วันนี้มารีวิวเทคนิคหน้าผ่องด้วย Ambient Lighting จาก Hourglass นะคะ พร้อมกับ Swatch สีให้ชมกันค่า ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่าเราเป็นคนสีผิวค่อนข้างขาว สีผิวประมาณ NC15 / Lunasol OC01 มี undertone สีชมพูค่ะ แต่จะชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี undertone เนื้อสีเหลืองมากกว่า เพราะเวลาใช้สีโทนชมพูๆ อย่างพวก ivory มันทำให้หน้าดำดรอปลงมากค่ะ ซึ่งผิวก็มีปัญหาในเรื่องของรอยแดงบริเวณปีกจมูก และผิวข้างค่อนแห้งค่ะ น่าจะเป็นเพราะทำงานอยู่ในแอร์ตลอดเวลาเลย
พอเปิดตลับออกมาก็จะเป็นเยี่ยงนี้ มาเริ่มกันที่คุณสมบัติพิเศษของตัวแบรนด์กันก่อนนะคะ ว่าทำไมถึงได้ขายราคาแพงมหาโหดกันแบบนี้
Hourglass เคลมว่าทุกๆตลับผลิตอย่างใส่ใจด้วยมือโดยไม่ใช้เครื่องจักร โดยเนื้อผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมของพาราบีน, แป้ง, น้ำหอม, และ กลูเต็น ซึ่งจัดเป็นสารประกอบที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย โดยออกแบบมาเป็นสูตร Hypo-Allergenic ซึ่งเหมาะสำหรับทุกๆสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆ และทางแบรนด์ยังทำการทดลองจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานจริง ไม่ใช้สัตว์ทดลองอีกด้วย
Ambient Strobe Lighting Powder – สี Incandescent Strobe Light
ราคา 1,550 บาท / ปริมาณ 4.6 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีขาวมุก โดยเป็นสีที่ขาวที่สุดในบรรดาไฮไลท์ของ Hourglass นะคะ ปัดแล้วเห็นค่อนข้างชัดเลยค่ะ เหมาะกับสีผิวที่ค่อนขาวนิดนึง
คิดว่าสาวๆน่าจะคุ้นเคยกับสีนี้อยู่แล้ว เพราะดันไปซ้ำกับพาเลท แบบ 3 หลุม กับ 6 หลุมที่ออกมาก่อนหน้านี้นะคะ แต่… จะพิเศษตรงที่เจ้าตลับนี้ที่ออกมาใหม่ สามารถใช้ทั้งแบบแห้งและแบบเปียกได้ด้วย กริ๊ดมาก วิธีการใช้แบบเปียกคือใช้ฟองน้ำชุปน้ำแล้วบิดให้หมาดๆ หรือใช้น้ำแร่ฉีด แล้วปาดๆกดๆลงไปค่ะ จะให้สีที่ชัดขึ้น สิ่งที่เราประทับใจมากๆสำหรับแป้งไฮไลท์ตัวนี้คือ มันมีการกระจายแสง ช่วยให้ผิวดูมีออร่า แต่ไม่ทำให้รุขุมขนดูใหญ่ เพราะว่ามีเนื้อชิมเมอร์ที่มีวิ๊งเล็กๆละเอียดสุดๆอยู่ในอณูเนื้อผลิตภัณฑ์ โดยที่ทางแบรนด์เค้าเคลมไว้ด้วยว่าองค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ได้ลุคที่ดูหรูหราสุดปังนั่นเอง
Ambient Lighting Blush – สี Mood Exposure
ราคา 1,550 บาท / ปริมาณ 4.2 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีม่วงพลัมอ่อนๆ อมชมพูเล็กน้อย ให้สีโทนอบอุ่นและดูอ่อนเยาว์ คิดว่าเหมาะกับทุกๆสีผิว
ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นบลัชอันดับหนึ่งในดวงใจที่ใช้ทุกวันเลยค่ะ ความพิเศษของเจ้าตัวนี้คือ มีความไฮบริดจ์ โดยออกแบบมาเป็นลูกผสมระหว่าง Pigment สีที่เข้มข้น และ Finishing Power ซึ่งเป็นการปฎิวัติรูปแบบเดิมๆของ Blush On ไปอย่างสิ้นเชิง โดยบลัชปัดแก้มแบบดั้งเดิมทั่วไปมักจะขาดความมีมิติ ทำให้เมื่อปัดออกมาแล้วสีที่ได้จะขาดความโดดเด่น หรือ ให้ความรู้สึกว่าผิวบริเวณที่ลงสีปัดแก้มนั้นๆ "แบนลง" แต่ด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ บลัชตัวนี้จะช่วยเพิ่มความลึก และ ความมีมิติเวลาที่เราปัดลงไปกับผิวจริง ซึ่งถ้ามองดูด้วยตาเปล่าจากในตลับจะเห็นผลไม่ค่อยชัดนะคะ แต่พอได้ลองปัดลงบนแก้มแล้ว มันมีความต่างมากๆ โดยมีการกระจายตัวของแสงได้ดี ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากแบรนด์อื่นเลยคือ ความเข้มอ่อนของเม็ดสีใน 1 ตลับที่หลากหลายลงตัวมากๆ จะปัดอ่อน เข้ม สีก็ชัดค่ะ บอกเลยว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนค่ะ
Ambient Lighting Power – สี Luminous Light
ราคา 1,980 บาท / ปริมาณ 10 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีแชมเปญเหลือบมุก ให้ลุคที่ดู soft อ่อนหวาน เรื่องรองแบบแสงเทียน เหมาะกับทุกๆสภาพผิวค่ะ
แป้งตัวนี้เป็น Finishing Power ใช้ปัดเป็นขั้นตอนสุดท้าย สามารถใช้เฉพาะส่วนหรือทั่วหน้าก็ได้ แต่เราใช้ทั่วหน้าเลยก็ถือว่าช่วยพลางรอยแดงได้ดีทีเดียว ที่สำคัญเนื้อเนียนละเอียดมากๆๆ แป้งมีความบางเบา โปร่งแสง เวลาที่แสงตกกระทบบนใบหน้าสามารถสะท้อนออกมาได้ดีมาก ทำให้เวลาปัดแล้วรู้สึกหน้าผ่องเด้งขึ้นมาทันที ทันใด ยิ่งเวลาเจอแสงธรรมชาตินะ เราคิดว่าสวยกว่าแสงไฟเยอะมากๆๆๆเลย
เพราะฉะนั้นแล้วเราคิดว่าสามารถเป็นแป้งที่ใช้กับ everyday look ได้อีกตัวหนึ่งเลยค่ะ
Ambient Lighting Bronzer – สี Luminous Bronze
ราคา 2,040 บาท / ปริมาณ 11 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีน้ำตาลทองประกายวาว ให้สีโทนอบอุ่น ผิวบ่มแดด ไม่ออกส้มจนเกินไป คิดว่าเหมาะผิวขาวหน่อย
มาถึงไอเท็มเด็ดดวงที่สุดในวันนี้ นั่นคือบรอนเซอร์ จริงๆมี 2 เฉดสีนะคะ คือ Luminous กับ Radiant ถ้าชอบโทนที่ค่อนข้างเข้มหน่อยก็เลือก Radiant ค่ะ สาวๆอาจจะกลัวว่างานบรอนเซอร์ที่มีชิมเมอร์ วิ๊งๆใช้แล้วจะรอดมั้ย ขอบอกเลยว่า รอดและเกิดใหม่ในลุคที่สวยกว่าเดิมอีก! ปกติเราคุ้ยเคยกะงานคอนทัวร์หน้าที่มีหน้าแมทและเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เจือโทนสีน้ำตาลส้มเล็กน้อย แต่งานนี้ต้องบอกว่า Hourglass ทำได้ดีมากๆ คือทาแล้วประหนึ่งว่าเป็นนางแบบดูแพงดูอินเตอร์ มีผิวลุคบ่มแดดเก๋ๆ ซึ่งข้อดีของบรอนเซอร์ตัวนี้ออกแบบมาให้สามารถปัดได้ทั่วหน้า ปัดแล้วฉ่ำโกลว์เบาๆ ไม่ดูเป็นกลิตเตอร์เยอะ เหมือนพวก Becca หรือ The Balm ที่จะพุ่งมาก วาวมากกว่า โดยจะได้โทนสีค่อนข้างอุ่น ละมุน เนื้อเนียนละเอียดสุดๆ และยังไม่ไปเน้นให้รูขุมขนขยายใหญ่มากขึ้น ต่อให้ปัดเยอะหรือหนักมือแค่ไหน ก็ไม่ดูเยอะหรือหน้าดรอปนะคะ ที่สำคัญคือถ่ายรูปขึ้นมากๆค่ะ มาครบทุกมิติ!
มาลองเทสสีบนฝ่ามือกันค่ะ
Benefit - Hoola Bronzing & Contouring Brush
ราคา 950 บาท
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : แปรงรูปทรงโดมที่สามารถใช้ได้ทั้งเกลี่ยบรอนเซอร์ ปัดบลัช หรือคอนทัวร์ใบหน้าได้อย่างไร้ที่ติ มาพร้อมด้ามจับรูปทรงกระบอกไม้ไผ่สีทองสุดหรู
เป็นแปรงที่นุ่มมากกกก นุ่มสบายผิวหน้าสุดๆ เหมาะกับคนหน้าแห้งแบบเรามากค่ะ ขนจะเป็นขนสังเคราะห์
แต่ด้ามจับถนัดมือ น้ำหนักพอดีค่ะ ไม่หนักจนเกินไป และถึงแม้ว่าเราเป็นคนที่ปัดแบบไม่มี skill เลยก็ออกมาดีมากกว่าแปรงแบบอื่นอีก เนื่องจากขนแปรงเค้าค่อนข้างนุ่มแน่นและควบคุมสีของผลิตภัณฑ์ได้ดี จริงๆแปรงตัวนี้ทำมาเพื่อใช้ปัดบรอนเซอร์ และบลัชเป็นหลักนะคะ แต่เราใช้ปัดทุกอย่างที่รีวิวข้างต้นเลยค่ะ เนื่องจากมันนุ่มนิ่มมากๆและขนแปรงจิกสีพอดี เวลาวนๆที่หน้าให้ความฟินอย่างบอกไม่ถูก ปัดแบบนัวๆดันออกมาสวยอีก คือชอบมาก ให้ 100/10 และที่สำคัญราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย เทียบกับแปรงขนสัตว์ที่มีอยู่ ชอบตัวนี้มากกว่าทั้งขนาด น้ำหนักและราคาค่ะ ชนะเริ่ดไปเลย
รูปสองรูปนี้คือปัดทุกอย่างบนในหน้าแล้วเปรียบเทียบตอนอยู่กลางแจ้งกับในร่ม ถ้าอยู่กลางแจ้งจะเห็นได้ว่าจะได้ look ที่เป็นธรรมชาติมาก เมื่อย้ายมาในร่มจะเห็นสีสันที่ชัดเจนกว่า เพิ่มให้ใบหน้าดูมีมิติแบบเน้นวิธีการแต่งหน้าล้วนๆ ค่ะ
วันนี้ขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้นะคะ ไว้มีอะไรดีๆ แล้วจะมาแนะนำกันอีก ขอบคุณมากๆ เลยค้าา สำหรับการติดตาม
FACEBOOK PAGE
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/skyterminalcabincrew/
[CR] Hourglass Ambient Lighting แบบจัดเต็ม! ส่องสปอตไลท์ให้หน้าผ่อง มาทั้งแป้ง บลัช ไฮไลท์ บรอนเซอร์ แปรงปัด
วันนี้มารีวิวเทคนิคหน้าผ่องด้วย Ambient Lighting จาก Hourglass นะคะ พร้อมกับ Swatch สีให้ชมกันค่า ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่าเราเป็นคนสีผิวค่อนข้างขาว สีผิวประมาณ NC15 / Lunasol OC01 มี undertone สีชมพูค่ะ แต่จะชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี undertone เนื้อสีเหลืองมากกว่า เพราะเวลาใช้สีโทนชมพูๆ อย่างพวก ivory มันทำให้หน้าดำดรอปลงมากค่ะ ซึ่งผิวก็มีปัญหาในเรื่องของรอยแดงบริเวณปีกจมูก และผิวข้างค่อนแห้งค่ะ น่าจะเป็นเพราะทำงานอยู่ในแอร์ตลอดเวลาเลย
พอเปิดตลับออกมาก็จะเป็นเยี่ยงนี้ มาเริ่มกันที่คุณสมบัติพิเศษของตัวแบรนด์กันก่อนนะคะ ว่าทำไมถึงได้ขายราคาแพงมหาโหดกันแบบนี้
Hourglass เคลมว่าทุกๆตลับผลิตอย่างใส่ใจด้วยมือโดยไม่ใช้เครื่องจักร โดยเนื้อผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมของพาราบีน, แป้ง, น้ำหอม, และ กลูเต็น ซึ่งจัดเป็นสารประกอบที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย โดยออกแบบมาเป็นสูตร Hypo-Allergenic ซึ่งเหมาะสำหรับทุกๆสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆ และทางแบรนด์ยังทำการทดลองจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานจริง ไม่ใช้สัตว์ทดลองอีกด้วย
Ambient Strobe Lighting Powder – สี Incandescent Strobe Light
ราคา 1,550 บาท / ปริมาณ 4.6 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีขาวมุก โดยเป็นสีที่ขาวที่สุดในบรรดาไฮไลท์ของ Hourglass นะคะ ปัดแล้วเห็นค่อนข้างชัดเลยค่ะ เหมาะกับสีผิวที่ค่อนขาวนิดนึง
คิดว่าสาวๆน่าจะคุ้นเคยกับสีนี้อยู่แล้ว เพราะดันไปซ้ำกับพาเลท แบบ 3 หลุม กับ 6 หลุมที่ออกมาก่อนหน้านี้นะคะ แต่… จะพิเศษตรงที่เจ้าตลับนี้ที่ออกมาใหม่ สามารถใช้ทั้งแบบแห้งและแบบเปียกได้ด้วย กริ๊ดมาก วิธีการใช้แบบเปียกคือใช้ฟองน้ำชุปน้ำแล้วบิดให้หมาดๆ หรือใช้น้ำแร่ฉีด แล้วปาดๆกดๆลงไปค่ะ จะให้สีที่ชัดขึ้น สิ่งที่เราประทับใจมากๆสำหรับแป้งไฮไลท์ตัวนี้คือ มันมีการกระจายแสง ช่วยให้ผิวดูมีออร่า แต่ไม่ทำให้รุขุมขนดูใหญ่ เพราะว่ามีเนื้อชิมเมอร์ที่มีวิ๊งเล็กๆละเอียดสุดๆอยู่ในอณูเนื้อผลิตภัณฑ์ โดยที่ทางแบรนด์เค้าเคลมไว้ด้วยว่าองค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ได้ลุคที่ดูหรูหราสุดปังนั่นเอง
Ambient Lighting Blush – สี Mood Exposure
ราคา 1,550 บาท / ปริมาณ 4.2 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีม่วงพลัมอ่อนๆ อมชมพูเล็กน้อย ให้สีโทนอบอุ่นและดูอ่อนเยาว์ คิดว่าเหมาะกับทุกๆสีผิว
ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นบลัชอันดับหนึ่งในดวงใจที่ใช้ทุกวันเลยค่ะ ความพิเศษของเจ้าตัวนี้คือ มีความไฮบริดจ์ โดยออกแบบมาเป็นลูกผสมระหว่าง Pigment สีที่เข้มข้น และ Finishing Power ซึ่งเป็นการปฎิวัติรูปแบบเดิมๆของ Blush On ไปอย่างสิ้นเชิง โดยบลัชปัดแก้มแบบดั้งเดิมทั่วไปมักจะขาดความมีมิติ ทำให้เมื่อปัดออกมาแล้วสีที่ได้จะขาดความโดดเด่น หรือ ให้ความรู้สึกว่าผิวบริเวณที่ลงสีปัดแก้มนั้นๆ "แบนลง" แต่ด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ บลัชตัวนี้จะช่วยเพิ่มความลึก และ ความมีมิติเวลาที่เราปัดลงไปกับผิวจริง ซึ่งถ้ามองดูด้วยตาเปล่าจากในตลับจะเห็นผลไม่ค่อยชัดนะคะ แต่พอได้ลองปัดลงบนแก้มแล้ว มันมีความต่างมากๆ โดยมีการกระจายตัวของแสงได้ดี ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากแบรนด์อื่นเลยคือ ความเข้มอ่อนของเม็ดสีใน 1 ตลับที่หลากหลายลงตัวมากๆ จะปัดอ่อน เข้ม สีก็ชัดค่ะ บอกเลยว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนค่ะ
Ambient Lighting Power – สี Luminous Light
ราคา 1,980 บาท / ปริมาณ 10 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีแชมเปญเหลือบมุก ให้ลุคที่ดู soft อ่อนหวาน เรื่องรองแบบแสงเทียน เหมาะกับทุกๆสภาพผิวค่ะ
แป้งตัวนี้เป็น Finishing Power ใช้ปัดเป็นขั้นตอนสุดท้าย สามารถใช้เฉพาะส่วนหรือทั่วหน้าก็ได้ แต่เราใช้ทั่วหน้าเลยก็ถือว่าช่วยพลางรอยแดงได้ดีทีเดียว ที่สำคัญเนื้อเนียนละเอียดมากๆๆ แป้งมีความบางเบา โปร่งแสง เวลาที่แสงตกกระทบบนใบหน้าสามารถสะท้อนออกมาได้ดีมาก ทำให้เวลาปัดแล้วรู้สึกหน้าผ่องเด้งขึ้นมาทันที ทันใด ยิ่งเวลาเจอแสงธรรมชาตินะ เราคิดว่าสวยกว่าแสงไฟเยอะมากๆๆๆเลย เพราะฉะนั้นแล้วเราคิดว่าสามารถเป็นแป้งที่ใช้กับ everyday look ได้อีกตัวหนึ่งเลยค่ะ
Ambient Lighting Bronzer – สี Luminous Bronze
ราคา 2,040 บาท / ปริมาณ 11 กรัม
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : สีน้ำตาลทองประกายวาว ให้สีโทนอบอุ่น ผิวบ่มแดด ไม่ออกส้มจนเกินไป คิดว่าเหมาะผิวขาวหน่อย
มาถึงไอเท็มเด็ดดวงที่สุดในวันนี้ นั่นคือบรอนเซอร์ จริงๆมี 2 เฉดสีนะคะ คือ Luminous กับ Radiant ถ้าชอบโทนที่ค่อนข้างเข้มหน่อยก็เลือก Radiant ค่ะ สาวๆอาจจะกลัวว่างานบรอนเซอร์ที่มีชิมเมอร์ วิ๊งๆใช้แล้วจะรอดมั้ย ขอบอกเลยว่า รอดและเกิดใหม่ในลุคที่สวยกว่าเดิมอีก! ปกติเราคุ้ยเคยกะงานคอนทัวร์หน้าที่มีหน้าแมทและเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เจือโทนสีน้ำตาลส้มเล็กน้อย แต่งานนี้ต้องบอกว่า Hourglass ทำได้ดีมากๆ คือทาแล้วประหนึ่งว่าเป็นนางแบบดูแพงดูอินเตอร์ มีผิวลุคบ่มแดดเก๋ๆ ซึ่งข้อดีของบรอนเซอร์ตัวนี้ออกแบบมาให้สามารถปัดได้ทั่วหน้า ปัดแล้วฉ่ำโกลว์เบาๆ ไม่ดูเป็นกลิตเตอร์เยอะ เหมือนพวก Becca หรือ The Balm ที่จะพุ่งมาก วาวมากกว่า โดยจะได้โทนสีค่อนข้างอุ่น ละมุน เนื้อเนียนละเอียดสุดๆ และยังไม่ไปเน้นให้รูขุมขนขยายใหญ่มากขึ้น ต่อให้ปัดเยอะหรือหนักมือแค่ไหน ก็ไม่ดูเยอะหรือหน้าดรอปนะคะ ที่สำคัญคือถ่ายรูปขึ้นมากๆค่ะ มาครบทุกมิติ!
มาลองเทสสีบนฝ่ามือกันค่ะ
Benefit - Hoola Bronzing & Contouring Brush
ราคา 950 บาท
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : แปรงรูปทรงโดมที่สามารถใช้ได้ทั้งเกลี่ยบรอนเซอร์ ปัดบลัช หรือคอนทัวร์ใบหน้าได้อย่างไร้ที่ติ มาพร้อมด้ามจับรูปทรงกระบอกไม้ไผ่สีทองสุดหรู
เป็นแปรงที่นุ่มมากกกก นุ่มสบายผิวหน้าสุดๆ เหมาะกับคนหน้าแห้งแบบเรามากค่ะ ขนจะเป็นขนสังเคราะห์
แต่ด้ามจับถนัดมือ น้ำหนักพอดีค่ะ ไม่หนักจนเกินไป และถึงแม้ว่าเราเป็นคนที่ปัดแบบไม่มี skill เลยก็ออกมาดีมากกว่าแปรงแบบอื่นอีก เนื่องจากขนแปรงเค้าค่อนข้างนุ่มแน่นและควบคุมสีของผลิตภัณฑ์ได้ดี จริงๆแปรงตัวนี้ทำมาเพื่อใช้ปัดบรอนเซอร์ และบลัชเป็นหลักนะคะ แต่เราใช้ปัดทุกอย่างที่รีวิวข้างต้นเลยค่ะ เนื่องจากมันนุ่มนิ่มมากๆและขนแปรงจิกสีพอดี เวลาวนๆที่หน้าให้ความฟินอย่างบอกไม่ถูก ปัดแบบนัวๆดันออกมาสวยอีก คือชอบมาก ให้ 100/10 และที่สำคัญราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย เทียบกับแปรงขนสัตว์ที่มีอยู่ ชอบตัวนี้มากกว่าทั้งขนาด น้ำหนักและราคาค่ะ ชนะเริ่ดไปเลย
รูปสองรูปนี้คือปัดทุกอย่างบนในหน้าแล้วเปรียบเทียบตอนอยู่กลางแจ้งกับในร่ม ถ้าอยู่กลางแจ้งจะเห็นได้ว่าจะได้ look ที่เป็นธรรมชาติมาก เมื่อย้ายมาในร่มจะเห็นสีสันที่ชัดเจนกว่า เพิ่มให้ใบหน้าดูมีมิติแบบเน้นวิธีการแต่งหน้าล้วนๆ ค่ะ
วันนี้ขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้นะคะ ไว้มีอะไรดีๆ แล้วจะมาแนะนำกันอีก ขอบคุณมากๆ เลยค้าา สำหรับการติดตาม
FACEBOOK PAGE
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้