วัยวุ่นลุ้นรัก(หนุ่ม)นักศึกษา ตอนที่ 1

พ่อ พ่อ เดียวก่อนพ่ออย่าเพิ่งทิ้งผมไป พ่อ...............

น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งทียังคงหลับตาอยู่ ดวงหน้าที่ปกติดูมีร่องรอยความโศกเศร้า ดูเหงาไปอีก

คนร่างบางเขย่าตัวคนตัวโตพร้อมกับเรียกให้ตื่นจากฝันร้าย

"อ้วน อ้วน เป็นอะไรหรือเปล่า"

คนร่างบางเขย่าตัวปลุกคนร่างหนาขึ้นจากการหลับฝัน คนที่เพิ่งตื่นจากหลับฝันคว้าตัวคนร่างบางมากอดเอาไว้แน่น

เหมือนกับกลัวว่าอีกคนหนึ่งจะหนีเขาไปไกลแสนไกล

"ฝันถึงพ่ออีกแล้วล่ะสิ"

"ครับ" "หวานพรุ่งนี้ไปทำบุญให้พ่อกันนะคับ อ้วนคิดถึงพ่อ"

"เอาสิก็นานแล้วนะที่อ้วนไม่ได้ไปทำบุญหาท่านพรุ่งนี้ก็ตื่นแต่เข้าไปทำบุญสักหน่อยอ้วนจะได้สบายใจ"

"นอนต่อเถอะ" ร่างบางบอกกับคนข้างๆ"

คนโตตัวพยักหน้าแบบว่าง่าย

ผละจากอ้อมกอดและก็หลับตาลงไปอย่างง่ายดาย

แต่คนที่บอกให้คนร่างหนานอนตัวเองกลับลืมตาโพลงในความมืดมิดนั้นเสียเอง

ย้อนกลับไปในตอนแรกที่เข้าหอพักแล้วรู้ว่าใครเป็นรูมเมท

หนุ่มผมสกินเฮดร่างหนานั้นไม่เคยปริปากอะไรเลยเกี่ยวกับที่บ้านเลย

เพราะต่างคนต่างเรียนกันคนละสาขาวิชาเลยเข้าออกห้องกันคนละเวลา

เวลาจะเจอกันก็เฉพาะหลังเลิกเรียนแล้วเท่านั้น

แต่พอกลับมาถึงห้องคนหนึ่งอยู่มุมประจำของเขาคือนั่งวาดรูปตามสาขาวิชาที่เขาเรียนหนุ่มตัวโตเรียนศิลปกรรม

และชอบขีดๆเขียนอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามประสาของคนไม่ค่อยพูด

แต่ใช้พู่กันตวัดและระบายสิ่งต่างๆสะท้อนลงมาในผืนผ้าใบแทน

ส่วนอีกคนก็เป็นคนช่างพูดแต่พอเจอรูมเมทที่เงียบถามคำตอบคำมันก็ทำให้เขาต้องเงียบไป

บรรยากาศในห้องดูอึมครึมพิลึกแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต่างคนต่างอยู่ในส่วนของตัวเอง

หอพักนักศึกษามีเตียงขนาดสอง3.5  2 เตียงตู้เสื้อผ้าสองใบ โต๊ะเขียนหนังสือและระเบียงหลังห้องพื้นที่แค่ไม่กี่ตารางเมตร

พอเอาข้าวของมาวางและคนอีก 2 คนเข้าไปอยู่อาศัยก็และดูแคบไปถนัดตา
  
คนร่างบางพยายามจะจัดสรรพื้นที่ให้กว้างและสะดวกที่สุดโดยอีกคนก็

ไม่ได้ปริปากอะไรแถมยังไม่ช่วยอีกต่างหากแต่เมื่อขยับข้าวของไม่ไหวก็ทิ้งขวางไว้กลางห้องแบบนั้น

อีกคนหนึ่งก็คงมองดูด้วยความรำคาญสักพักก็ถามขึ้นมาทำลายบรรยากาศความเงียบไปทันที

"จะเอาไปไว้ตรงไหน" น้ำเสียงไม่ได้บอกบอกว่ารำคาญเจือไปด้วยความเอื้ออาทรนิดนิด

อีกคนหนึ่งที่เหนื่อยล้าเต็มทีก็ชี้มือไปที่มุมห้องซึ่งพอขยับดู้เสื้อผ้าออกที่กั้นระหว่างเตียงสองเตียง

พื้นที่ก็ดูกว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิมขึ้นมาทันที

"จะให้ย้ายอะไรอีกไหม" คนตัวโตถามต่อ

คนร่างบางชี้ไปที่โตีะเขียนหนังสือ

"พูดบ้างก็ได้นะ เอาแต่ชี้นิ้วสั่งที่บ้านไม่สอนหรอว่าเวลาขอความช่วยเหลือจากคนอื่นให้พูดขอร้องดีดี"

คนตัวโตกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบไม่ได้ตำหนิอะไรแต่ก็ยกโต๊ะเขียนหนังสือไปด้วยซึ่งตอนนี้ถูกยกมาวางชิดกับหัวเตียงแทน

ระหว่างเตียงนอนสองเตียงซึ่งพื้นที่ด้านซ้ายเป็นของคนตัวโตส่วนคนร่างบางอยู่ด้านขวา

ตู้เสื้อผ้าถูกนำไปชิดกันตรงใกล้ประตูห้องน้ำแทน

"จะไปซื้อน้ำเอาอะไรมั้ย" คนร่างบางถาม คนตัวโตยังยกโต๊ะเขียนหนังสืออยู่ไม่ได้ฟัง

คนร่างบางก็คว้ากระเป๋าสตางค์แล้วเดินออกห้องไปก่อนประตูจะปิดลง "เอานมเย็นให้แก้วนึงนะ"

ร่างบางยิ้มมุมปากก่อนจะเดินลงบันไดไปเพื่อซื้อน้ำที่ร้านค้าหน้ามหาวิทยาลัย

ความร้อนจากการจัดข้าวของในห้องเรียกเหงือได้ไม่น้อย

คนเดินไปซื้อน้ำบ่นพึมพำในใจตัวเหมือนยักษ์แต่กินนมเย็น

คิดแล้วก็ยิ้มมุมปากเพราะมันช่างขัดกับบุคลิคของอีกคนเหลือเกิน

"ป้าครับเอาชาเขียวหนึ่งแก้ว แล้วก็นมเย็นแก้วหนึ่ง" คนร่างบางสั่งเครื่องดื่มของตัวเองแล้วก็สั่งให้อีกคน

"มาคนเดียวแต่สั่งสองแก้วแบบนี้แสดงว่าสั่งให้แฟนแน่นอนเลย นมเย็นเสียด้วย"

ป้าคนขายน้ำแซว

"ป่าวหรอกป้าให้รูมเมทนะครับ" "อ้าวหรอป้านึกว่าให้แฟนถ้าน้องนุ๊กเกอรืมีแฟนคงน่ารักดีนะป้าว่า"

"หน้าตาเรานี้สาวๆคงชอบเยอะเลยแหละ" ป้ายังคงคุยฟุ้งต่อแต่มือก็สาละวนชงเครื่องดื่มไปด้วย

"ไม่หรอกครับป้ายังเด็กกันอยู่อีกนานครับ"คนฟังตอบไปแบบเลี่ยงๆ

คนร่างบางสนิทสนมกับป้าคนขายน้ำเพราะว่าเค้าได้มาฝากท้องตั้งแต่มาสอบเข้าเรียนที่นี่แล้ว

เลยทำให้สนิทสนมกันดีบวกกับความอัธยาศัยดีของนุ๊กเกอร์ทำให้เป็นที่รักของคนที่พบเจอได้ไม่ยาก

แต้กับรูมเมทของเขาล่ะ ถามคำตอบคำ

ก่อนหน้าจะมาเป็นรูมเมทกันสองคนนี้ก็เคยเจอกันมาก่อนแล้วในวันเปิดภาคเรียน

นุ๊กเกอร์ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวขาวตาโตและจมุกโด่งรับกับปากสีแดงระเรื่อนั้นทำให้ชวนมองเป็นพิเศษ

เขามาถึงมหาวิทยาลัยก่อนเวลาสักพักแล้วก็เดินเล่นชมบรรยากาศรอบมหาวิทยาลั กำลังคิดอะไรอยู่เพลินๆฟ้าครึ้มนิดหน่อย

บรรยากาศเช้านี้ก็ดูสดชื่นในต้นฤดูฝน หยดมีละอองหยดน้ำเกาะบนใบไม้ปลายหญ้าสีเขียวสดใสสะอาดตาชวนมองชวนชม

จู่ๆฝนก็เทกระจาดลงมานักศึกษาที่เดินมาเมื่อตะกี้ต่างวิ่งกรูหลบฝนกันใหญ่ตามสองข้างทางเดินตอนนี้

นักศึกษาหลายคนก็รีบเบียดเสียดกันหลบฝนตามศาลานั่งพักสองข้างทางเดินก็เหลือศาลาหลังสุดท้าย

ตรงหน้าทางเชื่อมขึ้นหอสมุดที่ยังว่างอยู่นุ๊กเกอร์ก็รีบวิ่งไปอีกที

พร้อมกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่มัวแต่ชื่นชอบบบรยากาศรอบมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน

พอเข้ามาคนที่มาก็นหน้าก็นั่งลงก่อนซึ่งอีกคนก็ตามเขามาก็เปียกไม่น้อยไปกว่ากัน

"นึกจะตกก็ตกคน" ตามมาทีหลังบ่นอุบ

ส่วนกลุ่มที่มาก่อนหน้าก็เบียดเสียดกันหาที่นั่งเพื่อหลบสายฝนที่โปรยปรายลงมาและดูท่าว่าจะหนักเอาการ

"โดนรับน้องซะแล้ว"หนึ่งในกลุ่มที่มาก่อนหน้าบ่นปนรอยยิ้มแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีจริงจังอะไรมากนักออกแนวตลกขบขันมากกว่า

บรรยากาศของความเงียบเริ่มปกคลุมในพื้นที่เพราะต่างคนก็เป็นแปลกหน้าซึ่งกันและกันแทบทั้งหมด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่