Amazon เปลี่ยนวิธีการซื้อสินค้ามาสู่โลกออนไลน์ และ Apple ปฏิวัติวงการเพลง และอีกไม่นานนับจากนี้การพลิกโฉมหน้าการทำธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลจะส่งผลกระทบต่อเงินทองของคุณในทุกมิติ ไล่เรียงตั้งแต่การหาเงิน การเก็บออม การลงทุน ไปจนถึงการใช้จ่ายเงิน
จากรายงานข้อมูลของ CB Insights พบว่า บรรดานักลงทุนเงินร่วมลงทุน และนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทต่างมองเห็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลให้การลงทุนในกิจการของฟินเทคสตาร์ตอัพในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2015 มีมูลค่าสูงถึง 10.5 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการลงทุนเพียง 3.9 พันล้านเหรียญในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทเล็กๆ กลุ่มนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้โลกการเงินในอนาคตของพวกคุณ และนี่คือตัวอย่างของบริษัทที่โดดเด่นที่ไม่อาจมองข้าม
กูรูสมองกลด้านการเงิน
บริษัท Kensho ทำธุรกิจให้บริการบทวิเคราะห์ผลกระทบต่างๆ ที่มีต่อตลาดทุน โดยอาศัยการผสมผสานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เข้ากับเทคนิคต่างๆ ที่ประมวลผลโดยอาศัยการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง : Daniel Nadler อายุ 32 ปี
เครดิตผลงาน : หน่วยสืบราชการลับของประเทศสหรัฐอเมริกา (CIA) เป็นลูกค้าซอฟต์แวร์ของบริษัท
มูลค่ากิจการ : 500 ล้านเหรียญ
ธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบ : ธุรกิจที่วิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ซื้อขายหุ้นโดยอาศัยข้อมูลที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
Daniel Nadler จบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Harvard วิทยานิพนธ์ที่เขาเลือกทำเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเครดิตของประเทศ Nadler มีความคิดที่จะทำซอฟต์แวร์ Kensho ในปี2013 ช่วงที่เขาเป็นอาจารย์แลกเปลี่ยนที่ Boston Federal Reserve เขาเล่าว่า
“ผมรู้สึกทึ่งว่าโลกของเรานี้มีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประกาศแถลงการณ์ต่างๆ ของธนาคารกลาง การเลือกตั้งในยุโรป วิกฤติหนี้สินของประเทศต่างๆ เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่แล้วเราก็มักจะหันไปหาใครสักคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ และพูดว่า...แกจำได้ไหมว่าเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แล้วผลกระทบที่เกิดกับตลาดหุ้นในตอนนั้นเป็นอย่างไร”
ซอฟต์แวร์ Kenshoมีรูปแบบการทำงานแบบเดียวกับเว็บไซต์ Google ซึ่งทำหน้าที่หาคำตอบให้ทุกคำถามที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น หุ้นประเภท “defensive stock” อย่างเช่น หุ้นบริษัทน้ำมันหรือหุ้นบริษัทสายการบินมีสภาพเป็นอย่างไร ตอนที่เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายในทวีปยุโรป แต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่เว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลสามารถค้นเจอเฉพาะหน้าเว็บไซต์ที่มีบทวิเคราะห์ดังกล่าว แต่ซอฟต์แวร์ Kensho สามารถป้อนคำตอบต้นแบบให้ 65 ล้านคำถามโดยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกว่า 90,000 ครั้ง รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ผลกำไรของบริษัทต่างๆ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการอนุมัติการขึ้นทะเบียนตำรับยาขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา Nadler อวดผลงานความสำเร็จของเขาว่าไม่ใช่งานหมู ของแบบนี้หากใช้คนทำก็ต้องเสียเวลาในการวิจัยข้อมูลไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมง แต่ซอฟต์แวร์ Kensho ของเขาสามารถเนรมิตข้อมูลพวกนี้ภายในไม่กี่วินาที พร้อมแสดงข้อมูลจำพะวกกราฟและแผนภูมิต่างๆ ประกอบอย่างครบถ้วนชัดเจน ทั้งนี้ Goldman Sachs เลือกติดตั้งซอฟต์แวร์ Kensho ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขององค์กรในปี 2014 ส่วน JPMorgan Chase และ Bank of America Merrill Lynch ได้เริ่มทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ของเขาเมื่อเร็วๆ นี้
แต่สิ่งที่ทำให้ Nadler ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการด้านการวิจัยของหน่วยงานเทคโนโลยีทางการเงินที่มหาวิทยาลัย Stanford School of Engineering ภาคภูมิใจสูงสุดคือ การที่ CNBC เลือกใช้ซอฟต์แวร์ Kensho เพื่อประมวลผลการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกให้นักลงทุนกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก โดยเขายกตัวอย่างเหตุการณ์ในช่วงที่ตลาดมีการปรับฐานในเดือนสิงหาคม และสิ่งที่ซอฟต์แวร์ Kensho ได้ประมวลผลและป้อนข้อมูลให้แก่ CNBC มีส่วนทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนความเชื่อที่ว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังผันผวนอย่างหนัก
ท่านที่สนใจ อยากอ่านเรื่องราวของบริษัท Fintech อื่นๆ ต่อ สามารถอ่านต่อได้ในวารสาร Forbes Thailand โดยมาอ่านได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ นอกจากนี้ห้องสมุดยังมีหนังสือด้านการเงินและการลงทุนมากกว่า 20,000 เล่ม ให้ทุกท่านได้มาเรียนรู้ และเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30-21:00 น. เดินทางสะดวกโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ทางออก 3 ครับ
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ที่มา : วารสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2559 / ภาพประกอบ : นิตยสาร Forbes
เรียบเรียงโดย : คุณชนกานต์ อนันตคุณากร
## บทความน่าสนใจอื่น ๆ
http://onbetweenthelines.blogspot.com
Fintech อนาคตโลกการเงินจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
จากรายงานข้อมูลของ CB Insights พบว่า บรรดานักลงทุนเงินร่วมลงทุน และนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทต่างมองเห็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลให้การลงทุนในกิจการของฟินเทคสตาร์ตอัพในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2015 มีมูลค่าสูงถึง 10.5 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการลงทุนเพียง 3.9 พันล้านเหรียญในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทเล็กๆ กลุ่มนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้โลกการเงินในอนาคตของพวกคุณ และนี่คือตัวอย่างของบริษัทที่โดดเด่นที่ไม่อาจมองข้าม
กูรูสมองกลด้านการเงิน
บริษัท Kensho ทำธุรกิจให้บริการบทวิเคราะห์ผลกระทบต่างๆ ที่มีต่อตลาดทุน โดยอาศัยการผสมผสานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เข้ากับเทคนิคต่างๆ ที่ประมวลผลโดยอาศัยการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง : Daniel Nadler อายุ 32 ปี
เครดิตผลงาน : หน่วยสืบราชการลับของประเทศสหรัฐอเมริกา (CIA) เป็นลูกค้าซอฟต์แวร์ของบริษัท
มูลค่ากิจการ : 500 ล้านเหรียญ
ธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบ : ธุรกิจที่วิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ซื้อขายหุ้นโดยอาศัยข้อมูลที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
Daniel Nadler จบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Harvard วิทยานิพนธ์ที่เขาเลือกทำเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเครดิตของประเทศ Nadler มีความคิดที่จะทำซอฟต์แวร์ Kensho ในปี2013 ช่วงที่เขาเป็นอาจารย์แลกเปลี่ยนที่ Boston Federal Reserve เขาเล่าว่า
“ผมรู้สึกทึ่งว่าโลกของเรานี้มีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประกาศแถลงการณ์ต่างๆ ของธนาคารกลาง การเลือกตั้งในยุโรป วิกฤติหนี้สินของประเทศต่างๆ เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่แล้วเราก็มักจะหันไปหาใครสักคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ และพูดว่า...แกจำได้ไหมว่าเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แล้วผลกระทบที่เกิดกับตลาดหุ้นในตอนนั้นเป็นอย่างไร”
ซอฟต์แวร์ Kenshoมีรูปแบบการทำงานแบบเดียวกับเว็บไซต์ Google ซึ่งทำหน้าที่หาคำตอบให้ทุกคำถามที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น หุ้นประเภท “defensive stock” อย่างเช่น หุ้นบริษัทน้ำมันหรือหุ้นบริษัทสายการบินมีสภาพเป็นอย่างไร ตอนที่เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายในทวีปยุโรป แต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่เว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลสามารถค้นเจอเฉพาะหน้าเว็บไซต์ที่มีบทวิเคราะห์ดังกล่าว แต่ซอฟต์แวร์ Kensho สามารถป้อนคำตอบต้นแบบให้ 65 ล้านคำถามโดยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกว่า 90,000 ครั้ง รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ผลกำไรของบริษัทต่างๆ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการอนุมัติการขึ้นทะเบียนตำรับยาขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา Nadler อวดผลงานความสำเร็จของเขาว่าไม่ใช่งานหมู ของแบบนี้หากใช้คนทำก็ต้องเสียเวลาในการวิจัยข้อมูลไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมง แต่ซอฟต์แวร์ Kensho ของเขาสามารถเนรมิตข้อมูลพวกนี้ภายในไม่กี่วินาที พร้อมแสดงข้อมูลจำพะวกกราฟและแผนภูมิต่างๆ ประกอบอย่างครบถ้วนชัดเจน ทั้งนี้ Goldman Sachs เลือกติดตั้งซอฟต์แวร์ Kensho ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขององค์กรในปี 2014 ส่วน JPMorgan Chase และ Bank of America Merrill Lynch ได้เริ่มทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ของเขาเมื่อเร็วๆ นี้
แต่สิ่งที่ทำให้ Nadler ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการด้านการวิจัยของหน่วยงานเทคโนโลยีทางการเงินที่มหาวิทยาลัย Stanford School of Engineering ภาคภูมิใจสูงสุดคือ การที่ CNBC เลือกใช้ซอฟต์แวร์ Kensho เพื่อประมวลผลการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกให้นักลงทุนกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก โดยเขายกตัวอย่างเหตุการณ์ในช่วงที่ตลาดมีการปรับฐานในเดือนสิงหาคม และสิ่งที่ซอฟต์แวร์ Kensho ได้ประมวลผลและป้อนข้อมูลให้แก่ CNBC มีส่วนทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนความเชื่อที่ว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังผันผวนอย่างหนัก
ท่านที่สนใจ อยากอ่านเรื่องราวของบริษัท Fintech อื่นๆ ต่อ สามารถอ่านต่อได้ในวารสาร Forbes Thailand โดยมาอ่านได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ นอกจากนี้ห้องสมุดยังมีหนังสือด้านการเงินและการลงทุนมากกว่า 20,000 เล่ม ให้ทุกท่านได้มาเรียนรู้ และเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30-21:00 น. เดินทางสะดวกโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ทางออก 3 ครับ
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ที่มา : วารสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2559 / ภาพประกอบ : นิตยสาร Forbes
เรียบเรียงโดย : คุณชนกานต์ อนันตคุณากร
## บทความน่าสนใจอื่น ๆ http://onbetweenthelines.blogspot.com