สวัสดีค่ะ สำหรับ EnglishTalk รอบนี้เรามาดูการ์ตูนเรื่องอลิซกันค่ะ ^^
เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งการ์ตูนในดวงใจของใครหลายๆคน เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ที่แสนจะพิลึกพิลั่น
จนอดคิดไม่ได้ว่าผู้แต่งสามารถจินตนาการลึกล้ำขนาดนี้ได้ยังไงกัน?? ว่าแล้วก็ขอเอาประวัติผู้แต่งมาฝากเล็กน้อยแล้วกันค่ะ....
ผู้แต่งเรื่องอลิซมีนามปากกาว่า "ลูอิส แครอลล์" ชื่อจริงๆของเขาคือ "ชาร์ลส์ ลุตวิดจ์ ดอดจ์สัน" เป็นชาวอังกฤษ เขาเป็นครูในโบสถ์ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สอนวิชาคณิตศาสตร์ แต่ก็ยังเป็นนักตรรกวิทยา ช่างภาพชื่อดัง เป็นนักเขียนจดหมายและนักจดบันทึกประจำวันค่ะ เขามีชีวิตวัยเด็กอยู่ในฟาร์ม ดังนั้นสภาพแวดล้อมในวัยเยาว์ของเขานี่เองค่ะ ที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นบรรดาตัวละครและบรรยากาศในเรื่องอลิซ เรื่องราวอลิซนี้เกิดขึ้นมาจากการที่เขาและเพื่อนได้ล่องเรือไปตามแม่น้ำ หนึ่งในเพื่อนๆนั้นคือ อลิซ ลิดเดลล์ ที่มาของตัวละครอลิซค่ะ และขณะล่องเรือนี้เอง ลูอิสก็ได้เล่านิทานที่เขาคิดขึ้นสดๆให้เพื่อนเขาฟังหลายเรื่อง แต่มีเพียงเรื่องนี้ที่เพื่อนอ้อนวอนให้เขาเขียนออกมาเป็นของขวัญให้กับเธอ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยของอลิซค่ะ อลิซได้รับการตีพิมพ์ในค.ศ.1865 โดยได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งนิตยสารและหนังสือพิมพ์จำนวนมาก ถือเป็นต้นแบบของงานเขียนแนวทดลองสำหรับนักเขียนในศตวรรษที่ 20 และยังถือเป็นหนังสือประเภทเหนือจริงเล่มหนึ่งที่นำมาเป็นกรณีศึกษาในทฤษฎีของฟรอยด์อีกด้วยค่ะ
Cr.>>macmillandictionary.com,thefreedictionary.com,dictionary.cambridge.org,หนังสือ Alice in wonderland สำนักพิมพ์ Freeform
( สามาติดตามเนื้อหาอื่นๆได้ในเพจ www.facebook.com/moviemouthy ค่ะ ^^ )
"Nothing but" มีความหมายเท่ากับคำว่า "Only"
แปลว่า "เท่านั้น" ค่ะ ถ้าแปลตามตัวก็จะทำนองว่า "ไม่มี/ไม่เป็นอะไรเลยนอกจาก...."
ในซีนนี้ อลิซกำลังบ่นว่าไม่เห็นจะสนใจหนังสือที่มีแต่ตัวหนังสือเลย ถ้าในโลกของเธอ หนังสือจะไม่มีอะไรเลย นอกจากรูปภาพเท่านั้น!
ตัวอย่างอื่น เช่น
They’ve shown us nothing but kindness.
=พวกเขามีแต่แสดงความมีเมตตาต่อเรา
You’re nothing but a thief.
=เธอเป็นเพียงแต่โจรเท่านั้น
"See" ในที่นี้มีความหมายว่า "เข้าใจ" ค่ะ
ในซีนนี้ อลิซกำลังคุยกับแมวของเธอถึงโลกที่เธอจินตนาการขึ้นว่า โลกนั้นอะไรที่ไม่ควรเป็นก็จะเป็น แล้วถามแมวว่า เข้าใจมั้ย??
ตัวอย่างอื่น เช่น
I see why you’re angry.
=ฉันเข้าใจว่าทำไมคุณถึงโกรธ
"Awfully" มีความหมายว่า "มากๆ" ใช้ในการเน้นย้ำสิ่งที่กำลังพูดค่ะ
ในซีนนี้ อลิซกำลังตื่นเต้นที่ได้เจอกระต่ายสวมเสื้อกั๊ก แถมพกนาฬิกาด้วย เมื่อเห็นกระต่ายดูรีบร้อนมาก อลิซก็คุยกับแมวว่า คงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ค่ะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
It’s awfully good of you to find the time to see us.
=มันคงเป็นดีมากๆหากคุณจะหาเวลามาเจอเราได้
"After all" มีความหมายว่า "ยังไงก็ตาม" ค่ะ
ในซีนนี้ อลิซได้ตามกระต่ายมาจนถึงทางเข้าที่เป็นอุโมงค์เล็กๆ และก็พูดคุยกับแมวอีกว่า เราไม่ควรเข้าไปเลยนะ เพราะถึงยังไงเราก็ไม่ได้รับเชิญสักหน่อย แต่....เจ้าหล่อนก็ยังคลานเข้ามาอยู่ดี !
ตัวอย่างอื่น เช่น
I’m not really ambitious. After all, money isn’t everything.
=ฉันไม่ใช่คนที่ทะเยอทะยาน ยังไงซะเงินก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว
"I beg your pardon" มีความหมายว่า "ขอโทษ" โดยจะเป็นคำที่ดูทางการกว่าคำว่า "Sorry" และอาจจะใช้กับความผิดพลาดที่เล็กๆน้อยๆ เช่น การเผลอไปเหยียบเท้าใครเข้า เป็นต้นค่ะ
ในซีนนี้ อลิซตามกระต่ายมาจนถึงห้องโถงหนึ่ง ที่มีเพียงประตูบานเล็กๆ พอเผลอไปบิดลูกบิดประตูซะเต็มแรง จนลูกบิดร้องโอ๊ยยย อลิซเลยรีบบอกขอโทษค่ะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
Oh, I beg your pardon, I didn’t realize this was your chair.
=โอ้ ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้ว่านี่เป็นเก้าอี้ของคุณ
"No use" มีความหมายว่าว่า "ไม่ได้ผล,ไม่มีประโยชน์" ค่ะ
ในซีนนี้หลังจากที่ อลิซดื่มยาพิลึกๆขวดหนึ่ง ทำให้เธอตัวเล็กจิ๋ว อลิซก็ดีใจว่าตัวเองเล็กพอที่จะเดินผ่านประตูบานนี้ได้แล้ว แต่ประตูกลับบอกว่า ไม่ได้ผลหรอก เพราะฉันถูกล็อคอยู่!
ตัวอย่างอื่น เช่น
It’s no use. We’ll never get there on time.
=ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ เราคงไปไม่ทันเวลา
It’s no use asking me. I don’t know.
=ไม่มีประโยชน์ที่จะมาถามฉันหรอก เพราะฉันไม่รู้
"Never ever" มีความหมายว่า "ไม่เลยจริงๆ,ไม่อย่าง
เด็ดขาด" จะมีความหมายจริงจังกว่าคำว่า "Never" เฉยๆค่ะ
"A thing" ใช้แทนคำว่า "Anything,Everything" ได้ค่ะ มีความหมายว่า "ทุกสิ่งทุกอย่าง,สิ่งต่างๆ" ค่ะ
ในซีนนี้ หลังจากอลิซร้องไห้จนน้ำตาท่วมห้อง อลิซก็สามารถผ่านประตูมากับสายน้ำได้ และได้เจอนกโดโด้กำลังร้องเพลงว่าอากาศทำอะไรเขาไม่ได้เลยจริงๆๆๆ
ตัวอย่างอื่น เช่น
I will never ever leave him.
=ฉันจะไม่ทิ้งเขาไปอย่างเด็ดขาด
Don't worry about a thing (anything). I'll take care of it.
=ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ฉันจะจัดการให้เอง
"Would you mind" มีความหมายว่า "คุณจะว่าอะไรมั้ย,คุณช่วย..."เป็นการขอความช่วยเหลืออย่างสุภาพค่ะ
ในซีนนี้ อลิซพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากบรรดาสัตว์ทั้งหลายที่ผ่านมาค่ะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
Would you mind closing that window?
=คุณช่วยปิดหน้าต่างบานนั้นหน่อยได้มั้ย?
Would you mind if I brought a friend to the party?
=คุณจะว่าอะไรมั้ย หากฉันพาเพื่อนสักคนมางานปาร์ตี้?
"In no time" มีความหมายว่า "เร็วนี้ๆ,ทันที" ค่ะ
ในซีนนี้ นกโดโด้พยายามให้อลิซร่วมวิ่งในขบวนที่เขาเชื่อว่าเป็นวิธีที่จะทำให้ตัวแห้งเร็ว ทั้งๆที่เห็นอลิซในสภาพดังรูป โดโด้ก็ยังจะบอกอีกว่า ดีแล้ว เดี๋ยวจะแห้งในไม่ช้านี้แหละ! .....โดโด้!!
ตัวอย่างอื่น เช่น
We’ll have that fixed in no time.
=เราจะทำการซ่อมทันที
"Really?" มีความหมายว่า "งั้นเหรอ,จริงเหรอ"
ในซีนนี้ อลิซได้ไปเจอกับคู่แฝดกวนประสาท "ทวีเดิลดี&ทวีเดิลดัม" พออลิซบอกลาเพราะรีบจะตามกระต่ายให้ทัน แฝดทั้งสองจึงจับเต้นสอนมารยาทให้อลิซ อลิซก็มีฉุนค่ะ เลยประชดว่า งั้นเหรอ?
ตัวอย่างอื่น เช่น
‘I’ve decided to move back to York.’ ‘Really? But why?’
=ฉันตัดสินใจจะย้ายกลับมานิวยอร์ค / จริงเหรอ?ทำไมล่ะ?
"Close at hand" แปลตามตัวได้ว่า "ใกล้มากระยะเอื้อมมือถึง" ก็จะมีความหมายทำนองว่า "ใกล้ตัว" ค่ะ
ในซีนนี้ คู่แฝดกำลังเล่านิทานเรื่องเจ้าวอลรัสกับช่างไม้ให้
อลิซฟังค่ะ แล้วก็เล่าว่าทั้งสองได้เดินคู่กันมา ใกล้กันมาก
ตัวอย่างอื่นเช่น
I always keep my calculator close at hand.
=ฉันมักจะเก็บเครื่องคิดเลขไว้ใกล้ตัวเสมอ
Help is always at hand if you need it.
=ความช่วยเหลืออยู่ใกล้ตัวเราเสมอถ้าเราต้องการมัน
"Pass up" มีความหมายว่า "พลาดโอกาส" ค่ะ
ในซีนนี้ อลิซได้ตามไปจนถึงบ้านกระต่าย แต่แล้วก็เผลอไปกินคุ้กกี้ประหลาดเข้า ทำให้ตัวอลิซเริ่มใหญ่ขึ้นๆ จนทะลุบ้านออกมา กระต่ายและนกโดโด้จึงเรียกจิ้งจกให้มาช่วย แล้วพูดจาหลอกล่อว่า นายกำลังพลาดโอกาสทองเชียวนะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
I can’t believe you passed up the chance to do a parachute jump.
=ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเธอพลาดโอกาสที่จะกระโดดร่มชูชีพ
"Carry on" มีความหมายว่า "ทำต่อไป,ดำเนินต่อไป" ค่ะ
ในซีนนี้ โดโด้มีไอเดียจะเผาบ้านกระต่ายทิ้งซะเลย แต่หารู้ไม่ว่า
อลิซได้กินแครอทจนกลับมาตัวเล็กแล้ว แถมวิ่งตามกระต่ายออกไปแล้วด้วย โดโด้ยังคงพยายามจะจุดไฟต่อไป แล้วบ่นว่า ไม่มีใครช่วยเลย งั้นเขาจะลุยเองต่อไปคนเดียว
ตัวอย่างอื่น เช่น
He moved to London to carry on his work.
=เขาย้ายไปลอนดอนเพื่อนสานงานเขาต่อ
"Come to think of it" แปลตามตัวได้เลยค่ะว่า "มาคิดดูแล้ว"
ในซีนนี้ อลิซได้มาเจอกับเหล่าดอกไม้ระหว่างทาง พอดอกไม้พยายามถามว่าอลิซเป็นดอกอะไรมาจากไหน จู่ๆดอกไม้สีม่วงดอกนี้ก็ทักว่า มาคิดดูแล้ว เคยเห็นดอกอลิซรึเปล่า?
ตัวอย่างอื่น เช่น
I love getting her letters. Come to think of it, I haven’t had one for a while.
=ฉันรักที่จะได้รับจดหมายจากเธอ มาคิดดูแล้ว ฉันไม่ได้รับสักฉบับมาสักพักแล้วนะ
"To put it bluntly" มีความหมายว่า "พูดตามตรงนะ" เป็นการบอกว่าจะพูดตามตรงโดยที่ไม่สนว่าจะไปทำร้ายความรู้สึกกันรึเปล่าค่ะ
ในซีนนี้ เจ้าดอกสีม่วงดูถูกอลิซว่า ไม่ได้เป็นดอกไม้ แต่เป็นแค่วัชพืชค่ะ
ตัวอย่างอื่นเช่น
‘They just don’t like you,’ he told me bluntly.
="พวกเขาแค่ไม่ชอบเธอ" เขาบอกกับฉันมาตรงๆเลย
"By the way" มีความหมายว่า "อีกอย่างหนึ่ง,ยังไงก็ตาม" ใช้พูดเวลาที่เรากำลังพูดอีกเรื่องหนึ่งอยู่ จู่ๆก็จะพูดอีกเรื่องเสริมเข้ามาค่ะ
ในซีนนี้ อลิซทำให้หนอนผีเสื้อโกรธด้วยเรื่องความสูง จนหนอนผีเสื้อต้องอัดบารากุแล้วตัวก็ระเบิดกลายเป็นผีเสื้อค่ะ แต่ก็ยังอุตส่าห์ตะโกนบอกว่า ไงก็เถอะ จะบอกเคล็ดลับให้
ตัวอย่างอื่น เช่น
By the way, Jeff called this afternoon and he wants you to call him back
=อีกอย่างนะ เจฟโทรมาเมื่อบ่ายนี้และเขาต้องการให้คุณโทรกลับหาเขาด้วย (แสดงว่าก่อนหน้านี้คุยธุระกันอีกเรื่องหนึ่งอยู่ แล้วเสริมเรื่องนี้เข้ามาตอนท้ายค่ะ)
"What a small world" แปลตามตัวเลยค่ะว่า "โลกช่างเล็กซะจริง" วิธีใช้ก็เหมือนกับที่คนไทยใช้เลยค่ะ คือใช้เวลาที่คนมีอะไร
เหมือนๆกันอย่างน่าบังเอิญค่ะ ตรงกับสำนวนไทยว่า "โลกแคบจัง,โลกกลมจัง" ค่ะ
ในซีนนี้ อลิซได้ไปเจอ Mad Hatter กับ March Hare ทั้งคู่กำลังเฉลิมฉลองเนื่องในวันที่"ไม่ใช่วันเกิด" ค่ะ พออลิซบอกว่า วันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของเธอเหมือนกัน Mad Hatter ก็ทัก แหม โลกช่างเล็กซะจริง มาบังเอิญไม่ใช่วันเกิดเหมือนกันเลยนะ (แหงสิ!)
MovieMouthy:พูดคุยภาษาอังกฤษจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง "Alice in Wonderland" (มีสปอยล์นะจ๊ะ)
เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งการ์ตูนในดวงใจของใครหลายๆคน เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ที่แสนจะพิลึกพิลั่น
จนอดคิดไม่ได้ว่าผู้แต่งสามารถจินตนาการลึกล้ำขนาดนี้ได้ยังไงกัน?? ว่าแล้วก็ขอเอาประวัติผู้แต่งมาฝากเล็กน้อยแล้วกันค่ะ....
ผู้แต่งเรื่องอลิซมีนามปากกาว่า "ลูอิส แครอลล์" ชื่อจริงๆของเขาคือ "ชาร์ลส์ ลุตวิดจ์ ดอดจ์สัน" เป็นชาวอังกฤษ เขาเป็นครูในโบสถ์ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สอนวิชาคณิตศาสตร์ แต่ก็ยังเป็นนักตรรกวิทยา ช่างภาพชื่อดัง เป็นนักเขียนจดหมายและนักจดบันทึกประจำวันค่ะ เขามีชีวิตวัยเด็กอยู่ในฟาร์ม ดังนั้นสภาพแวดล้อมในวัยเยาว์ของเขานี่เองค่ะ ที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นบรรดาตัวละครและบรรยากาศในเรื่องอลิซ เรื่องราวอลิซนี้เกิดขึ้นมาจากการที่เขาและเพื่อนได้ล่องเรือไปตามแม่น้ำ หนึ่งในเพื่อนๆนั้นคือ อลิซ ลิดเดลล์ ที่มาของตัวละครอลิซค่ะ และขณะล่องเรือนี้เอง ลูอิสก็ได้เล่านิทานที่เขาคิดขึ้นสดๆให้เพื่อนเขาฟังหลายเรื่อง แต่มีเพียงเรื่องนี้ที่เพื่อนอ้อนวอนให้เขาเขียนออกมาเป็นของขวัญให้กับเธอ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยของอลิซค่ะ อลิซได้รับการตีพิมพ์ในค.ศ.1865 โดยได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งนิตยสารและหนังสือพิมพ์จำนวนมาก ถือเป็นต้นแบบของงานเขียนแนวทดลองสำหรับนักเขียนในศตวรรษที่ 20 และยังถือเป็นหนังสือประเภทเหนือจริงเล่มหนึ่งที่นำมาเป็นกรณีศึกษาในทฤษฎีของฟรอยด์อีกด้วยค่ะ
Cr.>>macmillandictionary.com,thefreedictionary.com,dictionary.cambridge.org,หนังสือ Alice in wonderland สำนักพิมพ์ Freeform
แปลว่า "เท่านั้น" ค่ะ ถ้าแปลตามตัวก็จะทำนองว่า "ไม่มี/ไม่เป็นอะไรเลยนอกจาก...."
ในซีนนี้ อลิซกำลังบ่นว่าไม่เห็นจะสนใจหนังสือที่มีแต่ตัวหนังสือเลย ถ้าในโลกของเธอ หนังสือจะไม่มีอะไรเลย นอกจากรูปภาพเท่านั้น!
ตัวอย่างอื่น เช่น
They’ve shown us nothing but kindness.
=พวกเขามีแต่แสดงความมีเมตตาต่อเรา
You’re nothing but a thief.
=เธอเป็นเพียงแต่โจรเท่านั้น
ในซีนนี้ อลิซกำลังคุยกับแมวของเธอถึงโลกที่เธอจินตนาการขึ้นว่า โลกนั้นอะไรที่ไม่ควรเป็นก็จะเป็น แล้วถามแมวว่า เข้าใจมั้ย??
ตัวอย่างอื่น เช่น
I see why you’re angry.
=ฉันเข้าใจว่าทำไมคุณถึงโกรธ
ในซีนนี้ อลิซกำลังตื่นเต้นที่ได้เจอกระต่ายสวมเสื้อกั๊ก แถมพกนาฬิกาด้วย เมื่อเห็นกระต่ายดูรีบร้อนมาก อลิซก็คุยกับแมวว่า คงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ค่ะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
It’s awfully good of you to find the time to see us.
=มันคงเป็นดีมากๆหากคุณจะหาเวลามาเจอเราได้
ในซีนนี้ อลิซได้ตามกระต่ายมาจนถึงทางเข้าที่เป็นอุโมงค์เล็กๆ และก็พูดคุยกับแมวอีกว่า เราไม่ควรเข้าไปเลยนะ เพราะถึงยังไงเราก็ไม่ได้รับเชิญสักหน่อย แต่....เจ้าหล่อนก็ยังคลานเข้ามาอยู่ดี !
ตัวอย่างอื่น เช่น
I’m not really ambitious. After all, money isn’t everything.
=ฉันไม่ใช่คนที่ทะเยอทะยาน ยังไงซะเงินก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว
ในซีนนี้ อลิซตามกระต่ายมาจนถึงห้องโถงหนึ่ง ที่มีเพียงประตูบานเล็กๆ พอเผลอไปบิดลูกบิดประตูซะเต็มแรง จนลูกบิดร้องโอ๊ยยย อลิซเลยรีบบอกขอโทษค่ะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
Oh, I beg your pardon, I didn’t realize this was your chair.
=โอ้ ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้ว่านี่เป็นเก้าอี้ของคุณ
ในซีนนี้หลังจากที่ อลิซดื่มยาพิลึกๆขวดหนึ่ง ทำให้เธอตัวเล็กจิ๋ว อลิซก็ดีใจว่าตัวเองเล็กพอที่จะเดินผ่านประตูบานนี้ได้แล้ว แต่ประตูกลับบอกว่า ไม่ได้ผลหรอก เพราะฉันถูกล็อคอยู่!
ตัวอย่างอื่น เช่น
It’s no use. We’ll never get there on time.
=ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ เราคงไปไม่ทันเวลา
It’s no use asking me. I don’t know.
=ไม่มีประโยชน์ที่จะมาถามฉันหรอก เพราะฉันไม่รู้
เด็ดขาด" จะมีความหมายจริงจังกว่าคำว่า "Never" เฉยๆค่ะ
"A thing" ใช้แทนคำว่า "Anything,Everything" ได้ค่ะ มีความหมายว่า "ทุกสิ่งทุกอย่าง,สิ่งต่างๆ" ค่ะ
ในซีนนี้ หลังจากอลิซร้องไห้จนน้ำตาท่วมห้อง อลิซก็สามารถผ่านประตูมากับสายน้ำได้ และได้เจอนกโดโด้กำลังร้องเพลงว่าอากาศทำอะไรเขาไม่ได้เลยจริงๆๆๆ
ตัวอย่างอื่น เช่น
I will never ever leave him.
=ฉันจะไม่ทิ้งเขาไปอย่างเด็ดขาด
Don't worry about a thing (anything). I'll take care of it.
=ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ฉันจะจัดการให้เอง
ในซีนนี้ อลิซพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากบรรดาสัตว์ทั้งหลายที่ผ่านมาค่ะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
Would you mind closing that window?
=คุณช่วยปิดหน้าต่างบานนั้นหน่อยได้มั้ย?
Would you mind if I brought a friend to the party?
=คุณจะว่าอะไรมั้ย หากฉันพาเพื่อนสักคนมางานปาร์ตี้?
ในซีนนี้ นกโดโด้พยายามให้อลิซร่วมวิ่งในขบวนที่เขาเชื่อว่าเป็นวิธีที่จะทำให้ตัวแห้งเร็ว ทั้งๆที่เห็นอลิซในสภาพดังรูป โดโด้ก็ยังจะบอกอีกว่า ดีแล้ว เดี๋ยวจะแห้งในไม่ช้านี้แหละ! .....โดโด้!!
ตัวอย่างอื่น เช่น
We’ll have that fixed in no time.
=เราจะทำการซ่อมทันที
ในซีนนี้ อลิซได้ไปเจอกับคู่แฝดกวนประสาท "ทวีเดิลดี&ทวีเดิลดัม" พออลิซบอกลาเพราะรีบจะตามกระต่ายให้ทัน แฝดทั้งสองจึงจับเต้นสอนมารยาทให้อลิซ อลิซก็มีฉุนค่ะ เลยประชดว่า งั้นเหรอ?
ตัวอย่างอื่น เช่น
‘I’ve decided to move back to York.’ ‘Really? But why?’
=ฉันตัดสินใจจะย้ายกลับมานิวยอร์ค / จริงเหรอ?ทำไมล่ะ?
ในซีนนี้ คู่แฝดกำลังเล่านิทานเรื่องเจ้าวอลรัสกับช่างไม้ให้
อลิซฟังค่ะ แล้วก็เล่าว่าทั้งสองได้เดินคู่กันมา ใกล้กันมาก
ตัวอย่างอื่นเช่น
I always keep my calculator close at hand.
=ฉันมักจะเก็บเครื่องคิดเลขไว้ใกล้ตัวเสมอ
Help is always at hand if you need it.
=ความช่วยเหลืออยู่ใกล้ตัวเราเสมอถ้าเราต้องการมัน
ในซีนนี้ อลิซได้ตามไปจนถึงบ้านกระต่าย แต่แล้วก็เผลอไปกินคุ้กกี้ประหลาดเข้า ทำให้ตัวอลิซเริ่มใหญ่ขึ้นๆ จนทะลุบ้านออกมา กระต่ายและนกโดโด้จึงเรียกจิ้งจกให้มาช่วย แล้วพูดจาหลอกล่อว่า นายกำลังพลาดโอกาสทองเชียวนะ
ตัวอย่างอื่น เช่น
I can’t believe you passed up the chance to do a parachute jump.
=ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเธอพลาดโอกาสที่จะกระโดดร่มชูชีพ
ในซีนนี้ โดโด้มีไอเดียจะเผาบ้านกระต่ายทิ้งซะเลย แต่หารู้ไม่ว่า
อลิซได้กินแครอทจนกลับมาตัวเล็กแล้ว แถมวิ่งตามกระต่ายออกไปแล้วด้วย โดโด้ยังคงพยายามจะจุดไฟต่อไป แล้วบ่นว่า ไม่มีใครช่วยเลย งั้นเขาจะลุยเองต่อไปคนเดียว
ตัวอย่างอื่น เช่น
He moved to London to carry on his work.
=เขาย้ายไปลอนดอนเพื่อนสานงานเขาต่อ
ในซีนนี้ อลิซได้มาเจอกับเหล่าดอกไม้ระหว่างทาง พอดอกไม้พยายามถามว่าอลิซเป็นดอกอะไรมาจากไหน จู่ๆดอกไม้สีม่วงดอกนี้ก็ทักว่า มาคิดดูแล้ว เคยเห็นดอกอลิซรึเปล่า?
ตัวอย่างอื่น เช่น
I love getting her letters. Come to think of it, I haven’t had one for a while.
=ฉันรักที่จะได้รับจดหมายจากเธอ มาคิดดูแล้ว ฉันไม่ได้รับสักฉบับมาสักพักแล้วนะ
ในซีนนี้ เจ้าดอกสีม่วงดูถูกอลิซว่า ไม่ได้เป็นดอกไม้ แต่เป็นแค่วัชพืชค่ะ
ตัวอย่างอื่นเช่น
‘They just don’t like you,’ he told me bluntly.
="พวกเขาแค่ไม่ชอบเธอ" เขาบอกกับฉันมาตรงๆเลย
ในซีนนี้ อลิซทำให้หนอนผีเสื้อโกรธด้วยเรื่องความสูง จนหนอนผีเสื้อต้องอัดบารากุแล้วตัวก็ระเบิดกลายเป็นผีเสื้อค่ะ แต่ก็ยังอุตส่าห์ตะโกนบอกว่า ไงก็เถอะ จะบอกเคล็ดลับให้
ตัวอย่างอื่น เช่น
By the way, Jeff called this afternoon and he wants you to call him back
=อีกอย่างนะ เจฟโทรมาเมื่อบ่ายนี้และเขาต้องการให้คุณโทรกลับหาเขาด้วย (แสดงว่าก่อนหน้านี้คุยธุระกันอีกเรื่องหนึ่งอยู่ แล้วเสริมเรื่องนี้เข้ามาตอนท้ายค่ะ)
เหมือนๆกันอย่างน่าบังเอิญค่ะ ตรงกับสำนวนไทยว่า "โลกแคบจัง,โลกกลมจัง" ค่ะ
ในซีนนี้ อลิซได้ไปเจอ Mad Hatter กับ March Hare ทั้งคู่กำลังเฉลิมฉลองเนื่องในวันที่"ไม่ใช่วันเกิด" ค่ะ พออลิซบอกว่า วันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของเธอเหมือนกัน Mad Hatter ก็ทัก แหม โลกช่างเล็กซะจริง มาบังเอิญไม่ใช่วันเกิดเหมือนกันเลยนะ (แหงสิ!)