เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปี55 ทางหมู่บ้านของเรามีนายทุนเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าของหมู่บ้าน เพื่อปลูกยางพารา ผู้นำ และชาวบ้านร่วมกันขัดขวาง และร้องทุกข์ไปทางหน่วยงานราชการต่างๆ และยังสืบทราบว่าได้มีการออกโฉนดโดยมิชอบ โดยการปลอมแปลงชื่อว่ามีการซื้อขายจากชาวบ้าน และใช้ชื่อคนอื่น โดยที่คนในหมู่บ้านไม่รู้มาก่อน และการเซ็นรับรองจากผู้นำคนก่อน รวมกันเป็นพื้นที่เกือบ 1300 ไร่ แต่ยับยังได้แค่3แปลงสุดท้าย 113ไร่ เพราะว่าอยู่ในขันตอนปิดประกาศของที่ดิน  จึงร่วกันต่อสู้เพื่อนำ3แปลงสุดท้านนี้กลับมา ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือร้องทุข์ถึงหน่วยงานต่างๆ เช่น ปปช.จังหวัด ปปท. และฏีกาถึงสำนักราชเลขาธิการราชวัง จนได้รับคำสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบต่างให้ลงมาตรวจสอบ  เรื่องก็ยังอยู่ในขั้นตอนการต่างๆของหน่วยงานดังที่กล่าวมา
แต่จู่ๆผู้นำการคัดค้าน คือผู้ใหญ่บ้าน ได้หยุดการติดตามความคืบหน้าไปเฉยๆ (ตลอดเวลามีกลุ่มนายทุนมีความพยายามเข้ามาติดต่อ เสนอเงินให้ชาวบ้านตลอด แต่ชาวมีประชาคมว่าไม่รับ ) สุดท้ายผู้ใหญ่บ้านได้เชิญนายทุน(นายอำเภอมาเป็นพยาน)  และมาเจรจากับชาวบ้านโดยบอกว่าสู้เขาไม่ได้หรอก ให้รับเงินและเซ็นยินยอมเขาไป แต่ก็มีชาวบ้านบางส่วนที่เห็นแก่เงินหลงเชื่อ และรู้ข่าวว่ามีการยื่นขอเสนอกับชาวบ้านในทางลับ เพื่อจะให้ทำประชาคม ออกเสียงกันในอาทิตย์หน้า ผมกับชาวบ้านส่วนที่เหลือจึงไม่รู้จะทำอย่างไรดี เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาความรู้เรื่องกฏหมาย อำนาจก็ไม่มี จะยับยั้งพวกเขาได้อย่างไร ขอถามดังนี         1  ตามที่เล่ามาเขามีสิทธิ์ ให้ชาวบ้านเซ็นรับรองโดยใช้เสียงข้างมาก(จากการโน้มน้าว) ได้หรือไม่    
                    2   ชาวบ้านธรรมดาๆ ส่วนน้อยจะคัดค้านได้อย่างไรหรือได้จากหน่วยงานไหน