สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอเล่าให้ฟังคร่าวๆนะคะว่าเราเป็นนักศึกษาของม.หนึ่ง แต่ขออนุญาตไม่เอ่ยนามนะคะว่าม.แห่งใด
แล้วทีนี้เขาจะมีการจัดเข้าค่ายเพื่อปลูกฝังความรักชาติ สาส์น กษัตริย์หรือปลูกฝังคุณธรรมเป็นจำนวน5วัน4คืน โดยนักศึกษาทุกคนต้องไป
เนื่องจากวิทยากรมีทั้งหมดสองท่าน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ผู้หญิงจะพูดวันที่สอง ส่วนผู้ชายพูดวันที่สาม
ซึ่งวิทยากรผู้หญิงคนแรก พูดจาในเชิงเสียดสีดูถูกมหาลัยอื่น
เป็นต้นว่า พี่เคยไปพูดหลายๆที่มาแล้วอย่างจุฬา เกษตรฯ แต่รู้อะไรไหมทั้งหมดที่พี่ไปพูดมาเด็กราชภัฏกับเด็กเอกชนตั้งใจมากที่สุด
เพราะเขารู้ตัวว่า
ตัวเองด้อยกว่าคนอื่น ถึงต้องเปิดรับฟังไว้ให้มากๆ มือถือเขาก็ไม่เล่น
แล้วเขาก็พูดทำนองว่าม.เราไม่ฟังเขาน่ะค่ะ เราเข้าใจว่าเขาต้องการสื่อถึงอะไร แต่คำพูดที่ดีที่ควรเลือกใช้กว่านี้ก็มี เป็นต้นว่า "คนที่ไม่รับฟังพี่ก็อยากให้เปิดใจลองฟังดู เผื่อจะได้มุมมองที่แตกต่างจากความคิดของตัวเองตอนนี้กลับไป"
เราไม่เข้าใจว่าทำไมค่ายปลูกฝังคุณธรรมถึงกลายเป็นค่ายให้เรามาฟังถึงความแบ่งแยกของแต่ละมหาลัย
ส่วนท่านวิทยากรคนที่สองซึ่งเป็นผู้ชาย ท่านนี้จะมาปลูกฝังความรักชาติ สาส์น กษัตริย์
วิทยากรท่านนี้ พูดจาในเชิงว่า ผู้ที่ไม่ร้องเพลงชาติตอนเพลงขึ้นถือเป็นคนไม่รักชาติ คนที่ไม่บริจาคเลือดทุกสามเดือนถือเป็นคนไม่รักชาติ คนที่ไม่ได้ไปกู้ภัย ไม่ไปไปช่วยคนที่น้ำท่วมประสบภัยถือเป็นคนเห็นแก่ตัว
ซึ่งเราเห็นว่าความเป็นคนดี การรักชาติ ไม่เกี่ยวกับเรื่องของการไปบริจาคเลือด ร้องเพลงชาติ หรือการกู้ภัยแต่อย่างใด
เรารู้สึกได้ว่าวิทยากรท่านนี้กำลังพูดเพื่อ
ปลูกฝังค่านิยมผิดๆ ให้เรามองดูถูกผู้อื่นว่าคนที่ไม่ทำตามที่เขาพูดดังต่อไปนี้เป็นคนไม่ดี ให้ประณามเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะทุกคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะร้องเพลงชาติ ทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่ในสังคมได้และทำตามใจของตนตราบใดที่ไม่เดือดร้อนผู้อื่น
ป.ล. ขอแท็กปัญหาสังคมเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการปลูกฝังค่านิยมในเชิงที่ไม่ดีนะคะ
ทำไมท่านวิทยากรถึงพูดจาดูถูกผู้อื่นแบบนี้เหรอคะ?
แล้วทีนี้เขาจะมีการจัดเข้าค่ายเพื่อปลูกฝังความรักชาติ สาส์น กษัตริย์หรือปลูกฝังคุณธรรมเป็นจำนวน5วัน4คืน โดยนักศึกษาทุกคนต้องไป
เนื่องจากวิทยากรมีทั้งหมดสองท่าน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ผู้หญิงจะพูดวันที่สอง ส่วนผู้ชายพูดวันที่สาม
ซึ่งวิทยากรผู้หญิงคนแรก พูดจาในเชิงเสียดสีดูถูกมหาลัยอื่น
เป็นต้นว่า พี่เคยไปพูดหลายๆที่มาแล้วอย่างจุฬา เกษตรฯ แต่รู้อะไรไหมทั้งหมดที่พี่ไปพูดมาเด็กราชภัฏกับเด็กเอกชนตั้งใจมากที่สุด
เพราะเขารู้ตัวว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น ถึงต้องเปิดรับฟังไว้ให้มากๆ มือถือเขาก็ไม่เล่น
แล้วเขาก็พูดทำนองว่าม.เราไม่ฟังเขาน่ะค่ะ เราเข้าใจว่าเขาต้องการสื่อถึงอะไร แต่คำพูดที่ดีที่ควรเลือกใช้กว่านี้ก็มี เป็นต้นว่า "คนที่ไม่รับฟังพี่ก็อยากให้เปิดใจลองฟังดู เผื่อจะได้มุมมองที่แตกต่างจากความคิดของตัวเองตอนนี้กลับไป"
เราไม่เข้าใจว่าทำไมค่ายปลูกฝังคุณธรรมถึงกลายเป็นค่ายให้เรามาฟังถึงความแบ่งแยกของแต่ละมหาลัย
ส่วนท่านวิทยากรคนที่สองซึ่งเป็นผู้ชาย ท่านนี้จะมาปลูกฝังความรักชาติ สาส์น กษัตริย์
วิทยากรท่านนี้ พูดจาในเชิงว่า ผู้ที่ไม่ร้องเพลงชาติตอนเพลงขึ้นถือเป็นคนไม่รักชาติ คนที่ไม่บริจาคเลือดทุกสามเดือนถือเป็นคนไม่รักชาติ คนที่ไม่ได้ไปกู้ภัย ไม่ไปไปช่วยคนที่น้ำท่วมประสบภัยถือเป็นคนเห็นแก่ตัว
ซึ่งเราเห็นว่าความเป็นคนดี การรักชาติ ไม่เกี่ยวกับเรื่องของการไปบริจาคเลือด ร้องเพลงชาติ หรือการกู้ภัยแต่อย่างใด
เรารู้สึกได้ว่าวิทยากรท่านนี้กำลังพูดเพื่อปลูกฝังค่านิยมผิดๆ ให้เรามองดูถูกผู้อื่นว่าคนที่ไม่ทำตามที่เขาพูดดังต่อไปนี้เป็นคนไม่ดี ให้ประณามเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะทุกคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะร้องเพลงชาติ ทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่ในสังคมได้และทำตามใจของตนตราบใดที่ไม่เดือดร้อนผู้อื่น
ป.ล. ขอแท็กปัญหาสังคมเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการปลูกฝังค่านิยมในเชิงที่ไม่ดีนะคะ