เนื้อความ : ทั้งหมดจะปรากฏในเรื่องที่ 10 ของหนังสือ "แฟ้มคดีธรรมกาย" เล่มที่ 1
บันทึกคำให้การพยานบุคคล
อดีตแกนนำผู้นำบุญปี 2526-2531
[กลุ่มแขนข้างขวาทางธุรกิจของ “ธัมมชโย”]
คณะทำงาน : เข้าวัดธรรมกายตั้งแต่เมื่อไหร่
พยาน 1 : 1 มกราคม 2526
คณะทำงาน : มีจุดประสงค์อะไรครับ
พยาน 1 : ไม่มีจุดประสงค์อะไร เราเป็นพนักงานหญิงแบงก์กรุงเทพฯ 5-6 คน เราต้องการแสวงหาธรรมะ ตามประสาคนหนุ่มสาว ได้ข่าวว่าวัดพระธรรมกายมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขับรถผ่านก็เลยแวะเข้าไป
คณะทำงาน : เข้าไปครั้งแรกรู้สึกเป็นยังไงครับ
พยาน 1 : รู้สึกปลาบปลื้ม ชอบใจ ไม่เคยเห็นวัดไหนเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างนี้มาก่อน
คณะทำงาน : ไปที่วัดพระธรรมกายครั้งแรก พบใครบ้างครับ
พยาน 1 : คุณวัลลภ–เพ็ญศรี เคียงศิริ, จิรวัฒน์ หรืออี๊ด ก็คุยกัน เขาให้ความสนใจกลุ่มของเรามาก สอบถามหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับตัวเราและพรรคพวก ถามทำงานที่ไหน อย่างไร เรียนจบที่ไหน ทำงานแผนกไหน ขอ Address ที่ติดต่อ ลงทะเบียนเรียบร้อยหมด
คณะทำงาน : ขณะนั้นสีกาอี๊ดเป็นคนลักษณะไหนครับ
พยาน 1 : เป็นคนหน้าตาดี มาดดี พยายามปั้นบุคลิกเหมือนสตรีนักธุรกิจ
คณะทำงาน : คุณวัลลภ-เพ็ญศรี เคียงศิริ เป็นใครครับ
พยาน 1 : เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร ฐานะดีมาก
คณะทำงาน : วันแรกรู้จักธัมมชโยหรือยัง มีใครแนะนำให้รู้จักธัมมชโยครับ
พยาน 1 : ได้พบธัมมชโยเทศน์ พานั่งสมาธิ เพื่อให้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย เหมือนเทปที่คณะทำงานได้ฟังนั่นแหละ เทปปี 2526, 27, 28 เทศน์เหมือนกัน หลังจากกลับจากวัดพระธรรมกายในเย็นวันนั้น ประมาณ 2 ทุ่ม สีกาอี๊ดก็โทร. มาหา บอกว่าหลวงพ่อธัมมชโยอยากพบพวกเรา เห็นว่าพวกเราเป็นคนมีบุญ บอกว่าพวกเราเกิดมาเป็นคู่บารมีของศาสนา ของหลวงพ่อ ว่ายังงั้นเลย พอประมาณ 4 ทุ่ม หลวงพ่อธัมมชโยโทรมาเองเลย เราตกใจมาก ไม่คิดว่าจะได้รับเกียรติขนาดนี้ ธัมมชโยกล่าวเชิญชวนให้เราไปฟังเขาเทศน์ เขาบอกว่าเรามีบารมีสูงทั้งกลุ่มเลย
คณะทำงาน : ให้ไปที่วัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์
พยาน 1 : ไปวันทำงาน วันธรรมดานี่แหละ ตอนเย็น ธัมมชโยมาที่ตึกนารายณ์สากลประกันภัย ทุกเย็นหลังเลิกงาน ใกล้ๆ AIA ถนนเดโช สุรวงศ์ ใกล้ๆ ที่ทำงานเรา กิจการของครอบครัววรรณา
คณะทำงาน : วรรณาคือใครครับ
พยาน 1 : วรรณา เบญจรงคกุล แฟน ดร.ประกอบ กีรจิตติ U-COM ไง เมื่อ
ปี 28 ยูค่อมสมัยก่อนยังเล็กอยู่นะ เกือบถูกเล่ห์เหลี่ยมธัมมชโยฮุบแล้ว พอดีหลวงพี่ดอกเตอร์ชัยเจริญ (ธีรญาโณ) รู้ทันธัมมชโยก่อน เตือนให้วรรณากับบุญชัยรู้ตัวเลยไม่ถูกฮุบ นี่เราอยู่ในเหตุการณ์เอง ธัมมชโยสั่งให้คนเข้าไปศึกษา เข้าใจว่าช่วงนั้นยูคอมกำลังจะขอสัมปทานสื่อสาร เขาอยากมีกิจการสื่อสารด้วย อยากมีแบงก์ด้วย
คณะทำงาน : ที่สากลประกันภัย พบคนเยอะมั้ย รูปแบบการเทศน์ของเขาเป็นยังไง
พยาน 1 : พบจิรวัฒน์-สีกาอี๊ด, คุณจึ๊ก ประพันธ์ เหตระกูล ได้ข่าวว่าช่วงนั้นเป็นเพื่อนสนิทหรือ…. ของวรรณา
คณะทำงาน : เอาละครับ เรื่องส่วนตัวปล่อยเขาไปเถอะ แต่อยากทราบรูปแบบครับ
พยาน 1 : คือเรามารู้ทีหลังนะ ว่าธัมมชโยสั่งให้สีกาอี๊ดตามประกบพวกเรา เพราะเห็นว่าพวกเราทำงานแบงก์ รู้จักคนมีเงินเยอะ เรามารู้ว่าถูกหลอกก็ตอนออกจากวัดมาแล้ว
คณะทำงาน : เอาเป็นว่า หลังจากไปที่สากลประกันภัยนั่นนะ ทางคุณและพรรคพวกเข้าไปเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกายเต็มตัวหรือยัง
พยาน 1 : ยังไม่เต็ม แต่ธัมมชโยจะชักชวนอยู่เสมอ โฆษณาตนเองตลอด คือไม่พูดตรงๆ นะ บางทีมีคนเล่าให้ฟังว่า พระธัมมชโยเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง รู้ล่วงหน้าหมดทุกอย่าง ทำนายทายทักคนได้หมดว่าใครคิดอะไร บางทีธัมมชโยก็พูดเป็นนัยๆ ว่า หลวงพ่อเกิดมาเพื่อพามนุษย์โลกข้ามวัฏสงสาร
คณะทำงาน : คุณและพรรคพวกเชื่อไหม
พยาน 1 : ตอนแรกไม่เชื่อ แต่หลังจากเราคลุกคลีมากๆ เข้า หลายคนพูด และหลายคนก็ร่ำรวย บางคนเขาบอกว่าตั้งแต่นับถือวัดพระธรรมกายฐานะเขาดีขึ้น โดยเฉพาะวรรณา สีกาอี๊ด บอกเราว่าบุญของหลวงพ่อและวิชชาธรรมกายทำให้พวกเขาประสบผลสำเร็จในชีวิตอย่างรวดเร็ว เขาพูดกันร่ำลือตลอดเวลาว่าหลวงพ่อเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง เหมือนพระยะโฮวา พระอัลเลาะห์ แต่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะมีคนมาเกณฑ์ไว้เป็นบริวารแล้ว คือพระสิทธัตถะกับหลวงพ่อสดเกิดมาเกณฑ์ชาวพุทธไว้รอ พระบรมพุทธเจ้าบังเกิดมาภายหลังคือธัมมชโย พระยะโฮวาส่งพระบุตรมาไม่มีใครเกณฑ์คนมานับถือ หลวงพ่อธัมมชโยจะยิ่งใหญ่กว่า
คณะทำงาน : ตอนนั้นสีกาอี๊ด รวยใกล้เคียงปัจจุบันหรือเปล่า
พยาน 1 : เขาพยายามบอกว่าเขาร่ำรวย แต่หลังจากนั้นเป็นปีเราพอจะทราบมาว่า บ้านสีกาอี๊ดไม่ร่ำรวยอะไร ยังยืมเงินวรรณาเลย สองหมื่นบาท สามีรับราชการกรมการปกครอง ช่วงนั้นรู้สึกจะเป็นหน้าห้องของเชาวน์วัศ สุดลาภา อะไรทำนองนี้
คณะทำงาน : อ้อ! ผู้ว่าเชาวน์วัศ อดีตผู้ว่า กทม. นะครับ ผู้ว่าลพบุรี เพชรบุรี หลายจังหวัด เรารู้จักครับ แล้วหลังจากนั้นคุณเข้าวัดตลอดเลยไหม
พยาน 1 : เราถูกอบรมทุกเย็นหลังเลิกงาน จากแบงก์กรุงเทพฯ ก็เดินมาที่ตึกสากลประกันภัย
คณะทำงาน : อบรมเรื่องอะไรบ้างครับ
พยาน 1 : อบรมให้เราออกบอกบุญกับคนที่รู้จัก ธัมมชโยเทศน์ว่า การชักนำให้คนบริจาคเงินเป็นการช่วยกำจัดความตระหนี่ของเขาให้เป็นคนรู้จักเสียสละ เป็นการบำเพ็ญวิริยบารมี ให้ทุกคนมาช่วยหลวงพ่อ เราจะร่วมกันสร้างศูนย์กลางของวิชชาธรรมกาย เราจะมีมหาวิทยาลัยศาสนาที่ดีที่สุดในโลก เราจะอยู่กันกับกลุ่มกัลยาณมิตรที่นี่ ที่วัดพระธรรมกาย
คณะทำงาน : แล้วไปขอให้เขาทำบุญ ถ้าทำต้องจ่ายมาก ถ้าเขาไม่ทำ เพราะทำบุญที่วัดนี้ร้อยสองร้อยไม่ค่อยจะรับอยู่แล้ว มีเหตุผลอะไรกว่านั้นอีกละถึงจะทำให้คนจ่ายเชื่อ ยอมควักกระเป๋ากันเป็นล้านๆ ครับ
พยาน 1 : เราตามตื้อ ไปหาบ่อยๆ ไปเยี่ยมบ่อยๆ เหมือนพวกขายประกัน วันเกิด วันปีใหม่ วันสำคัญ เราไปอวยพร ธัมมชโยฝากการ์ดอวยพรไปให้ด้วย แล้วเราพยายามชวนเข้าวัด พยายามพูดให้เขาฟังตลอดเวลาว่าหลวงพ่อเรารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าทุกอย่าง แต่จริงๆ เรามีประวัติคนที่เราไปหาเรียบร้อยแล้ว เราถูกสอนให้ชักชวนคนทำบุญว่า ธัมมชโยคือ ต้นธาตุต้นธรรม คืออุบัติมาเพื่อต้องการขนคนทั้งหมดไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ถ้าใครไม่เชื่อ เราบอกบุญไม่ได้ผล เราก็ถูกสุธรรม1 กับสีกาอี๊ดย้ำแล้วย้ำอีกว่าต้องทำให้ได้ เพื่อช่วยหลวงพ่อ ช่วยกันสร้างยานพาหนะพาสัตว์โลกข้ามวัฏสงสาร เราต้องทำให้ได้ เราจะได้บุญ หลวงพ่อจะช่วยให้เราบรรลุวิชชาธรรมกาย ไปสู่อายตนะนิพพานเป็นบรมสุข
คณะทำงาน : แล้วประสบผลสำเร็จอีกนานไหมครับ
พยาน 1 : ไม่ถึงเดือน เราก็สามารถพาคนเข้าวัด ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานแบงก์ของเรา เพื่อนๆ ญาติพี่น้องเราด้วย ต่อมาก็ขยายไปสู่ลูกค้าที่มาติดต่อแบงก์ เรารู้ประวัติ รู้หน้าที่การงานของลูกค้าเป็นอย่างดี เราเข้าถึงตัวกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายในฐานะพนักงานแบงก์ เราทำเป้าได้มากเดือนหนึ่งเป็นล้านๆ บาท
คณะทำงาน : พาคนไปทำบุญนะเหรอครับ ต่อคนหรือต่อกลุ่มที่ว่าเป็นล้านๆ นั่นนะ
พยาน 1 : บางเดือนเราพาคนไปทำบุญ เราคนเดียวนะ ได้นับสิบล้าน
คณะทำงาน : ไม่เข้าใจจริงๆ นะครับว่า ทำไมคุณและพรรคพวกก็เป็นคนมีการศึกษาดี จบกฎหมายด้วยซ้ำไป จบบัญชี ทำไมถึงเชื่อว่าวิชชาธรรมกายจะพาเข้าสู่พระนิพพาน มีอะไรให้เชื่อ และเข้าถึงวิชชาธรรมกายยังไงครับ
พยาน 1 : เรารู้สึกว่าเราเป็นคนพิเศษ มีกำลังใจ หลังจากที่เราทำเป้าการเงินได้มาก เรากลายเป็นคนพิเศษ สนิทสนมกับสีกาอี๊ดมาก เข้านอกออกในที่วัดได้สบาย ทุกคืนประมาณสี่ห้าทุ่มเราจะเข้าไปในวัดรายงานให้ธัมมชโยทราบว่าทำรายได้เท่าไหร่ เราเป็นที่โปรดปราน ธัมมชโยก็บอกว่าหลวงพ่อจะให้วิชชาธรรมกาย ให้นั่งสมาธิและสอนให้เห็นลูกแก้ว
คณะทำงาน : เห็นลูกแก้วเหรอ เห็นจริงหรือเปล่า สอนกันยังไงถึงได้หลงเชื่อกัน
พยาน 1 : มันเป็นนิมิตทางพุทธศาสนา คุณเคยเรียนเรื่องนิมิตหรือเปล่า นิมิตหรือ Sign เราถูกพูดกรอกหูว่า เห็นไหม ๆ ๆ เหมือนในเทปตลับปี 26, 28 ที่เคยมอบให้คุณไปรายงานกรรมาธิการฯ ด้วยความศรัทธาและเคารพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราก็มีความรู้สึกว่าเราเห็นลูกแก้ว แต่ตอนหลังมาเราศึกษาศาสนามากขึ้น เรารู้ว่าเป็นนิมิตชนิดหนึ่งเท่านั้น ธัมมชโยถามครั้งสุดท้ายว่าเห็นไหม เราบอกว่าเห็น เขาก็บอกให้นึกคิดขยายใหญ่ขึ้นๆ สว่างขึ้นมากๆ เราตั้งใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่าอยากได้ธรรมกาย ก็ทำตามหมด ธัมมชโยก็สรุปให้เห็นว่าเราได้ธรรมกายแล้ว เราภูมิใจมาก เหมือนเราบรรลุนิพพานเหมือนเขาพูด เราเข้าใจว่าบรรลุนิพพานคือยังงั้นแหละ เหมือนธัมมชโยสอนนะ
อ่านต่อได้ที่:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ See more at: http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums2/http/www.ppantip.com/cafe/religious/topic/Y5776337/Y5776337.html#sthash.MWV3xEUM.dpuf
วิทยาทานข้อมูลอีกหลายอย่างในห้องแห่งนี้สมนาคุณชาวพุทธทุกท่านนะครับ "แฟ้มคดีธรรมกาย"
บันทึกคำให้การพยานบุคคล
อดีตแกนนำผู้นำบุญปี 2526-2531
[กลุ่มแขนข้างขวาทางธุรกิจของ “ธัมมชโย”]
คณะทำงาน : เข้าวัดธรรมกายตั้งแต่เมื่อไหร่
พยาน 1 : 1 มกราคม 2526
คณะทำงาน : มีจุดประสงค์อะไรครับ
พยาน 1 : ไม่มีจุดประสงค์อะไร เราเป็นพนักงานหญิงแบงก์กรุงเทพฯ 5-6 คน เราต้องการแสวงหาธรรมะ ตามประสาคนหนุ่มสาว ได้ข่าวว่าวัดพระธรรมกายมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขับรถผ่านก็เลยแวะเข้าไป
คณะทำงาน : เข้าไปครั้งแรกรู้สึกเป็นยังไงครับ
พยาน 1 : รู้สึกปลาบปลื้ม ชอบใจ ไม่เคยเห็นวัดไหนเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างนี้มาก่อน
คณะทำงาน : ไปที่วัดพระธรรมกายครั้งแรก พบใครบ้างครับ
พยาน 1 : คุณวัลลภ–เพ็ญศรี เคียงศิริ, จิรวัฒน์ หรืออี๊ด ก็คุยกัน เขาให้ความสนใจกลุ่มของเรามาก สอบถามหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับตัวเราและพรรคพวก ถามทำงานที่ไหน อย่างไร เรียนจบที่ไหน ทำงานแผนกไหน ขอ Address ที่ติดต่อ ลงทะเบียนเรียบร้อยหมด
คณะทำงาน : ขณะนั้นสีกาอี๊ดเป็นคนลักษณะไหนครับ
พยาน 1 : เป็นคนหน้าตาดี มาดดี พยายามปั้นบุคลิกเหมือนสตรีนักธุรกิจ
คณะทำงาน : คุณวัลลภ-เพ็ญศรี เคียงศิริ เป็นใครครับ
พยาน 1 : เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร ฐานะดีมาก
คณะทำงาน : วันแรกรู้จักธัมมชโยหรือยัง มีใครแนะนำให้รู้จักธัมมชโยครับ
พยาน 1 : ได้พบธัมมชโยเทศน์ พานั่งสมาธิ เพื่อให้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย เหมือนเทปที่คณะทำงานได้ฟังนั่นแหละ เทปปี 2526, 27, 28 เทศน์เหมือนกัน หลังจากกลับจากวัดพระธรรมกายในเย็นวันนั้น ประมาณ 2 ทุ่ม สีกาอี๊ดก็โทร. มาหา บอกว่าหลวงพ่อธัมมชโยอยากพบพวกเรา เห็นว่าพวกเราเป็นคนมีบุญ บอกว่าพวกเราเกิดมาเป็นคู่บารมีของศาสนา ของหลวงพ่อ ว่ายังงั้นเลย พอประมาณ 4 ทุ่ม หลวงพ่อธัมมชโยโทรมาเองเลย เราตกใจมาก ไม่คิดว่าจะได้รับเกียรติขนาดนี้ ธัมมชโยกล่าวเชิญชวนให้เราไปฟังเขาเทศน์ เขาบอกว่าเรามีบารมีสูงทั้งกลุ่มเลย
คณะทำงาน : ให้ไปที่วัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์
พยาน 1 : ไปวันทำงาน วันธรรมดานี่แหละ ตอนเย็น ธัมมชโยมาที่ตึกนารายณ์สากลประกันภัย ทุกเย็นหลังเลิกงาน ใกล้ๆ AIA ถนนเดโช สุรวงศ์ ใกล้ๆ ที่ทำงานเรา กิจการของครอบครัววรรณา
คณะทำงาน : วรรณาคือใครครับ
พยาน 1 : วรรณา เบญจรงคกุล แฟน ดร.ประกอบ กีรจิตติ U-COM ไง เมื่อ
ปี 28 ยูค่อมสมัยก่อนยังเล็กอยู่นะ เกือบถูกเล่ห์เหลี่ยมธัมมชโยฮุบแล้ว พอดีหลวงพี่ดอกเตอร์ชัยเจริญ (ธีรญาโณ) รู้ทันธัมมชโยก่อน เตือนให้วรรณากับบุญชัยรู้ตัวเลยไม่ถูกฮุบ นี่เราอยู่ในเหตุการณ์เอง ธัมมชโยสั่งให้คนเข้าไปศึกษา เข้าใจว่าช่วงนั้นยูคอมกำลังจะขอสัมปทานสื่อสาร เขาอยากมีกิจการสื่อสารด้วย อยากมีแบงก์ด้วย
คณะทำงาน : ที่สากลประกันภัย พบคนเยอะมั้ย รูปแบบการเทศน์ของเขาเป็นยังไง
พยาน 1 : พบจิรวัฒน์-สีกาอี๊ด, คุณจึ๊ก ประพันธ์ เหตระกูล ได้ข่าวว่าช่วงนั้นเป็นเพื่อนสนิทหรือ…. ของวรรณา
คณะทำงาน : เอาละครับ เรื่องส่วนตัวปล่อยเขาไปเถอะ แต่อยากทราบรูปแบบครับ
พยาน 1 : คือเรามารู้ทีหลังนะ ว่าธัมมชโยสั่งให้สีกาอี๊ดตามประกบพวกเรา เพราะเห็นว่าพวกเราทำงานแบงก์ รู้จักคนมีเงินเยอะ เรามารู้ว่าถูกหลอกก็ตอนออกจากวัดมาแล้ว
คณะทำงาน : เอาเป็นว่า หลังจากไปที่สากลประกันภัยนั่นนะ ทางคุณและพรรคพวกเข้าไปเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกายเต็มตัวหรือยัง
พยาน 1 : ยังไม่เต็ม แต่ธัมมชโยจะชักชวนอยู่เสมอ โฆษณาตนเองตลอด คือไม่พูดตรงๆ นะ บางทีมีคนเล่าให้ฟังว่า พระธัมมชโยเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง รู้ล่วงหน้าหมดทุกอย่าง ทำนายทายทักคนได้หมดว่าใครคิดอะไร บางทีธัมมชโยก็พูดเป็นนัยๆ ว่า หลวงพ่อเกิดมาเพื่อพามนุษย์โลกข้ามวัฏสงสาร
คณะทำงาน : คุณและพรรคพวกเชื่อไหม
พยาน 1 : ตอนแรกไม่เชื่อ แต่หลังจากเราคลุกคลีมากๆ เข้า หลายคนพูด และหลายคนก็ร่ำรวย บางคนเขาบอกว่าตั้งแต่นับถือวัดพระธรรมกายฐานะเขาดีขึ้น โดยเฉพาะวรรณา สีกาอี๊ด บอกเราว่าบุญของหลวงพ่อและวิชชาธรรมกายทำให้พวกเขาประสบผลสำเร็จในชีวิตอย่างรวดเร็ว เขาพูดกันร่ำลือตลอดเวลาว่าหลวงพ่อเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง เหมือนพระยะโฮวา พระอัลเลาะห์ แต่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะมีคนมาเกณฑ์ไว้เป็นบริวารแล้ว คือพระสิทธัตถะกับหลวงพ่อสดเกิดมาเกณฑ์ชาวพุทธไว้รอ พระบรมพุทธเจ้าบังเกิดมาภายหลังคือธัมมชโย พระยะโฮวาส่งพระบุตรมาไม่มีใครเกณฑ์คนมานับถือ หลวงพ่อธัมมชโยจะยิ่งใหญ่กว่า
คณะทำงาน : ตอนนั้นสีกาอี๊ด รวยใกล้เคียงปัจจุบันหรือเปล่า
พยาน 1 : เขาพยายามบอกว่าเขาร่ำรวย แต่หลังจากนั้นเป็นปีเราพอจะทราบมาว่า บ้านสีกาอี๊ดไม่ร่ำรวยอะไร ยังยืมเงินวรรณาเลย สองหมื่นบาท สามีรับราชการกรมการปกครอง ช่วงนั้นรู้สึกจะเป็นหน้าห้องของเชาวน์วัศ สุดลาภา อะไรทำนองนี้
คณะทำงาน : อ้อ! ผู้ว่าเชาวน์วัศ อดีตผู้ว่า กทม. นะครับ ผู้ว่าลพบุรี เพชรบุรี หลายจังหวัด เรารู้จักครับ แล้วหลังจากนั้นคุณเข้าวัดตลอดเลยไหม
พยาน 1 : เราถูกอบรมทุกเย็นหลังเลิกงาน จากแบงก์กรุงเทพฯ ก็เดินมาที่ตึกสากลประกันภัย
คณะทำงาน : อบรมเรื่องอะไรบ้างครับ
พยาน 1 : อบรมให้เราออกบอกบุญกับคนที่รู้จัก ธัมมชโยเทศน์ว่า การชักนำให้คนบริจาคเงินเป็นการช่วยกำจัดความตระหนี่ของเขาให้เป็นคนรู้จักเสียสละ เป็นการบำเพ็ญวิริยบารมี ให้ทุกคนมาช่วยหลวงพ่อ เราจะร่วมกันสร้างศูนย์กลางของวิชชาธรรมกาย เราจะมีมหาวิทยาลัยศาสนาที่ดีที่สุดในโลก เราจะอยู่กันกับกลุ่มกัลยาณมิตรที่นี่ ที่วัดพระธรรมกาย
คณะทำงาน : แล้วไปขอให้เขาทำบุญ ถ้าทำต้องจ่ายมาก ถ้าเขาไม่ทำ เพราะทำบุญที่วัดนี้ร้อยสองร้อยไม่ค่อยจะรับอยู่แล้ว มีเหตุผลอะไรกว่านั้นอีกละถึงจะทำให้คนจ่ายเชื่อ ยอมควักกระเป๋ากันเป็นล้านๆ ครับ
พยาน 1 : เราตามตื้อ ไปหาบ่อยๆ ไปเยี่ยมบ่อยๆ เหมือนพวกขายประกัน วันเกิด วันปีใหม่ วันสำคัญ เราไปอวยพร ธัมมชโยฝากการ์ดอวยพรไปให้ด้วย แล้วเราพยายามชวนเข้าวัด พยายามพูดให้เขาฟังตลอดเวลาว่าหลวงพ่อเรารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าทุกอย่าง แต่จริงๆ เรามีประวัติคนที่เราไปหาเรียบร้อยแล้ว เราถูกสอนให้ชักชวนคนทำบุญว่า ธัมมชโยคือ ต้นธาตุต้นธรรม คืออุบัติมาเพื่อต้องการขนคนทั้งหมดไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ถ้าใครไม่เชื่อ เราบอกบุญไม่ได้ผล เราก็ถูกสุธรรม1 กับสีกาอี๊ดย้ำแล้วย้ำอีกว่าต้องทำให้ได้ เพื่อช่วยหลวงพ่อ ช่วยกันสร้างยานพาหนะพาสัตว์โลกข้ามวัฏสงสาร เราต้องทำให้ได้ เราจะได้บุญ หลวงพ่อจะช่วยให้เราบรรลุวิชชาธรรมกาย ไปสู่อายตนะนิพพานเป็นบรมสุข
คณะทำงาน : แล้วประสบผลสำเร็จอีกนานไหมครับ
พยาน 1 : ไม่ถึงเดือน เราก็สามารถพาคนเข้าวัด ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานแบงก์ของเรา เพื่อนๆ ญาติพี่น้องเราด้วย ต่อมาก็ขยายไปสู่ลูกค้าที่มาติดต่อแบงก์ เรารู้ประวัติ รู้หน้าที่การงานของลูกค้าเป็นอย่างดี เราเข้าถึงตัวกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายในฐานะพนักงานแบงก์ เราทำเป้าได้มากเดือนหนึ่งเป็นล้านๆ บาท
คณะทำงาน : พาคนไปทำบุญนะเหรอครับ ต่อคนหรือต่อกลุ่มที่ว่าเป็นล้านๆ นั่นนะ
พยาน 1 : บางเดือนเราพาคนไปทำบุญ เราคนเดียวนะ ได้นับสิบล้าน
คณะทำงาน : ไม่เข้าใจจริงๆ นะครับว่า ทำไมคุณและพรรคพวกก็เป็นคนมีการศึกษาดี จบกฎหมายด้วยซ้ำไป จบบัญชี ทำไมถึงเชื่อว่าวิชชาธรรมกายจะพาเข้าสู่พระนิพพาน มีอะไรให้เชื่อ และเข้าถึงวิชชาธรรมกายยังไงครับ
พยาน 1 : เรารู้สึกว่าเราเป็นคนพิเศษ มีกำลังใจ หลังจากที่เราทำเป้าการเงินได้มาก เรากลายเป็นคนพิเศษ สนิทสนมกับสีกาอี๊ดมาก เข้านอกออกในที่วัดได้สบาย ทุกคืนประมาณสี่ห้าทุ่มเราจะเข้าไปในวัดรายงานให้ธัมมชโยทราบว่าทำรายได้เท่าไหร่ เราเป็นที่โปรดปราน ธัมมชโยก็บอกว่าหลวงพ่อจะให้วิชชาธรรมกาย ให้นั่งสมาธิและสอนให้เห็นลูกแก้ว
คณะทำงาน : เห็นลูกแก้วเหรอ เห็นจริงหรือเปล่า สอนกันยังไงถึงได้หลงเชื่อกัน
พยาน 1 : มันเป็นนิมิตทางพุทธศาสนา คุณเคยเรียนเรื่องนิมิตหรือเปล่า นิมิตหรือ Sign เราถูกพูดกรอกหูว่า เห็นไหม ๆ ๆ เหมือนในเทปตลับปี 26, 28 ที่เคยมอบให้คุณไปรายงานกรรมาธิการฯ ด้วยความศรัทธาและเคารพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราก็มีความรู้สึกว่าเราเห็นลูกแก้ว แต่ตอนหลังมาเราศึกษาศาสนามากขึ้น เรารู้ว่าเป็นนิมิตชนิดหนึ่งเท่านั้น ธัมมชโยถามครั้งสุดท้ายว่าเห็นไหม เราบอกว่าเห็น เขาก็บอกให้นึกคิดขยายใหญ่ขึ้นๆ สว่างขึ้นมากๆ เราตั้งใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่าอยากได้ธรรมกาย ก็ทำตามหมด ธัมมชโยก็สรุปให้เห็นว่าเราได้ธรรมกายแล้ว เราภูมิใจมาก เหมือนเราบรรลุนิพพานเหมือนเขาพูด เราเข้าใจว่าบรรลุนิพพานคือยังงั้นแหละ เหมือนธัมมชโยสอนนะ
อ่านต่อได้ที่: [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้