สวัสดีค่ะ วันนี้พอมีเวลา เอาทริปเก่าเก็บมาฝาก เรามีโอกาสแวะเที่ยว เมืองท่าแบร์เกน ประเทศนอร์เวย์
บ้านเมืองเขาสวยงามสะอาด อากาศดี ยังมีความเป็นธรรมชาติ คือเรียกได้ว่า เมืองที่เติบโตขึ้นพร้อมกับธรรมชาติ
ไม่ใช่เมืองที่เติบโตแทนที่ธรรมชาติ แม้ว่าแบร์เกน ถือเป็นเมืองหลวงของนอรืเวย์ตะวันตก และเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
แต่ความดั้งเดิมของเมืองไม่ได้ถูกเข้าแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ความวุ่นวาย เหมือนดั่งเมืองหลวงในหลายๆประเทศ
แบร์เกน จึงได้เป็นหนึ่งใน เก้าเมือง ที่ถูกยกย่องให้เป็น เมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป เมืองมรดกโลก
หากเดินจากท่าเรือประมาณห้านาทีเราจะมาเจอกลุ่มบ้านไม้สมัยเก่าเมือง บริเก็น Bryggen
เป็นบ้านไม้สามชั้น หน้าจั่วและผนังข้างมุงด้วยแผ่นไม้ สีสันสดใส ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของที่นี่
กลุ่มชุมชนนี้เป็นชุมชนโบราณที่มีอายุกว่า 300 ปี บ้านไม้เหล่านี้เคยถูกไฟไหม้หลายครั้ง
แต่ทั้งนั้นก็มีการสร้างซ่อมแซมขึ้นใหม่โดยมีการก่อสร้างและรูปแบบสถาปัตยกรรมคงเดิมไว้
ในปัจจุบันนี้ ตึกรามเหล่านี้ได้กลายเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้
หากมาเยี่ยมเยือนต้องมาถ่ายรูปกับบ้านไม้สีสันสดใส เหล่านี้ค่ะ .. ถัดจากกลุ่มบ้านเหล่านี้เราจะเดินเข้าไปสู่ตัวเมือง
ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของตลาดปลา อันข้นชื่อค่ะ
ตลาดปลา Torget เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเบอร์เกน ที่มีมาแต่ศตวรรษที่ 12 และปัจจุบันตลาดแห่งนี้ก็ยังคงความคึกคักอยู่ตลอดมา
ตลาดตั้งอยู่ริมน้ำตรงใจกลางเมือง ตลาดแห่งนี้เป็นหนึ่งในตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากคะ
เป็นตลาดขายอาหารซีฟู้ดส์หลายประเภท โดยเฉพาะแซลมอนใหญ่และสดมาก อยู่บริเวณกลางเมืองเก่า
มีโต๊ะสำหรับนั่งทาน บรรยากาศคึกคัก และมีเสน่ห์มาก ทุกอย่างปรุงสดๆ เราเลือกอาหารแล้วบอกคนขายเลยว่าเราจะทำอะไร
ผู้คนคึกคักมาค่ะทั้งร้านค้าทั้งนักท่องเที่ยว สามารถหาของทานที่ขึ้นชื่อ เช่น คาเวียร์สดๆ ปลาแฮร์ริ่งดอง แกงกะหรี่ปลา กุ้งล๊อปสเตอร์
หอยนางรมสด เนื้อวาฬและกวางเรนเดียร์ ปูอลาสก้า และอาหารทะเลมากมาย
แกงกระหรี่ปลาหม้อใหญ่ หอมฉุยมากค่ะ
นี่เป็นปูอลาสก้าที่เราลองซื้อมาชิมค่ะ ด้วยความอยาก ราคาแพงเอาการค่ะ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
อ่ออีกอย่างหนึ่งนะคะ น้ำเปล่าที่นี่ ราคาแพงมากกกก บอกเลยคะ เคยซื้อน้ำคะขวดละร้อยกว่าบาทเกือบสองร้อย
ที่นั่นมี เซเว่นนะคะ แนะนำเลยถ้าไป ไปชิมไอสกรีมที่เซเว่นคะ มีท๊อปปิ้งให้ใส่ด้วย
ตลาดปลาจะมีโซนกลางแจ้ง และมีโซนในตึกนะคะ ในตึกนั้นก็จะมีอาหารทะเลวางบนแผง
จัดแต่งสวยงามและดูดีกว่า มีส่วนโต๊ะรัปทานอาหาร เหมือนร้านอาหารเป็นทางการหน่อยค่ะ
ส่วนสินค้าหลักๆจะเหมือนด้านนอกเลยคะแต่ราคาจะสูงกว่า พ่อค้าและชาวบ้านจะซื้ออาหารทะเลสดๆที่ท่าเรือค่ะ
ราคาจะถูกกว่า ถ้าหากมาค้างคืนที่นี่และนอนที่พักที่มีห้องครัว น่าสนใจนะคะจะได้กินแบบเต็มๆไม่ห่วงเรื่องราคา
ส่วนนี่เป็นปลาเซลมอลสเต๊คที่เราลองชิมอยู่โซนด้านใน ราคาสูงกว่าโซนด้านนอกคะ
แต่คอนเฟริม เรื่องความสด อร่อยเนื้อปลาแน่นมาก
ยังคะยังไม่จบ ด้วยความที่เซลมอลสเต็กที่ได้มา มันสุกคะ สั่งแบบไม่สุกมากละนะอยากกินดิบๆ ต่อด้วยนี่ค่ะ ซูชิ อิอิ
นอกจากนี้ยังมีร้านขายผลไม้นะคะ จะเหลือเหรอคะ จัดมิกซ์เบอรี่อีกถ้วย ห้าๆๆๆ
บริเวณตลาดปลาก็จะมีร้านค้าของที่ระลึกค่ะ มากมายให้เลือกตามใจชอบเลย
เดินไปมั่วๆค่ะแล้วเราก็มาเจอ อนุสาวรีย์ นักเดินเรือ แปลแบบนี้ถุกไหม Sailor's Monument
อนุสาวรีย์มีความสูงเจ็ดเมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นโดย Dyre Vaa ในปี 1950
ประกอบด้วย 12 รูปปั้น เป็นผลงานที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ การเดินเรือของชาวนอร์เวย์ แต่สมัยโบราณ
ตามนั้นเลยค่ะที่แจ้งไปด้านต้น ยี่ห้อนี้ถูกสุดแล้วในเซเว่น แทบจะกินขวด พร้อมฝา หะๆๆ
ราคาจำไม่ผิด 180 THB คะ ใช้ค่าเงินเป็น NOK โครนนอร์เวย์
ส่วนร้านนี้คะเจอเข้าจังๆ เดินๆมั่วๆ เขาเขียนป้ายติดเลยว่า ฮอทดอคนที่ยาวที่สุดในโลก เราก็ต้องชิมคะตามสเตป หุๆๆ
เทียบขนาดกับเด็กดูนะคะ คอนเฟริม ว่ายาวกว่าฟุตลองที่เซเว่นบ้านเรา ชัวร์!!!!!!!!!!!!
เรามาเที่ยวต่อกันดีกว่าคะ กระทู้นี่คือเที่ยวเบ็ดเสร็จเลยนะคะ เดินทัวร์มั่ววนไปคร่า จริงๆแล้วบางทีเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร งงๆเดินไป
แต่พอเรามาอ่านข่อมูลที่หลังเอ่อดีแฮะมันเป็นจุดสำคัญที่ต้องแวะเที่ยวด้วย จขกท มีโอกาสได้กลับไปอีกในวันชาติ นอร์เวย์คะ
ขอบอก อลัง มว๊ากกกกก เพราะคนที่นั่นจัดเต็มคะใส่ชุดท้องถิ่น คอนเฟริมค่ะ หน้าตาดีทุกคน โดยเฉพาะเด็กหนุ่ม แฮ่ๆๆ ~_~
นึกว่าอยู่ในสมัยพระเจ้าจอร์ท(จอร์ทไหนก็ไม่รู้ คือถ้าเป็นประเทศไทยจะใช้คำว่า พระเจ้าเหาแทน แต่ขอปรับให้เข้ากับชนชาตินะคะ) ...
คนที่นี่จะพร้อมใจสวมใส่ชุดประจำชาติ ทั้นเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ คะ ด้วยตัวเมืองที่ยังมีสิ่งก่อสร้าง ธรรมชาติ และสถาปัตยกรรม
แบบเดิมอยู่นั้น ในเวลานั้น ทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดไปในยุคสมัยก่อน เหมือนในเทพนิยายฝรั่งอ่ะคะ
เหมือนในเทพนิยายไหมละคะ แค่มีส่วนของ รถยนต์ ยานพาหนะ เข้ามาแทนที่รถม้าสมัยก่อนเท่านั้นเอง
ส่วนงานก็จะใกล้เคียงงานเทศกาลบ้านเรานะคะ มีพาเรท การแสดง เปิดบูธขาย อาหารเครื่องเล่นต่างๆ
งานวัดแบบเมืองผู้ดีนี่เองจ้า แต่บอกได้เลยว่า เหมือนเราไปเที่ยวสวนสนุกใหญ่ๆที่บ้านเราเลย จขกท ลองเล่นเครื่องเล่นหนึ่งดู
ไม่รู้ว่าเรียกอะไร จะเป็นแขนๆแล้วพาไปค้างข้างบนอ่ะคะ กลับหัว โอยหัวใจจะวายคือมันสูงกว่าที่บ้านเรามากๆๆ แล้ว น่ากลัวสุดๆ
ดีที่เอาชีวิตรอดกลับมาไทยได้ 555
+++หลังจากที่เดินมั่วๆ ไปคะ เราก็เดินตามหลังเจ้าหญิงเจ้าชายทั้งหลายเห็นเขาเดินไป
กันสรุปว่าเราขึ้นไปคือ ปราสาท และ ป้อมปราการ Bergenhus
ตั้งอยู่ปากทางเข้าท่าเรือในเบอร์เกน เป็นหนึ่งในปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในนอร์เวย์
หอคอย Rosenkrantz
เป็นหอคอยที่ตั้งจากชื่อผู้ว่าราชการ Erik Rosenkrantz ในช่วงการปกครองของเขา
หอถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมและโครงสร้างที่เก่าแก่แบบของหอคอยในยุคกลาง
ที่เรียกว่า "Keep by the Sea" สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ แมกนัส ลอว์แมนเดอร์
Haakon ฮอลล์ เป็นห้องโถงหินยุคกลาง อายุกว่า 750 ปี ห้องโถงถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางของศตวรรษที่13
ในรัชสมัยของกษัตริย์ Håkonsson เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์เกน ถูกสร้างขึ้นแทนโครงสร้างไม้เก่า
ในปัจจุบันก็ยังใช้เป็นที่รับประทานอาหารมื้อค่ำสำหรับเชื้อพระวงศ์ และยังมีประวัติศาตร์แบร์เกนให้เรียนรู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์
เนื่องด้วยความที่เราไม่รู้จับพลับจับถูเดินไปไม่มีข้อมูลไรเลยถ่ายมาแค่ครึ่งเดียวจัดองค์ประกอบภาพได้เยี่ยมมาก
อยากเห็นภาพเต็มลองไปหาภาพเต็มในเน็ตได้นะคะ มันจะคล้ายๆอาคารร้าน สตารบัค ใกล้ๆกับตลาดปลาเลยค่ะ
ร้านสตาร์บั๊คที่ แบร์เกน เป็นอีกหนึ่งร้านสตาร์บั๊คที่สวยมาก ตึกสวยมากคะ
รูปปั้นของ King Haakon VII
จบละค่ะ ส่งด้วยภาพสุดท้าย ภาพนี้มีเรื่องราว คือเราเดินเข้ามาในตัวปราสาท ประจวบเหมากับพี่นักดนตรี
กำลัง เป่าแตรต้อนรับผู้ใหญ่ของที่นั่นตรงประตูโถง เราไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เดินข้ามประตูเข้ามาผ่ากลางงานต้อนรับสิค่ะ
คนที่จะถูกต้อนรับ เดินตามหลังมา นึกว่าเป่าแตรต้อนรับเราซะอีก พุ่งตัวแทบจะไม่ทัน แอบเขิลนิส หะๆๆ
______________________________________________________________________
เรายัง คิดถึง แบร์เกน จริงๆนะคะ : ) ถึงแม้ทุกอย่างจะโหดร้ายในเรื่องของค่าเงินก็เหอะ
การเดินทางทุกทริป ล้วนแต่ทำให้เรามองเห็นคะว่า บ้านเมือง จังหวัด หรือชุมชน ที่เราอยู่อาศัยแตกต่างจาก ที่อื่นอย่างไร
นักท่องเที่ยวก็ล้วนแต่ต้องการไปสัมผัสสิ่งที่มันแตกต่าง และเป็นออริจินอล ต้นแบบที่แท้จริง การรักษาหวงแหน สิ่งที่ตนเองมีอยู่
ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร รักษาให้คงอยู่และพัฒนาให้ดีขึ้น ย่อมเป็นจุดเด่นและเสน่ห์ ของที่แห่งนั้นค่ะ ตอนนี้เมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยว
จำลองมากมายที่สร้างขึ้นมา ส้งเกตุกันไหมคะว่า ไม่ว่าที่ไหนก็ดูคล้ายๆกันไปซะหมดแล้วล่ะ ที่เที่ยวใหม่ๆส่วนมากก็เป็นแหล่งที่สร้างขึ้นมาใหม่
ทำลายธรรมชาติและ เอาสิ่งที่มีเก่าๆทิ้งไป รวมถึงนักท่องเที่ยวที่แห่ระแหงไปตามกระแสจน แน่นไปหมด.... โดยที่ผู้ประกอบการส่วนหนึ่ง
คิดถึงเพียงผลกำไร ในระยะสั้นเท่านั้นลืมคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว.... หวังเสมอว่า สักวันการท่องเที่ยวบ้านเราจะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีคะ
ติดตามเพจของเราได้ที่นี่คะ
https://www.facebook.com/headorderfeet
คิดถึงเสมอ.. แบร์เกน นอร์เวย์ (BERGEN NORWAY) เดินมั่วทั่วเมืองมรดกโลก กินแหลกที่ตลาดปลา เที่ยววันชาตินอร์เวย์
สวัสดีค่ะ วันนี้พอมีเวลา เอาทริปเก่าเก็บมาฝาก เรามีโอกาสแวะเที่ยว เมืองท่าแบร์เกน ประเทศนอร์เวย์
บ้านเมืองเขาสวยงามสะอาด อากาศดี ยังมีความเป็นธรรมชาติ คือเรียกได้ว่า เมืองที่เติบโตขึ้นพร้อมกับธรรมชาติ
ไม่ใช่เมืองที่เติบโตแทนที่ธรรมชาติ แม้ว่าแบร์เกน ถือเป็นเมืองหลวงของนอรืเวย์ตะวันตก และเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
แต่ความดั้งเดิมของเมืองไม่ได้ถูกเข้าแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ความวุ่นวาย เหมือนดั่งเมืองหลวงในหลายๆประเทศ
แบร์เกน จึงได้เป็นหนึ่งใน เก้าเมือง ที่ถูกยกย่องให้เป็น เมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป เมืองมรดกโลก
หากเดินจากท่าเรือประมาณห้านาทีเราจะมาเจอกลุ่มบ้านไม้สมัยเก่าเมือง บริเก็น Bryggen
เป็นบ้านไม้สามชั้น หน้าจั่วและผนังข้างมุงด้วยแผ่นไม้ สีสันสดใส ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของที่นี่
กลุ่มชุมชนนี้เป็นชุมชนโบราณที่มีอายุกว่า 300 ปี บ้านไม้เหล่านี้เคยถูกไฟไหม้หลายครั้ง
แต่ทั้งนั้นก็มีการสร้างซ่อมแซมขึ้นใหม่โดยมีการก่อสร้างและรูปแบบสถาปัตยกรรมคงเดิมไว้
ในปัจจุบันนี้ ตึกรามเหล่านี้ได้กลายเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้
หากมาเยี่ยมเยือนต้องมาถ่ายรูปกับบ้านไม้สีสันสดใส เหล่านี้ค่ะ .. ถัดจากกลุ่มบ้านเหล่านี้เราจะเดินเข้าไปสู่ตัวเมือง
ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของตลาดปลา อันข้นชื่อค่ะ
ตลาดปลา Torget เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเบอร์เกน ที่มีมาแต่ศตวรรษที่ 12 และปัจจุบันตลาดแห่งนี้ก็ยังคงความคึกคักอยู่ตลอดมา
ตลาดตั้งอยู่ริมน้ำตรงใจกลางเมือง ตลาดแห่งนี้เป็นหนึ่งในตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากคะ
เป็นตลาดขายอาหารซีฟู้ดส์หลายประเภท โดยเฉพาะแซลมอนใหญ่และสดมาก อยู่บริเวณกลางเมืองเก่า
มีโต๊ะสำหรับนั่งทาน บรรยากาศคึกคัก และมีเสน่ห์มาก ทุกอย่างปรุงสดๆ เราเลือกอาหารแล้วบอกคนขายเลยว่าเราจะทำอะไร
ผู้คนคึกคักมาค่ะทั้งร้านค้าทั้งนักท่องเที่ยว สามารถหาของทานที่ขึ้นชื่อ เช่น คาเวียร์สดๆ ปลาแฮร์ริ่งดอง แกงกะหรี่ปลา กุ้งล๊อปสเตอร์
หอยนางรมสด เนื้อวาฬและกวางเรนเดียร์ ปูอลาสก้า และอาหารทะเลมากมาย
แกงกระหรี่ปลาหม้อใหญ่ หอมฉุยมากค่ะ
นี่เป็นปูอลาสก้าที่เราลองซื้อมาชิมค่ะ ด้วยความอยาก ราคาแพงเอาการค่ะ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
อ่ออีกอย่างหนึ่งนะคะ น้ำเปล่าที่นี่ ราคาแพงมากกกก บอกเลยคะ เคยซื้อน้ำคะขวดละร้อยกว่าบาทเกือบสองร้อย
ที่นั่นมี เซเว่นนะคะ แนะนำเลยถ้าไป ไปชิมไอสกรีมที่เซเว่นคะ มีท๊อปปิ้งให้ใส่ด้วย
ตลาดปลาจะมีโซนกลางแจ้ง และมีโซนในตึกนะคะ ในตึกนั้นก็จะมีอาหารทะเลวางบนแผง
จัดแต่งสวยงามและดูดีกว่า มีส่วนโต๊ะรัปทานอาหาร เหมือนร้านอาหารเป็นทางการหน่อยค่ะ
ส่วนสินค้าหลักๆจะเหมือนด้านนอกเลยคะแต่ราคาจะสูงกว่า พ่อค้าและชาวบ้านจะซื้ออาหารทะเลสดๆที่ท่าเรือค่ะ
ราคาจะถูกกว่า ถ้าหากมาค้างคืนที่นี่และนอนที่พักที่มีห้องครัว น่าสนใจนะคะจะได้กินแบบเต็มๆไม่ห่วงเรื่องราคา
ส่วนนี่เป็นปลาเซลมอลสเต๊คที่เราลองชิมอยู่โซนด้านใน ราคาสูงกว่าโซนด้านนอกคะ
แต่คอนเฟริม เรื่องความสด อร่อยเนื้อปลาแน่นมาก
ยังคะยังไม่จบ ด้วยความที่เซลมอลสเต็กที่ได้มา มันสุกคะ สั่งแบบไม่สุกมากละนะอยากกินดิบๆ ต่อด้วยนี่ค่ะ ซูชิ อิอิ
นอกจากนี้ยังมีร้านขายผลไม้นะคะ จะเหลือเหรอคะ จัดมิกซ์เบอรี่อีกถ้วย ห้าๆๆๆ
บริเวณตลาดปลาก็จะมีร้านค้าของที่ระลึกค่ะ มากมายให้เลือกตามใจชอบเลย
เดินไปมั่วๆค่ะแล้วเราก็มาเจอ อนุสาวรีย์ นักเดินเรือ แปลแบบนี้ถุกไหม Sailor's Monument
อนุสาวรีย์มีความสูงเจ็ดเมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นโดย Dyre Vaa ในปี 1950
ประกอบด้วย 12 รูปปั้น เป็นผลงานที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ การเดินเรือของชาวนอร์เวย์ แต่สมัยโบราณ
ตามนั้นเลยค่ะที่แจ้งไปด้านต้น ยี่ห้อนี้ถูกสุดแล้วในเซเว่น แทบจะกินขวด พร้อมฝา หะๆๆ
ราคาจำไม่ผิด 180 THB คะ ใช้ค่าเงินเป็น NOK โครนนอร์เวย์
ส่วนร้านนี้คะเจอเข้าจังๆ เดินๆมั่วๆ เขาเขียนป้ายติดเลยว่า ฮอทดอคนที่ยาวที่สุดในโลก เราก็ต้องชิมคะตามสเตป หุๆๆ
เทียบขนาดกับเด็กดูนะคะ คอนเฟริม ว่ายาวกว่าฟุตลองที่เซเว่นบ้านเรา ชัวร์!!!!!!!!!!!!
เรามาเที่ยวต่อกันดีกว่าคะ กระทู้นี่คือเที่ยวเบ็ดเสร็จเลยนะคะ เดินทัวร์มั่ววนไปคร่า จริงๆแล้วบางทีเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร งงๆเดินไป
แต่พอเรามาอ่านข่อมูลที่หลังเอ่อดีแฮะมันเป็นจุดสำคัญที่ต้องแวะเที่ยวด้วย จขกท มีโอกาสได้กลับไปอีกในวันชาติ นอร์เวย์คะ
ขอบอก อลัง มว๊ากกกกก เพราะคนที่นั่นจัดเต็มคะใส่ชุดท้องถิ่น คอนเฟริมค่ะ หน้าตาดีทุกคน โดยเฉพาะเด็กหนุ่ม แฮ่ๆๆ ~_~
นึกว่าอยู่ในสมัยพระเจ้าจอร์ท(จอร์ทไหนก็ไม่รู้ คือถ้าเป็นประเทศไทยจะใช้คำว่า พระเจ้าเหาแทน แต่ขอปรับให้เข้ากับชนชาตินะคะ) ...
คนที่นี่จะพร้อมใจสวมใส่ชุดประจำชาติ ทั้นเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ คะ ด้วยตัวเมืองที่ยังมีสิ่งก่อสร้าง ธรรมชาติ และสถาปัตยกรรม
แบบเดิมอยู่นั้น ในเวลานั้น ทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดไปในยุคสมัยก่อน เหมือนในเทพนิยายฝรั่งอ่ะคะ
เหมือนในเทพนิยายไหมละคะ แค่มีส่วนของ รถยนต์ ยานพาหนะ เข้ามาแทนที่รถม้าสมัยก่อนเท่านั้นเอง
ส่วนงานก็จะใกล้เคียงงานเทศกาลบ้านเรานะคะ มีพาเรท การแสดง เปิดบูธขาย อาหารเครื่องเล่นต่างๆ
งานวัดแบบเมืองผู้ดีนี่เองจ้า แต่บอกได้เลยว่า เหมือนเราไปเที่ยวสวนสนุกใหญ่ๆที่บ้านเราเลย จขกท ลองเล่นเครื่องเล่นหนึ่งดู
ไม่รู้ว่าเรียกอะไร จะเป็นแขนๆแล้วพาไปค้างข้างบนอ่ะคะ กลับหัว โอยหัวใจจะวายคือมันสูงกว่าที่บ้านเรามากๆๆ แล้ว น่ากลัวสุดๆ
ดีที่เอาชีวิตรอดกลับมาไทยได้ 555
+++หลังจากที่เดินมั่วๆ ไปคะ เราก็เดินตามหลังเจ้าหญิงเจ้าชายทั้งหลายเห็นเขาเดินไป
กันสรุปว่าเราขึ้นไปคือ ปราสาท และ ป้อมปราการ Bergenhus
ตั้งอยู่ปากทางเข้าท่าเรือในเบอร์เกน เป็นหนึ่งในปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในนอร์เวย์
หอคอย Rosenkrantz
เป็นหอคอยที่ตั้งจากชื่อผู้ว่าราชการ Erik Rosenkrantz ในช่วงการปกครองของเขา
หอถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมและโครงสร้างที่เก่าแก่แบบของหอคอยในยุคกลาง
ที่เรียกว่า "Keep by the Sea" สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ แมกนัส ลอว์แมนเดอร์
Haakon ฮอลล์ เป็นห้องโถงหินยุคกลาง อายุกว่า 750 ปี ห้องโถงถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางของศตวรรษที่13
ในรัชสมัยของกษัตริย์ Håkonsson เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์เกน ถูกสร้างขึ้นแทนโครงสร้างไม้เก่า
ในปัจจุบันก็ยังใช้เป็นที่รับประทานอาหารมื้อค่ำสำหรับเชื้อพระวงศ์ และยังมีประวัติศาตร์แบร์เกนให้เรียนรู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์
เนื่องด้วยความที่เราไม่รู้จับพลับจับถูเดินไปไม่มีข้อมูลไรเลยถ่ายมาแค่ครึ่งเดียวจัดองค์ประกอบภาพได้เยี่ยมมาก
อยากเห็นภาพเต็มลองไปหาภาพเต็มในเน็ตได้นะคะ มันจะคล้ายๆอาคารร้าน สตารบัค ใกล้ๆกับตลาดปลาเลยค่ะ
ร้านสตาร์บั๊คที่ แบร์เกน เป็นอีกหนึ่งร้านสตาร์บั๊คที่สวยมาก ตึกสวยมากคะ
รูปปั้นของ King Haakon VII
จบละค่ะ ส่งด้วยภาพสุดท้าย ภาพนี้มีเรื่องราว คือเราเดินเข้ามาในตัวปราสาท ประจวบเหมากับพี่นักดนตรี
กำลัง เป่าแตรต้อนรับผู้ใหญ่ของที่นั่นตรงประตูโถง เราไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เดินข้ามประตูเข้ามาผ่ากลางงานต้อนรับสิค่ะ
คนที่จะถูกต้อนรับ เดินตามหลังมา นึกว่าเป่าแตรต้อนรับเราซะอีก พุ่งตัวแทบจะไม่ทัน แอบเขิลนิส หะๆๆ
______________________________________________________________________
เรายัง คิดถึง แบร์เกน จริงๆนะคะ : ) ถึงแม้ทุกอย่างจะโหดร้ายในเรื่องของค่าเงินก็เหอะ
การเดินทางทุกทริป ล้วนแต่ทำให้เรามองเห็นคะว่า บ้านเมือง จังหวัด หรือชุมชน ที่เราอยู่อาศัยแตกต่างจาก ที่อื่นอย่างไร
นักท่องเที่ยวก็ล้วนแต่ต้องการไปสัมผัสสิ่งที่มันแตกต่าง และเป็นออริจินอล ต้นแบบที่แท้จริง การรักษาหวงแหน สิ่งที่ตนเองมีอยู่
ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร รักษาให้คงอยู่และพัฒนาให้ดีขึ้น ย่อมเป็นจุดเด่นและเสน่ห์ ของที่แห่งนั้นค่ะ ตอนนี้เมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยว
จำลองมากมายที่สร้างขึ้นมา ส้งเกตุกันไหมคะว่า ไม่ว่าที่ไหนก็ดูคล้ายๆกันไปซะหมดแล้วล่ะ ที่เที่ยวใหม่ๆส่วนมากก็เป็นแหล่งที่สร้างขึ้นมาใหม่
ทำลายธรรมชาติและ เอาสิ่งที่มีเก่าๆทิ้งไป รวมถึงนักท่องเที่ยวที่แห่ระแหงไปตามกระแสจน แน่นไปหมด.... โดยที่ผู้ประกอบการส่วนหนึ่ง
คิดถึงเพียงผลกำไร ในระยะสั้นเท่านั้นลืมคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว.... หวังเสมอว่า สักวันการท่องเที่ยวบ้านเราจะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีคะ
ติดตามเพจของเราได้ที่นี่คะ https://www.facebook.com/headorderfeet