สวัสดีค่ะ พี่น้องชาวพันทิปทู๊กโคนนนนน
หายไปนานหลังจากทริปแบคแพ็คเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนของติ๊ดตี่
ด้วยเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะงบประมาณหรือบัดเจ็ดของเรานั่นเองค่ะ
และเมื่อได้เวลาอันสมควรแก่การท่องเที่ยวอีกครั้งนึง ติ๊ดตี่ก็จัดการเก็บกระเป๋าอย่างไม่รีรอภายในเวลา 1 ชั่วโมงก่อนไปสถานีรถไฟ
ต้องบอกว่าทริปนี้กะทันหันมากกกกกก แบบ ก.ไก่ ล้านตัวอีกแล้ว และด้วยโชคชะตาหรือฟ้าลิขิต หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ติ๊ดตี่ได้ออกทริป แต่ครั้งนี้ไม่ได้ลุยเดี่ยวเหมือนเคยๆ นะจ๊ะ เพราะครั้งนี้เรามีคู่ขาพาเที่ยวเป็นฝรั่งจากแดนมะกันจ้า เรื่องราวการท่องเที่ยวของติ๊ดตี่ครั้งนี้จะเป็นเช่นไร จะดุ เด็ด เผ็ด มัน ขนาดไหน ไปดูกันเล้ยยยยยย
โอ่ๆ ปักษ์ใต้บ้านเรา โอ่ๆ ปักษ์ใต้บ้านเรา แม่น้ำ ภูเขา ทะเลกว้างไกล จะไปไหน กลับใต้บ้านเรา
ขอร้องเพลงนี้ละกันเนอะ จะได้เข้ากับบรรยากาศ 555
ต้องขอบอกก่อนว่า บันทึกท่องเที่ยวครั้งนี้ อาจจะไม่ได้อารมณ์แบคแพ็คเที่ยวคนเดียวเท่าไหร่นัก รูปก็ไม่ค่อยมี อันเนื่องมาจากติ๊ดตี่เกรงใจเพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้เป็นอย่างมาก จะถ่ายรูปแต่ละทีก็เกรงใจ๊ เกรงใจ ไม่ค่อยกล้าเล่นโทรศัพท์ต่อหน้าเค้าสักเท่าไหร่ เพราะเคยได้ยินมาว่าชาวต่างชาติเค้าค่อนข้างจะถือเรื่องการใช้โทรศัพท์ต่อหน้าเค้ามาก ขนาดเราจะโทรหาญาติจะต้องขออนุญาตเค้าทุกครั้งเลย ก็รู้ว่าเค้าคงไม่มายด์อะไรขนาดนั้น แต่อยากให้เป็นมารยาทอะจ้ะ เอาเป็นว่าบันทึกครั้งนี้ขอบรรยายแค่บรรยากาศ ข้อมูลทั่วไปคร่าวๆ และความรู้สึกส่วนตัวนะจ๊ะ ถ้ามีอะไรอยากถามเพิ่มเติมจากในกระทู้ ก็หลังไมค์มาได้เลยจ้า
เรามาเริ่มกันตั้งแต่การเดินทางเลยนะคะ
แน่นอนอยู่แล้วว่าเที่ยวสไตล์ติ๊ดตี่นั้นต้องเน้นประหยัดงบประมาณ ฉะนั้น การเดินทางไปภูเก็ตครั้งนี้ก็จะนั่งรถไฟชิวๆ ไปจ้า หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับการนั่งเครื่องบิน หรือรถทัวร์ไปภูเก็ต เพราะมันสะดวกกันใช่มั้ยคะ แต่รถไฟก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี แต่ต้องแน่ใจว่าคุณจะมีความอดทนกับสภาพและบรรยากาศการนั่งรถไฟไทยได้เป็นอย่างดี
การเดินทางไปภูเก็ตด้วยรถไฟนั้น เราจะต้องนั่งรถไฟไปลงที่สถานีสุราษฏร์ธานี จากนั้นจึงนั่งรถตู้หรือรถทัวร์ไปภูเก็ตอีกประมาณ 4-5 ชั่วโมง และการเดินทางที่แสนจะยาวนานของเราก็เริ่มต้นขึ้นที่สถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งที่นี่เป็นชุมทางรถไฟสายใต้ รถไฟทุกขบวนที่จะไปภาคใต้จะต้องมาผ่านที่สถานีนี้ เราซื้อตั๋วรถยะลา ขบวน 169 ตามเวลาในตั๋วบอกว่ารถไฟออกจากสถานีบางซื่อตอน 16.08 น. และจะถึงสถานีสุราษฏร์ธานีตอน 03.45 น. แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ต้องเลทเป็นธรรมดาของรถไฟไทย เราไปถึงสุราษฏร์ฯ ประมาณตี 4.30 ซึ่งฟ้ายังมืดอยู่เลยค่ะ เราก็เลยนั่งรออยู่ที่สถานี กะว่าจะให้ฟ้าสางแล้วค่อยไปหาอะไรทาน ระหว่างนั้นแบตมือถือก็ใกล้จะหมด ต้องหาที่ชาร์ตแบตสิคะทีนี้ ไปถามยามสถานีเค้าบอกว่าในสถานีจะมีตู้แดงอยู่ ให้ไปชาร์ตตรงนั้น เค้าบอกมาแค่นี้ ที่เหลือก็เป็นภารกิจของเราที่จะต้องตามหาตู้สีแดงว่ามันอยู่ตรงไหน เดินไปเดินมาก็เจอค่ะ มันแดงจริงๆนะ แบบเป็นกล่องสีแดงๆ ครอบปลั๊กไฟที่น่าจะผ่านสมรภูมิมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี 5555 แต่ก็ยังดีที่มีให้ชาร์ตแถมยังฟรีอีกต่างหาก คิคิ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา
หน้าสถานีรถไฟตอนเช้า มีพี่วิน และคนที่จะโดยสารรถไฟไปที่ไหนก็ตาม
เมื่อฟ้าเริ่มสางเราก็ออกหาอาหารเลยจ้า ซึ่งถ้าไปปักษ์ใต้ แน่นอนว่าอาหารเช้าของคนใต้ก็คือ กาแฟ ชาร้อน ปาท่องโก๋ ซาลาเปา และบลาๆๆๆ เราก็มองหาร้านกาแฟก่อนเลย ก็เจอร้านอยู่ใกล้ๆ สถานีนั่นแหละ เราสั่งโอวัลตินร้อน กับปาท่องโก๋ไป แจ่มว้าวๆ
เที่ยวภูเก็ตชิคๆ คลิ๊กๆกับฝรั่ง
หายไปนานหลังจากทริปแบคแพ็คเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนของติ๊ดตี่
ด้วยเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะงบประมาณหรือบัดเจ็ดของเรานั่นเองค่ะ
และเมื่อได้เวลาอันสมควรแก่การท่องเที่ยวอีกครั้งนึง ติ๊ดตี่ก็จัดการเก็บกระเป๋าอย่างไม่รีรอภายในเวลา 1 ชั่วโมงก่อนไปสถานีรถไฟ
ต้องบอกว่าทริปนี้กะทันหันมากกกกกก แบบ ก.ไก่ ล้านตัวอีกแล้ว และด้วยโชคชะตาหรือฟ้าลิขิต หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ติ๊ดตี่ได้ออกทริป แต่ครั้งนี้ไม่ได้ลุยเดี่ยวเหมือนเคยๆ นะจ๊ะ เพราะครั้งนี้เรามีคู่ขาพาเที่ยวเป็นฝรั่งจากแดนมะกันจ้า เรื่องราวการท่องเที่ยวของติ๊ดตี่ครั้งนี้จะเป็นเช่นไร จะดุ เด็ด เผ็ด มัน ขนาดไหน ไปดูกันเล้ยยยยยย
โอ่ๆ ปักษ์ใต้บ้านเรา โอ่ๆ ปักษ์ใต้บ้านเรา แม่น้ำ ภูเขา ทะเลกว้างไกล จะไปไหน กลับใต้บ้านเรา
ขอร้องเพลงนี้ละกันเนอะ จะได้เข้ากับบรรยากาศ 555
ต้องขอบอกก่อนว่า บันทึกท่องเที่ยวครั้งนี้ อาจจะไม่ได้อารมณ์แบคแพ็คเที่ยวคนเดียวเท่าไหร่นัก รูปก็ไม่ค่อยมี อันเนื่องมาจากติ๊ดตี่เกรงใจเพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้เป็นอย่างมาก จะถ่ายรูปแต่ละทีก็เกรงใจ๊ เกรงใจ ไม่ค่อยกล้าเล่นโทรศัพท์ต่อหน้าเค้าสักเท่าไหร่ เพราะเคยได้ยินมาว่าชาวต่างชาติเค้าค่อนข้างจะถือเรื่องการใช้โทรศัพท์ต่อหน้าเค้ามาก ขนาดเราจะโทรหาญาติจะต้องขออนุญาตเค้าทุกครั้งเลย ก็รู้ว่าเค้าคงไม่มายด์อะไรขนาดนั้น แต่อยากให้เป็นมารยาทอะจ้ะ เอาเป็นว่าบันทึกครั้งนี้ขอบรรยายแค่บรรยากาศ ข้อมูลทั่วไปคร่าวๆ และความรู้สึกส่วนตัวนะจ๊ะ ถ้ามีอะไรอยากถามเพิ่มเติมจากในกระทู้ ก็หลังไมค์มาได้เลยจ้า
เรามาเริ่มกันตั้งแต่การเดินทางเลยนะคะ
แน่นอนอยู่แล้วว่าเที่ยวสไตล์ติ๊ดตี่นั้นต้องเน้นประหยัดงบประมาณ ฉะนั้น การเดินทางไปภูเก็ตครั้งนี้ก็จะนั่งรถไฟชิวๆ ไปจ้า หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับการนั่งเครื่องบิน หรือรถทัวร์ไปภูเก็ต เพราะมันสะดวกกันใช่มั้ยคะ แต่รถไฟก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี แต่ต้องแน่ใจว่าคุณจะมีความอดทนกับสภาพและบรรยากาศการนั่งรถไฟไทยได้เป็นอย่างดี
การเดินทางไปภูเก็ตด้วยรถไฟนั้น เราจะต้องนั่งรถไฟไปลงที่สถานีสุราษฏร์ธานี จากนั้นจึงนั่งรถตู้หรือรถทัวร์ไปภูเก็ตอีกประมาณ 4-5 ชั่วโมง และการเดินทางที่แสนจะยาวนานของเราก็เริ่มต้นขึ้นที่สถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งที่นี่เป็นชุมทางรถไฟสายใต้ รถไฟทุกขบวนที่จะไปภาคใต้จะต้องมาผ่านที่สถานีนี้ เราซื้อตั๋วรถยะลา ขบวน 169 ตามเวลาในตั๋วบอกว่ารถไฟออกจากสถานีบางซื่อตอน 16.08 น. และจะถึงสถานีสุราษฏร์ธานีตอน 03.45 น. แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ต้องเลทเป็นธรรมดาของรถไฟไทย เราไปถึงสุราษฏร์ฯ ประมาณตี 4.30 ซึ่งฟ้ายังมืดอยู่เลยค่ะ เราก็เลยนั่งรออยู่ที่สถานี กะว่าจะให้ฟ้าสางแล้วค่อยไปหาอะไรทาน ระหว่างนั้นแบตมือถือก็ใกล้จะหมด ต้องหาที่ชาร์ตแบตสิคะทีนี้ ไปถามยามสถานีเค้าบอกว่าในสถานีจะมีตู้แดงอยู่ ให้ไปชาร์ตตรงนั้น เค้าบอกมาแค่นี้ ที่เหลือก็เป็นภารกิจของเราที่จะต้องตามหาตู้สีแดงว่ามันอยู่ตรงไหน เดินไปเดินมาก็เจอค่ะ มันแดงจริงๆนะ แบบเป็นกล่องสีแดงๆ ครอบปลั๊กไฟที่น่าจะผ่านสมรภูมิมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี 5555 แต่ก็ยังดีที่มีให้ชาร์ตแถมยังฟรีอีกต่างหาก คิคิ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา
หน้าสถานีรถไฟตอนเช้า มีพี่วิน และคนที่จะโดยสารรถไฟไปที่ไหนก็ตาม
เมื่อฟ้าเริ่มสางเราก็ออกหาอาหารเลยจ้า ซึ่งถ้าไปปักษ์ใต้ แน่นอนว่าอาหารเช้าของคนใต้ก็คือ กาแฟ ชาร้อน ปาท่องโก๋ ซาลาเปา และบลาๆๆๆ เราก็มองหาร้านกาแฟก่อนเลย ก็เจอร้านอยู่ใกล้ๆ สถานีนั่นแหละ เราสั่งโอวัลตินร้อน กับปาท่องโก๋ไป แจ่มว้าวๆ