เห็นช่วงนี้มีปัญหาเรื่องนี้กันมา 2-3 กระทู้ละเลยอยากจะบอกให้เข้าใจดังนี้
เราต้องมองภาพกว้างเสียก่อน
- ในสมัยก่อน 30 40 50 ปีที่แล้ว รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ของเราเขาก็เริ่มมีอะไรกันตั้งแต่อายุ 17 - 20 ปี(แต่งงาน) เพราะไม่ได้เรียนหนังสือสูงกันสักเท่าไหร่ เรียนไม่มากก็หันมาทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่งงานสร้างครอบครัว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดาในยุคสมัยนั้น
- ต่อมากาลเวลาเปลี่ยนไป การศึกษามีบทบาทต่อชีวิตมากขึ้น ลูกหลานในยุคหลังจนถึงตอนนี้ต้องใช้เวลาเรียนกันนานขึ้นกว่าจะจบออกมาทำงานได้ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือ วัย ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ก็จะสนใจเรื่องเพศ อยากรู้อยากลอง อยากมีเพศสัมพันธ์ คล้ายกับสัตว์เดรัจฉานนั่นแหละที่เมื่อถึงเวลา ถึงวัยแล้ว ก็ต้องผสมพันธุ์กัน
- เพียงแต่มนุษย์เรานั้นได้ถูกตีกรอบจากสังคมในหลายๆอย่าง จึงไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามที่ธรรมชาติสร้างมา แต่ถ้าถามว่าพออายุ 18 19 20 นั้นมีอารมณ์ มีความอยากมั้ย ตอบได้เลยว่ามี โดยเฉพาะเพศชาย เพราะธรรมชาติสร้างมาให้ถึงวัยสืบพันธุ์แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ยังเรียนหนังสือกันอยู่
- เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต การกระทำแบบเดิมเช่นในอดีตจึงขัดต่อสังคมในยุคปัจจุบัน
เท้าความพอสมควรแล้ว ก็มาเข้าเรื่องกัน
- ผู้หญิงนั้นเมื่อคุณยอมตกลงปลงใจคบกับผู้ชายคนใดในช่วงที่ยังเรียนหนังสืออยู่ มองแค่นี้กันก่อนไม่ต้องมองไปไกลถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ความจริงคุณยังไม่ควรมีความรัก ไม่ควรมีแฟนในวัยเรียนเสียด้วยซ้ำ เพราะหน้าที่หลักของคุณคือเรียนหนังสือ ตั้งใจเรียน เพื่อการทำงานในอนาคต อีกทั้งพ่อแม่บางคนหรือหลายๆคนก็ไม่ชอบ และไม่อยากให้ลูกของตนมีแฟนในวัยเรียนด้วย
- ในเมื่อผู้หญิงคนใดคิดจะมีแฟน หรือยอมคบกับผู้ชายคนใดในวัยเรียน มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปข้องเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ เพศสัมพันธ์มันเป็นส่วนหนึ่งของความรัก เพราะความรักนั้นต้องมีการพัฒนา ประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ไม่เคยมีข้อมูลใดปรากฎเลยว่าชายหญิงรักกัน แค่จับมือถือแขน มองสบตากัน โดยไม่มีเพศสัมพันธ์ แล้วจะอยู่ด้วยกันได้ไปจนตายจากกัน ไม่มีเลย(อย่าโลกสวยครับ) เพราะความรักมันต้องมีการเดินหน้า มีการพัฒนาครับ ไม่งั้นก็ต้องเลิกรากันไป คุณผู้หญิงเข้าใจรึยังครับ
- ดังนั้น ทางแก้เพียงวิธีเดียวคือ ต้องไม่มีแฟนในวัยเรียนครับ รอให้เรียนจบแล้วค่อยมีแฟน ถึงตอนนั้นการมีเพศสัมพันธ์ก็จะไม่ใช่เรื่องผิดอีกต่อไป ถ้าถึงตอนนั้นแล้วคุณยังปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์อยู่ แสดงว่าตัวคุณอาจจะมีปัญหาแล้วละ ไม่ใช่ผู้ชายหรอกที่มีปัญหา
- ผู้ชายทุกคนมีความอดทนอย่างจำกัดนะครับ เขาจะรอได้ก็แค่ช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะเขาเองก็มีความคิด มีเป้าหมาย มีจุดยืนของตัวเองเหมือนกัน เมื่อฝ่ายหญิงไม่เอาด้วยมันก็ต้องทางใครทางมัน ผู้ชายน้อยคนนักที่เขาจะรอตามใจฝ่ายหญิงไปได้จนสุดทางตามที่ฝ่ายหญิงต้องการ น้อยคนจริงๆครับ การไม่มีแฟนในวัยเรียนจึงเป็นการป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุได้ดีที่สุด ดีกว่าจะไปมัวเปลี่ยนความคิดของฝ่ายชาย ซึ่งไม่มีอะไรชี้ชัดได้อย่างชัดเจนว่าถูกหรือผิด
ผู้หญิงที่ถูกแฟนบอกเลิกเพราะไม่ยอมมีอะไรด้วย
เราต้องมองภาพกว้างเสียก่อน
- ในสมัยก่อน 30 40 50 ปีที่แล้ว รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ของเราเขาก็เริ่มมีอะไรกันตั้งแต่อายุ 17 - 20 ปี(แต่งงาน) เพราะไม่ได้เรียนหนังสือสูงกันสักเท่าไหร่ เรียนไม่มากก็หันมาทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่งงานสร้างครอบครัว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดาในยุคสมัยนั้น
- ต่อมากาลเวลาเปลี่ยนไป การศึกษามีบทบาทต่อชีวิตมากขึ้น ลูกหลานในยุคหลังจนถึงตอนนี้ต้องใช้เวลาเรียนกันนานขึ้นกว่าจะจบออกมาทำงานได้ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือ วัย ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ก็จะสนใจเรื่องเพศ อยากรู้อยากลอง อยากมีเพศสัมพันธ์ คล้ายกับสัตว์เดรัจฉานนั่นแหละที่เมื่อถึงเวลา ถึงวัยแล้ว ก็ต้องผสมพันธุ์กัน
- เพียงแต่มนุษย์เรานั้นได้ถูกตีกรอบจากสังคมในหลายๆอย่าง จึงไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามที่ธรรมชาติสร้างมา แต่ถ้าถามว่าพออายุ 18 19 20 นั้นมีอารมณ์ มีความอยากมั้ย ตอบได้เลยว่ามี โดยเฉพาะเพศชาย เพราะธรรมชาติสร้างมาให้ถึงวัยสืบพันธุ์แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ยังเรียนหนังสือกันอยู่
- เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต การกระทำแบบเดิมเช่นในอดีตจึงขัดต่อสังคมในยุคปัจจุบัน
เท้าความพอสมควรแล้ว ก็มาเข้าเรื่องกัน
- ผู้หญิงนั้นเมื่อคุณยอมตกลงปลงใจคบกับผู้ชายคนใดในช่วงที่ยังเรียนหนังสืออยู่ มองแค่นี้กันก่อนไม่ต้องมองไปไกลถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ความจริงคุณยังไม่ควรมีความรัก ไม่ควรมีแฟนในวัยเรียนเสียด้วยซ้ำ เพราะหน้าที่หลักของคุณคือเรียนหนังสือ ตั้งใจเรียน เพื่อการทำงานในอนาคต อีกทั้งพ่อแม่บางคนหรือหลายๆคนก็ไม่ชอบ และไม่อยากให้ลูกของตนมีแฟนในวัยเรียนด้วย
- ในเมื่อผู้หญิงคนใดคิดจะมีแฟน หรือยอมคบกับผู้ชายคนใดในวัยเรียน มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปข้องเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ เพศสัมพันธ์มันเป็นส่วนหนึ่งของความรัก เพราะความรักนั้นต้องมีการพัฒนา ประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ไม่เคยมีข้อมูลใดปรากฎเลยว่าชายหญิงรักกัน แค่จับมือถือแขน มองสบตากัน โดยไม่มีเพศสัมพันธ์ แล้วจะอยู่ด้วยกันได้ไปจนตายจากกัน ไม่มีเลย(อย่าโลกสวยครับ) เพราะความรักมันต้องมีการเดินหน้า มีการพัฒนาครับ ไม่งั้นก็ต้องเลิกรากันไป คุณผู้หญิงเข้าใจรึยังครับ
- ดังนั้น ทางแก้เพียงวิธีเดียวคือ ต้องไม่มีแฟนในวัยเรียนครับ รอให้เรียนจบแล้วค่อยมีแฟน ถึงตอนนั้นการมีเพศสัมพันธ์ก็จะไม่ใช่เรื่องผิดอีกต่อไป ถ้าถึงตอนนั้นแล้วคุณยังปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์อยู่ แสดงว่าตัวคุณอาจจะมีปัญหาแล้วละ ไม่ใช่ผู้ชายหรอกที่มีปัญหา
- ผู้ชายทุกคนมีความอดทนอย่างจำกัดนะครับ เขาจะรอได้ก็แค่ช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะเขาเองก็มีความคิด มีเป้าหมาย มีจุดยืนของตัวเองเหมือนกัน เมื่อฝ่ายหญิงไม่เอาด้วยมันก็ต้องทางใครทางมัน ผู้ชายน้อยคนนักที่เขาจะรอตามใจฝ่ายหญิงไปได้จนสุดทางตามที่ฝ่ายหญิงต้องการ น้อยคนจริงๆครับ การไม่มีแฟนในวัยเรียนจึงเป็นการป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุได้ดีที่สุด ดีกว่าจะไปมัวเปลี่ยนความคิดของฝ่ายชาย ซึ่งไม่มีอะไรชี้ชัดได้อย่างชัดเจนว่าถูกหรือผิด