพอสมควร วิหารใหญ่โตสวยงาม สีออกไปทางส้มเหลือง....ตอนเดินไปมันย้อนไปย้อนมา จนกลัวกลับไม่ถูก เห็นสาวคนหนึ่งเดินมา จึงลองถามดู เธอเป็นนักเคมี หรือ เภสัชกร คนเมืองนี้ยิ้มแย้ม บ้านเมืองสะอาดกว่า เตกูซิกัลปา เยอะ กิตติศัพท์เลื่องลือว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่อันตรายที่สุดในโลก เคยมีนักท่องเที่ยวถูกฆ่าตายวันละ 3 คน น่าจะตกไป (หลายปีมาแล้ว) เพราะเราเดินอยู่ก็ไม่เห็นจะมีอะไร มีรปภ.ยืนเฝ้ารถมอเตอร์ไซด์ ขยับออกจากที่ไม่ได้อยู่ 4 คน ที่ตลาดมีทหารถือปืนกลอยู่ 2 นาย กลางถนนมีจราจรโบกรถ ทีละ 2 นายกับ 1 นาง ตัวปุ๊กลุก ตามร้านค้ามีลูกกรงเหล็ก คนซื้อของต้องยืนนอกลูกกรง เหมือนแอนติ๊กั้ว กัวเตมาลา มีคนไร้บ้านนั่งพิงกำแพง อยู่ใกล้ๆ แยกที่ตำรวจโบกรถ บางคนก็เดินสวนกับเรา...เราก็หลบๆ เอา...แต่ตอนกลางคืน เราก็ไม่อยากออกไปพิสูจน์ หรอกนะ ว่า จริง หรือ ไม่ เพราะคนที่เขียนก็เอาสถิติ การฆ่ากันตาย เพราะเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเคยมาเสพยา แล้วถูกฆ่าตายเมื่อหลายปีมาแล้ว มาเขียนขู่กัน จนคนไม่กล้ามาเที่ยว😣😣😣😣😣
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น