เดือน กค.ที่ผ่านมา มีวันหยุดตั้ง 4 วัน  Travel gang ไม่รอช้าหาทัวร์ทันที แต่สิ่งที่เราเตรียมจองกับ บ.ทัวร์วันหยุด ไม่ได้รับความสนใจจาก บ. ทัวร์เลย เราต้องคอยถามว่าออกได้ป่าว ขาดกี่คน คำตอบที่ได้จาก บ.ทัวร์วันหยุดคืออีกตั้งนาน ยังมีเวลาขาย สุดท้ายเจ้ที่ บ.ทัวร์ถามเราว่าเลื่อนวันได้มั้ย เราก็โอ แต่หลังจากนั้นก็ถามอีกว่าเปลี่ยนโปรแกรมเพิ่มวันได้มั้ย สรุปโปรแกรมของเราเหลือไม่ถึงเดือนยังขายไม่ได้  สุดท้ายถามโอเชี่ยนสไมล์ ของเค้ามี 20 คนแล้ว ออกแน่ เราไปเพิ่มอีก 6 คน กรุ๊ปนี้สามสิบกว่าคน น่ารักทุกคนค่ะ
วันแรก เครื่องออก 7.30 น.ค่ะ บินแอร์เอเซีย ถึงเมืองฉางซาเกือบเที่ยง

อาหารจีนมื้อแรก หัวหน้าทัวร์บอกว่ามื้อนี้ดีสุด หลังจากนี้ต้องใช้สารพัดน้ำพริกที่พกมาค่ะ

หน้าตาดี แต่รดชาด อืมมม


จากนั้นก็นั่งกันยาวเลยค่ะ ฝนตก วิ่งเร็วไม่ได้

ถึงเมืองฟ่งหวง 3 ทุ่ม ทานมื้อดึกก่อนนะคะ

ปลาอร่อย แต่ก้างยิ่งกว่าตัว Y  พนักงานก็ยืนกดดันจะรอเก็บ  ไม่ทานก็ได้ กลัวก้างติดคอค่ะ

คืนนี้เรานอนที่ Zhengfu hotel.
ได้ยินว่าเป็นโรงแรมรัฐบาล ห้องโอเคค่ะ
ได้เวลาเดินชมเมืองโบราณฟ่งหวง ตอนสี่ทุ่มกว่า
สัญลักษณ์ของเมืองค่ะ



เดินข้ามสะพานไปอีกฝั่ง แล้วคุณจะพบกับแสง สี เสียง พร้อมควันบุหรี่



ในใจก็คิดว่ามันโบราณตรงไหน หรือว่านี่คือ ผับโบราณ
เดินต่อไปไม่ไหวแล้ว เมาบุหรี่ เดินข้ามฝายกลับโรงแรมดีกว่า


วันที่สอง  เช้านี้เราจะล่องแม่น้ำถั่วเจียงค่ะ





กลางวันค่อยมีความเป็นเมืองโบราณบ้าง

ส่วนใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำจะทำเป็นที่พัก โรงแรมเล็กๆ

ล่องเรือไม่ถึงครึ่ง ชม.ก็ขึ้นฝั่งมาเดินดูร้านค้า






อันนี้ทำลูกอมรสขิงค่ะ
ได้แต่เดินดู เพราะไม่ใช่แนว
หลังจากชมตลาดแล้วก็ได้เวลาเดินอ้อมแม่น้ำไปทานกลางวัน มื้อนี้เราได้รับเกียรติจากเชฟแตงและเชฟสิงโตมาปรุงต้มโคล้งถึงโต๊ะค่ะ


ผลไม้น่าทานนะคะ

จากนี้ก็นั่งรถกันยาวๆ เพื่อไปเมืองจางเจี่ยเจี้ยค่ะ
ขอจบรีวิวแค่นี้ก่อนนะคะ วันหยุดหมดอีกแล้ว  ว่างเมื่อไหร่จะมาต่อให้จบนะค่ะ

นั่งรถกว่า 4 ชม. ถึงจางเจี่ยเจี้ย  สองคืนจากนี้เราพักที่  Shengduomingge Hotel โรงแรมใหม่ แต่ห้องที่เราได้มันบุหรี่มากกก สุดท้ายหัวหน้าทัวร์(คุณแตง)เสียสละให้เราแลกห้อง  แล้วให้คุณแตงไปใช้วิชามารเปลี่ยนห้องเอง

จัดการเรื่องห้องเสร็จก็จัดการเรื่องท้องต่อนะคะ

เรื่องความอร่อย ห้ามถามนะคะ เด๋วตอบออกมาแล้วไม่สุภาพ

คืนนี้เราขอนอนเอาแรงไปปีนเขาอวตารกันดีกว่า
วันที่. 3  หลังจากทานอาหารเช้าแบบจำใจแล้ว ก็ถึงเวลาไปขึ้นรถเข้าอุทยาน  แต่ตอนเดินจากจุดที่รถทัวร์ส่งไปยังจุดขึ้นรถของอุทยานจางเจี่ยเจี้ย มันไกลมากกก

ถึงแล้วทางขึ้นอวตาร  แต่... เดินอีกค่ะ  เดินไปขึ้นลิฟท์

ลิฟท์แต่ละตัวมี 2 ชั้น ใช้เวลาขึ้นแพ๊บเดียว







เดิน / ไหล ไปเรื่อยๆ ก็เจอฉากอวตาร แต่จะเข้าไปถ่ายรูปคงยากค่ะ ตรงมุมที่วิวสวยๆ จะมีแก๊งรับถ่ายรูป เลห์กลสารพัด บอกราคาต่ำๆ แต่พอให้พิมพ์ เค้าจะบอกว่ารูปที่พิมพ์ได้ต้องเป็นรูปขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นราคาที่แพงค่ะ
แต่ที่น่าเจ็บใจคือน้องที่ไปด้วยทำกระเป๋าตังค์หล่นหาย  แต่สุดท้ายก็ได้ (แต่) กระเป๋าคืนนะคะ เงินไม่เหลือ. อะเมสซิ่งไชน่า มั้ยค้า

ตามโปรแกรมเราต้องขึ้นลิฟท์แล้วลงกระเช้า แต่ช่วงนี้ฝนตกหนักมากอุทยานเลยปิดในส่วนกระเช้าค่ะ  สุดท้ายต้องลงลิฟท์เหมือนเดิม
พอถึงมื้อกลางวันต้องนั่งรถลงจากอุทยานมาทานข้าวข้างนอก  มื้อนี้ไม่มีรูปนะคะ
อิ่มแล้วเดินไปขึ้นรถที่เดิมค่ะ  เรายังขอยืนยันว่าคนที่มาต้องยังเดินได้ดีนะคะ เพราะน้องที่มาด้วยบอกว่ากลับไป  ไม่ต้องออกกำลังกายแล้ว มาเดินที่นี่ก็เหมือนออกกำลังทั้งปีแล้วค่ะ
จากนี้เราขึ้นรถอุทยานไปชมภาพเขียนสิบลี้




แถมด้วยภาพน้ำท่วมนะคะ
ท่วมจนรถที่จะขึ้นมารับล่าช้า  คนติดค้างในจุดต่างๆ เยอะมากมาย  ต้องยืนเข้าแถวขดไปขดมา พร้อมชมพฤติกรรมขี้โกงลัดคิว แทรกแบบเนียนๆ  ก็เพลินดีนะคะ