(กระทู้แก้ตัว) 64 ปีบนเส้นทางสายโอลิมปิกของทัพนักกีฬาไทย

แก้ตัวจากเมื่อเช้าที่ไฟดับครับ ตอนนี้ไฟมาแล้วเลยมารวบรวมต่อ ในช่วงที่ไฟดับนี้ ถ้าใครมาตั้งกระทู้อะไรทำนนี้แล้ว ขออภัยด้วยครับ

กีฬาโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล ได้ปิดฉากลงไปแล้ว โดยทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง อยู่อันดับที่ 35 ร่วมกับเบลเยียม ซึ่งการแข่งขันนั้นมีทั้งความสมหวังและผิดหวัง ตามธรรมชาติของกีฬาที่มีแพ้และชนะ

ในวันนี้เราจะมาย้อนรอย ดูเส้นทางของทัพนักกีฬาไทย 64 ปี ในกีฬาโอลิมปิกกัน

กีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ หรือกีฬาแห่งมวลมนุษยชาตินั้น เริ่มทำการแข่งขันครั้งแรกในปี 1896 แต่ประเทศไทยนั้นได้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันเป็นครั้งแรก ในปี 1952 ที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์




โดยในครั้งนั้น ไทยส่งนักกรีฑาเข้าร่วมทั้งหมด 11 คน
จากนั้นไทยก็ได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมาตลอด แม้จะไม่สามารถคว้าเหรียญใดมาได้
โดยไทยใช้เวลาถึง 24 ปีในการคว้าเหรียญรางวัลแรกในกีฬาโอลิมปิก

โอลิมปิก 1976


ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 1976 ที่มอนทรีอัล ประเทศแคนาดานั้น ไทยได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญแรกได้สำเร็จ โดยได้เหรียญทองแดงจาก พเยาว์ พูนธรัตน์ จากกีฬามวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลท์ฟลายเวท (น้ำหนักไม่เกิน 48 กิโลกรัม)
ทำให้ไทยเป็นชาติที่ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เหรียญโอลิมปิก ต่อจากฟิลิปปินส์ที่ได้ครั้งแรกในปี 1928 จากว่ายน้ำ และสิงคโปร์ที่ได้ครั้งแรกในปี 1960 จากยกน้ำหนัก




โดยรอบแรก ชนะเรมุส กอสมา จากโรมาเนียเมื่อ 19 กรกฎาคม รอบสอง ชนะ โอเลกซันด์ คาเชนโก จากสหภาพโซเวียต เมื่อ 23 กรกฎาคม รอบ 8 คนสุดท้าย ชนะ เกิร์ด แกโด จากฮังการี เมื่อ 27 กรกฎาคม รอบรองชนะเลิศ แพ้ รี พยองอุก จากเกาหลีเหนือในรอบตัดเชือก ได้เหรียญทองแดง โดยในขณะนั้นเขามีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น

จากนั้นเขาได้เบนเข็มมาชกมวยสากลอาชีพอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนมารับราชการตำรวจ และเล่นการเมืองในภายหลัง
ปัจจุบันพเยาว์ พูนธรัตน์ ได้ถึงแก่กรรมแล้วตั้งแต่ปี 2549 สิริอายุ 49 ปี (15 ตุลาคม 2499 - 13 สิงหาคม 2549) หลังจากต่อสู้กับโรคเส้นเลือดในสมองตีบและกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาเป็นเวลานาน

กีฬาโอลิมปิก 1980


กีฬาโอลิมปิกปี 1980 ที่มอสโก สหภาพโซเวียต เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของโอลิมปิกฤดูร้อนจนปัจจุบัน ที่ไทยไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน เนื่องจากได้เข้าร่วมกับสหรัฐอเมริกาในการบอยคอตโอลิมปิกครั้งนี้ เพื่อเป็นการประท้วงที่สหภาพโซเวียตทำการรุกรานอัฟกานิสถานในปี 1979

กีฬาโอลิมปิก 1984


กีฬาโอลิมปิก 1984 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญเงินแรกในกีฬาโอลิมปิก จากมวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท (น้ำหนักไม่เกิน 63.5 กิโลกรัม) จากทวี อัมพรมหา หรือฉายาในวงการมวยไทยคือ "ขาวผ่อง สิทธิชูชัย"




เส้นทางของเขาในโอลิมปิกครั้งนี้
ชนะ Jaslal Pradhan (อินเดีย) 5-0
ชนะ Charles Owiso (เคนยา) 3-2
ชนะ Dave Griffiths (สหราชอาณาจักร) 4-1
ชนะ Jorge Maysonet (เปอร์โตริโก) 5-0
ชนะ Mircea Fulger (โรมาเนีย) 5-0
รอบชิงชนะเลิศ แพ้ Jerry Page (สหรัฐอเมริกา) 0-5

วิดิโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เรื่องราวของเขาถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อ "ขาวผ่องเจ้าสังเวียน"  โดยเขาแสดงเป็นตัวเอง




ปัจจุบัน ทวี อัมพรมหา ทำงานอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด บริษัทโอสถสภา จำกัด เป็นผู้บริหารทีมฟุตบอลของบริษัทด้วย คือ ทีมโอสถสภา อีกทั้งยังเป็นผู้บรรยายร่วมในรายการ ศึกจ้าวมวยไทย รายการถ่ายสอดการชกมวยไทยทางช่อง 3 และร่วมแสดงในฐานะนักแสดงประกอบหรือรับเชิญในภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์เรื่องต่าง ๆ ด้วย




อย่างไรก็ดี โอลิมปิกในอีกสองครั้งต่อมา ไทยยังไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ได้ โดยได้เพียงหนึ่งเหรียญทองแดงจากมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิกทั้งสองครั้ง

โอลิมปิก 1988


โอลิมปิก 1988 ที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ ไทยได้ 1 เหรียญทองแดงจากผจญ มูลสัน กีฬามวยสากลสมัครเล่น รุ่นแบนตัมเวท (น้ำหนักไม่เกิน 54 กิโลกรัม)
เส้นทางของเขาในกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้
ได้บายในรอบแรก
ชนะ Marcus Priaulx (ออสเตรเลีย) 5-0
ชนะ Abraham Torres (เวเนซูเอลา) 3-2
ชนะ Nyama Altankhuyag (มองโกเลีย) 5-0
รอบรองชนะเลิศ แพ้ Kennedy McKinney (สหรัฐอเมริกา) RSC 1




ปัจจุบันมีธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง



โอลิมปิก 1992


โอลิมปิก 1992 ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ไทยได้ 1 เหรียญทองแดง จากอาคม เฉ่งไล่ มวยสากลสมัครเล่น รุ่นเวลเตอร์เวท
(น้ำหนักไม่เกิน 67 กิโลกรัม)




เส้นทางของเขาในกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้
ชนะ Yusef Khateri (อิหร่าน) 13-7
ชนะ Nicodemus Odore (เคนยา) 13-10
ชนะ Vitalijus Karpaciauskas (ลิทัวเนีย) 9-6
รอบรองชนะเลิศ แพ้ Michael Carruth (ไอร์แลนด์) 4-11
ปัจจุบันมีธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง

โอลิมปิก 1996


หลังจากใช้เวลาถึง 20 ปีหลังจากคว้าเหรียญแรก ในที่สุดไทยก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองแรกได้สำเร็จ จากสมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของวลี "ไม่ได้โม้" จากมวยสากลสมัครเล่น รุ่นเฟเธอร์เวท (น้ำหนักไม่เกิน 57 กิโลกรัม) ทำให้ไทยเป็นชาติที่ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ต่อจากอินโดนีเซียที่ได้เหรียญทองในปี 1992 จากแบดมินตัน เป็นนักกีฬาชายที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก คือ 23 ปี (เกิด 16 มกราคม 2516)




วิดิโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เส้นทางของเขาในโอลิมปิกครั้งนี้
ชนะ Luis Seda (เปอร์โตริโก) 13-2
ชนะ Phillip Ndou (แอฟริกาใต้) 12-7
ชนะ Ramaz Paliani (รัสเซีย) 13-4
รอบรองชนะเลิศ ชนะ Julio Pablo Chacón (อาร์เจนตินา) 20-8
รอบชิงชนะเลิศ ชนะ Serafim Todorov (บัลแกเรีย) 8-5

ปัจจุบันสมรักษ์ คำสิงห์ได้ทำงานในวงการบันเทิง มีละครเรื่องแรกคือ นายขนมต้ม ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในปี 2539
ซึ่งเรื่องนี้มีนักมวยที่มีชื่อเสียงหลายคนร่วมแสดงด้วย



นอกจากนี้ ในโอลิมปิกครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรก ที่ไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกได้มากกว่า 1 เหรียญ อีกเหรียญหนึ่งคือมวยสากลสมัครเล่น รุ่นแบนตั้มเวท (น้ำหนักไม่เกิน 54 กิโลกรัม) จากวิชัย ราชานนท์

เส้นทางของเขาในโอลิมปิกครั้งนี้
ชนะ Claude Lambert (แคนาดา) 12-2
ชนะ Carlos Barreto (เวเนซูเอลา) 14-6
ชนะ Hicham Nafil (โมร็อคโค) 13-4
รอบรองชนะเลิศ แพ้ to István Kovács (ฮังการี) 7-12




ปัจจุบันวิชัย ราชานนท์รับราชการทหารอากาศ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่