โดนสวมรอย ปลอมเอกสารเปิดบัตรเครดิต

ลำดับเหตุการณ์ตามนี่ค่ะ
   
    เมื่อเดือน พฤษภาคม 59 มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือแห่งหนึ่ง ให้บริการสมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อ มาออกบูธในที่ทำงาน ขณะนั้นดิฉันได้ทำการสมัคร และยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ไป   เมื่อวันที่ 25 พค.59 ได้รับ SMS อนุมัติบัตรเป็นที่เรียบร้อย

   เหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 สค. 59 เวลา 16.00 น. ดิฉันได้รับโทรศัพท์จาก จนท.รับทวงหนี้จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เรียก E แล้วกันนะค่ะ แจ้งว่าดิฉันมียอดค้างชำระเป็นเงิน 36,000 บาท   ขณะนั้นดิฉันตกใจ คิดว่าโดนมิจฉาชีพทางโทศัพท์หลอก!!!    แต่ดิฉันก็ได้ทำการติดต่อไปยังบ.Eสำนักงานใหญ่ พร้อมยืนยันกลับไปว่าไม่ได้มีการสมัคร ทำธุระกรรมใดๆ หรือเป็นลูกค้ากับทางบ.E เลย   แต่ทางจนท.ได้ทำการตรวจสอบและให้ข้อมูลกลับมาว่า  ดิฉันได้สมัครจริง มีเอกสารสำเนา ปปช.,ใบรับรองเงินเดือน และลายเซ็นต์ของข้าพเจ้าถูกต้องทุกประการ มีการยื่นสมัครเมื่อวันที่ 25 พค. 59  พร้อมได้รับอนุมัติบัตรเมื่อ 29 พค59 และมีผู้รับบัตรเครดิต พร้อมมีการเปิดใช้งานบัตรแล้ว มีการค้างชำเงินตามยอดที่แจ้ง????
   ขณะนี้ดิฉันได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน พร้อมเขียนจดหมายแจ้งที่บ.Eสาขาย่อยเพื่อเป็นหลักฐานเป็นที่เรียบร้อย ทางบ.Eสำนักงานใหญ่สืบหาผู้ทุจริต และทราบชื่อและติดต่อผู้ปลอมแปลงเอกสารได้แล้วก็คือ นส.ส (ผู้ที่ดิฉันได้ยื่นเอกสารทำบัตรกับทางธนาคารใหญ่ เมื่อ พค.นั่นเอง)
    นส.ส ยอมรับว่าได้นำข้อมูล และเอกสารส่วนตัวของดิฉัน ประกอบด้วย
1.สำเนาบัตร ปปช.
2.สำเนาบัญชี
3.ใบสมัครบัตร
โดยลงนามในเอกสารทุกฉบับแทนตัวดิฉัน  นส.ส ยื่นสมัครบัตรเครดิตกับทาง บ.E โดยบัตรทั้งหมดให้ส่งไปที่อยู่ของ นส.ส เอง (ซึ่งชื่อ-ที่อยู่ ผู้รับบัตรไม่ตรงกับเจ้าของบัตรเลย) จนท.ไม่สงสัย หรือได้มีการตรวจสอบแล้วหรือยัง??
ดิฉันสงสัยว่าบัตรเครดิตมันขอทำง่ายขนาดนี้เลยเหรอคะ ไม่ต้องใช้บัตรปชช.ตัวจริง ไม่ดูหน้าคนสมัครว่าตรงกันหรือเปล่า??
   ขณะนี้ดิฉันก็ได้แต่รอให้ทาง นส.ส มาชำระปิดหนี้ และรอ .... ตามคำแนะนำของ บ.E
** กรณีข้างต้นนี้มีความคิดเห็นกับทาง บ.E อย่างไรค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่เห็นต้องให้ความคิดเห็นใด ๆ กับ บ. E เลย แค่ทำหนังสือแจ้งไปว่าให้ทาง บ.E ดำเนินคดีกับ นส. E ฐานปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอมมาสมัครทำบัตรเครดิต ทำให้ บ.เ้สียหาย หากไม่ดำเนินการจะถือว่า บ. ประมาทเลินเล่อมีส่วนสมรู้ร่วมคิดทำให้เราได้รับความเสียหาย เราจะฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและอาญาต่อทั้ง นส. E และบริษัทต้องดำเนินการคืนสถานะของเราไม่ให้มีประวัติกับทางเครดิตบูโร หากพบภายหลังว่า บ. E ไม่ดำเนินการล้างประวัติเราออกจากเครดิตบูโร เราจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ค่าทำละเมิดและค่าเสียโอกาส (ในการทำธุรการการเงืนในอนาคต) ต่อ บ. E ต่างหากอีกคดี แค่นี้ บ.E ก็น่าจะหางจุกตูดแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่