.
เจอข่าวนี้ก็ได้แต่เซ็งเป็ดมากมาย..
อะไรกันว้า ระดับข้าราชการ ซี 9 -10 ที่ถือว่าเป็นข้าราชการระดับสูงแล้ว ทำไมในยุคนี้ถึงได้กลัวอะไรกับ ภาษาอังกฤษกันนักหนา..?
ถ้าเป็นจริงตามข่าวนี้ .. ขอบอกว่าอึ้ง..++
" อึ้งหนัก! สอบชิงรองอธิบดี ทส.ระดับ 9 ให้อ่านภาษาอังกฤษ บ่นกันอุบ ตกแน่ๆ.."
อึ้งกันหนัก สอบชิงตำแหน่งรองอธิบดี ทส.ระดับ 9 ให้อ่านภาษาอังกฤษ บ่นกันอุบ ตกแน่ๆ ด้านรองปลัดฯในฐานะประธานกรรมการสอบยัน ไม่เอามาคิดคะแนน แค่ดูว่าทุกคนเตรียมตัวมามากแค่ไหน ปลอบใจทุกคนอย่ากังวล..
มื่อวันที่11 สิงหาคม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อสรรหาตำแหน่งข้าราชการระดับ 9 รองอธิบดี (นักบริหาร) ใน 7 กรมที่ว่าง ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 1 ตำแหน่ง รองอธิบดีกรมป่าไม้ 1 ตำแหน่ง รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2 ตำแหน่ง รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี 1 ตำแหน่ง รองอธิบดีควบคุมมลพิษ(คพ.)1 ตำแหน่ง และรองเลขาสำนักงานนโนบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)1 ตำแหน่ง โดยมีข้าราชการที่เข้ารับการสรรหา ในทุกกรมประมาณ 170 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศ ก่อนเข้าสอบนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก ในวันที่ 10-11 สิงหาคมนั้น เป็นการสอบเพื่อสรรหาตำแหน่ง รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รองอธิบดีคพ. และ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี มีข้าราชการทะยอยมารับการสัมภาษณ์ตลอดทั้งวัน โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รองปลัดทส.ในฐานะประธานสรรหา ทำหน้าที่เป็นประธานในการสอบ หลังจากที่ผู้สมัครที่สอบเสร็จ ทะยอยออกจากห้องสอบ ต่างก็จับกลุ่มวิจารณ์เนื้อหาการสอบสัมภาษณ์ โดยกรรมการใช้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งสอบสัมภาษณ์ และให้อ่านเอกสาร ออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งข้าราการที่เข้าสอบส่วนใหญ่ พากันงง เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน รวมทั้งไม่คิดกันมาก่อนว่า จะมีการสอบคัดเลือกเป็นภาษาอังกฤษ เพราะที่ผ่านมา การสอบหาตำแหน่งผู้บริหารตำแหน่งข้าราชการระดับ 9 และ 10 ไม่เคยสอบภาษาอังกฤษมาก่อน ทำให้ผู้สมัครหลายราย ถึงกับคอตก และรำพึงว่า สอบภาษาอังกฤษอย่างนี้ตัวเองไม่ได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการจับกลุ่มวิพากษ์ วิจารณ์ กรณีที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีทส. เคยให้สัมภาษณ์ รวมทั้ง ไปกล่าวในหลายสถานที่ก่อนจะมีการการสรรหา ว่า จะให้อำนาจกับอธิบดี ของกรม กรมนั้น เป็นเป็นคนคัดเลือกรองอธิบดีเอง ซึ่งเท่ากับเป็นการชี้นำกรรมการ ตลอดจนอาจจะมีการล็อคสเป็คผู้สมัครบางรายไว้ เพราะการสรรหาระดับรองอธิบดี เป็นอำนาจ ของปลัดทส. ไม่ใช่อำนาจ ของรัฐมนตรี การที่รัฐมนตรีออกมาชี้นำแบบนี้ เท่ากับทำให้ผู้สมัครหลายคนรู้ชะตาของตัวเองว่า สมัคร หรือสอบไปก็คงจะไร้ผล
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า การสอบเพื่อคัดเลือกรองอธิบดีแต่ละกรมนั้นสอบไปตามกฏระเบียบของสำนักงานข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)ตามปกติ สำหรับการสอบภาษาอังกฤษนั้น หลายคนอาจจะเกิดความกังวล แต่ความจริงแล้ว ไม่มีผลกับการเอามาคิดคะแนนโดยรวม
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ให้แต่ละกรมเตรียมเนื้อหาภาษาอังกฤษมาให้ เราก็ให้อ่านให้คณะกรรมการฟังคนละ 4-5 ย่อหน้า เนื้อหาก็แตกต่างกันไป อยู่กรมไหนก็อ่านเนื้อหาของกรมนั้น อ่านก็อ่านออกกันทุกคนอยู่แล้วก็ดูบุคคลิกบ้างเล็กน้อย ตำแหน่งรองอธิบดีเป็นตำแหน่งของผู้บริหาร แม้ว่า การอ่านภาษาอังกฤษจะไม่ได้เอามาคิดเป็นคะแนน แต่ก็ดูเรื่องการเตรียมตัว ว่าใครเตรียมตัวมามากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ หากใครได้รับตำแหน่งไปคนๆนั้นก็จะเอาเรื่องนี้ไปปรับปรุงเพิ่มทักษะด้านภาษาของตัวเองให้มากขึ้น”รองปลัดทส.กล่าว
เมื่อถามเรื่องที่รัฐมนตรีทส.เคยเกริ่นในหลายๆงานว่า จะให้อำนาจอธิบดีแต่ละกรม เป็นคนตัดสินใจเลือกรองอธิบดีเข้ามาทำงานเองนั้น เรื่องนี้จะทำให้คณะกรรมการสรรหา ลำบากใจหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มีใครลำบากใจเลย เพราะสิ่งที่รัฐมนตรีพูดนั้นเป็นแนวทางหนึ่ง แต่เรื่องการให้คะแนน กรรมการทุกคนก็ทำไปตามหลักเกณฑ์ที่ก.พ.กำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ยืนยันว่าทุกขั้นตอนมีความโปร่งใสแน่นอน
...
http://www.matichon.co.th/news/246994...
อ่านแล้วก็ได้แต่ปลง..
ปลงว่าข้าราชการระดับสูงขนาดนี้ ทำไมต้องบ่น ..?
ภาษาอังกฤษก็เรียนกันมาตั้งแต่เด็ก ดีบ้าง แย่บ้างก็ว่ากันไป
แต่ผมสงสัยว่า ทำไมรับราชการมานานจนเป็นถึง ซี 9 ซี 10 ขนาดนี้ก็คงต้องผ่านงานมามากมาย และก็คงต้องค้นคว้าหาความรู้ ตลอดจนต้องได้ไปศึกษางานยังต่างประเทศไม่มากก็น้อยกันล่ะครับ
นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงตำรับตำรา ข่าวสารบ้านเมืองหรือสารสนเทศจากต่างประเทศ ที่ต้องติดตามอยู่เป็นประจำตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ..!!!!
ก็ให้สงสัยว่า ที่ผ่านมาได้อ่านกันบ้างมั้ย หรือสนใจกันบ้างหรือเปล่า...?
ผมไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายน่ะครับ แต่กำลังจะสื่อว่าคนที่ก้าวไปเป็นอธิบดี หรือปลัดกระทรวงฯในอนาคตนั่นน่ะ
...เราอาจได้คนที่เฟอร์เฟคท์ ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์...
เพราะมีแค่ไม่กี่คนที่ไปถึงได้ แต่ไอ้คนร้อยกว่าคน ( อาจรวมถึงข้าราชการระดับสูงในกระทรวงอื่นๆนับพันคน ) ที่บ่นอุบนั่นน่ะ..
จะทำอย่างไร กับท่านเหล่านั้นล่ะครับ..
ประชามติก็ผ่านไปแล้ว เห็นว่าจะปฏิรูปอะไรกันมากมาย ..
ก็อย่าลืมปฏิรูปข้าราชการขั้นสูงที่เหลือเป็นเข่งด้วยก็แล้วกัน
เพราะสงสัยเหลือเกิน ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เรื่อง แต่ก็ยังอยากจะหาเรื่องไปดูงานต่างประเทศกันนัก แล้วมันจะได้เรื่องอะไรกันล่ะครับ..
...วันไหนประชาชนไม่มีแรง ไม่มีใจหาเงินให้ทั่นใช้เมื่อไหร่ อะไรๆก็เกิดขึ้นก็ได้น่ะครับ...
...55555 ++ ....
The No-No Song : Ringo Starr
อั้ยย่ะ..อยากสอบเป็นรองอธิบดี แต่ภาษาปะกิตไม่ได้เรื่อง..ถ้าเป็นอธิบดีเมื่อไหร่ อะไรจะเกิดขึ้น ? ..by แมวน้ำสีคราม
เจอข่าวนี้ก็ได้แต่เซ็งเป็ดมากมาย..
อะไรกันว้า ระดับข้าราชการ ซี 9 -10 ที่ถือว่าเป็นข้าราชการระดับสูงแล้ว ทำไมในยุคนี้ถึงได้กลัวอะไรกับ ภาษาอังกฤษกันนักหนา..?
ถ้าเป็นจริงตามข่าวนี้ .. ขอบอกว่าอึ้ง..++
" อึ้งหนัก! สอบชิงรองอธิบดี ทส.ระดับ 9 ให้อ่านภาษาอังกฤษ บ่นกันอุบ ตกแน่ๆ.."
อึ้งกันหนัก สอบชิงตำแหน่งรองอธิบดี ทส.ระดับ 9 ให้อ่านภาษาอังกฤษ บ่นกันอุบ ตกแน่ๆ ด้านรองปลัดฯในฐานะประธานกรรมการสอบยัน ไม่เอามาคิดคะแนน แค่ดูว่าทุกคนเตรียมตัวมามากแค่ไหน ปลอบใจทุกคนอย่ากังวล..
มื่อวันที่11 สิงหาคม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อสรรหาตำแหน่งข้าราชการระดับ 9 รองอธิบดี (นักบริหาร) ใน 7 กรมที่ว่าง ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 1 ตำแหน่ง รองอธิบดีกรมป่าไม้ 1 ตำแหน่ง รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2 ตำแหน่ง รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี 1 ตำแหน่ง รองอธิบดีควบคุมมลพิษ(คพ.)1 ตำแหน่ง และรองเลขาสำนักงานนโนบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)1 ตำแหน่ง โดยมีข้าราชการที่เข้ารับการสรรหา ในทุกกรมประมาณ 170 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศ ก่อนเข้าสอบนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก ในวันที่ 10-11 สิงหาคมนั้น เป็นการสอบเพื่อสรรหาตำแหน่ง รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รองอธิบดีคพ. และ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี มีข้าราชการทะยอยมารับการสัมภาษณ์ตลอดทั้งวัน โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รองปลัดทส.ในฐานะประธานสรรหา ทำหน้าที่เป็นประธานในการสอบ หลังจากที่ผู้สมัครที่สอบเสร็จ ทะยอยออกจากห้องสอบ ต่างก็จับกลุ่มวิจารณ์เนื้อหาการสอบสัมภาษณ์ โดยกรรมการใช้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งสอบสัมภาษณ์ และให้อ่านเอกสาร ออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งข้าราการที่เข้าสอบส่วนใหญ่ พากันงง เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน รวมทั้งไม่คิดกันมาก่อนว่า จะมีการสอบคัดเลือกเป็นภาษาอังกฤษ เพราะที่ผ่านมา การสอบหาตำแหน่งผู้บริหารตำแหน่งข้าราชการระดับ 9 และ 10 ไม่เคยสอบภาษาอังกฤษมาก่อน ทำให้ผู้สมัครหลายราย ถึงกับคอตก และรำพึงว่า สอบภาษาอังกฤษอย่างนี้ตัวเองไม่ได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการจับกลุ่มวิพากษ์ วิจารณ์ กรณีที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีทส. เคยให้สัมภาษณ์ รวมทั้ง ไปกล่าวในหลายสถานที่ก่อนจะมีการการสรรหา ว่า จะให้อำนาจกับอธิบดี ของกรม กรมนั้น เป็นเป็นคนคัดเลือกรองอธิบดีเอง ซึ่งเท่ากับเป็นการชี้นำกรรมการ ตลอดจนอาจจะมีการล็อคสเป็คผู้สมัครบางรายไว้ เพราะการสรรหาระดับรองอธิบดี เป็นอำนาจ ของปลัดทส. ไม่ใช่อำนาจ ของรัฐมนตรี การที่รัฐมนตรีออกมาชี้นำแบบนี้ เท่ากับทำให้ผู้สมัครหลายคนรู้ชะตาของตัวเองว่า สมัคร หรือสอบไปก็คงจะไร้ผล
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า การสอบเพื่อคัดเลือกรองอธิบดีแต่ละกรมนั้นสอบไปตามกฏระเบียบของสำนักงานข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)ตามปกติ สำหรับการสอบภาษาอังกฤษนั้น หลายคนอาจจะเกิดความกังวล แต่ความจริงแล้ว ไม่มีผลกับการเอามาคิดคะแนนโดยรวม
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ให้แต่ละกรมเตรียมเนื้อหาภาษาอังกฤษมาให้ เราก็ให้อ่านให้คณะกรรมการฟังคนละ 4-5 ย่อหน้า เนื้อหาก็แตกต่างกันไป อยู่กรมไหนก็อ่านเนื้อหาของกรมนั้น อ่านก็อ่านออกกันทุกคนอยู่แล้วก็ดูบุคคลิกบ้างเล็กน้อย ตำแหน่งรองอธิบดีเป็นตำแหน่งของผู้บริหาร แม้ว่า การอ่านภาษาอังกฤษจะไม่ได้เอามาคิดเป็นคะแนน แต่ก็ดูเรื่องการเตรียมตัว ว่าใครเตรียมตัวมามากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ หากใครได้รับตำแหน่งไปคนๆนั้นก็จะเอาเรื่องนี้ไปปรับปรุงเพิ่มทักษะด้านภาษาของตัวเองให้มากขึ้น”รองปลัดทส.กล่าว
เมื่อถามเรื่องที่รัฐมนตรีทส.เคยเกริ่นในหลายๆงานว่า จะให้อำนาจอธิบดีแต่ละกรม เป็นคนตัดสินใจเลือกรองอธิบดีเข้ามาทำงานเองนั้น เรื่องนี้จะทำให้คณะกรรมการสรรหา ลำบากใจหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มีใครลำบากใจเลย เพราะสิ่งที่รัฐมนตรีพูดนั้นเป็นแนวทางหนึ่ง แต่เรื่องการให้คะแนน กรรมการทุกคนก็ทำไปตามหลักเกณฑ์ที่ก.พ.กำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ยืนยันว่าทุกขั้นตอนมีความโปร่งใสแน่นอน
...http://www.matichon.co.th/news/246994...
อ่านแล้วก็ได้แต่ปลง..
ปลงว่าข้าราชการระดับสูงขนาดนี้ ทำไมต้องบ่น ..?
ภาษาอังกฤษก็เรียนกันมาตั้งแต่เด็ก ดีบ้าง แย่บ้างก็ว่ากันไป
แต่ผมสงสัยว่า ทำไมรับราชการมานานจนเป็นถึง ซี 9 ซี 10 ขนาดนี้ก็คงต้องผ่านงานมามากมาย และก็คงต้องค้นคว้าหาความรู้ ตลอดจนต้องได้ไปศึกษางานยังต่างประเทศไม่มากก็น้อยกันล่ะครับ
นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงตำรับตำรา ข่าวสารบ้านเมืองหรือสารสนเทศจากต่างประเทศ ที่ต้องติดตามอยู่เป็นประจำตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ..!!!!
ก็ให้สงสัยว่า ที่ผ่านมาได้อ่านกันบ้างมั้ย หรือสนใจกันบ้างหรือเปล่า...?
ผมไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายน่ะครับ แต่กำลังจะสื่อว่าคนที่ก้าวไปเป็นอธิบดี หรือปลัดกระทรวงฯในอนาคตนั่นน่ะ
...เราอาจได้คนที่เฟอร์เฟคท์ ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์...
เพราะมีแค่ไม่กี่คนที่ไปถึงได้ แต่ไอ้คนร้อยกว่าคน ( อาจรวมถึงข้าราชการระดับสูงในกระทรวงอื่นๆนับพันคน ) ที่บ่นอุบนั่นน่ะ..
จะทำอย่างไร กับท่านเหล่านั้นล่ะครับ..
ประชามติก็ผ่านไปแล้ว เห็นว่าจะปฏิรูปอะไรกันมากมาย ..
ก็อย่าลืมปฏิรูปข้าราชการขั้นสูงที่เหลือเป็นเข่งด้วยก็แล้วกัน
เพราะสงสัยเหลือเกิน ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เรื่อง แต่ก็ยังอยากจะหาเรื่องไปดูงานต่างประเทศกันนัก แล้วมันจะได้เรื่องอะไรกันล่ะครับ..
...วันไหนประชาชนไม่มีแรง ไม่มีใจหาเงินให้ทั่นใช้เมื่อไหร่ อะไรๆก็เกิดขึ้นก็ได้น่ะครับ...
...55555 ++ ....
The No-No Song : Ringo Starr