เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ครับ อยากขอสอบถามผู้รู้สักหน่อย
เรื่องมันเริ่มจากที่มีน้าคนนึง มาขอยืมเงินแม่ผมครับเมื่อช่วงต้นเดือน 1หมื่นบาท
โดยรับปากว่าจะคืนหลังจากนั้นสามวัน ทีแรกแม่ผมเข้าใจว่าทางนั้นอาจจะช็อต เอาเงินไปหมุน เลยให้ไปไม่ได้ซักถามอะไร
หลังจากนั้นสองวัน ก็มาขอยืมแม่ผมอีก 4หมื่นบาท
ให้เหตุผลว่า มีเพื่อนส่งของมาทางเครื่องบิน แล้วของติดอยู่ที่สนามบิน ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าภาษีสนามบิน
แม่ผมก็ให้ไป แต่ก็เริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้ถามอะไรเหมือนเดิม โดยรับปากว่าภายในวันที่ 8 เรื่องทั้งหมดจะเรียบร้อย
ประเด็นคือหลังจากนั้นสามวัน เค้ากลับมายืมเงินแม่ผมอีกเป็นรอบที่สามครับ
คราวนี้บอกว่าต้องการเงินอีก แสนสี่ เพราะยังเอาของออกมาไม่ได้ และต้องได้ภายในเดือนนี้
ไม่งั้นเงินทั้งหมดที่ส่งไปสองรอบแรก จะถูกยึดไว้ไม่ได้คืน
มาถึงตอนนี้แม่ผมเริ่มตกใจละ อะไรกันทำไมมันต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้ แต่ก็ยังใจดีส่งไปให้อีก สองหมื่นห้า
แต่ผมเพิ่งมารู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้ เพราะจะโทรไปขอตัง แล้วแม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
ผมตกใจมาก เลยรีบติดต่อไปคุยกับน้า เพราะเงิน เจ็ดหมื่นห้าที่เค้ายืม มันมากเกินไปจริงๆ
น้าก็เล่าให้ฟังคร่าวๆว่า รู้จักชาวต่างชาติรายนึง (เค้าไม่ได้บอกว่ารู้จักทางไหน แต่ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเฟซบุค)
ฝั่งนั้นต้องการมาลงทุนทำธุรกิจรีสอร์ทในไทย แต่รายละเอียดเค้าไม่ได้บอกผมว่าคุยลงลึกอะไรยังไง
ทางนั้นมีแผนที่จะเดินทางเข้ามาในไทย แต่จะส่งสัมภาระมาก่อน แล้วตัวจะเดินทางตามมาทีหลัง
ทีนี้ปรากฏว่าทางสนามบินสุวรรณภูมิ (เค้าใช้สรรพนามเรียกว่า ดีลเลอร์หรือเอเยนต์อะไรสักอย่าง)
แจ้งว่าต้องโอนเงินค่าภาษีอะไรสักอย่าง (ถึงตรงนี้ผมก้อไม่เข้าใจเท่าไหร่ครับ)
ซึ่งรอบแรกน้าเค้าโอนไปแล้ว น่าจะราวๆสี่ห้าหมื่นครับ
แต่...มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะเอเยนต์คนนั้นโทรเข้ามาแจ้งว่าสัมภาระที่ส่งนั้นมีเงินซ่อนไว้ในนั้นด้วย ซึ่งต้องเสียค่าภาษีสนามบินเพิ่ม
มาถึงตรงนี้ผมเลยถามว่า แล้วทางนั้นเรียกทั้งหมดกี่บาท แล้วของที่ส่งมามันคืออะไร
น้าบอกว่า เค้าเรียกเพิ่มอีกแสนสี่ ถ้าภายในสองอาทิตย์ไม่ได้เงินจำนวนนี้ ของจะถูกยึด และเงินที่จ่ายไปตอนแรกก็ะถูกยึดเช่นกัน
ส่วนของที่ส่งมา ก็มีพวกกระเป๋าเอกสาร โน็ตบุค อะไรทำนองนั้น
ผมฟังปุ๊บ ในใจผมคิดแวบแรกเลย โดนหลอกแน่นอน
แต่พอจะถามชื่อทางนั้น เค้าก็ไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลย บอกแค่ว่าเค้าจัดการเองได้ ไม่โดนหลอกหรอก อะไรทำนองนั้น
พยายามซัก ขอเลขบัญชีปลายทางที่เค้าโอนเงินไป เค้าก็ไม่บอก
จะขอเงินคืน เค้าก็บอกแต่ว่า ขอให้สบายใจได้ เค้ามีคืนอยู่แล้ว
แต่ถ้าจะให้คืนทั้งก้อนเลย ตอนนี้ยังไม่มี
ผมเลยถามว่า อ้าวแล้วตอนแรกที่บอกแม่ว่าจะคืนให้วันที่ 8 คืออะไร
เค้าบอกไม่คิดว่าเรื่องที่สนามบินจะวุ่นวาย และผิดแผนอะไรขนาดนี้
ทีนี้ผมยอมรับตรงๆเลยว่า ไม่อยากปล่อยเรื่องนี้ครับ
ผมพอจะทำอะไรได้บ้างไหม???
- ผมมีเลขบัญชีของน้า ผมจะตรวจสอบได้ไหมว่าเค้าโอนเงินไปที่ไหนบ้าง
- ซึ่งถ้าผมได้เลขบัญชีของปลายทาง ผมจะเชคได้ไหมว่าคนคนนั้นทำงานอยู่ในสนามบินจริงไหม
- ผมไปเจอเฟซบุคฝรั่งคนนึง เป็นเฟรนกับน้าผม ผมจะเอาชื่อไปหาข้อมูลอะไรได้บ้างไหมครับ เพราะในเฟซไม่มีอะไรเลย มีแต่รูปโปรไฟล์รูปเดียว
หรือใครที่พอมีความรู้เรื่องการส่งของผ่านสนามบิน รบกวนขอข้อมูลหน่อยนะครับ
ผมสงสารแม่ ที่พลาดให้ยืมเงินไป และสงสารน้า ถ้าถูกหลอกจริงๆ
ขอบคุณครับ
ขอคำปรึกษาครับ สงสัยว่าญาติกำลังจะถูกฝรั่งหลอก!!!!
เรื่องมันเริ่มจากที่มีน้าคนนึง มาขอยืมเงินแม่ผมครับเมื่อช่วงต้นเดือน 1หมื่นบาท
โดยรับปากว่าจะคืนหลังจากนั้นสามวัน ทีแรกแม่ผมเข้าใจว่าทางนั้นอาจจะช็อต เอาเงินไปหมุน เลยให้ไปไม่ได้ซักถามอะไร
หลังจากนั้นสองวัน ก็มาขอยืมแม่ผมอีก 4หมื่นบาท
ให้เหตุผลว่า มีเพื่อนส่งของมาทางเครื่องบิน แล้วของติดอยู่ที่สนามบิน ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าภาษีสนามบิน
แม่ผมก็ให้ไป แต่ก็เริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้ถามอะไรเหมือนเดิม โดยรับปากว่าภายในวันที่ 8 เรื่องทั้งหมดจะเรียบร้อย
ประเด็นคือหลังจากนั้นสามวัน เค้ากลับมายืมเงินแม่ผมอีกเป็นรอบที่สามครับ
คราวนี้บอกว่าต้องการเงินอีก แสนสี่ เพราะยังเอาของออกมาไม่ได้ และต้องได้ภายในเดือนนี้
ไม่งั้นเงินทั้งหมดที่ส่งไปสองรอบแรก จะถูกยึดไว้ไม่ได้คืน
มาถึงตอนนี้แม่ผมเริ่มตกใจละ อะไรกันทำไมมันต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้ แต่ก็ยังใจดีส่งไปให้อีก สองหมื่นห้า
แต่ผมเพิ่งมารู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้ เพราะจะโทรไปขอตัง แล้วแม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
ผมตกใจมาก เลยรีบติดต่อไปคุยกับน้า เพราะเงิน เจ็ดหมื่นห้าที่เค้ายืม มันมากเกินไปจริงๆ
น้าก็เล่าให้ฟังคร่าวๆว่า รู้จักชาวต่างชาติรายนึง (เค้าไม่ได้บอกว่ารู้จักทางไหน แต่ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเฟซบุค)
ฝั่งนั้นต้องการมาลงทุนทำธุรกิจรีสอร์ทในไทย แต่รายละเอียดเค้าไม่ได้บอกผมว่าคุยลงลึกอะไรยังไง
ทางนั้นมีแผนที่จะเดินทางเข้ามาในไทย แต่จะส่งสัมภาระมาก่อน แล้วตัวจะเดินทางตามมาทีหลัง
ทีนี้ปรากฏว่าทางสนามบินสุวรรณภูมิ (เค้าใช้สรรพนามเรียกว่า ดีลเลอร์หรือเอเยนต์อะไรสักอย่าง)
แจ้งว่าต้องโอนเงินค่าภาษีอะไรสักอย่าง (ถึงตรงนี้ผมก้อไม่เข้าใจเท่าไหร่ครับ)
ซึ่งรอบแรกน้าเค้าโอนไปแล้ว น่าจะราวๆสี่ห้าหมื่นครับ
แต่...มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะเอเยนต์คนนั้นโทรเข้ามาแจ้งว่าสัมภาระที่ส่งนั้นมีเงินซ่อนไว้ในนั้นด้วย ซึ่งต้องเสียค่าภาษีสนามบินเพิ่ม
มาถึงตรงนี้ผมเลยถามว่า แล้วทางนั้นเรียกทั้งหมดกี่บาท แล้วของที่ส่งมามันคืออะไร
น้าบอกว่า เค้าเรียกเพิ่มอีกแสนสี่ ถ้าภายในสองอาทิตย์ไม่ได้เงินจำนวนนี้ ของจะถูกยึด และเงินที่จ่ายไปตอนแรกก็ะถูกยึดเช่นกัน
ส่วนของที่ส่งมา ก็มีพวกกระเป๋าเอกสาร โน็ตบุค อะไรทำนองนั้น
ผมฟังปุ๊บ ในใจผมคิดแวบแรกเลย โดนหลอกแน่นอน
แต่พอจะถามชื่อทางนั้น เค้าก็ไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลย บอกแค่ว่าเค้าจัดการเองได้ ไม่โดนหลอกหรอก อะไรทำนองนั้น
พยายามซัก ขอเลขบัญชีปลายทางที่เค้าโอนเงินไป เค้าก็ไม่บอก
จะขอเงินคืน เค้าก็บอกแต่ว่า ขอให้สบายใจได้ เค้ามีคืนอยู่แล้ว
แต่ถ้าจะให้คืนทั้งก้อนเลย ตอนนี้ยังไม่มี
ผมเลยถามว่า อ้าวแล้วตอนแรกที่บอกแม่ว่าจะคืนให้วันที่ 8 คืออะไร
เค้าบอกไม่คิดว่าเรื่องที่สนามบินจะวุ่นวาย และผิดแผนอะไรขนาดนี้
ทีนี้ผมยอมรับตรงๆเลยว่า ไม่อยากปล่อยเรื่องนี้ครับ
ผมพอจะทำอะไรได้บ้างไหม???
- ผมมีเลขบัญชีของน้า ผมจะตรวจสอบได้ไหมว่าเค้าโอนเงินไปที่ไหนบ้าง
- ซึ่งถ้าผมได้เลขบัญชีของปลายทาง ผมจะเชคได้ไหมว่าคนคนนั้นทำงานอยู่ในสนามบินจริงไหม
- ผมไปเจอเฟซบุคฝรั่งคนนึง เป็นเฟรนกับน้าผม ผมจะเอาชื่อไปหาข้อมูลอะไรได้บ้างไหมครับ เพราะในเฟซไม่มีอะไรเลย มีแต่รูปโปรไฟล์รูปเดียว
หรือใครที่พอมีความรู้เรื่องการส่งของผ่านสนามบิน รบกวนขอข้อมูลหน่อยนะครับ
ผมสงสารแม่ ที่พลาดให้ยืมเงินไป และสงสารน้า ถ้าถูกหลอกจริงๆ
ขอบคุณครับ