สวัสดีครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆครับ ประเทศที่ผมไปครั้งนี้คือคองโก แถบแอฟริกา แค่ได้ยินชื่อผมก็เริ่มหวั่นขึ้นมาแล้ว การไปทำงานแต่ละครั้งส่วนใหญ่บริษัทจะส่งไปคนเดียว ครั้งนี้ก็เช่นเคย Alone อีกแล้วเรา เรื่องตั๋วเครื่องบิน เที่ยวบินทางบริษัทผมเป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดของผมเลยก็ว่าได้ เริ่มจากสนามบินสุวรรณภูมิ-เอธิโอเปีย (ใช้เวลา 10 ชม.) และจากเอธิโอเปีย-คองโก (ใช้เวลา 4 ชม.) ถ้ารวมๆเวลาต่อเครื่องด้วยก็ประมาณ 20 ชม. ได้ครับ
พอถึงคองโกก็มีคนของบริษัทมารับไปส่งที่โรงแรม ซึ่งโรงแรมนี้ก็เช่นกันทางบริษัทจัดหาให้ แต่ผมต้องสำรองจ่ายก่อนครับ ระยะทางจากสนามบินมาโรงแรมใน kinshah (เมืองหลวง) ประมาณ 23 กม. สภาพบ้านเมืองตามภาพเลยครับ ผมพักที่โรงแรม 1 คืน ค่าโรงแรมตกอยู่ที่ 235$ ต่อคืน เช้ามาผมก็เดินทางไปไซส์ต่อ ชีวิตคือการเดินทางจริงๆครับ ว่าด้วยเรื่องระยะจากโรงแรมไปถึงไซส์ก็ราวๆ 300 กม.ครับ ถึงจุดหมายสักทีครับ ผมใช้เวลาปรับตัวเรื่องเวลาอยู่นานพอสมควร เพราะคองโกช้ากว่าไทย 6 ชม. นอกจากนั้นก็มีเรื่องอาหารการกินและภาษาครับที่ต้องปรับ ประเทศเค้าใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ แล้วก็มีภาษาท้องถิ่น คนที่นั่นพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ก็ค่อนข้างมีปัญหานิดหน่อย เพราะผมเองก็พูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เช่นกัน เอาเป็นว่าพูดภาษาอังกฤษจนเมื่อยมือครับ 555
ว่าด้วยเรื่องการทำงาน เค้าทำงาน จ-ส เริ่มงาน 07:30-16:30 (ตรงเวลาเป๊ะ) สไตล์การทำงานเค้าจะเริ่มงาน-เลิกงานค่อนข้างตรงเวลาครับ ระหว่างทำงานก็คือทำงานอย่างเดียว เพื่อนร่วมงานก็มีตั้งแต่คนคองโก โรมันเนีย เยอรมัน ปากีสถาน ผมใช้เวลาทำงาน+เดินทาง ทั้งหมด 27 วัน
การเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง โดยเฉพาะสายงานด้านวิศวกรรมที่ต้องไปทำงานต่างแดน มีดังนี้ครับ
******************************************************************************
1. ศึกษางานที่จะไปทำให้ละเอียดมากที่สุด มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับงานนั้นรวบรวมมาให้หมด ดูเนื้องานว่าบริษัทให้มาทำอะไรบ้าง บางทีลูกค้าเค้าไม่รู้สโคปงาน หวังไว้เยอะให้เราทำโน้นนี่นั้น บางครั้งบางอย่างไม่ใช้ความรับผิดชอบเรา ถ้าเรามัวไปทำตรงนั้นจะทำให้เสียเวลาในการทำงานหลักไป งานไม่เสร็จตามแผน วิธีการคือเอาเอกสารที่เราเตรียมมาให้ลูกค้าดูเลยว่าเรามาทำอะไรบ้าง ในสัญญาลูกค้าต้องเตรียมอุปกรณ์หรือเครื่องมือให้เราหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
2. วางแผนการทำงานให้ดี อะไรควรทำก่อนทำหลัง ขั้นตอนนี้ช่วยย่นเวลาเราได้มากเลยทีเดียว
3. หาข้อมูลเบื้องต้นของประเทศที่เราจะไปทำงาน เช่น ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ค่าเงิน สกุลเงินภาษา วัฒนธรรม มือถือ รวมถึงอินเตอร์เน็ต เรื่องที่ควรจะพูดและไม่ควรพูดกับคนประเทศนั้นๆ ศาสนา การเมือง ความเชื่อ และที่สำคัญอีกอย่าง คือ แผนที่ ถ้าเป็นไปได้ก่อนออกเดินทางควรเปิดแผนที่ดูในมือถือหรือแทปเล็ต เผื่อเวลาสถานการณ์จริงไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ อย่างน้อยก็ยังมีแผนที่ไว้ดู
4. การแลกเงิน ถ้าประเทศที่เราจะไปไม่มีให้แลก อันดับแรกควรจะต้องแลกเป็นเงิน US โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเอาเงินที่ series ล่าสุด เพราะบางประเทศไม่รับบัตรเครดิตหรือเงิน US ที่series เก่าๆเดี๋ยวงานจะเข้าเอาครับ ส่วนกรณีที่มีให้แลก เราก็ควรแบ่งเป็น 2 ส่วน คือแลกทั้งเงิน US และสกุลเงินของประเทศนั้นๆ
5. การเดินทาง ถ้าหากเป็นคนจองตั๋วเครื่องบินเอง พยายามเลือกสายการบินที่ บินตรงมาจุดหมายเลย แต่ถ้าหากจำเป็นต้องต่อเครื่อง ควรจะเลือกสายการบินที่เป็นสายการบินเดียวกันจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายกระเป๋า สามารถรับกระเป๋าปลายทางได้เลยจะสะดวกกับเรามากกว่า
6. ขณะเดินทาง พยายามสังเกตคนรอบข้างบ้าง ชำเลืองดูหมายเลขเที่ยวบินเค้าบ้าง เผื่อบางทีสายการบินประกาศเป็นภาษาราชการของเค้า ไม่ได้ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ เราจะได้ตามเค้าไปถูก 555
7. เมื่อเดินทางถึงที่หมายแล้ว ขั้นตอนต่อไปหาซิมมือถือก่อนเลย เพราะจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งเมล์ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องโปรเน็ตให้ถามคนที่นั้นเลยว่าใช้ของค่ายไหนดีสุด
8. ช่วงเวลาที่อยู่ต่างประเทศ พยายามรักษาร่างกายให้แข็งแรงอย่าเจ็บป่วยตอนมาทำงาน สำหรับยาแก้โรคประจำตัวหรือยาที่จำเป็น เตรียมมาให้พร้อม เพราะบางประเทศหาซื้อยากมากหรือหาซื้อไม่ได้เลย
9. ว่าด้วยเรื่องการกิน เป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับผม อย่างกรณี site งานในประเทศที่เป็นถิ่นทุรกันดาร เช่น ในแถบแอฟริกาที่ผมเคยไปมา อาหารก็แปลก ไม่เหมือนบ้านเรา แต่เราก็ต้องพยายามปรับตัวเอง คนอื่นกินได้เราก็ต้องกินได้ แล้วอีกอย่างผมก็เตรียมตัวช่วยไปด้วย ทั้งน้ำพริก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง แต่ต้องหาข้อมูลเบื้องต้นก่อน เพราะบางประเทศไม่ให้เอาอาหารเข้าประเทศ
10. การทำงานโดยเฉพาะงานที่ต้องทำในประเทศที่กำลังพัฒนา ส่วนใหญ่น่าจะเป็นงานติดตั้งเครื่องจักร ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด เรื่องเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพร้อมเหมือนบ้านเรา แล้วอีกอย่างการหาเครื่องมือในต่างประเทศก็เป็นเรื่องที่ยาก นอกจากลูกค้าจัดหาให้ ข้อนี้ต้องทำใจไว้เลยครับ ดังนั้นตัวเราเองต้องรู้จักพลิกแพลง รู้จักเอาความรู้ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้ เอาประสบการณ์ที่เคยทำมา เอาความรู้ที่เรามีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ ตัวอย่างปัญหาที่ผมเจอ เช่น ของไม่ครบ ขาดโน้นนี่เล็กๆน้อยๆ ของหายบ้าง แล้วการจะหาอะไหล่พวกนี้ในต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นวิธีป้องกันของผมคือ ถ้าเป็นไปได้เตรียมชิ้นส่วนหรืออะไหล่สำรองมาด้วย(ชิ้นเล็กๆนะ) เช่น น๊อต บางทีขาดน๊อตแค่ตัวเดียวไปต่อไม่ได้เลยก็มี
11. พยายามปรับตัว รู้จักการเอาตัวรอด หาเพื่อนคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มันจะทำให้เรามองเห็นมุมมองใหม่ๆ
12. เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิตแล้วคุณจะเค้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน บางทีเราเสพย์สื่อมากเกินไป ทำให้กลัวคนประเทศนั้นประเทศนี้ จริงๆแล้วเค้าก็เหมือนเรานี้ เพียงแต่วิถีชีวิตอาจจะแตกต่างกัน อย่างผมก่อนเดินทางมาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนคองโกยอมรับว่ากลัวครับ เพราะหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมีแต่สงครามและการฆ่ากัน แต่ด้วยหน้าที่ครับ....เครื่องบินลงจอดมีคนมารับไปไปโรงแรมระหว่างเดินทางไปโรงแรม ผมคิดในใจประเทศอะไรวะเนี้ยะมองดูข้างทางดูผู้คนเหมือนหนังเรื่อง back hawk down เลย มีแต่คนผิวสีเต็มไปหมด บ้านเมืองไม่เป็นระเบียบ ตึกเก่าๆ พังๆ ไม่มีไฟจราจร ยอมรับว่ากลัวมากกลัวตาย แต่พออยู่ไปสักพักก็เข้าใจครับ
13. ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก คือ ภาษาอังกฤษครับ อาจจะไม่เก่งเวอร์ สำเนียงเป๊ะ เอาแค่แบบว่าคุยกันสื่อสารกันรู้เรื่อง อธิบายคนอื่นได้ครับ แต่ถ้าภาษาอังกฤษเก่งก็จะดีมากเลย เพราะใครได้ภาษาจะค่อนข้างได้เปรียบ ซึ่งเรื่องภาษานี่ผมคิดว่าเป็นจุดอ่อนของวิศวกรไทยเลยครับ ทำงานเก่งขนาดไหนถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็จบ สำหรับผมรู้ตัวเลยครับว่าอ่อนภาษา อาจเป็นเพราะสมัยเด็กเรียนอยู่โรงเรียน ตจว. สมัยนั้นภาษาอังกฤษจะเริ่มเรียนกันตอน ป.5-ป.6 ท่อง ABC คิดดูก็แล้วกันครับมันจะไปทันใครเค้า พูดตรงๆเรียนจบป.ตรีมา ยังฟังยังพูดไม่ค่อยได้เลยครับ เกรดนี้ไม่เคยเกิน C แต่ของแบบนี้มันฝึกกันได้ อย่ากลัวที่จะพูดผิดๆถูกๆ คนฟังเค้าก็พยายามฟัง พยายามเข้าใจที่เราพูด ใช้บ่อยๆจะได้เองครับ พอเราเกิดความมั่นใจคราวนี้เราจะไม่กลัวในการใช้ภาษาแล้วครับ ยิ่งใช้ยิ่งเก่ง สุดท้ายนี้ถ้าบทความของผมผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ ผมหวังว่าคงกระทู้นี้คงมีประโยชน์ต่อคนที่ทำงานสายนี้ไม่มากก็น้อยครับ
แชร์ประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศแบบไปคนเดียว (ประเทศคองโก) แอฟริกา
พอถึงคองโกก็มีคนของบริษัทมารับไปส่งที่โรงแรม ซึ่งโรงแรมนี้ก็เช่นกันทางบริษัทจัดหาให้ แต่ผมต้องสำรองจ่ายก่อนครับ ระยะทางจากสนามบินมาโรงแรมใน kinshah (เมืองหลวง) ประมาณ 23 กม. สภาพบ้านเมืองตามภาพเลยครับ ผมพักที่โรงแรม 1 คืน ค่าโรงแรมตกอยู่ที่ 235$ ต่อคืน เช้ามาผมก็เดินทางไปไซส์ต่อ ชีวิตคือการเดินทางจริงๆครับ ว่าด้วยเรื่องระยะจากโรงแรมไปถึงไซส์ก็ราวๆ 300 กม.ครับ ถึงจุดหมายสักทีครับ ผมใช้เวลาปรับตัวเรื่องเวลาอยู่นานพอสมควร เพราะคองโกช้ากว่าไทย 6 ชม. นอกจากนั้นก็มีเรื่องอาหารการกินและภาษาครับที่ต้องปรับ ประเทศเค้าใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ แล้วก็มีภาษาท้องถิ่น คนที่นั่นพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ก็ค่อนข้างมีปัญหานิดหน่อย เพราะผมเองก็พูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เช่นกัน เอาเป็นว่าพูดภาษาอังกฤษจนเมื่อยมือครับ 555
ว่าด้วยเรื่องการทำงาน เค้าทำงาน จ-ส เริ่มงาน 07:30-16:30 (ตรงเวลาเป๊ะ) สไตล์การทำงานเค้าจะเริ่มงาน-เลิกงานค่อนข้างตรงเวลาครับ ระหว่างทำงานก็คือทำงานอย่างเดียว เพื่อนร่วมงานก็มีตั้งแต่คนคองโก โรมันเนีย เยอรมัน ปากีสถาน ผมใช้เวลาทำงาน+เดินทาง ทั้งหมด 27 วัน
การเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง โดยเฉพาะสายงานด้านวิศวกรรมที่ต้องไปทำงานต่างแดน มีดังนี้ครับ
******************************************************************************
1. ศึกษางานที่จะไปทำให้ละเอียดมากที่สุด มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับงานนั้นรวบรวมมาให้หมด ดูเนื้องานว่าบริษัทให้มาทำอะไรบ้าง บางทีลูกค้าเค้าไม่รู้สโคปงาน หวังไว้เยอะให้เราทำโน้นนี่นั้น บางครั้งบางอย่างไม่ใช้ความรับผิดชอบเรา ถ้าเรามัวไปทำตรงนั้นจะทำให้เสียเวลาในการทำงานหลักไป งานไม่เสร็จตามแผน วิธีการคือเอาเอกสารที่เราเตรียมมาให้ลูกค้าดูเลยว่าเรามาทำอะไรบ้าง ในสัญญาลูกค้าต้องเตรียมอุปกรณ์หรือเครื่องมือให้เราหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
2. วางแผนการทำงานให้ดี อะไรควรทำก่อนทำหลัง ขั้นตอนนี้ช่วยย่นเวลาเราได้มากเลยทีเดียว
3. หาข้อมูลเบื้องต้นของประเทศที่เราจะไปทำงาน เช่น ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ค่าเงิน สกุลเงินภาษา วัฒนธรรม มือถือ รวมถึงอินเตอร์เน็ต เรื่องที่ควรจะพูดและไม่ควรพูดกับคนประเทศนั้นๆ ศาสนา การเมือง ความเชื่อ และที่สำคัญอีกอย่าง คือ แผนที่ ถ้าเป็นไปได้ก่อนออกเดินทางควรเปิดแผนที่ดูในมือถือหรือแทปเล็ต เผื่อเวลาสถานการณ์จริงไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ อย่างน้อยก็ยังมีแผนที่ไว้ดู
4. การแลกเงิน ถ้าประเทศที่เราจะไปไม่มีให้แลก อันดับแรกควรจะต้องแลกเป็นเงิน US โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเอาเงินที่ series ล่าสุด เพราะบางประเทศไม่รับบัตรเครดิตหรือเงิน US ที่series เก่าๆเดี๋ยวงานจะเข้าเอาครับ ส่วนกรณีที่มีให้แลก เราก็ควรแบ่งเป็น 2 ส่วน คือแลกทั้งเงิน US และสกุลเงินของประเทศนั้นๆ
5. การเดินทาง ถ้าหากเป็นคนจองตั๋วเครื่องบินเอง พยายามเลือกสายการบินที่ บินตรงมาจุดหมายเลย แต่ถ้าหากจำเป็นต้องต่อเครื่อง ควรจะเลือกสายการบินที่เป็นสายการบินเดียวกันจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายกระเป๋า สามารถรับกระเป๋าปลายทางได้เลยจะสะดวกกับเรามากกว่า
6. ขณะเดินทาง พยายามสังเกตคนรอบข้างบ้าง ชำเลืองดูหมายเลขเที่ยวบินเค้าบ้าง เผื่อบางทีสายการบินประกาศเป็นภาษาราชการของเค้า ไม่ได้ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ เราจะได้ตามเค้าไปถูก 555
7. เมื่อเดินทางถึงที่หมายแล้ว ขั้นตอนต่อไปหาซิมมือถือก่อนเลย เพราะจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งเมล์ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องโปรเน็ตให้ถามคนที่นั้นเลยว่าใช้ของค่ายไหนดีสุด
8. ช่วงเวลาที่อยู่ต่างประเทศ พยายามรักษาร่างกายให้แข็งแรงอย่าเจ็บป่วยตอนมาทำงาน สำหรับยาแก้โรคประจำตัวหรือยาที่จำเป็น เตรียมมาให้พร้อม เพราะบางประเทศหาซื้อยากมากหรือหาซื้อไม่ได้เลย
9. ว่าด้วยเรื่องการกิน เป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับผม อย่างกรณี site งานในประเทศที่เป็นถิ่นทุรกันดาร เช่น ในแถบแอฟริกาที่ผมเคยไปมา อาหารก็แปลก ไม่เหมือนบ้านเรา แต่เราก็ต้องพยายามปรับตัวเอง คนอื่นกินได้เราก็ต้องกินได้ แล้วอีกอย่างผมก็เตรียมตัวช่วยไปด้วย ทั้งน้ำพริก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง แต่ต้องหาข้อมูลเบื้องต้นก่อน เพราะบางประเทศไม่ให้เอาอาหารเข้าประเทศ
10. การทำงานโดยเฉพาะงานที่ต้องทำในประเทศที่กำลังพัฒนา ส่วนใหญ่น่าจะเป็นงานติดตั้งเครื่องจักร ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด เรื่องเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพร้อมเหมือนบ้านเรา แล้วอีกอย่างการหาเครื่องมือในต่างประเทศก็เป็นเรื่องที่ยาก นอกจากลูกค้าจัดหาให้ ข้อนี้ต้องทำใจไว้เลยครับ ดังนั้นตัวเราเองต้องรู้จักพลิกแพลง รู้จักเอาความรู้ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้ เอาประสบการณ์ที่เคยทำมา เอาความรู้ที่เรามีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ ตัวอย่างปัญหาที่ผมเจอ เช่น ของไม่ครบ ขาดโน้นนี่เล็กๆน้อยๆ ของหายบ้าง แล้วการจะหาอะไหล่พวกนี้ในต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นวิธีป้องกันของผมคือ ถ้าเป็นไปได้เตรียมชิ้นส่วนหรืออะไหล่สำรองมาด้วย(ชิ้นเล็กๆนะ) เช่น น๊อต บางทีขาดน๊อตแค่ตัวเดียวไปต่อไม่ได้เลยก็มี
11. พยายามปรับตัว รู้จักการเอาตัวรอด หาเพื่อนคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มันจะทำให้เรามองเห็นมุมมองใหม่ๆ
12. เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิตแล้วคุณจะเค้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน บางทีเราเสพย์สื่อมากเกินไป ทำให้กลัวคนประเทศนั้นประเทศนี้ จริงๆแล้วเค้าก็เหมือนเรานี้ เพียงแต่วิถีชีวิตอาจจะแตกต่างกัน อย่างผมก่อนเดินทางมาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนคองโกยอมรับว่ากลัวครับ เพราะหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมีแต่สงครามและการฆ่ากัน แต่ด้วยหน้าที่ครับ....เครื่องบินลงจอดมีคนมารับไปไปโรงแรมระหว่างเดินทางไปโรงแรม ผมคิดในใจประเทศอะไรวะเนี้ยะมองดูข้างทางดูผู้คนเหมือนหนังเรื่อง back hawk down เลย มีแต่คนผิวสีเต็มไปหมด บ้านเมืองไม่เป็นระเบียบ ตึกเก่าๆ พังๆ ไม่มีไฟจราจร ยอมรับว่ากลัวมากกลัวตาย แต่พออยู่ไปสักพักก็เข้าใจครับ
13. ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก คือ ภาษาอังกฤษครับ อาจจะไม่เก่งเวอร์ สำเนียงเป๊ะ เอาแค่แบบว่าคุยกันสื่อสารกันรู้เรื่อง อธิบายคนอื่นได้ครับ แต่ถ้าภาษาอังกฤษเก่งก็จะดีมากเลย เพราะใครได้ภาษาจะค่อนข้างได้เปรียบ ซึ่งเรื่องภาษานี่ผมคิดว่าเป็นจุดอ่อนของวิศวกรไทยเลยครับ ทำงานเก่งขนาดไหนถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็จบ สำหรับผมรู้ตัวเลยครับว่าอ่อนภาษา อาจเป็นเพราะสมัยเด็กเรียนอยู่โรงเรียน ตจว. สมัยนั้นภาษาอังกฤษจะเริ่มเรียนกันตอน ป.5-ป.6 ท่อง ABC คิดดูก็แล้วกันครับมันจะไปทันใครเค้า พูดตรงๆเรียนจบป.ตรีมา ยังฟังยังพูดไม่ค่อยได้เลยครับ เกรดนี้ไม่เคยเกิน C แต่ของแบบนี้มันฝึกกันได้ อย่ากลัวที่จะพูดผิดๆถูกๆ คนฟังเค้าก็พยายามฟัง พยายามเข้าใจที่เราพูด ใช้บ่อยๆจะได้เองครับ พอเราเกิดความมั่นใจคราวนี้เราจะไม่กลัวในการใช้ภาษาแล้วครับ ยิ่งใช้ยิ่งเก่ง สุดท้ายนี้ถ้าบทความของผมผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ ผมหวังว่าคงกระทู้นี้คงมีประโยชน์ต่อคนที่ทำงานสายนี้ไม่มากก็น้อยครับ