ปัญหาหนักอก หนักใจมาก ของคนที่เพิ่งตัดสินใจผ่าฟันคุด ตัวการที่แสนเจ็บปวด ก็คือไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี หรือจะกินอะไรได้บ้างนอกจากโจ๊กและข้าวต้ม?
ูตอนนี้อาจจะมีหลายคนที่กำลังอยู่ในภาวะกลืนไม่ได้ คลายไม่ออก เหมือนกันอยู่ วันนี้เลยจะมารีวิวอาหารคนป่วยครั้งแรกในชีวิตค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ได้บ้าง
ปล. ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะคะ แต่ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์ละกันเนอะ มาผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันเถอะค่ะ!
Day 1 :
วันที่เพิ่งผ่าฟันคุดครั้งแรก ด้วยการบอกหมอให้ผ่าออกแบบทันทีเพราะปวดเกินจะทนไหวแล้ว TT (แต่ผิดพลาดมาก เพราะดันไม่ได้ทานข้าวกลางวันไปก่อน) **ดังนั้น...แนะนำให้ทุกคนหาอะไรทานก่อนผ่าฟันคุดนะคะ**
อาการ : หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ อาการแย่มากค่ะ ปวดสุดๆ แนะนำให้ทานยาแก้ปวดที่หมอให้มาดักไปก่อน
หลังจากที่กัดผ้าก็อต ผ่านไป 3 ชั่วโมง ก็หิวจนทนไม่ไหวแล้วค่ะ ตัดสินใจซื้อ "ต้มเลือดหมู" ติดมือกลับบ้านมา สรุปคือซดได้แต่น้ำค่ะ กินเลือดได้นิดหน่อย จากการบดด้วยฟันหน้า แล้วกลืนไปแบบทุลักทุเล และไม่อิ่มด้วย
ไม่ผ่าน!
จากนั้นลงไปซุปเปอร์มาร์เกตซื้อ มองหาทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าตัวเองพอจะกินได้ เลยได้สิ่งเหล่านี้มาค่ะ...
นมโฟร์โมสต์ รสช็อคโกแลต
ขนมปังแซนวิส (ไม่กินขอบ เพราะแข็งเกินไป)
มื้อดึกต่อด้วย ไข่ตุ๋น ที่น้องซื้อมาฝากจากเซเว่นฯ ค่ะ *อันนี้แนะนำนะคะ กินได้ง่ายมาก เพราะแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย แถมรสชาติดีอีกด้วย ผ่านฉลุยค่ะ!
-----------------------------------------------------------
Day 2 :
อาการ : ตื่นเช้ามา ยังมีอาการปวดอยู่ ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้านหรือไปทำงาน แนะนำให้บ้วนปากอย่างระมัดระวัง และอย่าพยายามให้ยาสีฟันโดนแผลนะคะ
อาหารเช้ามื้อแรก คือ "ก๋วยจั๊บ" (ใส่เส้น หมูสับ เลือด และไข่) ได้มาจาก Top Supermarket ในตึกที่ทำงานค่ะ กินช้ามากเพราะปากอ้ากว้างไม่ได้ แต่รู้สึกว่ากินได้เยอะกว่าวันแรกค่ะ
อาหารมื้อกลางวัน "ราดหน้าหมูนุ่ม" โชคดีที่หมูร้านนี้นุ่มมาก เลยทานได้ไม่ลำบากมากนัก แต่เส้นแข็งไปหน่อย สรุปคือกินแต่หมู กับซดแต่น้ำค่ะ เส้นกินไม่หมด
มาถึงมื้อเย็นเดินวน Food court อยู่พักใหญ่ เลยตัดสินใจซื้อ "กระเพาะปลา" (ไม่ใส่หน่อไม้) มาค่ะ
เกินคาด! เพราะซัดไปหมดชามเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะหิวด้วยแหล่ะ แต่กระเพาะปลาก็ไม่เลวนะคะ เคี้ยวไม่ลำบาก แถมรสชาติก็ดีด้วย
**เทคนิคซื้ออาหาร ถ้าเป็นอาหารตามสั่ง บอกแม่ค้าไปเลยค่ะว่าเพิ่งผ่าฟันคุดมา ต้มอะไรก็ได้ให้เปื่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
เอ๊ะๆ แล้วอย่าลืม
** ต้องบ้วนปากและทานยา (ที่หมอให้มา) ทุกครั้งหลังทานอาหารด้วยน้า**
ไว้จะมารีวิวต่อจนกว่าแผลจะหายดีนะคะ
[CR] ผ่าฟันคุด...กินอะไรดี {ไม่ให้น่าเบื่อ} ? รีวิวอาหารสุดป่วย ของคนเพิ่งผ่าฟันคุด
ูตอนนี้อาจจะมีหลายคนที่กำลังอยู่ในภาวะกลืนไม่ได้ คลายไม่ออก เหมือนกันอยู่ วันนี้เลยจะมารีวิวอาหารคนป่วยครั้งแรกในชีวิตค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ได้บ้าง
ปล. ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะคะ แต่ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์ละกันเนอะ มาผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันเถอะค่ะ!
Day 1 :
วันที่เพิ่งผ่าฟันคุดครั้งแรก ด้วยการบอกหมอให้ผ่าออกแบบทันทีเพราะปวดเกินจะทนไหวแล้ว TT (แต่ผิดพลาดมาก เพราะดันไม่ได้ทานข้าวกลางวันไปก่อน) **ดังนั้น...แนะนำให้ทุกคนหาอะไรทานก่อนผ่าฟันคุดนะคะ**
อาการ : หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ อาการแย่มากค่ะ ปวดสุดๆ แนะนำให้ทานยาแก้ปวดที่หมอให้มาดักไปก่อน
หลังจากที่กัดผ้าก็อต ผ่านไป 3 ชั่วโมง ก็หิวจนทนไม่ไหวแล้วค่ะ ตัดสินใจซื้อ "ต้มเลือดหมู" ติดมือกลับบ้านมา สรุปคือซดได้แต่น้ำค่ะ กินเลือดได้นิดหน่อย จากการบดด้วยฟันหน้า แล้วกลืนไปแบบทุลักทุเล และไม่อิ่มด้วย ไม่ผ่าน!
จากนั้นลงไปซุปเปอร์มาร์เกตซื้อ มองหาทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าตัวเองพอจะกินได้ เลยได้สิ่งเหล่านี้มาค่ะ...
มื้อดึกต่อด้วย ไข่ตุ๋น ที่น้องซื้อมาฝากจากเซเว่นฯ ค่ะ *อันนี้แนะนำนะคะ กินได้ง่ายมาก เพราะแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย แถมรสชาติดีอีกด้วย ผ่านฉลุยค่ะ!
-----------------------------------------------------------
Day 2 :
อาการ : ตื่นเช้ามา ยังมีอาการปวดอยู่ ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้านหรือไปทำงาน แนะนำให้บ้วนปากอย่างระมัดระวัง และอย่าพยายามให้ยาสีฟันโดนแผลนะคะ
อาหารเช้ามื้อแรก คือ "ก๋วยจั๊บ" (ใส่เส้น หมูสับ เลือด และไข่) ได้มาจาก Top Supermarket ในตึกที่ทำงานค่ะ กินช้ามากเพราะปากอ้ากว้างไม่ได้ แต่รู้สึกว่ากินได้เยอะกว่าวันแรกค่ะ
อาหารมื้อกลางวัน "ราดหน้าหมูนุ่ม" โชคดีที่หมูร้านนี้นุ่มมาก เลยทานได้ไม่ลำบากมากนัก แต่เส้นแข็งไปหน่อย สรุปคือกินแต่หมู กับซดแต่น้ำค่ะ เส้นกินไม่หมด
เกินคาด! เพราะซัดไปหมดชามเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะหิวด้วยแหล่ะ แต่กระเพาะปลาก็ไม่เลวนะคะ เคี้ยวไม่ลำบาก แถมรสชาติก็ดีด้วย
**เทคนิคซื้ออาหาร ถ้าเป็นอาหารตามสั่ง บอกแม่ค้าไปเลยค่ะว่าเพิ่งผ่าฟันคุดมา ต้มอะไรก็ได้ให้เปื่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
เอ๊ะๆ แล้วอย่าลืม ** ต้องบ้วนปากและทานยา (ที่หมอให้มา) ทุกครั้งหลังทานอาหารด้วยน้า**
ไว้จะมารีวิวต่อจนกว่าแผลจะหายดีนะคะ