เราเป็นคนนึงที่สุงสิงใน LGBTIQ community นะ ตอนนี้เรากำลังสงสัยอย่างนึงเกี่ยวกับความเชื่อของคริสต์ คอนเส็ปท์ของคำถามอาจจะซับซ้อนนิดนึงสำหรับคนที่อาจจะยังไม่มีความรู้มากในเรื่องความหลากหลายทางเพศนะ แต่เราจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายหรือเห็นภาพมากที่สุดแล้วกัน

คือปกติแล้วการที่ผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีเพศตรงตามเพศกำเนิดทั้งกายและใจ (cis-gender) ที่มีจิตใจที่ชอบพอคนเพศเดียวกันเอง (homosexual) ถือว่าไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา ทีนี้ในกรณีของคนข้ามเพศ (transsexual; transman/transwoman) ที่เป็น homosexual ละ งงใช่มั้ยถึงตรงนี้ ต้องอธิบายก่อนนะว่าสังคมเรามักเข้าใจผิดว่าการที่คนเราอยากจะข้ามเพศไปเป็นอีกเพศนึงแปลว่าเราก็จะชอบเพศตรงข้ามกับเพศใหม่ที่เราเลือกเป็นโดยอัตโนมัติ (คนรักเพศเดียวกัน - heterosexual) ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย ไม่จำเป็นที่จะเป็นแบบนั้น ยกตัวอย่างคือนาย A เกิดมาในร่างชายแต่จิตใจเขารับรู้ตัวเองว่าเป็นหญิงมาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่เขามีความรู้สึกรักและชอบพอกับผู้หญิง ไม่ได้รักผู้ชาย หรือนางสาว B ที่รู้สึกว่าตัวเองคือผู้ชายคนนึงมาตลอดแม้เกิดมาในร่างเพศหญิง เขาพบว่าตัวเองรักผู้ชาย ไม่ได้รักผู้หญิงเลย ในทางเพศวิถีศึกษาเราเรียกว่านาย A และนางสาว B คือคนข้ามเพศที่เป็นคนรักเพศเดียวกัน เข้าคำถามนะ สมมติเขาทั้งคู่เก็บเงินแปลงเพศได้แล้ว ได้เป็นชายและหญิงสอดคล้องกันทั้งกายและจิตใจ และทั้งคู่ก็ยืนยันที่จะรักกับคนเพศเดียวกับตน A ที่ตอนนี้กลายเป็นนางสาว A มีแฟนเป็นผู้หญิง ส่วน B ที่ตอนนี้เป็นนาย B ก็มีแฟนเป็นผู้ชาย อย่างนี้ศาสนาคริสต์จะมองยังไง ถือว่าเป็นการเหมาะสมหรือไม่ ถ้ายึดตามเพศกำเนิดก็เหมือนจะไม่ผิดเพราะคนรักของทั้งคู่มีเพศที่ตรงข้ามกับเพศกำเนิด แต่ถ้ายึดตามรูปลักษณ์ปัจจุบันที่ได้มาหลังการผ่าตัดแปลงเพศ ทั้งคู่ก็เป็นคนรักเพศเดียวกัน (gay/lesbian) ดีๆนี่เอง ความผิดทางใจจะยังถูกนับอยู่มั้ย เพราะในใจของคนข้ามเพศตามที่ยกตัวอย่างเขาจะคิดว่าฉันคือคนรักเพศเดียวกัน ไม่มีทางคิดว่าฉันคือคนรักต่างเพศแน่นอน เพราะ A จะบอกใครๆว่าตัวเองเป็น lesbian ส่วน B ก็บอกว่าตัวเป็น gay ซึ่งมันก็ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาอยู่แล้วไง

หวังว่าจะไม่งงกับคำถามนะ คิดว่าอธิบายเคลียร์แล้ว ใครที่ศึกษาพระคัมภีร์หรือว่าเคยฟังเทศน์อะไรมาก็ช่วยมาแชร์ทัศนะของคริสตจักรด้วยว่าเขามองเรื่องนี้ยังไง ส่วนตัวไม่เคยเจอใครถามคำถามประมาณนี้เลย