ท่ามะโอเป็นอะไรกับท่ามะกา
คำถามเกรียนๆ ที่ผุดขึ้นมาเล่นๆ ในขณะที่ผมกำลังเลื่อนหน้าจอ News Feed บน Facebook ไปเจอรูปถ่ายของสถานที่แห่งนี้แล้วรู้สึกว่า มีบางอย่างให้น่าไปสัมผัส ซึ่งเป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ และทันทีที่ดูรูปเสร็จปุ๊บ ผมก็ถามพี่เจ้าของรูปนั้นถึงข้อมูลของท่ามะโอปั๊บ ก็ได้ข้อสรุปดับความสงสัยดังนี้
ท่ามะโอไม่ได้เป็นอะไรกับท่ามะกาหรอก แถมอยู่กันคนละทิศคนละทางเลย ท่ามะกาก็อยู่เมืองกาญไป ส่วนท่ามะโอเป็นชื่อชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งในเมืองรถม้า ล ำ ป า ง ห น า ว ม า ก นั่นเอง
พูดถึงลำปางก็ไม่ค่อยได้นึกถึงเป็นลิสต์อันดับต้นๆ ของการเที่ยวภาคเหนือสักเท่าไรนัก เพราะในสายตาขาเที่ยวมักจะมองว่า ลำปางเป็นแค่เมืองผ่านไปเชียงใหม่ แต่ก็มีคนไปเที่ยวและรีวิวเยอะพอสมควรนะ แต่พอผมลองหาข้อมูลเกี่ยวกับท่ามะโอว่าเป็นยังไง มีใครรีวิวในพันทิปแล้วหรือยัง ปรากฏว่า
ยั ง จ้ า า า า า
สรุปว่ารีวิวนี้จะโฟกัสไปที่ท่ามะโอเป็นหลัก เพราะยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ส่วนที่เที่ยวดังๆ ในลำปาง ผมเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักกันดีอยู่บ้างแล้ว ขอยกเป็นประเด็นเสริมละกันโนะ
ต่อจากนี้ เราจะพาผู้อ่านทุกท่านเข้าสู่ทริป
ลำปางลำพัง (เหรอ ?) : ไปชิลช้าๆ ณ บ้ า น ท่ า ม ะ โ อ
EP 1 : รถไฟ
ทริปครั้งนี้ห่างจากทริปก่อนถึงสี่เดือน และครั้งนี้ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือ ไปคนเดียวชิลๆ มันจึงเป็นเหตุผลที่ผมเลือกเดินทางโดยรถไฟ (เบื่อนั่งเครื่องกับรถทัวร์แล้ว)
อะๆๆ รีวิวทริปที่แล้วอยู่นี่ เสิร์ฟให้ถึงที่เลยจ้า
ผมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติหัวลำโพงด้วยขบวนรถด่วนชั้นสองรอบสี่ทุ่มของคืนวันศุกร์ ซึ่งผมจองตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทางถึง 1 เดือน (คือเคยมีประสบการณ์ทริปล่ม ตกรถไฟเพราะตัดสินใจเสี่ยงดวง Walk in ทั้งๆ ที่แพลนไว้ล่วงหน้า แถมมีเวลาจองตั๋วเป็นเดือน ครั้งนี้เลยเข็ดจ้า)
ะหว่างรอรถไฟออก (ไป Stand by ตั้งแต่สามทุ่ม)
ทำไมถึงเลือกตู้รถไฟชั้นสอง ? แถมเป็นตู้พัดลมอีกต่างหาก
คำตอบคือ จองตู้นอนไม่ทันจ้า A S U S
ส่วนความสะดวกสบายของตู้ชั้นนี้ ตรงๆ เลยว่า โหดร้ายยิ่งกว่ารถทัวร์ชั้นสองอีก นอนก็เหมือนไม่ได้นอนเพราะเอนเบาะได้แค่ 130 องศา (ถ้าไม่ได้ปรับเลยก็จะอยู่ที่ 100 องศาโดยประมาณ) แถมเบาะนี่ก็แข็งบรรลัยใช้ได้เลย และที่สำคัญคือ ไม่มีการปิดไฟบนตู้ตลอดทั้งคืนเลยจ้า ตอนนอนนี่คือต้องข่มตาแบบสึดๆ
ภาพสุดท้ายก่อนนอนนะฮะ
เ ช้ า แ ล้ ว แ จ้
เป็นวันเสาร์เช้าที่รู้สึกสดชื่นสุดๆ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนหลับๆ ตื่นๆ ตลอดเวลา
ผมตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาตีห้าสี่สิบห้า ฟ้าเริ่มสว่าง ไม่รู้ว่ารถไฟวิ่งถึงไหนแล้ว แต่ดูจากวิวข้างทางที่เริ่มมีภูเขาก็เดาเอาว่า น่าจะพ้นพิษณุโลกแล้วล่ะ
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะหกโมงเช้า ขบวนรถไฟก็พาเรามาถึงสถานีพิชัย ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดอุตรดิตถ์ นั่นหมายความว่า เรากำลังเข้าสู่ประตูภาคเหนือแล้ว
ห ก โ ม ง ส า ม สิ บ น า ที
ขบวนรถไฟได้มาถึงสถานีอุตรดิตถ์และศิลาอาสน์ตามลำดับ ได้มีเวลาพักหายใจถ่ายรูปเก็บบรรยากาศหน่อย (ระหว่างทางถ่ายแล้วภาพสั่นไปเยอะ สู้ความเร็วสู้งงงของรถไฟไทยไม่ไหว)
พอเห็นคนเริ่มเอาของกินมาขายบนรถไฟ ใจเริ่มอยากกินข้าวเช้าแล้วล่ะครับ ว่าแล้วเราก็ไปตู้เสบียงกันดีกว่า
บรรยากาศบนตู้เสบียงตอนเช้าค่อนข้างเงียบเหงา คนน้อย แต่เดี๋ยวสายๆ คนก็คงเยอะเอง
เมนูมื้อเช้าหลักๆ บนตู้เสบียงจะมี 3 อย่างด้วยกันคือ
ข้ า ว ต้ ม
แ ซ น ด์ วิ ช
[CR] ชิลช้าๆ ในส่วนหนึ่งของเมืองรถม้า ณ ท่ า ม ะ โ อ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น