Nerve (2016)
Directors: Henry Joost, Ariel Schulman
ถ้าเราจะจำกัดความใน Nerve แบบสั้นๆ คือ 13 เกมสยองเวอร์ชั่นโลกสวย หนังมันพูดถึง "อันตรายจากเทคโนโลยี" แต่สุดท้ายแล้วหนังก็พยายามสั่งสอนเหล่าบรรดาวัยรุ่นและเกรียนคีย์บอร์ดว่าอย่าดีแต่ใช้ "เครื่องมือตัดสินชีวิตคนอื่น" ถ้าคนเป็นคนจริง จงก้าวออกมาแล้ว "ลงมือทำ" ด้วยตัวเอง
พูดถึงคุณงามความดีของหนังก็จะพบว่าเอ็มม่า โรเบิร์ตและเดฟ ฟรังโก้นั้นมีเสน่ห์และเข้าคู่กันได้อย่างน่ารักน่าชัง ฝ่ายชายก็ขโมยเสน่ห์ได้เยอะ แต่ที่ตลกก็คือการ "ก้าวออกจากจุดปลอดภัย" ของนางเอกมาลงเล่นเกม Nerve เพราะรู้สึกอยากพิสูจน์คำท้าทายนั้นแสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนในชีวิตของวัยรุ่นที่มักเป็นเดือดเป็นร้อนกับคำพูดของเพื่อนตัวเองเป็นหลัก ดูเบาบางไปนิดในความรู้สึกเรา
ถ้ามองตามตรรกะแล้ว จะพบว่าทุกอย่างของหนังดำเนินเรื่องราวผ่านสายตาและประสบการณ์ของวี (เอ็มม่า โรเบิร์ต) การเลือกตัดสินใจ ทุกอย่างนั้นตัวละครนี้พาเราไปสำรวจชีวิตปีสุดท้ายของช่วงชีวิตมัธยม แม้ชีวิตของเธอจะไม่ได้โลดโผนโจนทะยานนักแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราเห็นว่าตัวละครนี้มี "เป้าหมายของชีวิต" อย่างแท้จริงเมื่อเทียบกับสาวป๊อปปูล่าอย่าง "ซิดนีย์" (เอมิลี่ เมดีย์) ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีคนสนใจ ไม่ว่าจะในโลกแห่งความจริงหรือในโลกไซเบอร์ (เกม Nerve ก็เช่นเดียวกัน)
เมื่อลองวิเคราะห์จากบริบทของหนังแล้วจะเห็นได้ว่าการที่วีลงสมัครเกม Nerve ในฐานะ "ผู้เล่น" แล้วบรรดาผู้ชม "หลงรัก" เธอกับเอียน (เดฟ ฟรังโก้) ก็เพราะความเป็นธรรมชาติของเธอ ความไม่ประดิษฐ์และเป็นสาวน้อยใจไม่กล้าเท่าไหร่ (พูดง่ายๆหรือเธอดูเหมือนตัวละครมวยรอง) ที่พัฒนาตัวเองในทุกภารกิจ
"เธอมันก็แค่พวกป๊อปปูล่าในสมัยมัธยม แต่ในขณะที่ฉันก้าวไปข้างหน้า เธอก็จะพบว่าวันหนึ่งเธอก็แก่แล้วก็มีผัวอยู่ในเมืองเก่าๆ กับผู้ชายคนเดิมๆ" คือคำกล่าวที่เจ็บแสบที่สุดเมื่อเธอกล่าวประโยคนี้กับเพื่อนซิดนีย์หลังจากที่ทะเลาะกันครั้งใหญ่ และเราเชื่อว่าประโยคแบบนี้หลายคนที่ผ่านช่วงชีวิต "แย่ๆ" ในช่วงมัธยมมา คงเข้าใจดีว่าจริงๆแล้วการเป็นคนดัง ไม่สำคัญเท่ากับการ "รู้ตัวตน" ของตัวเอง
ชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ คอนเสิร์ต ละครเวที พากิน พาเที่ยว ฝากตามมาเป็นเมาท์มอยพูดคุยกันครับ
https://www.facebook.com/PrettyPlaSalid/
[SR] Nerve - เป็นคนดัง ไม่สำคัญเท่ากับการ "รู้ตัวตน" ของตัวเอง
Nerve (2016)
Directors: Henry Joost, Ariel Schulman
ถ้าเราจะจำกัดความใน Nerve แบบสั้นๆ คือ 13 เกมสยองเวอร์ชั่นโลกสวย หนังมันพูดถึง "อันตรายจากเทคโนโลยี" แต่สุดท้ายแล้วหนังก็พยายามสั่งสอนเหล่าบรรดาวัยรุ่นและเกรียนคีย์บอร์ดว่าอย่าดีแต่ใช้ "เครื่องมือตัดสินชีวิตคนอื่น" ถ้าคนเป็นคนจริง จงก้าวออกมาแล้ว "ลงมือทำ" ด้วยตัวเอง
พูดถึงคุณงามความดีของหนังก็จะพบว่าเอ็มม่า โรเบิร์ตและเดฟ ฟรังโก้นั้นมีเสน่ห์และเข้าคู่กันได้อย่างน่ารักน่าชัง ฝ่ายชายก็ขโมยเสน่ห์ได้เยอะ แต่ที่ตลกก็คือการ "ก้าวออกจากจุดปลอดภัย" ของนางเอกมาลงเล่นเกม Nerve เพราะรู้สึกอยากพิสูจน์คำท้าทายนั้นแสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนในชีวิตของวัยรุ่นที่มักเป็นเดือดเป็นร้อนกับคำพูดของเพื่อนตัวเองเป็นหลัก ดูเบาบางไปนิดในความรู้สึกเรา
ถ้ามองตามตรรกะแล้ว จะพบว่าทุกอย่างของหนังดำเนินเรื่องราวผ่านสายตาและประสบการณ์ของวี (เอ็มม่า โรเบิร์ต) การเลือกตัดสินใจ ทุกอย่างนั้นตัวละครนี้พาเราไปสำรวจชีวิตปีสุดท้ายของช่วงชีวิตมัธยม แม้ชีวิตของเธอจะไม่ได้โลดโผนโจนทะยานนักแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราเห็นว่าตัวละครนี้มี "เป้าหมายของชีวิต" อย่างแท้จริงเมื่อเทียบกับสาวป๊อปปูล่าอย่าง "ซิดนีย์" (เอมิลี่ เมดีย์) ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีคนสนใจ ไม่ว่าจะในโลกแห่งความจริงหรือในโลกไซเบอร์ (เกม Nerve ก็เช่นเดียวกัน)
เมื่อลองวิเคราะห์จากบริบทของหนังแล้วจะเห็นได้ว่าการที่วีลงสมัครเกม Nerve ในฐานะ "ผู้เล่น" แล้วบรรดาผู้ชม "หลงรัก" เธอกับเอียน (เดฟ ฟรังโก้) ก็เพราะความเป็นธรรมชาติของเธอ ความไม่ประดิษฐ์และเป็นสาวน้อยใจไม่กล้าเท่าไหร่ (พูดง่ายๆหรือเธอดูเหมือนตัวละครมวยรอง) ที่พัฒนาตัวเองในทุกภารกิจ
"เธอมันก็แค่พวกป๊อปปูล่าในสมัยมัธยม แต่ในขณะที่ฉันก้าวไปข้างหน้า เธอก็จะพบว่าวันหนึ่งเธอก็แก่แล้วก็มีผัวอยู่ในเมืองเก่าๆ กับผู้ชายคนเดิมๆ" คือคำกล่าวที่เจ็บแสบที่สุดเมื่อเธอกล่าวประโยคนี้กับเพื่อนซิดนีย์หลังจากที่ทะเลาะกันครั้งใหญ่ และเราเชื่อว่าประโยคแบบนี้หลายคนที่ผ่านช่วงชีวิต "แย่ๆ" ในช่วงมัธยมมา คงเข้าใจดีว่าจริงๆแล้วการเป็นคนดัง ไม่สำคัญเท่ากับการ "รู้ตัวตน" ของตัวเอง
ชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ คอนเสิร์ต ละครเวที พากิน พาเที่ยว ฝากตามมาเป็นเมาท์มอยพูดคุยกันครับ https://www.facebook.com/PrettyPlaSalid/