ผ่านไปแล้ว 2 part สำหรับ Swiss so Sweet ตาม link ด้านล่าง
Swiss So Sweet: เดินสวีทเที่ยว Zurich & Luzern Part 1 [by travelling As A Couple]
http://ppantip.com/topic/35476675
Swiss So Sweet: เดินสวีทเที่ยว Interlaken และ Jungfrau Part 2 [by travelling As A Couple]
http://ppantip.com/topic/35476885
มาถึง Part สุดท้ายแล้ว ที่เราจะเดินเที่ยวเมือง Zermatt & Matterhorn กัน
Zermatt !! ที่นี่มีอะไรดี ??
ถ้าพูดว่า Zermatt (เซอร์แมท) หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกว่าที่นี่มีอะไรดี แต่ถ้าพูดถึงช็อคโกแลตยี่ห้อ Toblerone หรือบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์อย่าง Paramount คงจะต้องร้อง อ๋อ เพราะว่าสัญลักษณ์ที่อยู่บนกล่องช็อคโกแลต หรือสัญลักษณ์ของ Paramount นั้นคือภูเขา Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีรูปร่างสวยงาม ที่ตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้
Zermatt (เซอร์แมท) เป็นเมืองเล็กๆ ในหุบเขา เป็นส่วนหนึ่งของพันธรัฐ Valais เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น) ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีความสูงถึง 4,478 เมตร เป็นที่หมายปองของนักปีนเขาและนักเล่นสกีที่จะมาเยือนที่นี่
ที่สำคัญเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ปราศจากมลพิษโดยสิ้นเชิง เพราะว่าเป็นเมืองที่ห้ามนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเข้าไปในตัวเมืองเด็ดขาด
จากสถานี Interlaken West เรานั่งรถไฟมายังสถานี Visp ซึ่งเป็นสถานีชุมทางของรถไฟหลายๆสาย รวมถึงขบวนที่จะไป Zermatt ด้วย
รถไฟสายนี้มีชื่อว่า Matterhorn Gotthard Bahn ซึ่งรถไฟสายนี้จะค่อยๆไต่เขาสูงขึ้นไปเป็นระยะ ผ่านหลายสถานี ไม่ว่าจะเป็น
1. Stalden-Sass, Kalpetran
2. St. Niklaus
3. Herbriggen
4. Randa
5. Täsch
และสุดท้าย ก็จะมาจอดที่สถานีปลายทาง Zermatt
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วกว่าๆ ก็มาถึง
ด้วยความที่เมืองนี้เป็นเมืองที่ปราศจากมลพิษ เพราะว่าไม่ให้นำเครื่องยนต์ทีใช้น้ำมันเข้าไป เพราะฉะนั้นพาหนะทีใช้ภายในเมืองนี้จึงเป็นพาหนะเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โรงแรมส่วนใหญ่ภายในเมืองนั้นจะมีรถไฟฟ้า (Electric Shuttle) ไว้ค่อยรับส่งนักท่องเที่ยวจากสถานีรถไฟมาถึงโรงแรมที่พัก แต่ด้วยความที่เราพักโรงแรมที่ไม่ใหญ่มาก ก็เดินสิครับรออะไร เดินด้วยสองขาตัวเองเนี่ยแหละ ดีนะว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มาก การเดินจึงไม่เป็นปัญหาอะไร ดีซะอีก ได้เดินเล่นชมเมืองไปในตัว
แต่จริงๆ แล้วที่นี่ก็มีรถสาธารณะอื่นๆไว้คอยให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ หรือรถเมลล์สาธารณะไฟฟ้า (Electro buses) คอยให้บริการ แต่ระยะห่างต่อเที่ยวนึงก็ใช้ได้เลยทีเดียว เดินน่าจะเร็วกว่ารอรถสาธารณะแบบนี้
Swiss So Sweet: เดินสวีทเที่ยว Zermatt & Matterhorn Part 3 [by travelling As A Couple]
Swiss So Sweet: เดินสวีทเที่ยว Zurich & Luzern Part 1 [by travelling As A Couple] http://ppantip.com/topic/35476675
Swiss So Sweet: เดินสวีทเที่ยว Interlaken และ Jungfrau Part 2 [by travelling As A Couple] http://ppantip.com/topic/35476885
มาถึง Part สุดท้ายแล้ว ที่เราจะเดินเที่ยวเมือง Zermatt & Matterhorn กัน
Zermatt !! ที่นี่มีอะไรดี ??
ถ้าพูดว่า Zermatt (เซอร์แมท) หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกว่าที่นี่มีอะไรดี แต่ถ้าพูดถึงช็อคโกแลตยี่ห้อ Toblerone หรือบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์อย่าง Paramount คงจะต้องร้อง อ๋อ เพราะว่าสัญลักษณ์ที่อยู่บนกล่องช็อคโกแลต หรือสัญลักษณ์ของ Paramount นั้นคือภูเขา Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีรูปร่างสวยงาม ที่ตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้
Zermatt (เซอร์แมท) เป็นเมืองเล็กๆ ในหุบเขา เป็นส่วนหนึ่งของพันธรัฐ Valais เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น) ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีความสูงถึง 4,478 เมตร เป็นที่หมายปองของนักปีนเขาและนักเล่นสกีที่จะมาเยือนที่นี่
ที่สำคัญเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ปราศจากมลพิษโดยสิ้นเชิง เพราะว่าเป็นเมืองที่ห้ามนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเข้าไปในตัวเมืองเด็ดขาด
จากสถานี Interlaken West เรานั่งรถไฟมายังสถานี Visp ซึ่งเป็นสถานีชุมทางของรถไฟหลายๆสาย รวมถึงขบวนที่จะไป Zermatt ด้วย
รถไฟสายนี้มีชื่อว่า Matterhorn Gotthard Bahn ซึ่งรถไฟสายนี้จะค่อยๆไต่เขาสูงขึ้นไปเป็นระยะ ผ่านหลายสถานี ไม่ว่าจะเป็น
1. Stalden-Sass, Kalpetran
2. St. Niklaus
3. Herbriggen
4. Randa
5. Täsch
และสุดท้าย ก็จะมาจอดที่สถานีปลายทาง Zermatt
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วกว่าๆ ก็มาถึง
ด้วยความที่เมืองนี้เป็นเมืองที่ปราศจากมลพิษ เพราะว่าไม่ให้นำเครื่องยนต์ทีใช้น้ำมันเข้าไป เพราะฉะนั้นพาหนะทีใช้ภายในเมืองนี้จึงเป็นพาหนะเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โรงแรมส่วนใหญ่ภายในเมืองนั้นจะมีรถไฟฟ้า (Electric Shuttle) ไว้ค่อยรับส่งนักท่องเที่ยวจากสถานีรถไฟมาถึงโรงแรมที่พัก แต่ด้วยความที่เราพักโรงแรมที่ไม่ใหญ่มาก ก็เดินสิครับรออะไร เดินด้วยสองขาตัวเองเนี่ยแหละ ดีนะว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มาก การเดินจึงไม่เป็นปัญหาอะไร ดีซะอีก ได้เดินเล่นชมเมืองไปในตัว
แต่จริงๆ แล้วที่นี่ก็มีรถสาธารณะอื่นๆไว้คอยให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ หรือรถเมลล์สาธารณะไฟฟ้า (Electro buses) คอยให้บริการ แต่ระยะห่างต่อเที่ยวนึงก็ใช้ได้เลยทีเดียว เดินน่าจะเร็วกว่ารอรถสาธารณะแบบนี้