สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
กีฬาบางประเภทนั้นมีความเหมาะสมกับแต่ละเชื้อชาติแตกต่างกันไป sport.mthai ขอหยิบยกกีฬาวิ่งระยะไกล ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นกีฬาที่คนผิวดำประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมาให้ทุกท่านได้ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงกันว่าเป็นเพราะเหตุใด
1. สะดือที่อยู่สูง
ศาสตราจารย์อังเดร บีชาน จากมหาวิทยาลัยดุ๊กในสหรัฐฯ ได้ให้เหตุผลว่า ตำแหน่งของสะดือมีผลต่อจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย สะดือที่อยู่สูงหมายถึงการมีจุดศูนย์ถ่วงที่สูง ทำให้ร่างกายเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น ขณะที่สะดือที่อยู่ต่ำจะทำให้มีช่วงลำตัวที่ยาว ทำให้ว่ายน้ำได้ดี การค้นพบนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าคนผิวสีมีแนวโน้มวิ่งเร็วกว่าคนทั่วไป ส่วนคนผิวขาวจะว่ายน้ำได้ดีกว่าคนผิวดำ จากโครงสร้างทางร่างกายของนักวิ่งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกา จะมีจุดศูนย์ถ่วงที่อยู่สูงกว่านักวิ่งจากชาติอื่นๆ ทำให้ได้เปรียบเรื่องจุดศูนย์ถ่วงที่พุ่งไปข้างหน้าและยังมีขาที่ยาวกว่าด้วย สะดือของพวกเขาอยู่สูงกว่าคนทั่วไป 3 ซ.ม. มีความสูงซ่อนเร้น มากกว่า 3% ทำให้มีความได้เปรียบในการเร่งความเร็วบนลู่วิ่ง
2. กล้ามเนื้อแข็งแรง
กล้ามเนื้อที่ใช้เคลื่อนไหวแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ กล้ามเนื้อขาวและกล้ามเนื้อแดงกล้ามเนื้อขาวเป็นชนิดที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว แรง แต่ล้าได้ง่าย นักวิ่งระยะสั้นหรือนักยกน้ำหนักจะมีกล้ามเนื้อชนิดนี้มาก ส่วนกล้ามเนื้อแดงนั้นเป็นกล้ามเนื้อที่เคลื่อนที่ช้า ให้แรงน้อยกว่า แต่มีความอดทนใช้งานได้นาน ทนการล้าได้ดี จะพบมากในนักกีฬาที่เน้นการใช้แอโรบิคสูงๆเช่น จักรยานทางไกล วิ่งมาราธอน คนทั่วไปจะมีเส้นใยกล้ามเนื้อขาวกับเส้นใยกล้ามเนื้อแดงเป็นสัดส่วนเท่ากัน แต่ถ้าเปรียบเทียบชาวแอฟริกันแล้ว พบว่ามีสัดส่วนของกล้ามเนื้อแดงที่มากกว่ากล้ามเนื้อขาว กล้ามเนื้อของชาวผิวดำจึงมึคุณสมบัติในการวิ่งระยะไกลได้ดีกว่าชาติอื่นๆ
3. มวลกระดูกแข็งแกร่ง
มวลกระดูก หมายถึง ความหนาแน่นของเนื้อกระดูกที่ประกอบไปด้วยโครงสร้างหลักและแร่ธาตุต่างๆ กระดูกที่ดีจะมีความหนาแน่นมาก พวกคนผิวดำเป็นพวกที่มีมวลกระดูกหนาแน่นมากกว่าคนเอเชียและยุโรป จึงมีผลต่อความแข็งแรงในการกระทบกระทั่ง และสามารถปะทะอะไรได้ดี โดยเฉพาะขณะวิ่งที่กระดูกจะต้องรองรับน้ำหนักขณะกระแทกถึง 5 เท่าของน้ำหนักตัว
4. เลือดดี
ทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อถือกันมานานก็คือ ชนเผ่านักวิ่งพวกนี้อาศัยอยู่เหนือระดับน้ำทะเลเฉลี่ยร่วมสองพันเมตร การใช้ชีวิตบนที่สูงเป็นเวลานาน ร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดมากขึ้นเพื่อชดเชยความเบาบางของอากาศ ซึ่งเป็นผลดีต่อการวิ่งระยะไกล เพราะในเม็ดเลือดจะมีฮีโมโกลบินที่ทำหน้าที่นำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลและเนื้อเยื่อตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย โดยทั่วๆไปมนุษย์จะมีโมเลกุลฮีโมโกลบินอยู่เฉลี่ยประมาณ 270 ล้านโมเลกุล แตสำหรับชาวผิวดำมีเม็ดเลือดที่มากกว่านั้น ร่างกายจึงสามารถสร้างอ็อกซิเจนได้มากกว่าคนทั่วไป
5. ยีนส์อึด
งานวิจัยของ เฮนริก ลาร์เซน ชาวเดนมาร์ก จากศูนย์วิจัยกล้ามเนื้อโคเปนเฮเกนพบว่า นักวิ่งผิวสีมีช่วงขายาวกว่านักวิ่งยุโรป 5 เปอร์เซ็นต์และมีน้ำหนักของเนื้อขาท่อนล่างน้อยกว่าถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ขาที่เบาลงหมายความว่าพลังงานที่ใช้ในการสลับขาน้อยลงด้วย ประมาณว่าน้ำหนักแต่ละ 50 กรัมที่เพิ่มขึ้นไปที่ข้อเท้าจะเพิ่มการเผาผลาญออกซิเจนขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ สิ่งนี้ทำให้นักวิ่งผิวสีสามารถใช้พลังงานในการวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ นี่คือผลที่เด่นชัดของ ยีนอึด ที่อยู่ในตัวนักวิ่งผิวสี
6. การซ้อมที่เข้มข้น
นับเป็นปัจจัยที่สำคัญของนักกีฬาที่แข่งขันเพื่อความเป็นเลิศ นักวิ่งผิวสีซ้อมหนักกว่านักวิ่งชาติใดในโลก นักวิ่งที่เข้าแคมป์ฝึกวิ่งกันสัปดาห์ละประมาณ 220 ก.ม. พอล เทอร์แกต อดีตเจ้าของสถิติโลกวิ่งมาราธอน ซ้อมวันละ 3 ครั้ง และเคยซ้อมหนักสุดถึงสัปดาห์ละ 300 ก.ม. ยิ่งปัจจุบันได้นำแผนการฝึกซ้อมที่เข้มข้นมารวมกับหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาและหลักโภชนาการ พวกเค้าเหล่านี้ก็ยิ่งพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปอีก
7. วิ่งเพื่อแม่
ชาวผิวสีชื่นชอบการวิ่งมาก เหมือนกับชาวบราซิลกับฟุตบอล ทุกครั้งที่มีการจัดการแข่งขันในท้องถิ่น จะมีหนุ่มสาวมากมายลงแข่งขัน ไม่เว้นแม้แต่เด็ก 5-6 ขวบก็ยังลงวิ่งด้วยเท้าเปล่าอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้นักวิ่งชั้นนำกว่า 90% มาจากครอบครัวที่ยากจน จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อราว 30 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศได้เอกราชมาไม่นาน เมื่อชาวต่างชาติได้เห็นพรสวรรค์ ทำให้นักวิ่งบ้านนอกได้มีโอกาสไปวิ่งหากินในต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ส่งรายได้เป็นกอบเป็นกำกลับมาให้ทางบ้าน นับแต่นั้นมาชนชั้นรากหญ้าก็เริ่มมองเห็นหนทางหลีกหนีความยากจนข้นแค้นด้วยสองลำแข้งตัวเอง นี่คือแรงดลใจมหาศาลที่พาให้ชาวผิวสีลุกขึ้นมาวิ่ง วิ่ง วิ่ง จนกระทั่งสามารถขึ้นมาสู่แถวหน้าในวงการวิ่งระยะไกลของโลกได้ "เมื่อคุณเกิดมาจน คุณก็ต้องเลือกว่าจะจนต่อไปหรือไม่ก็ไปเป็นนักวิ่ง” โมเสส คิปทานุย อดีตเจ้าของสถิติโลกวิ่งวิบาก 3,000 เมตร ได้กล่าวไว้
ที่มา : Top Sport-Mthai
กีฬาบางประเภทนั้นมีความเหมาะสมกับแต่ละเชื้อชาติแตกต่างกันไป sport.mthai ขอหยิบยกกีฬาวิ่งระยะไกล ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นกีฬาที่คนผิวดำประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมาให้ทุกท่านได้ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงกันว่าเป็นเพราะเหตุใด
1. สะดือที่อยู่สูง
ศาสตราจารย์อังเดร บีชาน จากมหาวิทยาลัยดุ๊กในสหรัฐฯ ได้ให้เหตุผลว่า ตำแหน่งของสะดือมีผลต่อจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย สะดือที่อยู่สูงหมายถึงการมีจุดศูนย์ถ่วงที่สูง ทำให้ร่างกายเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น ขณะที่สะดือที่อยู่ต่ำจะทำให้มีช่วงลำตัวที่ยาว ทำให้ว่ายน้ำได้ดี การค้นพบนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าคนผิวสีมีแนวโน้มวิ่งเร็วกว่าคนทั่วไป ส่วนคนผิวขาวจะว่ายน้ำได้ดีกว่าคนผิวดำ จากโครงสร้างทางร่างกายของนักวิ่งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกา จะมีจุดศูนย์ถ่วงที่อยู่สูงกว่านักวิ่งจากชาติอื่นๆ ทำให้ได้เปรียบเรื่องจุดศูนย์ถ่วงที่พุ่งไปข้างหน้าและยังมีขาที่ยาวกว่าด้วย สะดือของพวกเขาอยู่สูงกว่าคนทั่วไป 3 ซ.ม. มีความสูงซ่อนเร้น มากกว่า 3% ทำให้มีความได้เปรียบในการเร่งความเร็วบนลู่วิ่ง
2. กล้ามเนื้อแข็งแรง
กล้ามเนื้อที่ใช้เคลื่อนไหวแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ กล้ามเนื้อขาวและกล้ามเนื้อแดงกล้ามเนื้อขาวเป็นชนิดที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว แรง แต่ล้าได้ง่าย นักวิ่งระยะสั้นหรือนักยกน้ำหนักจะมีกล้ามเนื้อชนิดนี้มาก ส่วนกล้ามเนื้อแดงนั้นเป็นกล้ามเนื้อที่เคลื่อนที่ช้า ให้แรงน้อยกว่า แต่มีความอดทนใช้งานได้นาน ทนการล้าได้ดี จะพบมากในนักกีฬาที่เน้นการใช้แอโรบิคสูงๆเช่น จักรยานทางไกล วิ่งมาราธอน คนทั่วไปจะมีเส้นใยกล้ามเนื้อขาวกับเส้นใยกล้ามเนื้อแดงเป็นสัดส่วนเท่ากัน แต่ถ้าเปรียบเทียบชาวแอฟริกันแล้ว พบว่ามีสัดส่วนของกล้ามเนื้อแดงที่มากกว่ากล้ามเนื้อขาว กล้ามเนื้อของชาวผิวดำจึงมึคุณสมบัติในการวิ่งระยะไกลได้ดีกว่าชาติอื่นๆ
3. มวลกระดูกแข็งแกร่ง
มวลกระดูก หมายถึง ความหนาแน่นของเนื้อกระดูกที่ประกอบไปด้วยโครงสร้างหลักและแร่ธาตุต่างๆ กระดูกที่ดีจะมีความหนาแน่นมาก พวกคนผิวดำเป็นพวกที่มีมวลกระดูกหนาแน่นมากกว่าคนเอเชียและยุโรป จึงมีผลต่อความแข็งแรงในการกระทบกระทั่ง และสามารถปะทะอะไรได้ดี โดยเฉพาะขณะวิ่งที่กระดูกจะต้องรองรับน้ำหนักขณะกระแทกถึง 5 เท่าของน้ำหนักตัว
4. เลือดดี
ทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อถือกันมานานก็คือ ชนเผ่านักวิ่งพวกนี้อาศัยอยู่เหนือระดับน้ำทะเลเฉลี่ยร่วมสองพันเมตร การใช้ชีวิตบนที่สูงเป็นเวลานาน ร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดมากขึ้นเพื่อชดเชยความเบาบางของอากาศ ซึ่งเป็นผลดีต่อการวิ่งระยะไกล เพราะในเม็ดเลือดจะมีฮีโมโกลบินที่ทำหน้าที่นำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลและเนื้อเยื่อตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย โดยทั่วๆไปมนุษย์จะมีโมเลกุลฮีโมโกลบินอยู่เฉลี่ยประมาณ 270 ล้านโมเลกุล แตสำหรับชาวผิวดำมีเม็ดเลือดที่มากกว่านั้น ร่างกายจึงสามารถสร้างอ็อกซิเจนได้มากกว่าคนทั่วไป
5. ยีนส์อึด
งานวิจัยของ เฮนริก ลาร์เซน ชาวเดนมาร์ก จากศูนย์วิจัยกล้ามเนื้อโคเปนเฮเกนพบว่า นักวิ่งผิวสีมีช่วงขายาวกว่านักวิ่งยุโรป 5 เปอร์เซ็นต์และมีน้ำหนักของเนื้อขาท่อนล่างน้อยกว่าถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ขาที่เบาลงหมายความว่าพลังงานที่ใช้ในการสลับขาน้อยลงด้วย ประมาณว่าน้ำหนักแต่ละ 50 กรัมที่เพิ่มขึ้นไปที่ข้อเท้าจะเพิ่มการเผาผลาญออกซิเจนขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ สิ่งนี้ทำให้นักวิ่งผิวสีสามารถใช้พลังงานในการวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ นี่คือผลที่เด่นชัดของ ยีนอึด ที่อยู่ในตัวนักวิ่งผิวสี
6. การซ้อมที่เข้มข้น
นับเป็นปัจจัยที่สำคัญของนักกีฬาที่แข่งขันเพื่อความเป็นเลิศ นักวิ่งผิวสีซ้อมหนักกว่านักวิ่งชาติใดในโลก นักวิ่งที่เข้าแคมป์ฝึกวิ่งกันสัปดาห์ละประมาณ 220 ก.ม. พอล เทอร์แกต อดีตเจ้าของสถิติโลกวิ่งมาราธอน ซ้อมวันละ 3 ครั้ง และเคยซ้อมหนักสุดถึงสัปดาห์ละ 300 ก.ม. ยิ่งปัจจุบันได้นำแผนการฝึกซ้อมที่เข้มข้นมารวมกับหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาและหลักโภชนาการ พวกเค้าเหล่านี้ก็ยิ่งพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปอีก
7. วิ่งเพื่อแม่
ชาวผิวสีชื่นชอบการวิ่งมาก เหมือนกับชาวบราซิลกับฟุตบอล ทุกครั้งที่มีการจัดการแข่งขันในท้องถิ่น จะมีหนุ่มสาวมากมายลงแข่งขัน ไม่เว้นแม้แต่เด็ก 5-6 ขวบก็ยังลงวิ่งด้วยเท้าเปล่าอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้นักวิ่งชั้นนำกว่า 90% มาจากครอบครัวที่ยากจน จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อราว 30 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศได้เอกราชมาไม่นาน เมื่อชาวต่างชาติได้เห็นพรสวรรค์ ทำให้นักวิ่งบ้านนอกได้มีโอกาสไปวิ่งหากินในต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ส่งรายได้เป็นกอบเป็นกำกลับมาให้ทางบ้าน นับแต่นั้นมาชนชั้นรากหญ้าก็เริ่มมองเห็นหนทางหลีกหนีความยากจนข้นแค้นด้วยสองลำแข้งตัวเอง นี่คือแรงดลใจมหาศาลที่พาให้ชาวผิวสีลุกขึ้นมาวิ่ง วิ่ง วิ่ง จนกระทั่งสามารถขึ้นมาสู่แถวหน้าในวงการวิ่งระยะไกลของโลกได้ "เมื่อคุณเกิดมาจน คุณก็ต้องเลือกว่าจะจนต่อไปหรือไม่ก็ไปเป็นนักวิ่ง” โมเสส คิปทานุย อดีตเจ้าของสถิติโลกวิ่งวิบาก 3,000 เมตร ได้กล่าวไว้
ที่มา : Top Sport-Mthai
แสดงความคิดเห็น
น้องสงสัยว่า ทำไมคนแถบอัฟริกา ถึงวิ่งเร็วคะ
หรือวิทยาศาสตร์การกีฬาอะไรที่ต่างจากภูมิภาคอื่นๆ