แสงดาวฝั่งทะเล...การเดินทางที่แสนจะมหัศจรรย์ในชีวิต
ความแค้น ความชิงชัง ความเจ็บปวด และความไม่เข้าใจกัน
ที่ถูกเก็บกักมานานปีจากอดีต
เปิดฉากเริ่มต้นบนรถไฟสายนี้...
หากเวลากว่าครึ่งเดือนที่ต้องอยู่ด้วยกันทำให้ความเกลียดชังคลี่คลาย
ความเจ็บช้ำตื้นเขิน
และความไม่เข้าใจกันแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพันลึกซึ้ง
ทว่าน่าเสียดาย...
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้าม
จะต้องปิดฉากลงที่...แสงดาวฝั่งทะเล...เช่นกัน
เรื่องย่อ...วริษาหรือฝน กำพร้าแม่ตั้งแต่เกิดและเติบโตมากับยาย จนกระทั่งยายมาเสียชีวิตไปอีกคนตั้งแต่เธอเพิ่งย่างเข้าวัยรุ่น วริษาจึงมาอยู่กับพ่อที่แต่งงงานมีครอบครัวใหม่ แต่ทั้งพ่อและเธอห่างเหินกันมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก หญิงสาวจึงเข้ากับพ่อและครอบครัวใหม่ไม่ค่อยได้ ทุกครั้งที่อยู่พร้อมหน้าเธอจึงรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของที่บ้าน หลังจากเรียนจบปริญญาตรี วริษาเข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ทำให้เธอได้เจอกับสาธินหนุ่มใหญ่ที่ยังดูดีอยู่มากแม้จะอยู่ในวัย 40 กว่าแล้วก็ตาม สาธินแต่งงานกับดุจเดือนและมีลูกสาวหนึ่งคนคือดาวนภา เนื่องจากสาธินเป็นหัวหน้าและค่อนข้างสนิทสนมกับวริษา สาธินจึงมักเอาปัญหาที่บ้านมาเล่าให้วริษาฟัง เรื่องที่เขารู้สึกเหมือนถูกกดให้ต่ำกว่าภรรยาที่มีฐานะร่ำรวยกว่า ทั้งยังโดนกีดกันจากครอบครัวของภรรยาโดยเฉพาะภวัตหลานชายของดุจเดือน เธอรู้สึกสงสารและตั้งแง่รังเกียจผู้ชายชื่อภวัตตั้งแต่ยังไม่เจอหน้า ด้วยความอ่อนต่อโลกทำให้วริษาเชื่อใจในตัวสาธินจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเธอโดนสาธินหลอกมาปลุกปล้ำแต่ดุจเดือนเข้ามาเห็นซะก่อน ดุจเดือนกล่าวหาว่าวริษาเป็นเมียน้อยของสามีเธอ โดยที่วริษาไม่มีโอกาสได้อธิบายความจริง วริษาอับอายจึงรีบออกจากห้องแต่ดันไปเจอกับภวัตเข้าพอดี ชายหนุ่มมองวริษาด้วยความรังเกียจและไล่ให้เธออกไปให้พ้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้นวริษาถูกไล่ออกจากงาน เพื่อนร่วมงานต่างเอาเธอไปซุบซิบนินทาอย่างสนุกปาก เรื่องเลวร้ายยังไม่จบเมื่อสาธินขับรถพาดุจเดือนและดาวนภาไปประสบอุบัติเหตุทำให้สาธินเสียชีวิตและดาวนภาต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต สาเหตุมาจากสองสามีภรรยาทะเลากันเรื่องที่สาธินแอบไปมีเมียน้อย วริษายิ่งเสียใจหนักขึ้นไปอีก เธอพยายามจะไปงานศพของสาธินแต่ไม่ทันได้เข้างานก็ถูกภวัตขับไล่ออกมา วริษาถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยและเป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของสาธินต้องประสบเคราะห์กรรมร้ายแรง โดยที่ไม่มีใครฟังคำอธิบายจากปากเธอเลยซักคน ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแท้ๆของเธอเองถึงกับทนไม่ได้ที่ลูกสาวสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัว ถึงกับต้องส่งตัววริษาไปเรียนต่อยังต่างประเทศเพื่อหลบหน้าผู้คน
วริษาจึงจากเมืองไทยมาด้วยความบอบช้ำ หญิงสาวมาอยู่ที่ซานฟรานซิสโกเพื่อศึกษาต่อปริญญาโทด้านกราฟฟิกดีไซน์ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ชีวิตในต่างแดนของวริษาค่อนข้างลำบาก เธอต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยเนื่องจากเงินที่พ่อส่งมาให้แต่ละเดือนแทบไม่พอใช้ ไปทำงานที่ร้านวังไทย เจ้าของร้านก็มักบี้ยวค่าแรงเธอเป็นประจำ วันหนึ่งวริษาได้คุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิท อิชยา ที่อาศัยอยู่กับสามี วนัท ที่ซีแอทเทิล อิชยาเป็นเพียงคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัววริษาว่าเธอไม่มีทางทำตัวเป็นเมียน้อยของใคร อิชยาอยากให้เพื่อนได้มาเที่ยวเปิดหูเปิดตาจึงชักชวนวริษาให้มาเที่ยวที่ซีแอทเทิล โดยมีเพื่อนของวนัทที่มาจากเบริ์กเลย์ร่วมทางมาด้วย ตอนแรกเธอสองจิตสองใจเนื่องจากไม่ค่อยมีเงิน แต่สุดท้ายวริษาก็ตัดสินใจขึ้นรถไฟสายแสงดาวฝั่งทะเล (Coast Starlight) เพื่อเดินทางไปยังซีแอทเทิลตามคำชวนของเพื่อน วริษาไม่รู้เลยว่ารถไฟสายนี้จะนำเธอไปพบกับเพื่อนของวนัทที่มาจากเบริ์กเลย์ซึ่งก็คือภวัตนั่นเอง ทุกครั้งที่เจอหน้ากันภวัตไม่พลาดที่จะพูดจากระแนะกระแหนวริษาให้รู้สึกเจ็บช้ำไปเสียทุกครั้ง วริษาพยายามตอบโต้แต่ก็ไม่เป็นผล บางครั้งหนักเข้าวริษาก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้กับคำพูดเหยีดหยามจากภวัต วริษาได้แต่อดทนเมื่อคิดถึงว่าตลอดครึ่งเดือนนับจากนี้ ทั้งเขาและเธอต่างก็หนีกันไม่พ้นเมื่อต้องร่วมทริปเดินทางไปด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อไปถึงซีแอทเทิลทั้งคู่ต้องไปพักที่บ้านของสองสามีภรรยา อิชยากับวนัท วริษากับภวัตไม่อยากให้เพื่อนไม่สบายใจจึงแสร้งทำเป็นดีต่อกัน อิชยากับวนัทต่างก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางระหว่างทั้งคู่จึงคิดว่าทั้งคู่เพิ่งรู้จักกันบนรถไฟ อิชยาจึงอยากให้คู่นี้ลงเอยกัน ตลอดเวลาที่อยู่ซีแอทเทิลภวัตมักหาโอกาสพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามวริษาให้รู้สึกเจ็บปวด เหมือนที่ดุจเดือนอาของเขาต้องเจ็บปวดจากการกระทำของวริษา วริษาเพียรพยามยามจะอธิบายเท่าไหร่ภวัตไม่เคยเปิดใจจะฟัง หลายครั้งเข้าหญิงสาวก็ถอดใจ รู้ว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์จึงคอยหาทางเลี่ยงทุกครั้ง แต่เป็นภวัตเองที่เอาตัวไปใกล้ชิดหญิงสาวที่ปากบอกว่าเกลียดอยู่ตลอดเวลา ระหว่างนั้นสองสามีภรรยารู้สึกได้ว่าระหว่างภวัตกับวริษาต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆแต่ไม่กล้าถามได้ต้องคอยสังเกตอยู่ห่างๆ ตลอดเวลาที่ได้อยู่ใกล้วริษาภวัตรู้สึกว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างที่เขารับรู้มา อคติที่มีต่อตัวหญิงสาวจึงค่อยๆลดลงไป
จากซีแอทเทิลทั้งสี่เดินทางต่อไปยังแคนาดาเพื่อไปพบกับ รสนา เพื่อนสนิทของภวัต รสนาเกาะติดภวัตแจแต่ภวัตก็มักจะอยู่ใกล้ๆวริษาตลอดเช่นกัน ทำให้รสนาไม่ชอบหน้าวริษา หาเรื่องเหน็บแนมไปเสียทุกครั้ง หนำซ้ำรสนายังทำอะไรตามใจตัวเอง พลอยทำให้คนอื่นเอือมระอา ทั้งสี่คนจึงตัดสินใจกลับซีแอทเทิ่ล โดยรสนาขอตามไปเที่ยวด้วยในวันหลัง เมื่อกลับไปซีแอทเทิลวนัทกับอิชยาต้องไปงานเลี้ยงจึงไม่มีเวลาพาวริษากับภวัตไปเที่ยว จึงปล่อยให้สองคนไปเที่ยวกันเอง วริษาหวาดกลัวที่จะไปเที่ยวกับเขาตามลำพัง เพราะเขาเองก็ยังพูดจาทำร้ายจิตใจเธอไม่เลิกรา จนกระทั่งวริษาเครียดจนโรคกระเพาะกำเริบล้มลงแทบเท้าภวัต เขาตกใจรีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาล แต่วริษาไม่ยอมไปท่าเดียว เพราะเธอไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ภวัตจะออกให้หญิงสาวก็ไม่ยอมท่าเดียว ภวัตดูแลให้วริษากินยานอนพักเพื่อบรรเทาอาการอยู่บนรถ ระหว่างนั้นเขาก็คิดทบทวนเรื่องของวริษา ภวัตสัมผัสได้ว่าเธอไม่ได้ดูสุขสบายอะไรเลย ทั้งๆที่รู้มาจากดุจเดือนว่าอาเขยของเขายักยอกเงินบริษัทมาปรนเปรอเธอตั้งหลายล้านบาท ภวัตอยากให้หญิงสาวเจ็บปวดเหมือนกับที่ครอบครัวอาสาวของเขาประสบมา แต่ก็ต้องโมโหตัวเองเมื่อพบว่าเขาชอบวริษาตั้งแต่เจอกันที่หน้าห้องวันนั้น วันที่ดุจเดือนไปเจอสามีตัวเองอยู่ด้วยกันกับเมียน้อยวริษา ภวัตอยากเชื่อใจในความบริสุทธิ์ของวริษาแต่นั่นเท่ากับว่าอาสาวของเขาเป็นคนโกหกเรื่องทั้งหมด หลังจากอาการทุเลาลงภวัตก็ปฏิบัติตัวต่อวริษาดีขึ้นแต่ก็ห่างเหินขึ้นเช่นกัน รสนาเดินทางมาจากแวนคูเวอร์มาเที่ยวและพักที่บ้านของสองสามีภรรยาที่ซีแอทเทิล รสนายังคงทำตัวเหมือนตัวเองเป็นศูนย์กลางและเอาแต่ใจตัวเองอยู่เหมือนเดิม สร้างความเบื่อหน่ายให้กับคนอื่นเป็นอย่างมาก เรื่องยิ่งวุ่นมากขึ้นไปอีกเมื่อรสนาที่เหม็นขี้หน้าวริษา เมื่ออยู่ตามลำพังสองคน รสนาจึงหาเรื่องทำวริษาบาดเจ็บโดนไฟลวก แต่วริษากลับบอกคนอื่นว่าเป็นอุบัติเหตุ ภวัตเห็นเหตุการณ์ตอนนั้นพอดีจึงเอ่ยปากให้รสนากลับไปแคนาดา เมื่อรสนากลับไปทุกอย่างก็ดีขึ้นโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างภวัตกับวริษา ภวัตไม่อยากหลอกตัวเองอีกแล้วจึงบอกรักวริษา แต่จะให้เชื่อว่าหญิงสาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับสาธินเขาทำไม่ได้ จึงขอร้องให้เธอกับเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดการเดินทางที่เหลือ ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่วริษาก็อดไม่ได้ที่จะตอบรับเพราะเธอเองก็มีใจให้ภวัตเช่นเดียวกัน
หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็เป็นไปด้วยดี ภวัตและวริษาต่างใช้เวลาอยู่ด้วยกันพูดคุยกันเป็นอย่างดีเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน เพื่อเก็บวันเวลาเหล่านี้เอาไว้ในความทรงจำเมื่อต้องจากกัน เพราะเส้นทางระหว่างเธอกับเขาไม่อาจบรรจบกันได้ ภวัตไม่อาจสานสัมพันธ์กับหญิงสาวที่สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของดุจเดือน วริษาที่ถึงแม้จะรักภวัตแต่ก็รู้ตัวว่ารักนี้ไม่อาจสานต่อ จึงขอให้มันจบลงที่แสงดาวฝั่งทะเลจุดเริ่มต้นที่นำทั้งสองมาเจอกัน แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ทั้งสองต้องขึ้นรถไฟสายแสงดาวฝั่งทะเลอีกครั้งเพื่อปิดฉากความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นของเขาและเธอ หลังจากแยกทางกันทั้งคู่ยังคงคิดถึงกันอยู่เสมอ ภวัตเป็นฝ่ายทนไม่ได้จึงไปหาวริษาที่ซานฟรานฯ แต่ก็มีเรื่องให้ผิดใจกัน ครั้งนี้ภวัตยอมเชื่อใจหญิงสาวและต้องการพิสูจน์ความจริง เรื่องราวในอดีตของวริษาหญิงสาวที่เขารักกับดุจเดือนอาสาวที่เปรียบเหมือนแม่คนที่สองของเขา ภวัตจึงพาวริษาไปพบกับดุจเดือน เมื่อดุจเดือนได้เจอกับวริษาก็ตกใจมาก แต่สุดท้ายเมื่อภวัตเค้นหนักขึ้นดุจเดือนก็ยอมเปิดปากเล่าความจริงทุกอย่าง....
อ่านจบ...เศร้าสะเทือนใจมากค่ะ น้ำตาหยดแหมะๆเลย (แต่ตอนจบแฮ๊ปปี้นะค้า) อยากเข้าไปตบกะโหลกอิตาพระเอกมากกกกก จะใจร้าย ปากร้ายไปถึงไหน นางเอกก็นะ แม่พระอะไรเช่นนี้ น่าสงสารมากกก ทนให้คนอื่นเอาเปรียบ ดูถูก ดูแคลนอยู่ได้ (สงสัยเถียงไม่ทัน พระเอกปากร้ายเกิ๊น) นางเอกถึกเป็นควายทุยเลยค่ะ บางทีเราก็มองว่านี่มันคนดีหรือคนโง่เนี่ย อะไรจะทนทายาทขนาดน้าน แต่ชอบตรงที่ถึงนางเอกไม่ค่อยตอบโต้ แต่พอเอาคืนพระเอกทีก็ถึงกับสะอึกอยู่เหมือนกัน อิตาพระเอกก็นะ ผีเข้าผีออก รักเค้าแต่ก็ด่าเค้าสาดเสียเทเสีย (คำด่าแต่ละคำ ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของ "พระเอก") กว่าจะยอมรับว่ารักนางเอกปาเข้าไปเกือบท้ายเล่ม แล้วพอพระเอกบอกรักก็งงอีกว่านางเอกเป็นพวกมาโซคิสรึป่าว ทนให้เค้าด่าปาวๆ แทนที่จะเกลียด ปฏิเสธไปเลยว่าไม่รัก แต่ก็รักเค้าซะนี่ สรุปคือ ชอบค่ะ กิ่งฉัตร ชื่อนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ตั้งแต่อ่านมายังไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ชอบเลย มีแค่ชอบมาก ชอบน้อย เรื่องนี้มีน่าเบื่อนิดนึงตรงช่วงเที่ยวๆอ่ะ มันบรรยายเยอะไปเนาะ แต่ก็อ่านทุกตัวอีกษรค่ะ แหะๆ
ละครเรื่อง แสงดาวฝั่งทะเล ของกิ่งฉัตร เคยถูกทำเป็นละครมาแล้ว โดยค่ายอาร์เอส ที่ทำละครให้กับช่อง 7 สมัยนั้น น่าจะเป็นละครเย็นถ้าจำไม่ผิดน่ะครับ พระนางคู่จิ้นสมัยนั้นที่เมื่อก่อนเคยเป็นแฟนกันมาก่อนในชีวิตจริง อย่างทัช ณ ตะกั่วทุ่ง กับ นิ้ง กุลสตรี โลเคชั่นถ่ายทำไกลถึงต่างประเทศน่าประทับใจมาก
จขกท.ไม่รู้น่ะครับว่าลิขสิทธิ์ เรื่อง แสงดาวฝั่งทะเล ของกิ่งฉัตร อยู่ที่ไหน ?
หากว่า ละครเรื่อง แสงดาวฝั่งทะเล รีเมคอีกครั้ง โดยค่ายดาว พอฤทัย (ค่ายนี้ส่วนใหญ่มักจะถ่ายละครไกลถึงต่างแดนเสียส่วนใหญ่) อยากเห็นใครเป็นพระนางเรื่องนี้ ?
สมมุติว่า ถ้าค่ายคุณดาว พอฤทัย รีเมคเรื่อง "แสงดาวฝั่งทะเล" ของกิ่งฉัตร อยากให้ใครเป็นพระนาง ?
แสงดาวฝั่งทะเล...การเดินทางที่แสนจะมหัศจรรย์ในชีวิต
ความแค้น ความชิงชัง ความเจ็บปวด และความไม่เข้าใจกัน
ที่ถูกเก็บกักมานานปีจากอดีต
เปิดฉากเริ่มต้นบนรถไฟสายนี้...
หากเวลากว่าครึ่งเดือนที่ต้องอยู่ด้วยกันทำให้ความเกลียดชังคลี่คลาย
ความเจ็บช้ำตื้นเขิน
และความไม่เข้าใจกันแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพันลึกซึ้ง
ทว่าน่าเสียดาย...
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้าม
จะต้องปิดฉากลงที่...แสงดาวฝั่งทะเล...เช่นกัน
เรื่องย่อ...วริษาหรือฝน กำพร้าแม่ตั้งแต่เกิดและเติบโตมากับยาย จนกระทั่งยายมาเสียชีวิตไปอีกคนตั้งแต่เธอเพิ่งย่างเข้าวัยรุ่น วริษาจึงมาอยู่กับพ่อที่แต่งงงานมีครอบครัวใหม่ แต่ทั้งพ่อและเธอห่างเหินกันมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก หญิงสาวจึงเข้ากับพ่อและครอบครัวใหม่ไม่ค่อยได้ ทุกครั้งที่อยู่พร้อมหน้าเธอจึงรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของที่บ้าน หลังจากเรียนจบปริญญาตรี วริษาเข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ทำให้เธอได้เจอกับสาธินหนุ่มใหญ่ที่ยังดูดีอยู่มากแม้จะอยู่ในวัย 40 กว่าแล้วก็ตาม สาธินแต่งงานกับดุจเดือนและมีลูกสาวหนึ่งคนคือดาวนภา เนื่องจากสาธินเป็นหัวหน้าและค่อนข้างสนิทสนมกับวริษา สาธินจึงมักเอาปัญหาที่บ้านมาเล่าให้วริษาฟัง เรื่องที่เขารู้สึกเหมือนถูกกดให้ต่ำกว่าภรรยาที่มีฐานะร่ำรวยกว่า ทั้งยังโดนกีดกันจากครอบครัวของภรรยาโดยเฉพาะภวัตหลานชายของดุจเดือน เธอรู้สึกสงสารและตั้งแง่รังเกียจผู้ชายชื่อภวัตตั้งแต่ยังไม่เจอหน้า ด้วยความอ่อนต่อโลกทำให้วริษาเชื่อใจในตัวสาธินจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเธอโดนสาธินหลอกมาปลุกปล้ำแต่ดุจเดือนเข้ามาเห็นซะก่อน ดุจเดือนกล่าวหาว่าวริษาเป็นเมียน้อยของสามีเธอ โดยที่วริษาไม่มีโอกาสได้อธิบายความจริง วริษาอับอายจึงรีบออกจากห้องแต่ดันไปเจอกับภวัตเข้าพอดี ชายหนุ่มมองวริษาด้วยความรังเกียจและไล่ให้เธออกไปให้พ้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้นวริษาถูกไล่ออกจากงาน เพื่อนร่วมงานต่างเอาเธอไปซุบซิบนินทาอย่างสนุกปาก เรื่องเลวร้ายยังไม่จบเมื่อสาธินขับรถพาดุจเดือนและดาวนภาไปประสบอุบัติเหตุทำให้สาธินเสียชีวิตและดาวนภาต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต สาเหตุมาจากสองสามีภรรยาทะเลากันเรื่องที่สาธินแอบไปมีเมียน้อย วริษายิ่งเสียใจหนักขึ้นไปอีก เธอพยายามจะไปงานศพของสาธินแต่ไม่ทันได้เข้างานก็ถูกภวัตขับไล่ออกมา วริษาถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยและเป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของสาธินต้องประสบเคราะห์กรรมร้ายแรง โดยที่ไม่มีใครฟังคำอธิบายจากปากเธอเลยซักคน ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแท้ๆของเธอเองถึงกับทนไม่ได้ที่ลูกสาวสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัว ถึงกับต้องส่งตัววริษาไปเรียนต่อยังต่างประเทศเพื่อหลบหน้าผู้คน
วริษาจึงจากเมืองไทยมาด้วยความบอบช้ำ หญิงสาวมาอยู่ที่ซานฟรานซิสโกเพื่อศึกษาต่อปริญญาโทด้านกราฟฟิกดีไซน์ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ชีวิตในต่างแดนของวริษาค่อนข้างลำบาก เธอต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยเนื่องจากเงินที่พ่อส่งมาให้แต่ละเดือนแทบไม่พอใช้ ไปทำงานที่ร้านวังไทย เจ้าของร้านก็มักบี้ยวค่าแรงเธอเป็นประจำ วันหนึ่งวริษาได้คุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิท อิชยา ที่อาศัยอยู่กับสามี วนัท ที่ซีแอทเทิล อิชยาเป็นเพียงคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัววริษาว่าเธอไม่มีทางทำตัวเป็นเมียน้อยของใคร อิชยาอยากให้เพื่อนได้มาเที่ยวเปิดหูเปิดตาจึงชักชวนวริษาให้มาเที่ยวที่ซีแอทเทิล โดยมีเพื่อนของวนัทที่มาจากเบริ์กเลย์ร่วมทางมาด้วย ตอนแรกเธอสองจิตสองใจเนื่องจากไม่ค่อยมีเงิน แต่สุดท้ายวริษาก็ตัดสินใจขึ้นรถไฟสายแสงดาวฝั่งทะเล (Coast Starlight) เพื่อเดินทางไปยังซีแอทเทิลตามคำชวนของเพื่อน วริษาไม่รู้เลยว่ารถไฟสายนี้จะนำเธอไปพบกับเพื่อนของวนัทที่มาจากเบริ์กเลย์ซึ่งก็คือภวัตนั่นเอง ทุกครั้งที่เจอหน้ากันภวัตไม่พลาดที่จะพูดจากระแนะกระแหนวริษาให้รู้สึกเจ็บช้ำไปเสียทุกครั้ง วริษาพยายามตอบโต้แต่ก็ไม่เป็นผล บางครั้งหนักเข้าวริษาก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้กับคำพูดเหยีดหยามจากภวัต วริษาได้แต่อดทนเมื่อคิดถึงว่าตลอดครึ่งเดือนนับจากนี้ ทั้งเขาและเธอต่างก็หนีกันไม่พ้นเมื่อต้องร่วมทริปเดินทางไปด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อไปถึงซีแอทเทิลทั้งคู่ต้องไปพักที่บ้านของสองสามีภรรยา อิชยากับวนัท วริษากับภวัตไม่อยากให้เพื่อนไม่สบายใจจึงแสร้งทำเป็นดีต่อกัน อิชยากับวนัทต่างก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางระหว่างทั้งคู่จึงคิดว่าทั้งคู่เพิ่งรู้จักกันบนรถไฟ อิชยาจึงอยากให้คู่นี้ลงเอยกัน ตลอดเวลาที่อยู่ซีแอทเทิลภวัตมักหาโอกาสพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามวริษาให้รู้สึกเจ็บปวด เหมือนที่ดุจเดือนอาของเขาต้องเจ็บปวดจากการกระทำของวริษา วริษาเพียรพยามยามจะอธิบายเท่าไหร่ภวัตไม่เคยเปิดใจจะฟัง หลายครั้งเข้าหญิงสาวก็ถอดใจ รู้ว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์จึงคอยหาทางเลี่ยงทุกครั้ง แต่เป็นภวัตเองที่เอาตัวไปใกล้ชิดหญิงสาวที่ปากบอกว่าเกลียดอยู่ตลอดเวลา ระหว่างนั้นสองสามีภรรยารู้สึกได้ว่าระหว่างภวัตกับวริษาต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆแต่ไม่กล้าถามได้ต้องคอยสังเกตอยู่ห่างๆ ตลอดเวลาที่ได้อยู่ใกล้วริษาภวัตรู้สึกว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างที่เขารับรู้มา อคติที่มีต่อตัวหญิงสาวจึงค่อยๆลดลงไป
จากซีแอทเทิลทั้งสี่เดินทางต่อไปยังแคนาดาเพื่อไปพบกับ รสนา เพื่อนสนิทของภวัต รสนาเกาะติดภวัตแจแต่ภวัตก็มักจะอยู่ใกล้ๆวริษาตลอดเช่นกัน ทำให้รสนาไม่ชอบหน้าวริษา หาเรื่องเหน็บแนมไปเสียทุกครั้ง หนำซ้ำรสนายังทำอะไรตามใจตัวเอง พลอยทำให้คนอื่นเอือมระอา ทั้งสี่คนจึงตัดสินใจกลับซีแอทเทิ่ล โดยรสนาขอตามไปเที่ยวด้วยในวันหลัง เมื่อกลับไปซีแอทเทิลวนัทกับอิชยาต้องไปงานเลี้ยงจึงไม่มีเวลาพาวริษากับภวัตไปเที่ยว จึงปล่อยให้สองคนไปเที่ยวกันเอง วริษาหวาดกลัวที่จะไปเที่ยวกับเขาตามลำพัง เพราะเขาเองก็ยังพูดจาทำร้ายจิตใจเธอไม่เลิกรา จนกระทั่งวริษาเครียดจนโรคกระเพาะกำเริบล้มลงแทบเท้าภวัต เขาตกใจรีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาล แต่วริษาไม่ยอมไปท่าเดียว เพราะเธอไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ภวัตจะออกให้หญิงสาวก็ไม่ยอมท่าเดียว ภวัตดูแลให้วริษากินยานอนพักเพื่อบรรเทาอาการอยู่บนรถ ระหว่างนั้นเขาก็คิดทบทวนเรื่องของวริษา ภวัตสัมผัสได้ว่าเธอไม่ได้ดูสุขสบายอะไรเลย ทั้งๆที่รู้มาจากดุจเดือนว่าอาเขยของเขายักยอกเงินบริษัทมาปรนเปรอเธอตั้งหลายล้านบาท ภวัตอยากให้หญิงสาวเจ็บปวดเหมือนกับที่ครอบครัวอาสาวของเขาประสบมา แต่ก็ต้องโมโหตัวเองเมื่อพบว่าเขาชอบวริษาตั้งแต่เจอกันที่หน้าห้องวันนั้น วันที่ดุจเดือนไปเจอสามีตัวเองอยู่ด้วยกันกับเมียน้อยวริษา ภวัตอยากเชื่อใจในความบริสุทธิ์ของวริษาแต่นั่นเท่ากับว่าอาสาวของเขาเป็นคนโกหกเรื่องทั้งหมด หลังจากอาการทุเลาลงภวัตก็ปฏิบัติตัวต่อวริษาดีขึ้นแต่ก็ห่างเหินขึ้นเช่นกัน รสนาเดินทางมาจากแวนคูเวอร์มาเที่ยวและพักที่บ้านของสองสามีภรรยาที่ซีแอทเทิล รสนายังคงทำตัวเหมือนตัวเองเป็นศูนย์กลางและเอาแต่ใจตัวเองอยู่เหมือนเดิม สร้างความเบื่อหน่ายให้กับคนอื่นเป็นอย่างมาก เรื่องยิ่งวุ่นมากขึ้นไปอีกเมื่อรสนาที่เหม็นขี้หน้าวริษา เมื่ออยู่ตามลำพังสองคน รสนาจึงหาเรื่องทำวริษาบาดเจ็บโดนไฟลวก แต่วริษากลับบอกคนอื่นว่าเป็นอุบัติเหตุ ภวัตเห็นเหตุการณ์ตอนนั้นพอดีจึงเอ่ยปากให้รสนากลับไปแคนาดา เมื่อรสนากลับไปทุกอย่างก็ดีขึ้นโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างภวัตกับวริษา ภวัตไม่อยากหลอกตัวเองอีกแล้วจึงบอกรักวริษา แต่จะให้เชื่อว่าหญิงสาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับสาธินเขาทำไม่ได้ จึงขอร้องให้เธอกับเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดการเดินทางที่เหลือ ถึงแม้จะเจ็บปวดแต่วริษาก็อดไม่ได้ที่จะตอบรับเพราะเธอเองก็มีใจให้ภวัตเช่นเดียวกัน
หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็เป็นไปด้วยดี ภวัตและวริษาต่างใช้เวลาอยู่ด้วยกันพูดคุยกันเป็นอย่างดีเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน เพื่อเก็บวันเวลาเหล่านี้เอาไว้ในความทรงจำเมื่อต้องจากกัน เพราะเส้นทางระหว่างเธอกับเขาไม่อาจบรรจบกันได้ ภวัตไม่อาจสานสัมพันธ์กับหญิงสาวที่สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของดุจเดือน วริษาที่ถึงแม้จะรักภวัตแต่ก็รู้ตัวว่ารักนี้ไม่อาจสานต่อ จึงขอให้มันจบลงที่แสงดาวฝั่งทะเลจุดเริ่มต้นที่นำทั้งสองมาเจอกัน แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ทั้งสองต้องขึ้นรถไฟสายแสงดาวฝั่งทะเลอีกครั้งเพื่อปิดฉากความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นของเขาและเธอ หลังจากแยกทางกันทั้งคู่ยังคงคิดถึงกันอยู่เสมอ ภวัตเป็นฝ่ายทนไม่ได้จึงไปหาวริษาที่ซานฟรานฯ แต่ก็มีเรื่องให้ผิดใจกัน ครั้งนี้ภวัตยอมเชื่อใจหญิงสาวและต้องการพิสูจน์ความจริง เรื่องราวในอดีตของวริษาหญิงสาวที่เขารักกับดุจเดือนอาสาวที่เปรียบเหมือนแม่คนที่สองของเขา ภวัตจึงพาวริษาไปพบกับดุจเดือน เมื่อดุจเดือนได้เจอกับวริษาก็ตกใจมาก แต่สุดท้ายเมื่อภวัตเค้นหนักขึ้นดุจเดือนก็ยอมเปิดปากเล่าความจริงทุกอย่าง....
อ่านจบ...เศร้าสะเทือนใจมากค่ะ น้ำตาหยดแหมะๆเลย (แต่ตอนจบแฮ๊ปปี้นะค้า) อยากเข้าไปตบกะโหลกอิตาพระเอกมากกกกก จะใจร้าย ปากร้ายไปถึงไหน นางเอกก็นะ แม่พระอะไรเช่นนี้ น่าสงสารมากกก ทนให้คนอื่นเอาเปรียบ ดูถูก ดูแคลนอยู่ได้ (สงสัยเถียงไม่ทัน พระเอกปากร้ายเกิ๊น) นางเอกถึกเป็นควายทุยเลยค่ะ บางทีเราก็มองว่านี่มันคนดีหรือคนโง่เนี่ย อะไรจะทนทายาทขนาดน้าน แต่ชอบตรงที่ถึงนางเอกไม่ค่อยตอบโต้ แต่พอเอาคืนพระเอกทีก็ถึงกับสะอึกอยู่เหมือนกัน อิตาพระเอกก็นะ ผีเข้าผีออก รักเค้าแต่ก็ด่าเค้าสาดเสียเทเสีย (คำด่าแต่ละคำ ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของ "พระเอก") กว่าจะยอมรับว่ารักนางเอกปาเข้าไปเกือบท้ายเล่ม แล้วพอพระเอกบอกรักก็งงอีกว่านางเอกเป็นพวกมาโซคิสรึป่าว ทนให้เค้าด่าปาวๆ แทนที่จะเกลียด ปฏิเสธไปเลยว่าไม่รัก แต่ก็รักเค้าซะนี่ สรุปคือ ชอบค่ะ กิ่งฉัตร ชื่อนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ตั้งแต่อ่านมายังไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ชอบเลย มีแค่ชอบมาก ชอบน้อย เรื่องนี้มีน่าเบื่อนิดนึงตรงช่วงเที่ยวๆอ่ะ มันบรรยายเยอะไปเนาะ แต่ก็อ่านทุกตัวอีกษรค่ะ แหะๆ
ละครเรื่อง แสงดาวฝั่งทะเล ของกิ่งฉัตร เคยถูกทำเป็นละครมาแล้ว โดยค่ายอาร์เอส ที่ทำละครให้กับช่อง 7 สมัยนั้น น่าจะเป็นละครเย็นถ้าจำไม่ผิดน่ะครับ พระนางคู่จิ้นสมัยนั้นที่เมื่อก่อนเคยเป็นแฟนกันมาก่อนในชีวิตจริง อย่างทัช ณ ตะกั่วทุ่ง กับ นิ้ง กุลสตรี โลเคชั่นถ่ายทำไกลถึงต่างประเทศน่าประทับใจมาก
จขกท.ไม่รู้น่ะครับว่าลิขสิทธิ์ เรื่อง แสงดาวฝั่งทะเล ของกิ่งฉัตร อยู่ที่ไหน ?
หากว่า ละครเรื่อง แสงดาวฝั่งทะเล รีเมคอีกครั้ง โดยค่ายดาว พอฤทัย (ค่ายนี้ส่วนใหญ่มักจะถ่ายละครไกลถึงต่างแดนเสียส่วนใหญ่) อยากเห็นใครเป็นพระนางเรื่องนี้ ?