Chrome 53 ซึ่งกำลังจะเปิดตัวในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะเป็นเบราว์เซอร์แรกจากฝั่งกูเกิล ที่มีการบล็อกเนื้อหาประเภท Flash และถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้น โดย กูเกิล ได้ตัดสินใจที่จะสร้างการใช้งานและการตอบสนองที่รวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ในบล็อกโพสต์ ทีมงานผู้พัฒนา Chrome ได้กล่าวว่า เนื้อหาประเภท Flash เกือบทั้งหมดบนเว็บ ทุกวันนี้มีการทำงานอยู่เบื้องหลัง อย่างเช่น พวกที่มีการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์มีการทำงานที่ช้าลง ดังนั้น สิ่งแรกที่ Chrome 53 จะมุ่งเน้นเพื่อพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานเว็บที่ดีขึ้น เราจึงเลือกที่จะปิดกั้นเนื้อหาประเภท Flash

กูเกิล ยังจะมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องอีกครั้งในเดือนธันวาคม โดย Chrome 55 จะใช้ HTML5 เป็นค่าเริ่มต้นแทน Flash สำหรับทุกเว็บไซต์ที่สนับสนุนทั้งสองเทคโนโลยี ซึ่งหากเว็บไซต์ใดที่มีเนื้อหาประเภท Flash อย่างเดียว Chrome จะมีการแจ้งให้ผู้ใช้งานเปิดใช้งาน Flash เฉพาะสำหรับเว็บไซต์นั้นๆ เมื่อคุณเข้าชมเป็นครั้งแรก

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เป็นหนึ่งในความพยายามของกูเกิลเพื่อเน้นการใช้งาน HTML5 ผ่านเว็บ ความพยายามเหล่านี้เริ่มต้นเมื่อ Chrome 42 พยายามเริ่มที่จะปิดกั้นเนื้อหาประเภท Flash บางส่วน โดยต้องกดเพื่อที่จะใช้งาน Flash เหล่านั้นได้ โดยกูเกิลอ้างว่าเพื่อประหยัดพลังงาน แต่ Chrome 53 เป็นไปในเชิงการบังคับมากขึ้น ก่อนจะนำไปสู่ประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ดียิ่งขึ้น

ที่มา TechSpot