1. God ‘s not dead (2014)
ภาพจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/God%27s_Not_Dead_(film)
เรื่องย่อ
หนังเกี่ยวกับนักศึกษาคนหนึ่งที่ไปลงเรียนวิชาปรัชญากับอาจารย์ที่ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง(จริงๆแล้วแกเชื่อน่ะแหละ เป็นแนวต่อต้านพระเจ้า) เปิดมาปั๊บอาจารย์เริ่มด้วยทำความเข้าใจให้ตรงกัน โดยให้ทุกคนเขียนว่า ‘God is dead’ (พระเจ้าตายไปแล้ว) แต่พ่อพระเอกของเราบอกว่า ทำไม่ได้ เพราะสำหรับพระเอก God is not dead ซึ่งอาจารย์ก็ดีใจหาย ให้พระเอกหาทางพิสูจน์และโน้มน้าวเพื่อนๆ(ทั้งห้องเขียนว่า God is dead หมดเลย)โดยให้เวลาท้ายคาบ ประมาณ 20นาที x 3คาบในการอภิปราย
นอกจากเรือ่งของพระเอกก็จะมีเรื่องของคนหลายๆคน ที่มีความเกี่ยวพันกัน อารมณ์คล้ายๆ love actually มีเกี่ยวกับการอัศจรรย์บ้างแต่ไม่ใช่ส่วนที่หนังเน้น ความเห็นส่วนตัวจุดเด่นของหนังคงเป็นส่วนที่สร้างให้ผู้ชมรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่กับเรา(ถ้าเราเชื่อ) และประโยคเด็ดๆเกี่ยวกับความเชื่อ เกี่ยวกับพระเจ้าของตัวละคร ที่เด็ดสุดคือการสนทนาของลูกชายนิสัยร้ายๆกับแม่แสนดีที่ความจำเสื่อม
ลูกชาย : You prayed and believed your whole life. Never done anything wrong. And here you are. You're the nicest person I know. I am the meanest. You have dementia. My life is perfect. Explain that to me!
แม่อธิษฐานตลอดชีวิตของแม่ แม่ไม่เคยทำอะไรผิดตลอดชีวิตของแม่ แต่เป็นคนที่ดีที่สุด ในขณะผมเป็นคนเลวที่สุด แต่ดูสิ ตอนนี้แม่ความจำเสื่อม ส่วนชีวิตผมนั้นสมบูรณ์แบบ
แม่: Sometimes the devil allows people to live a life free of trouble because he doesn't want them turning to God. Their sin is like a jail cell, except it is all nice and comfy and there doesn't seem to be any reason to leave. The door's wide open. Till one day, time runs out, and the cell door slams shut, and suddenly it's too late.
บางเวลาปีศาจก็อนุญาตในชีวิตบางคนปราศจากปัญหาเพราะปีศาจไม่อยากให้เค้าหันหน้าหาพระเจ้า ความบาปของเค้าก็เหมือนกับคุก เว้นแต่มันช้างแสนสบาย สบายซะจนไม่มีเหตุผลที่จะต้องออกมาแม้ว่าประตูจะเปิดกว้าง จนกระทั่งวันหนึ่งเมือ่เวลาหมดลง ประตูก็ปิดขึ้นทันดี และแล้วก็สายเกินไปที่จะออกมา
อย่างอื่นที่ดีคือเพลงประกอบ ที่ร้องโดยวง Newboys ที่เป็นวง Christian pop rock เพลงติดหูมาก
ภาพวง Newsboyจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Newsboys
สรุปความเห็นส่วนตัว : สนุกระดับ 4/5 ไม่ค่อยชอบฉากจบ
ดูแล้วเห็นด้วยตามเพลง ' My God's not dead. He's surely alive'
2. Risen (2016)
ภาพจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Risen_(2016_film)
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ Clavius ทหารโรมัน ที่ทำงานให้กับปิลาส (Pontius Pilate) ขุนนางโรมันที่ดูแลแคว้นจูเดียอยู่ในขณะนั้น ช่วงเวลาที่เกิดเป็นหลังที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนแล้ว และเนื่องจากว่าพระเยซูบอกว่าจะกลับมาภายใน 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศพของพระเยซูหายไป จึงเป็นหน้าที่ของ Clavius ที่จะสืบและตามหาศพ ซึ่งระหว่างนั้น Clavius ก็ได้พบกับหลายสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
เป็นหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลาย จุดเด่นคือน่าจะเป็นหนังที่สร้างในเหตุการณ์ตามไบเบิ้ลที่มุมที่หนังอื่นไม่เคยเสนอ มีบางคนบอกว่าหนังได้แรงบันดาลใจจาก Saint Longinus นายทหารที่ใช้หอกทิ่งที่สีข้างพระเยซูที่ภายหลังเปลี่ยนใจมาเป็นคริสเตียน จุดด้อยคือหนังดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างอืด ดูแล้วคล้ายดูสารคดี
ภาพ Saint Longinus จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Saint_Longinus
สรุปความเห็นส่วนตัว : สนุกระดับ 3.5/5 หนังเรือ่ยๆไปนิดนึง
สิ่งที่ได้คือ ได้ทบทวนเหตุการณ์ช่วงหลังพระเยซูถูกตรึงกางเขน เนื้อหามีจนถึง 40 วันหลังพระเยซูฟื้นคืนชีพ เหมาะกับการดูช่วงอีสเตอร์มาก
3. The Bible/Son of God(2013/2014)
ภาพจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Son_of_God_(film)
เดิม เป็น mini series ยาว 10 ชั่วโมง ชื่อ the bible ซึ่งเป็นเนื้อหาตั้งแต่สมัยโนอาร์ และมีเหตุการณ์สำคัญใน bible ตั้งแต่เมืองโสดม (Sodom) เรื่องราวของแซมสัน(Samson) กษัตริย์เดวิด เรื่อยมาจนถึงเรือ่งราวของพระเยซูและสุดที่การสิ่นชีวิตของอัครสาวก ในส่วนของ mini series นี้ให้คะแนน 4.5/5 เลย เป็นหนังกึ่งสารคดี บทสนทนาต่างๆก็จะมีคำที่ถอดมาจากไบเบิ้ลเลย เช่น ตอนที่เรียน Simon Peter ก็ถอดจาก Mathew 4:19 ‘"Follow Me, and I will make you fishers of men." แนะนำมากสำหรับคริสเตียนใหม่ที่ต้องการศึกษาไบเบิ้ล
ส่วน Son of God เป็นหนังที่ตัดต่อมากจาก The Bible อีกที ไม่ได้ซื้อมาดูเพราะ review บอกว่าเนื้อหาเหมือนกันเปี๊ยบกับ The Bible ได้รีวิวค่อนข้างแย่สำหรับคนที่ดู The Bible (เพราะไม่มีอะไรใหม่) แต่ได้รีวิวค่อนข้างดีสำหรับคนที่ไม่เคยดู The Bible มาก่อน
4. Jesus of Nasareth(1977)
ภาพจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Jesus_of_Nazareth_(miniseries)
เป็น Mini-series เหมือนกัน ความยาว 6 ชั่วโมง อันนี้ยังดูไม่จบ แต่เท่าที่ดูมาได้ 45 นาที เป็นเรือ่งที่ทำได้เหมือนหนังที่สุดแล้ว ทั้งในแง่บทสนทนาหรือการแสดงของตัวละคน น่าจะสนุก ไว้ดูจบแล้วจะมารีวิวเพิ่มเติมอีกทีค่ะ
[CR] แนะนำหนังเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ค่ะ
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/God%27s_Not_Dead_(film)
เรื่องย่อ
หนังเกี่ยวกับนักศึกษาคนหนึ่งที่ไปลงเรียนวิชาปรัชญากับอาจารย์ที่ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง(จริงๆแล้วแกเชื่อน่ะแหละ เป็นแนวต่อต้านพระเจ้า) เปิดมาปั๊บอาจารย์เริ่มด้วยทำความเข้าใจให้ตรงกัน โดยให้ทุกคนเขียนว่า ‘God is dead’ (พระเจ้าตายไปแล้ว) แต่พ่อพระเอกของเราบอกว่า ทำไม่ได้ เพราะสำหรับพระเอก God is not dead ซึ่งอาจารย์ก็ดีใจหาย ให้พระเอกหาทางพิสูจน์และโน้มน้าวเพื่อนๆ(ทั้งห้องเขียนว่า God is dead หมดเลย)โดยให้เวลาท้ายคาบ ประมาณ 20นาที x 3คาบในการอภิปราย
นอกจากเรือ่งของพระเอกก็จะมีเรื่องของคนหลายๆคน ที่มีความเกี่ยวพันกัน อารมณ์คล้ายๆ love actually มีเกี่ยวกับการอัศจรรย์บ้างแต่ไม่ใช่ส่วนที่หนังเน้น ความเห็นส่วนตัวจุดเด่นของหนังคงเป็นส่วนที่สร้างให้ผู้ชมรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่กับเรา(ถ้าเราเชื่อ) และประโยคเด็ดๆเกี่ยวกับความเชื่อ เกี่ยวกับพระเจ้าของตัวละคร ที่เด็ดสุดคือการสนทนาของลูกชายนิสัยร้ายๆกับแม่แสนดีที่ความจำเสื่อม
ลูกชาย : You prayed and believed your whole life. Never done anything wrong. And here you are. You're the nicest person I know. I am the meanest. You have dementia. My life is perfect. Explain that to me!
แม่อธิษฐานตลอดชีวิตของแม่ แม่ไม่เคยทำอะไรผิดตลอดชีวิตของแม่ แต่เป็นคนที่ดีที่สุด ในขณะผมเป็นคนเลวที่สุด แต่ดูสิ ตอนนี้แม่ความจำเสื่อม ส่วนชีวิตผมนั้นสมบูรณ์แบบ
แม่: Sometimes the devil allows people to live a life free of trouble because he doesn't want them turning to God. Their sin is like a jail cell, except it is all nice and comfy and there doesn't seem to be any reason to leave. The door's wide open. Till one day, time runs out, and the cell door slams shut, and suddenly it's too late.
บางเวลาปีศาจก็อนุญาตในชีวิตบางคนปราศจากปัญหาเพราะปีศาจไม่อยากให้เค้าหันหน้าหาพระเจ้า ความบาปของเค้าก็เหมือนกับคุก เว้นแต่มันช้างแสนสบาย สบายซะจนไม่มีเหตุผลที่จะต้องออกมาแม้ว่าประตูจะเปิดกว้าง จนกระทั่งวันหนึ่งเมือ่เวลาหมดลง ประตูก็ปิดขึ้นทันดี และแล้วก็สายเกินไปที่จะออกมา
อย่างอื่นที่ดีคือเพลงประกอบ ที่ร้องโดยวง Newboys ที่เป็นวง Christian pop rock เพลงติดหูมาก
ภาพวง Newsboyจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Newsboys
สรุปความเห็นส่วนตัว : สนุกระดับ 4/5 ไม่ค่อยชอบฉากจบ
ดูแล้วเห็นด้วยตามเพลง ' My God's not dead. He's surely alive'
2. Risen (2016)
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Risen_(2016_film)
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ Clavius ทหารโรมัน ที่ทำงานให้กับปิลาส (Pontius Pilate) ขุนนางโรมันที่ดูแลแคว้นจูเดียอยู่ในขณะนั้น ช่วงเวลาที่เกิดเป็นหลังที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนแล้ว และเนื่องจากว่าพระเยซูบอกว่าจะกลับมาภายใน 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศพของพระเยซูหายไป จึงเป็นหน้าที่ของ Clavius ที่จะสืบและตามหาศพ ซึ่งระหว่างนั้น Clavius ก็ได้พบกับหลายสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
เป็นหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลาย จุดเด่นคือน่าจะเป็นหนังที่สร้างในเหตุการณ์ตามไบเบิ้ลที่มุมที่หนังอื่นไม่เคยเสนอ มีบางคนบอกว่าหนังได้แรงบันดาลใจจาก Saint Longinus นายทหารที่ใช้หอกทิ่งที่สีข้างพระเยซูที่ภายหลังเปลี่ยนใจมาเป็นคริสเตียน จุดด้อยคือหนังดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างอืด ดูแล้วคล้ายดูสารคดี
ภาพ Saint Longinus จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Saint_Longinus
สรุปความเห็นส่วนตัว : สนุกระดับ 3.5/5 หนังเรือ่ยๆไปนิดนึง
สิ่งที่ได้คือ ได้ทบทวนเหตุการณ์ช่วงหลังพระเยซูถูกตรึงกางเขน เนื้อหามีจนถึง 40 วันหลังพระเยซูฟื้นคืนชีพ เหมาะกับการดูช่วงอีสเตอร์มาก
3. The Bible/Son of God(2013/2014)
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Son_of_God_(film)
เดิม เป็น mini series ยาว 10 ชั่วโมง ชื่อ the bible ซึ่งเป็นเนื้อหาตั้งแต่สมัยโนอาร์ และมีเหตุการณ์สำคัญใน bible ตั้งแต่เมืองโสดม (Sodom) เรื่องราวของแซมสัน(Samson) กษัตริย์เดวิด เรื่อยมาจนถึงเรือ่งราวของพระเยซูและสุดที่การสิ่นชีวิตของอัครสาวก ในส่วนของ mini series นี้ให้คะแนน 4.5/5 เลย เป็นหนังกึ่งสารคดี บทสนทนาต่างๆก็จะมีคำที่ถอดมาจากไบเบิ้ลเลย เช่น ตอนที่เรียน Simon Peter ก็ถอดจาก Mathew 4:19 ‘"Follow Me, and I will make you fishers of men." แนะนำมากสำหรับคริสเตียนใหม่ที่ต้องการศึกษาไบเบิ้ล
ส่วน Son of God เป็นหนังที่ตัดต่อมากจาก The Bible อีกที ไม่ได้ซื้อมาดูเพราะ review บอกว่าเนื้อหาเหมือนกันเปี๊ยบกับ The Bible ได้รีวิวค่อนข้างแย่สำหรับคนที่ดู The Bible (เพราะไม่มีอะไรใหม่) แต่ได้รีวิวค่อนข้างดีสำหรับคนที่ไม่เคยดู The Bible มาก่อน
4. Jesus of Nasareth(1977)
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Jesus_of_Nazareth_(miniseries)
เป็น Mini-series เหมือนกัน ความยาว 6 ชั่วโมง อันนี้ยังดูไม่จบ แต่เท่าที่ดูมาได้ 45 นาที เป็นเรือ่งที่ทำได้เหมือนหนังที่สุดแล้ว ทั้งในแง่บทสนทนาหรือการแสดงของตัวละคน น่าจะสนุก ไว้ดูจบแล้วจะมารีวิวเพิ่มเติมอีกทีค่ะ