ต้นเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเยือนเขื่อนเชี่ยวหลานที่ใครๆ ก็ไปกัน ก่อนไปหาข้อมูลแพไกรสรแล้วไม่ค่อยมีเลยนำข้อมูลมาแบ่งปันกัน
ออกจากกรุงเทพโปรหางแดงข้ามไปสุราษฎร์ธานีไฟล์ทค่ำ เดินทางถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี ก็ประมาณ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว
เข้าเมืองกับชัตเตอร์บัสสนามบิน ราคาคนละ 100 บาท แต่เสียเวลารอคนเต็มรถนานพอควรเลยถ้ามาหลายคนแนะนำแท็กซี่ดีกว่า 4 คน 500 บาทถืองว่าซื้อค่าเสียเวลาไป
คืนนี้ตั้งหลักที่ตัวเมืองก่อนใช้บริการของโรงแรมกลางเมืองราคาย่อมเยาว์ห้องก็ใหม่โอเคมาก ๆๆ
เช็คอินก็รีบไปเดินหาอะไรกินสามทุ่มครึ่งตัวเมืองเงียบแล้ว จุดหมายไปยังท่าเรือนอนไปเกาะ มีของกินหลายอย่างให้เลือก
ตกดึกตัวเมืองเงียบสงบจริง ๆ ได้เวลาพักก่อนตะลุยเต็มที่วันรุ่งขึ้น
ตื่นเช้าเดินชมเมืองรอบเล็ก ๆ 1 รอบ ริมแม่น้ำตาปีสงบมาก ๆ ตลาดก็คึกคักของกินเพียบ เช็คเอ้าท์ไปหม่ำมื้อเช้ากับกินขนมจีนร้านดังหน้าเรือนจำ
ขนมจีนรสชาดเด็ดขาดมาก คิดค่าขนมจีนเป็นเข่ง น้ำยาผักเติมไม่อั้นกินกันจนพุงกาง จากนั้นได้เวลาไปเชี่ยวหลานแล้ว
รถตู้ที่ตลาดเกษตร 2 คิวอยู่ปากทางเข้าเลย จะมีคิวไปตาขุนอยู่ด้านในอีกคิวอันนี้ไม่ใช่ ระหว่างทางเจอพวกหัวคิวมาบอกซื้อที่ได้แต่จ่ายแพงกว่า
ค่ารถตู้ไปลงเขื่อนคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงนิด ๆๆ
ถึงเขื่อนก็หาเรือไปแพไกรสร ตอนแรกไปติดต่อที่ศูนย์แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ แต่มีป้าคนหนึ่งมาติดต่อไปกับเขาได้ ค่าเรือเท่ากัน คืนเดียว 3000 บาท แต่ผมไปค้าง2 คืนจ่าย 4500 บาท
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากท่าเรือก็มาถึงแพไกรสร ท้องฟ้าแสงแดดยังใสอยู่เลยอ่ะ ที่พักที่นี่ จองผ่านเวปอุทยานคืนละ 400 บาท นอนได้ 2 8o
ห้องพอดีคนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย ที่จองผ่านเวปกรมอุทยานจะเป็นโซนหลังคาสังกะสีสีเขียว ส่วนห้องอื่น ๆต้องโทรมาจองโดยตรง
ห้องน้ำรวมมีสองส่วนแพลอยน้ำและบนฝั่ง แต่ห้องอาบน้ำเจอแค่ห้องเดียว สงสัยนักท่องเที่ยวจะอาบน้ำในเขื่อนกันเลยมีน้อย
มาดูเรื่องอาหารกัน มื้อเช้า 100 บาท เป็นข้าวต้มและผัดหมี่ วันไหนไม่มีคนไทยจะเป็นแพนเค้ก มื้อเที่ยง มื้อเย็น 200 บาท ต่อคน มีปลาทอดจานหลัก
แกง ผัดผัก ถ้ามีฝรั่งจะเป็นแกงมัสมั่น แกงใต้ต้องรอในวันแรกเพราะไม่มีคนไทยเลย
ช่วงเย็นวันแรกฝนตกปรอยๆ สีท้องฟ้าแปลกตามากได้อารมณ์ไปอีกแบบ จากนั้นทั้งคืนฝนก็ตกลงมาอย่างหนักเย็นสบายนอนหลับเพลิน แต่ที่นอนแข็งไปนิด
เช้าวันที่สองมีแสงแดดสลับฝนตก ไอหมอกกระจายสลับเมฆฝน มองดูเพลินตาชิล ๆ
ช่วงบ่ายถึงค่ำฝนตกตลอดเวลา หนักบ้างเบาบ้าง ไม่ได้ไปไหนเลย มองดูนักท่องเที่ยวฝ่าฝนไปส่องสัตว์ น้ำตกบ้าง เห็นแล้วหนาวแทน
ปิดท้ายเช้าวันที่สาม เหมือนท้องฟ้าจะเปิดให้เดินทางกลับ มีแสงส่องกระทบไอหมอกตามยอดเขาวิวสุดยอดจริง ๆ
แต่สายจะกลับฝนเทลงมาซะงั้นต้องฝ่าฝนกลับจนได้ แต่นั่งมาได้สัก 10 นาทีถึงกลางเขื่อนฝนกลับไม่มีแล้ว
ปิดท้ายนั่งเรือชมวิวเที่ยวเขาสามเกลอ ไอหมอกตามยอดเขาสุดยอดจริง ๆๆ ปิดทริปแบบเปียกโชกอีกนิดฝนเทตอนจะถึงท่าเรือ
ถึงฝั่งเรียกรถตู้มารับที่ท่าเรือมีเบอร์ติดไว้ที่ศูนย์บริการเลย ค่ารถตู้กลับสนามบิน 200 บาท ถึงสนามบินแบบหิวโชกินข้าวแกงจานละ 100 บาท ปิดทริปฤดูฝน
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
https://www.facebook.com/Wztraveler/
[CR] สายฝนฉ่ำ กับแพไกรสร เชี่ยวหลาน
ออกจากกรุงเทพโปรหางแดงข้ามไปสุราษฎร์ธานีไฟล์ทค่ำ เดินทางถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี ก็ประมาณ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว
เข้าเมืองกับชัตเตอร์บัสสนามบิน ราคาคนละ 100 บาท แต่เสียเวลารอคนเต็มรถนานพอควรเลยถ้ามาหลายคนแนะนำแท็กซี่ดีกว่า 4 คน 500 บาทถืองว่าซื้อค่าเสียเวลาไป
คืนนี้ตั้งหลักที่ตัวเมืองก่อนใช้บริการของโรงแรมกลางเมืองราคาย่อมเยาว์ห้องก็ใหม่โอเคมาก ๆๆ
เช็คอินก็รีบไปเดินหาอะไรกินสามทุ่มครึ่งตัวเมืองเงียบแล้ว จุดหมายไปยังท่าเรือนอนไปเกาะ มีของกินหลายอย่างให้เลือก
ตกดึกตัวเมืองเงียบสงบจริง ๆ ได้เวลาพักก่อนตะลุยเต็มที่วันรุ่งขึ้น
ตื่นเช้าเดินชมเมืองรอบเล็ก ๆ 1 รอบ ริมแม่น้ำตาปีสงบมาก ๆ ตลาดก็คึกคักของกินเพียบ เช็คเอ้าท์ไปหม่ำมื้อเช้ากับกินขนมจีนร้านดังหน้าเรือนจำ
ขนมจีนรสชาดเด็ดขาดมาก คิดค่าขนมจีนเป็นเข่ง น้ำยาผักเติมไม่อั้นกินกันจนพุงกาง จากนั้นได้เวลาไปเชี่ยวหลานแล้ว
รถตู้ที่ตลาดเกษตร 2 คิวอยู่ปากทางเข้าเลย จะมีคิวไปตาขุนอยู่ด้านในอีกคิวอันนี้ไม่ใช่ ระหว่างทางเจอพวกหัวคิวมาบอกซื้อที่ได้แต่จ่ายแพงกว่า
ค่ารถตู้ไปลงเขื่อนคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงนิด ๆๆ
ถึงเขื่อนก็หาเรือไปแพไกรสร ตอนแรกไปติดต่อที่ศูนย์แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ แต่มีป้าคนหนึ่งมาติดต่อไปกับเขาได้ ค่าเรือเท่ากัน คืนเดียว 3000 บาท แต่ผมไปค้าง2 คืนจ่าย 4500 บาท
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากท่าเรือก็มาถึงแพไกรสร ท้องฟ้าแสงแดดยังใสอยู่เลยอ่ะ ที่พักที่นี่ จองผ่านเวปอุทยานคืนละ 400 บาท นอนได้ 2 8o
ห้องพอดีคนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย ที่จองผ่านเวปกรมอุทยานจะเป็นโซนหลังคาสังกะสีสีเขียว ส่วนห้องอื่น ๆต้องโทรมาจองโดยตรง
ห้องน้ำรวมมีสองส่วนแพลอยน้ำและบนฝั่ง แต่ห้องอาบน้ำเจอแค่ห้องเดียว สงสัยนักท่องเที่ยวจะอาบน้ำในเขื่อนกันเลยมีน้อย
มาดูเรื่องอาหารกัน มื้อเช้า 100 บาท เป็นข้าวต้มและผัดหมี่ วันไหนไม่มีคนไทยจะเป็นแพนเค้ก มื้อเที่ยง มื้อเย็น 200 บาท ต่อคน มีปลาทอดจานหลัก
แกง ผัดผัก ถ้ามีฝรั่งจะเป็นแกงมัสมั่น แกงใต้ต้องรอในวันแรกเพราะไม่มีคนไทยเลย
ช่วงเย็นวันแรกฝนตกปรอยๆ สีท้องฟ้าแปลกตามากได้อารมณ์ไปอีกแบบ จากนั้นทั้งคืนฝนก็ตกลงมาอย่างหนักเย็นสบายนอนหลับเพลิน แต่ที่นอนแข็งไปนิด
เช้าวันที่สองมีแสงแดดสลับฝนตก ไอหมอกกระจายสลับเมฆฝน มองดูเพลินตาชิล ๆ
ช่วงบ่ายถึงค่ำฝนตกตลอดเวลา หนักบ้างเบาบ้าง ไม่ได้ไปไหนเลย มองดูนักท่องเที่ยวฝ่าฝนไปส่องสัตว์ น้ำตกบ้าง เห็นแล้วหนาวแทน
ปิดท้ายเช้าวันที่สาม เหมือนท้องฟ้าจะเปิดให้เดินทางกลับ มีแสงส่องกระทบไอหมอกตามยอดเขาวิวสุดยอดจริง ๆ
แต่สายจะกลับฝนเทลงมาซะงั้นต้องฝ่าฝนกลับจนได้ แต่นั่งมาได้สัก 10 นาทีถึงกลางเขื่อนฝนกลับไม่มีแล้ว
ปิดท้ายนั่งเรือชมวิวเที่ยวเขาสามเกลอ ไอหมอกตามยอดเขาสุดยอดจริง ๆๆ ปิดทริปแบบเปียกโชกอีกนิดฝนเทตอนจะถึงท่าเรือ
ถึงฝั่งเรียกรถตู้มารับที่ท่าเรือมีเบอร์ติดไว้ที่ศูนย์บริการเลย ค่ารถตู้กลับสนามบิน 200 บาท ถึงสนามบินแบบหิวโชกินข้าวแกงจานละ 100 บาท ปิดทริปฤดูฝน
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ https://www.facebook.com/Wztraveler/