เเบกเป้..นอนเล

             สถานที่หลายๆเเห่งที่คิดว่าเหมาะเเก่การพักผ่อน บรรยากาศเงียบสงบ คงหนีไม่พ้นทะเล ทะเลที่หาดทรายเป็นสีขาว น้ำใสเห็นพื้นทราย ผู้คนไม่วุ่นวาย หลายๆคนเลือกที่จะไปทะเลทางใต้ของประเทศ  ทะเลใต้มีหลายๆที่ที่สวยจริงๆ เราเองก็ยังอยากไป เเต่ข้อจำกัดในการเดินทางของเราค่อนข้างเยอะ คือว่า...เรามีเวลาเที่ยวเเค่สองวัน คือวันเสาร์-อาทิตย์ !!!!  วันหยุดของทุกๆคนเเน่นอนนั่นก็เป็นวันหยุดของเราเช่นกัน ด้วยระยะเวลาที่มีน้อย การเดินทางไปท่องทะเลใต้คงเป็นเรื่องยากมากๆ เราจึงมุ่งเปลี่ยนประเด็นไปทะเลใกล้ๆล่ะกัน...ใกล้ๆของเรานี่..ใกล้ชลบุรี.... เพราะเราอยู่ชลบุรี ^^  เป้าหมายของเราเลยเลือกทะเลแถวสัตหีบ อยากหนีความวุ่นวายในเมืองไปดูดดื่มธรรมชาติ เราเลยตกลงกับเพื่อนร่วมชะตาว่าเราจะเเบกเป้ไปนอนทะเล ที่ "หาดทรายเเก้ว" กัน





    หาดทรายเเก้วเป็นหาดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก เป็นหาดทรายที่อยู่ในเขตของทหารเรือ (โรงเรียนชุมพลทหารเรือ) จะต้องนั่งรถข้ามเขาไปอีกฝากหนึ่งของเขตทหาร  ที่นี่งดให้นักท่องเที่ยวประกอบอาหาร หรือปิ้งย่างบริเวณหาด เเต่สามารถนำอาหารขึ้นไปทานได้ ซึ่งไม่เป็นอุปสรรคกับทริปของเรา เราออกจากชลบุรีประมาณ 11 โมงกว่าๆ มีเเค่กระเป๋าเป้คนละใบ ก่อนเราจะไปหาดพวกเราเเวะตลาดเเสมสาร ซื้อกุ้ง หมึก หอย ที่นั่น
เค้ามีบริการนึ่ง ย่างให้เลยนะ เรียกได้ว่าตุนเสบียงไว้สำหรับคืนนี้เลย พูดได้เลยว่าสดทุกอย่างจริงๆ (พวกเราถึงหาดประมาณบ่ายโมงกว่าๆ นั่งดื่มนั่งกิน ช่วงนี้มองฝรั่งเดินไปเดินมา ก็เพลินไปอีกเเบบนึง
คอนเซปหลักของเราวันนี้ คือ พวกเราจะนอนเต้นท์ริมหาด โดยเราเช่าเต้นท์จากทางสวัสดิการของทหารค่ะ เค้าคิดหลังละ 300 บาท มีเครื่องนอนให้เรียบร้อยเลย  ถ้าจะนำเต้นท์มากางเองก็ได้ เค้าจะคิดค่ากางเต้นท์ 50 บาท  อย่างที่บอก พวกเรามีเเค่เป้กันคนละใบ ^^



ใต้ต้นไม้ต้นนี้ พวกเราเป็นคนเลือกทำเล ในการกางเต้นส์ค่ะ เพราะ ต้องการชัยภูมิที่ดี ตามหลักฮวงจุ้ย (ว่าไปนั้น 555) บอกคุณทหารได้เลยว่าเราต้องการนอนตรงจุดไหนของหาด (มันจะสุดยอดอะไรขนาดนี้ ที่เราเลือกวิวกันได้ตามสบายในราคา 300)




                        หลังจากนั้นไม่นาน ดวงอาทิตย์ก็เริ่มลับขอบฟ้าไป  พวกเราคุยกันเพลิน จนบรรยากาศเริ่มเงียบสงบมาก (เพราะทุกคนต้องออกจากหาดภายใน 6 โมงเย็น ยกเว้นคนที่พักค้าง) เหมือนกับว่าที่เเห่งนี้มีเเค่กลุ่มเราเพียงกลุ่มเดียว  เรานอนคุยกัน นอนฟังเสียงคลื่น และก็นอนมองดูดาว  ยุงนี่แทบไม่ต้องกังวลเลย ไม่มีเลย น้องเรายังเห็นดาวตกด้วยล่ะ อันที่จริงถ้าเป็นเดือนมืดสามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้เลย

บรรยากาศช่วงกลางคืนว่าฟินเเล้ว ตื่นเช้าๆมานี่ฟินยิ่งกว่าอีก มองเห็นหาดทรายปราศจากผู้คนวุ่นวาย หาดทรายสีขาว เหมือนกับอยู่บนเกาะสักแห่งที่เงียบสงบมากๆ




ในยามเช้า มีบางอย่าง ปลุกให้เราตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูดดื่มกับธรรมชาติให้เต็มอิ่ม จากเสียงลม เสียงคลื่น  ช่วงเช้าน้ำทะเลจะค่อนข้างลดลงมาก จนเราสามารถเดินลงไปบนหาดได้ไกลเลยทีเดียว

นักท่องเที่ยวบางกลุ่มก็เดินเล่นริมหาด

   หลายคนอาจเเปลกใจ นอนเต้นท์เเล้วจะอาบน้ำ จะเข้าห้องน้ำยังไง ทางหาดเค้ามีห้องน้ำบริการค่ะ มาเเบบนี้ก็คงต้องลุยๆกันหน่อยนะคะ (สะดวกมากค่ะ สำหรับสาว เพราะเขาจัดแบ่งโซนห้องอาบน้ำค่ะ ของสาวๆ มีห้องอาบน้ำส่วนตัวมิดชิดมากค่ะ หายกังวล) ส่วนบรรดาหนุ่มๆ จะเป็นห้องอาบน้ำรวมน่ะคะ




    พอออกจากหาดทรายเเก้ว พวกเราก็ไปนั่งชมวิวทิวทัศน์ที่เขา สทร. พัทยา  เห็นทุกมุมของเมืองพัทยาเลยทีเดียวค่ะ ทั้งวิวทะเล มองเห็นเกาะล้าน ตึกรามบ้านช่องสูงสง่า มองๆดูเเล้วก็สวยไปอีกเเบบ สั่งนม สั่งขนมปังเพิ่มความหวานให้กับชีวิตสักหน่อย เเล้วก็ตะลุยเดินทางต่อ  

เรานั่งเม้าท์มอยกันตามประสาอีกสักพักหนึ่ง ระหว่างทางขึ้นเขา สทร. มองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา นั่นล่ะเป้าหมายของเราต่อไปค่ะ!!!!



พอมาถึง..ที่นี่ค่อนข้างมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ  เราก็เเปลกใจว่าในพัทยามีวัดที่มีองค์พระใหญ่ขนาดนี้ด้วยเหรอ เดินตามวิถีชาวพุทธ มาถึงวัดเเล้ว ก็ต้องศักการะบูชาเพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับชีวิตสักหน่อยค่ะ " วัดพระใหญ่" เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขา ไม่ไกลจากเขา สทร. เท่าไหร่ ที่นี่ไม่ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ศักการะบูชาอย่างเดียวนะ  มองเห็นวิวในเมืองอีกมุมหนึ่ง  สวยไปคนละมุม

   การเดินทางของเรา เป็นทริปสั้นๆใช้เวลาเพียงเเค่ 2 วัน เราว่ามันเหมาะมากกับการพักผ่อนสำหรับคนที่มีเวลาๆน้อยๆ เเต่พอได้มาเเล้วมันคุ้มค่าจริงๆ ไม่เหนื่อยในการเดินทาง ไม่เหนื่อยในการเที่ยว ใช้ชีวิตตามสบาย สัมผัสกับธรรมชาติได้เต็มอิ่ม ได้ทั้งอาหารตา อาหารปาก เเละอาหารใจ เพิ่มเเรงบัลดาลใจในการทำงานในวันข้างหน้าต่อไปอีก  <<<<<มืดใหม่หัดรีวิว>>>>>   ติชมกันได้นะค่ะ ^^