ระบบอุปถัมภ์ คือ "ตัวถ่วง"การปฏิรูปราชการไทย ลำดับต้น ที่เปลี่ยนเป็นรากแก้วไปแล้ว
ยังคงทำงานในลักษณะลูบหน้าปะจมูก หวั่นเกรงกับการกระทบกับพรรคพวกเดียวกัน หรือกลุ่มผล
ประโยชน์ต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายและหายนะที่เกิดกับประเทศชาติแล้ว
ชนิดที่ไม่สามารถจะประเมินค่าความเสียหายได้ทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม
หากจะลำดับภาพของระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการแล้ว ก็คงจะต้องเริ่มต้นที่การสอบคัดเลือกบรรจุ
เป็นข้าราชการผู้ที่สามารถสอบบรรจุในข้าราชการส่วนใหญ่มักจะมีการวิ่งเต้นโดยได้รับความช่วยเหลือ
จากผู้มีอำนาจและผู้มีบารมี ส่วนผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับอาชีพข้าราชการ มีความรู้ ความสามารถ กลับไม่
สามารถสอบผ่านบรรจุเป็นข้าราชการได้ เมื่อระบบราชการได้รับบุคลากรที่ไม่มีคุณสมบัติที่ดีของข้าราชการ
และยังอ่อนด้อยทั้งในด้านความรู้ ความสามารถ คุณภาพและประสิทธิภาพของงานที่ปฏิบัติอยู่ก็ไม่ต้องพูดถึงกัน
ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ ก็ยังมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นลำดับ
ยิ่งรู้จักเข้าหาผู้บังคับบัญชาเก่ง รู้จักประจบสอพลอถึงจะไม่มีผลงานก็มีความเจริญก้าวหน้ารวดเร็วกว่า ข้าราชการ
ที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีความรับผิดชอบด้วยจิตสำนึกในการทำงาน
ให้เกิดผลดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น ข้าราชการที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ประพฤติปฏิบัติในทางมิชอบ เพื่อตอบสนอง
ต่อผู้บังคับบัญชาที่เติบโตจากระบบอุปถัมภ์ และนักการเมืองที่ให้การอุปถัมภ์อุ้มชูกันมา ถึงจะกระทำ
ผิดวินัยหรือผิดกฎหมาย และกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ก็ได้รับการปกป้องให้พ้นผิด และมีความ
เจริญก้าวหน้าขึ้นมาให้เป็นผู้บริหารปกครองข้าราชการที่ดี ส่งผลให้ระบบราชการเกิดความเสียหาย
เป็นอย่างมาก เพราะข้าราชการที่ดีมีความรู้ความสามารถ ไม่มีโอกาสทำงาน ตามศักยภาพที่มีอยู่
และขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ทำให้พลังในการขับเคลื่อนของกลไกในระบบราชการเป็น
ไปอย่างอ่อนล้าและสิ้นหวัง เรื่องราวที่กล่าวถึงนี้จะถือเป็นเรื่องปกติวิสัยของระบบราชการที่ยากจะ
เปลี่ยนแปลงและแก้ไข
กำจัด"ตัวถ่วง"การปฏิรูปราชการไทยคือสิ่งที่อยากขอรัฐบาลให้เร่งทำเป็นวาระแห่งชาติ
มิเช่นนั้น "ระบบอุปถัมภ์" ก็จะเป็น"ตัวถ่วง"ความเจริญของปรเทศไทย ค่อยกัดกิน
เงินภาษีประชาชนที่แลกมาจากหยาดเหงื่อและน้ำตา แต่กับมาโดน"ตัวถ่วง" ตักตวง
หาผลประโยชน์อย่างไร้ยางอายที่สุด หากรัฐบาลไม่มีความจริงใจและขาดความกล้าหาญ
ในการปฏิรูปราชการอย่างแท้จริง ก็ไม่สามารถแก้ไขกระบวนการราชการทั้งระบบได้
โดยเฉพาะการขจัดระบบอุปถัมภ์
..............................................///////////////////////////////.......................................
..... ขนมหวานเปียกปูน อร่อย ๆ ยังมีให้ชิม อีกหลายชิ้นครับ ต้องค่อย ๆ ทาน เดี๋ยวเบา
หวานจะขึ้น โรคอ้วนจะถามหา เสียก่อน .....
............ ด้วยความปรารถนาดี ........
::>กระทู้ขนมหวานเปียกปูน ชิ้นที่ 14 ตอน สร้างพลังช่วยกันกำจัด"ตัวถ่วง"การปฏิรูประบบราชการไทย
ยังคงทำงานในลักษณะลูบหน้าปะจมูก หวั่นเกรงกับการกระทบกับพรรคพวกเดียวกัน หรือกลุ่มผล
ประโยชน์ต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายและหายนะที่เกิดกับประเทศชาติแล้ว
ชนิดที่ไม่สามารถจะประเมินค่าความเสียหายได้ทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม
หากจะลำดับภาพของระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการแล้ว ก็คงจะต้องเริ่มต้นที่การสอบคัดเลือกบรรจุ
เป็นข้าราชการผู้ที่สามารถสอบบรรจุในข้าราชการส่วนใหญ่มักจะมีการวิ่งเต้นโดยได้รับความช่วยเหลือ
จากผู้มีอำนาจและผู้มีบารมี ส่วนผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับอาชีพข้าราชการ มีความรู้ ความสามารถ กลับไม่
สามารถสอบผ่านบรรจุเป็นข้าราชการได้ เมื่อระบบราชการได้รับบุคลากรที่ไม่มีคุณสมบัติที่ดีของข้าราชการ
และยังอ่อนด้อยทั้งในด้านความรู้ ความสามารถ คุณภาพและประสิทธิภาพของงานที่ปฏิบัติอยู่ก็ไม่ต้องพูดถึงกัน
ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ ก็ยังมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นลำดับ
ยิ่งรู้จักเข้าหาผู้บังคับบัญชาเก่ง รู้จักประจบสอพลอถึงจะไม่มีผลงานก็มีความเจริญก้าวหน้ารวดเร็วกว่า ข้าราชการ
ที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีความรับผิดชอบด้วยจิตสำนึกในการทำงาน
ให้เกิดผลดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น ข้าราชการที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ประพฤติปฏิบัติในทางมิชอบ เพื่อตอบสนอง
ต่อผู้บังคับบัญชาที่เติบโตจากระบบอุปถัมภ์ และนักการเมืองที่ให้การอุปถัมภ์อุ้มชูกันมา ถึงจะกระทำ
ผิดวินัยหรือผิดกฎหมาย และกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ก็ได้รับการปกป้องให้พ้นผิด และมีความ
เจริญก้าวหน้าขึ้นมาให้เป็นผู้บริหารปกครองข้าราชการที่ดี ส่งผลให้ระบบราชการเกิดความเสียหาย
เป็นอย่างมาก เพราะข้าราชการที่ดีมีความรู้ความสามารถ ไม่มีโอกาสทำงาน ตามศักยภาพที่มีอยู่
และขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ทำให้พลังในการขับเคลื่อนของกลไกในระบบราชการเป็น
ไปอย่างอ่อนล้าและสิ้นหวัง เรื่องราวที่กล่าวถึงนี้จะถือเป็นเรื่องปกติวิสัยของระบบราชการที่ยากจะ
เปลี่ยนแปลงและแก้ไข
กำจัด"ตัวถ่วง"การปฏิรูปราชการไทยคือสิ่งที่อยากขอรัฐบาลให้เร่งทำเป็นวาระแห่งชาติ
มิเช่นนั้น "ระบบอุปถัมภ์" ก็จะเป็น"ตัวถ่วง"ความเจริญของปรเทศไทย ค่อยกัดกิน
เงินภาษีประชาชนที่แลกมาจากหยาดเหงื่อและน้ำตา แต่กับมาโดน"ตัวถ่วง" ตักตวง
หาผลประโยชน์อย่างไร้ยางอายที่สุด หากรัฐบาลไม่มีความจริงใจและขาดความกล้าหาญ
ในการปฏิรูปราชการอย่างแท้จริง ก็ไม่สามารถแก้ไขกระบวนการราชการทั้งระบบได้
โดยเฉพาะการขจัดระบบอุปถัมภ์
..............................................///////////////////////////////.......................................
..... ขนมหวานเปียกปูน อร่อย ๆ ยังมีให้ชิม อีกหลายชิ้นครับ ต้องค่อย ๆ ทาน เดี๋ยวเบา
หวานจะขึ้น โรคอ้วนจะถามหา เสียก่อน .....
............ ด้วยความปรารถนาดี ........