สำหรับแฟนวอลเล่ย์ทีมจีนนะคะ (บทสัมพาษณ์สั้นๆของหลางผิง - วันรุ่งขึ้นหลังจากเกมส์การแข่งขันเมื่อวาน)

แปลเองค่ะ ถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ขอโทษด้วยนะคะ
อยากเอามาแชร์ คือชอบหลางผิงมากๆ และเชียร์จีนทีมเดียวในใจ 555
บทความตามเว็บนี้เลยค่ะ
http://mp.weixin.qq.com/s?__biz=MzA4OTEyNzgwMA==&mid=2649558002&idx=1&sn=0894eb80245a7e1b77833b2d6921342e&scene=0#wechat_redirect

หลางผิง: การแข่งขันเมื่อวานสภาพจิตใจดีมากๆ รอบน๊อคเอ๊า โอกาสชนะก็ไม่มาก กัดได้หนึ่งคำก็คือหนึ่งคำ แต่จะยอมให้บราซิลชนะพวกเราไปง่ายๆ ไม่ได้ ตอนเตรียมทีมได้คุยกับนักกีฬาว่าฝีมือของพวกเราเป็นรอง แต่จะยอมให้พวกเขารังแกเราง่ายๆ ไม่ได้ ตัวสำรองทุกคนที่เปลี่ยนลงไปคือเสือตัวหนึ่ง ปล่อยลงไปคือต้องกัด
ผลกลับกลายเป็นว่าไม่ได้แค่กัด แต่ได้กินบราซิลไปแล้วทั้งเป็น

หลางผิงพูดถึงบรรยากาศในสนาม : คึกครื้นมาก แต่แฟนวอลเล่ย์บอลชาวบราซิลต้องไม่ได้เตรียมใจไว้แน่ๆ พวกเขาคิดว่าฟอร์มของทีมเราไม่ดี และนี่เป็นแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขารอไปถึงนัดชิงชนะเลิศ

พูดถึงความได้เปรียบของเจ้าภาพ หลางผิงมีประสบการณ์มาก และได้แชร์ให้ลูกทีมว่า : ฉันและนักกีฬาเก่า  ผ่านการเป็นแชมป์รายการใหญ่ๆมา 3 ครั้ง ล้วนแต่ผ่านเกมส์ที่เล่นกับเจ้าภาพทั้งนั้น บราซิลเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาคงคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะเล่นได้ดีขนาดนี้    
ในการแข่งขันเราต้องสร้างความกดดันให้บราซิล เมื่อถึงระดับหนึ่งจะทำให้คู่แข่งรน เราจะกลัวอะไร เกมส์ที่ผ่านมาแพ้มาขนาดนี้แล้ว จะกลัวอะไรอีก บราซิลคิดไม่ถึงว่าจะเข้าไม่ถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย พวกเขากำลังฝันถึงแชมป์ ดังนั้นแค่ผลักความกดดันไปให้ถึงระดับหนึ่ง โอกาสก็จะเป็นของเรา และเขาจะหลุดเอง
ผลคือ เราทำให้ดี และทำให้บราซิลหลุด เซตแรกบราซิลเสริฟดีและแรง ลูกเสริฟของบราซิลเหมือนกระสุน บอลรับก็ทำได้ดี แต่ตอนท้ายพวกเราได้สร้างแรงกดดันกลับให้บราซิล ทำให้บราซิลเริ่มผิดพลาดบ้าง

ถามถึงเซตสุดท้ายแต้มที่ 14-13 ตอนขอเวลานอกคุยอะไรกับลูกทีม
หลางผิง : บอกเว่ยชิวเย่ถ้าบอลเข้าจุดให้ส่งใคร และถ้าไม่เข้าจุดให้ส่งให้ใคร ต้องบอกให้ละเอียด และยังบอกจูถิงให้เตรียมตัวให้ดี ลูกนี้ต้องให้จูถิง / จูถิงตอบรับ โอเค ฉันเข้าใจ / นอกจากนี้ขอเวลานอกก็เพื่อทำลายจังหวะของฝ่ายตรงข้าม หลังจากลงสนามพวกเขาต้องไม่กล้าเสี่ยงหวังผลจากการเสริฟ มันเป็นแต้มสุดท้ายแล้ว
สรุปแล้วมันคือเกมส์ของจิตวิทยา

พูดถึงทุกครั้งที่นักกีฬาจีนเสริฟจะมีเสียงโห่ หลางผิงบอกว่ามั่นใจว่าไม่สามารถรบกวนสมาธิของลูกทีมได้
หลางผิง: ฉันบอกพวกเขาว่ายิ่งเสียงโห่ดังเท่าไหร่ ฉันจะยิ่งเสริฟให้ดีมากขึ้น
นอกจากนี้หลางผิงยังบอกกับทุกคนว่า การถูกรายล้อมไปด้วยกองเชียร์เจ้าภาพ จนทำให้แฟนวอลเล่ย์จีนที่เข้ามาเชียร์ในสนามนั้นแทบไม่มีตัวตน แต่นักกีฬาทั้ง 6 คนที่อยู่ในสนามนั้นอย่าได้รู้สีกโดดเดี่ยว เรายังมีแฟนวอลเล่ย์อีกตั้งเท่าไหร่ ไม่อยากจะโชว์แต่อย่างน้อยก็มากกว่า 100 ล้านคน พวกเขากำลังเชียร์เรา พวกเราไม่ได้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว

ริโอเกมส์ครั้งนี้มันคือบททดสอบ ทุกอย่างคือประสบการณ์ เจอกับเรื่องที่ยากลำบากก็เป็นเรื่องที่ดี ประสบการณ์ที่ไม่สวยหรูก็ต้องเก็บสะสมไว้
กล่าวถึงตรงนี้ หลางผิงพูดถึงนักกีฬาที่เข้าร่วมรายการแข่งขันระดับโลกเป็นครั้งแรกนั่นคือกงเซียงหยู
หลางผิง : เสี่ยวหยูมาถึงริโอลงแข่งไปแค่ 2-3 เกมส์แต่ร้องไห้ไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ฉันถามเขาว่าร้องเพราะคิดว่าฉันคิดผิดที่เอาเขามาใช่ไหม ฉันบอกกับนักกีฬาใหม่ทุกคนว่า คุณมีจุดเด่น พวกเราต้องการคุณจึงเอาคุณมา และคุณคือความหวังของประเทศ แพ้แค่ไม่กี่ครั้งก็คือการฝึกฝน ฉันและนักกีฬาเก่าแพ้มาเยอะ แพ้แล้วคุณจะมีแรงกดดัน ไม่ใช่แพ้แค่ไม่กี่เกมส์ไม่เป็นไร คุณต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ดีกว่านี้ ต้องมีสปิริตไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นแล้วฉันจึงพูดกับเขา ฉันเชื่อว่าเขาจะจำมันไว้ ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ หลังจากนี้เมื่อเขาโตขึ้น มีความรับผิดชอบเยอะขึ้น ต้องเป็นตัวหลักให้รุ่นน้อง เขาจะเป็นหลักได้ดี เพราะมีประสบการณ์มาก่อน เขาจะสอนนักกีฬาใหม่ได้ว่าจะผ่านมันไปได้ยังไง นี่คือเรื่องที่สำคัญ
ใครจะไม่เคยแพ้ คุณยังไม่มีความสามารถมากขนาดนั้น ฟอร์มก็ไม่นิ่ง ฝีมือก็ยังไม่แกร่งกล้า วิธีแก้ไขปัญหายังไม่ถูก การแพ้เป็นเรื่องธรรมดา ใช้การแพ้และการชนะค่อยๆเติบโตไปกับมัน อันนี้แหละคือประสบการณ์ที่ล้ำค่า สิ่งพวกนี้หาไม่ได้จากการฝึกซ้อม ต้องการแข่งขันระดับใหญ่ ที่มีช่วงเวลาที่กดดันอย่างมากถึงจะเก็บสะสมประการณ์ตรงนั้นมาได้ พวกเรามักพูดว่าประสบการณ์ของนักกีฬาเก่านั้นล้ำค่ามาก มันคือประการณ์ของเกมส์ใหญ่ๆ แบบนี้

นักกีฬาเก่าที่เลือกมาในครั้งนี้ เพื่อใช้ในช่วงเวลาที่ทีมประสบปัญหาที่ยากลำบาก
หลางผิง : นักกีฬาเก่าฟอร์มในครั้งนี้ถือว่าไม่เลว พวกเขาได้ช่วยประคองนักกีฬาน้องใหม่ พวกเราทุกคนเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ช่วยกันฝ่าฟันความยากลำบาก นักกีฬาทั้งทีม ตอนที่ดีสามารถรวมกันเป็นเชือกหนึ่งเส้น ทุกคนเดินไปด้วยกัน พบเจออุปสรรคก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อุปสรรคก็เป็นสิ่งลำค่าเช่นกัน

หลังจากพ่ายแพ้ทุกคนมีบ่นบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ห้ามคิดว่าเป็นคุณหรือฉัน ต้องเป็นพวกเรา ต้องรับผิดชอบกันทุกคน ทุกคนแข่งขันด้วยกันไม่ใช่คนใดคนหนึ่งสู้อยู่คนเดียว ไม่ใช่พบเจอปัญหาก็แบกไว้คนเดียว สนับสนุนซึ่งกันและกัน ทดแทนซึ่งกันและกัน เล่นไม่ดี ไม่เป็นไรเอาใหม่ ช่วยกันผลักไปข้างหน้า เล่นจนถึงจุดที่ลืมตัวเองไปเลย นั่นและคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

เกมส์ที่จะมาถึง
หลางผิง : เกมส์ยังไม่จบ เรายังเหลืออีก 2 แมท เรื่องเทคนิคค่อยๆสั่งสมเพิ่มพูนได้ แต่แพสชั่นในเกมส์และความมุ่งมั่นต้องรักษาไว้ ในรอบ 4 ทีมสุดท้ายเราเป็นที่ 4 อีก 3 ทีมที่เหลือเป็นทีมที่เราเคยแพ้ไปแล้วทั้งนั้น ถึงตอนนี้นาทีนี้เราเริ่มจาก 0 เพื่อปีนขึ้นไป ขอแค่มีความหวังแม้จะแค่ 1% เราก็จะใช้ความพยายาม 100% เพื่อทำมันให้เป็นจริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่