สวัสดีชาว Pantip ทุกท่านนะคะ นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกของเรากับครั้งแรกใน "มัลดีฟส์" เกาะในฝันของใครหลายๆคน
หลังจากส่องหลายๆเพจที่กระหน่ำกันแชร์โปรฯเที่ยวมัลดีฟส์จนทนไม่ไหว เลยตัดสินใจจองมันซะเลย จึงกลายเป็นทริปฮันนีมูนของเราสองคนค่ะ
อย่างที่รู้ๆกันว่ารีสอร์ทในมัลดีฟส์มีเยอะมากๆ แต่โจทย์ของเราคือ อยากได้ที่พักที่มีประการังอุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบบ้านกลางน้ำ
เพราะเป็นคนชอบดำน้ำ เอเจ่นที่เราจองทริปนี้ เลยแนะนำที่นี่ค่ะ Vilamendhoo Island Resort & Spa เราได้ศึกษา ดูรีวิวจากหลายๆที่และใน Tripadvisor ต่างชาติหลายคนก็ยกให้ที่นี่เป็น Best House Reef จึงเลือกได้ง่ายๆอย่างไม่ลังเลค่ะ
เราเลือกพักห้องแบบ Jacuzzi Water Villa ในแพ็คเกจ All Inclusive Plus (นั่ง Seaplane) เข้าพักวันที่ 4-7 July ค่ะ
ค่าใช้จ่ายของเราตกคนละ 56,500 บาท (รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Bangkok Air)
มาเริ่มกันที่วันแรกเลยดีกว่าค่ะ ลุย!!!
หลังจากถึงสนามบิน Male ผ่าน ตม.เรียบร้อยแล้ว เราก็มานั่งรอ Seaplane กันที่เลานจ์ของรีสอร์ทค่ะ
รอไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง แล้วก็ได้เห็นวิวสวยๆสุดประทับใจแบบนี้ตลอดทางเลยค่ะ
(รูปถ่ายจะมีจากกล้อง Fuji + Gopro ปนๆกันค่ะ)
นั่ง Seaplane ประมาณ 25 นาที ก็มาถึงรีสอร์ทแล้วค่ะ มาถึงก็บ่าย 3 โมงแล้ว หลังจากเช็คอินก็เข้าห้องพักค่ะ เรารีเควสห้องวิวดีๆ
ขอไม่ติดด้านหน้าๆของโซน Water Villa มากนัก ทางรีสอร์ทเลยจัดห้องท้ายๆให้ เดินซะเกือบสุดทางของ Villa เลยค่ะ
เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เดินกันเหมื่อยเลยทีเดียว แต่เพื่อความสงบ ความสวยงามต้องยอมค่ะ ฮ่าๆ
บรรยากาศภายในห้องค่ะ ดูจากรูปอาจจะไม่ได้สวยหรู แต่ของจริงก็ถือว่าโอเคค่ะ ห้องกว้างขวาง สะอาดดี
ด้านหลังของห้องจะมีอ่าง Jacuzzi ให้นอนแช่มองดาวฟินๆกัน
มาดูด้านหน้า Water Villa กันบ้าง น้ำใสมากๆ
หลังจากอากาศดีได้ไม่นาน โชคร้ายก็มาถึง ฝนตกมาแบบไม่ทันตั้งตัว วันแรกของเราเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว
นั่งรอจนฝนเริ่มซ่าก็ค่ำซะแล้ว จากวิลล่าเดินไปห้องอาหารไม่ไกลค่ะ ที่นี่จะแยกห้องอาหารกันระหว่างห้องบีชและวิลล่า
All Inclusive Plus จะรวมอาหารทั้ง 3 มื้อ อาหารว่างทานเล่น และเครื่องดื่มไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็น Cocktail, Mocktail, Beer ค่ะ
อาหารที่นี่ส่วนใหญ่เป็นพวกเครื่องเทศรสจัด แกงๆผัดๆปนกันไป ใครชอบเครื่องเทศอาจจะถูกปากกันค่ะ
แต่สำหรับเราบางอย่างก็พอทานได้ ไม่ถูกปากสักเท่าไหร่ ก่อนมาเอเจ่นแอบบอกว่า ให้เตรียมมาม่าไปด้วยนะ โชคดีที่เราเตรียมมา
คืนนั้นเลยได้กลับไปต้มมาม่าต้มยำกินกันต่อ 555
ส่วนใครที่ชอบของหวานเหมือนเรา ต้องถูกใจแน่ๆ มีของหวานอร่อยๆให้ทานเพียบทุกมื้อ
ทุกคืนจะมีธีมอาหารสลับกันไปค่ะ คืนนี้เป็น Italian Night ค่ะ
หลังจากทานข้าวเสร็จ กลับห้องมาก็เจอเซอไพรส์เล็กๆจากรีสอร์ท พนักงานแอบเอามาไว้ในห้องค่ะ
ที่นี่จะมีพนักงานประจำของแต่ละห้องจะคอยดูแล ทำความสะอาดห้องให้เราเป็นช่วงๆทั้งวัน
วั น ที่ ส อ ง
วันนี้อากาศแจ่มใส แดดแรงมากแต่เช้าเลย ถือว่าโชคดีในการเที่ยวมัลดีฟส์หน้าฝน วันนี้เราจองทริปไปดำน้ำดูกระเบน Manta กับเต่าค่ะ
เรือจะออกตั้งแต่ 9 โมงเช้า
นั่งเรือไปไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เจอกระเบน Manta ยักษ์ใหญ่ นางอยู่ท่ามกลางทะเลที่คลื่นแรงมากๆ
แนะนำว่าต้องสวมชูชีพตอน snorkel ปลอดภัยที่สุดค่ะ เมื่อถึงที่ๆไกด์เจอกระเบนแล้ว นางก็จะตะโกนว่า Jump! Jump!
ให้ทุกคนโดดใช้สกิลว่ายน้ำที่มี ว่ายตามกระเบนไป ทันบ้างไม่ทันบ้าง ฝรั่งหลายคนสตรองมากกก ว่ายกันเร็วแบบไม่ใส่ชูชีพไปอีก
คลื่นทะเลก็แรงมาก แต่กระเบน Manta แถวนั้นมีหลายตัวค่ะ หาตัวง่ายกว่าเต่าเยอะ
Manta Ray สวยงามมาก ตัดภาพมาจากคลิปใน Gopro
วนดูกระเบนกันอยู่นาน ไกด์ก็พาไปดูเต่าต่อค่ะ แต่เราไม่ทันเห็น เพราะน้องเต่าว่ายเร็วและตรงนั้นน้ำค่อนข้างลึกค่ะ เสียดาย
หลังจากจบทริป... ก็กลับถึงรีสอร์ทช่วงบ่ายๆค่ะ ตรงทางเดินเข้า Water Villa ก็จะเจอเจ้า Baby Shark ขาประจำมาว่ายต้อนฝูงปลาทุกวันค่ะ
ปลาอะไรไม่แน่ใจ สีสวย บริเวณ Water Villa จะมีเยอะมากๆ ใช่ปลานกแก้วรึเปล่า ใครรู้บอกด้วยนะคะ แฮ่ๆ
นกเจ้าถิ่นขาประจำ ยืนกินน้ำสระทุกวัน
อากาศดีๆแบบนี้ อยากทำอะไรต้องรีบทำเลยค่ะ เพราะอากาศหน้าฝนนี่ไม่แน่นอนจริงๆ เลย Snorkel รอบๆวิลล่า
ประการังที่นี่อยู่ใกล้มากค่ะ ไม่ต้องว่ายไปไกลเลย
งานทะเลต้องไม่พลาดพก Dome มาด้วย
เพื่อนบ้านขึ้นมาเยี่ยมถึงที่
ดำน้ำเล่นกันหน่ำใจแล้ว ก็เดินชมวิวรอบๆรีสอร์ท ที่นี่เงียบสงบมากค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่านวุ่นวายเลย
ตรงนี้เป็นที่พักแบบ Beach ค่ะ เปิดประตูห้องเดินมาไม่กี่ก้าวก็ลงน้ำได้เลย แถมแนวประการังอยู่ใกล้มากๆ ใกล้กว่าตรง Water Villa ซะอีก
เก็บภาพวิวหน้า Beach Villas ซะหน่อย
ตรงนี้เป็นโซน Outdoor ห้องอาหารของ Water Villa ค่ะ
กลับมาที่โซน Water Villa >,,<
เดินมาจนสุด Water Villa ก็จะเจอที่นั่งชมพระอาทิตย์ตก ประทับใจวิวตรงนี้มากๆ มองได้ไม่มีเบื่อเลยค่ะ
จากนั้นก็ใช้แฟนให้เป็นประโยชน์ ถ่ายกันเป็นร้อยรูปเลยทีเดียว ฮ่าๆ แดดก็แรงมว้ากก SPF 50+ ก็เอาไม่อยู่
วั น ที่ ส า ม
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ วันนี้อากาศดีมากๆค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใส แดดแรงแต่เช้า
วิวสระว่ายน้ำหน้าห้องอาหาร Water Villa ค่ะ สระจะเงียบเกือบทั้งวัน มามัลดีฟส์ทั้งทีจะแช่น้ำสระอย่างเดียวคงจะไม่คุ้ม
ไ ป ดู โ ล ม า กั น เ ถ อ ะ
วันนี้เราจองทริป Sunset Cruise ไว้ช่วงเย็น ไปล่องเรือดูพระอาทิตย์ตก และดูโลมาค่ะ ลุ้นแทบแย่กลัวฝนจะตกอากาศไม่ดี
จะทำให้ไม่เจอโลมาค่ะ แต่โชคเข้าข้างอีกแล้ว อากาศดีทั้งวัน.... เราออกจากรีสอร์ทกันตอน 5 โมงค่ะ
เรือแล่นไปไม่นานก็เจอกับฝูงโลมาหลายตัว ทุกคนตื้นเต้นดีใจกันมาก ฝูงโลมาก็ดูเป็นมิตร มาว่ายเล่นกับเรือตลอด
ไกด์ก็สั่งวนเรือไปเรื่อยๆค่ะจนกว่าจะเจอโลมาอีก สรุปคือทริปนี้นอกจากประทับใจน้ำทะเลใสๆ ก็ประทับใจทริปดูโลมาที่สุด ^^
ระหว่างทางไกด์ชี้ให้ดูฝูงปลาทูน่าค่ะ สังเกตว่าเยอะมากๆ นึกถึงทูน่าซาซิมิขึ้นมาเลยย
เชื่อว่าใครที่ไปมัลดีฟส์มาแล้ว 4 วันไม่เคยพอแน่นอน ไปเกาะหลายๆวันไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเลยค่ะ มีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะ
แนะนำว่ามาถึงแล้วให้รีบจองทริปที่อยากทำก่อนเลยนะคะ ไม่งั้นเต็มแน่ๆ เราก็พลาดทริปดูฉลามวาฬไป แต่แอบถามคนที่ได้ไป
เค้าบอกว่าไม่เจอฉลามสักตัว ใครจองไปแล้วก็คงต้องวัดดวงกันเนอะ ว่าจะได้เจอรึเปล่า พนักงานบอกว่าโอกาสเจอมี 50/50 ค่ะ
ลาไปด้วยวิวพระอาทิตย์ตกนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่าา
[CR] Maldives! ไปดูโลมา กระเบนกันเถอะ My Honeymoon Trip @Vilamendhoo Island Resort & Spa
หลังจากส่องหลายๆเพจที่กระหน่ำกันแชร์โปรฯเที่ยวมัลดีฟส์จนทนไม่ไหว เลยตัดสินใจจองมันซะเลย จึงกลายเป็นทริปฮันนีมูนของเราสองคนค่ะ
อย่างที่รู้ๆกันว่ารีสอร์ทในมัลดีฟส์มีเยอะมากๆ แต่โจทย์ของเราคือ อยากได้ที่พักที่มีประการังอุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบบ้านกลางน้ำ
เพราะเป็นคนชอบดำน้ำ เอเจ่นที่เราจองทริปนี้ เลยแนะนำที่นี่ค่ะ Vilamendhoo Island Resort & Spa เราได้ศึกษา ดูรีวิวจากหลายๆที่และใน Tripadvisor ต่างชาติหลายคนก็ยกให้ที่นี่เป็น Best House Reef จึงเลือกได้ง่ายๆอย่างไม่ลังเลค่ะ
เราเลือกพักห้องแบบ Jacuzzi Water Villa ในแพ็คเกจ All Inclusive Plus (นั่ง Seaplane) เข้าพักวันที่ 4-7 July ค่ะ
ค่าใช้จ่ายของเราตกคนละ 56,500 บาท (รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Bangkok Air)
มาเริ่มกันที่วันแรกเลยดีกว่าค่ะ ลุย!!!
หลังจากถึงสนามบิน Male ผ่าน ตม.เรียบร้อยแล้ว เราก็มานั่งรอ Seaplane กันที่เลานจ์ของรีสอร์ทค่ะ
รอไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง แล้วก็ได้เห็นวิวสวยๆสุดประทับใจแบบนี้ตลอดทางเลยค่ะ
(รูปถ่ายจะมีจากกล้อง Fuji + Gopro ปนๆกันค่ะ)
นั่ง Seaplane ประมาณ 25 นาที ก็มาถึงรีสอร์ทแล้วค่ะ มาถึงก็บ่าย 3 โมงแล้ว หลังจากเช็คอินก็เข้าห้องพักค่ะ เรารีเควสห้องวิวดีๆ
ขอไม่ติดด้านหน้าๆของโซน Water Villa มากนัก ทางรีสอร์ทเลยจัดห้องท้ายๆให้ เดินซะเกือบสุดทางของ Villa เลยค่ะ
เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เดินกันเหมื่อยเลยทีเดียว แต่เพื่อความสงบ ความสวยงามต้องยอมค่ะ ฮ่าๆ
บรรยากาศภายในห้องค่ะ ดูจากรูปอาจจะไม่ได้สวยหรู แต่ของจริงก็ถือว่าโอเคค่ะ ห้องกว้างขวาง สะอาดดี
ด้านหลังของห้องจะมีอ่าง Jacuzzi ให้นอนแช่มองดาวฟินๆกัน
มาดูด้านหน้า Water Villa กันบ้าง น้ำใสมากๆ
หลังจากอากาศดีได้ไม่นาน โชคร้ายก็มาถึง ฝนตกมาแบบไม่ทันตั้งตัว วันแรกของเราเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว
นั่งรอจนฝนเริ่มซ่าก็ค่ำซะแล้ว จากวิลล่าเดินไปห้องอาหารไม่ไกลค่ะ ที่นี่จะแยกห้องอาหารกันระหว่างห้องบีชและวิลล่า
All Inclusive Plus จะรวมอาหารทั้ง 3 มื้อ อาหารว่างทานเล่น และเครื่องดื่มไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็น Cocktail, Mocktail, Beer ค่ะ
อาหารที่นี่ส่วนใหญ่เป็นพวกเครื่องเทศรสจัด แกงๆผัดๆปนกันไป ใครชอบเครื่องเทศอาจจะถูกปากกันค่ะ
แต่สำหรับเราบางอย่างก็พอทานได้ ไม่ถูกปากสักเท่าไหร่ ก่อนมาเอเจ่นแอบบอกว่า ให้เตรียมมาม่าไปด้วยนะ โชคดีที่เราเตรียมมา
คืนนั้นเลยได้กลับไปต้มมาม่าต้มยำกินกันต่อ 555
ส่วนใครที่ชอบของหวานเหมือนเรา ต้องถูกใจแน่ๆ มีของหวานอร่อยๆให้ทานเพียบทุกมื้อ
ทุกคืนจะมีธีมอาหารสลับกันไปค่ะ คืนนี้เป็น Italian Night ค่ะ
หลังจากทานข้าวเสร็จ กลับห้องมาก็เจอเซอไพรส์เล็กๆจากรีสอร์ท พนักงานแอบเอามาไว้ในห้องค่ะ
ที่นี่จะมีพนักงานประจำของแต่ละห้องจะคอยดูแล ทำความสะอาดห้องให้เราเป็นช่วงๆทั้งวัน
วั น ที่ ส อ ง
วันนี้อากาศแจ่มใส แดดแรงมากแต่เช้าเลย ถือว่าโชคดีในการเที่ยวมัลดีฟส์หน้าฝน วันนี้เราจองทริปไปดำน้ำดูกระเบน Manta กับเต่าค่ะ
เรือจะออกตั้งแต่ 9 โมงเช้า
นั่งเรือไปไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เจอกระเบน Manta ยักษ์ใหญ่ นางอยู่ท่ามกลางทะเลที่คลื่นแรงมากๆ
แนะนำว่าต้องสวมชูชีพตอน snorkel ปลอดภัยที่สุดค่ะ เมื่อถึงที่ๆไกด์เจอกระเบนแล้ว นางก็จะตะโกนว่า Jump! Jump!
ให้ทุกคนโดดใช้สกิลว่ายน้ำที่มี ว่ายตามกระเบนไป ทันบ้างไม่ทันบ้าง ฝรั่งหลายคนสตรองมากกก ว่ายกันเร็วแบบไม่ใส่ชูชีพไปอีก
คลื่นทะเลก็แรงมาก แต่กระเบน Manta แถวนั้นมีหลายตัวค่ะ หาตัวง่ายกว่าเต่าเยอะ
Manta Ray สวยงามมาก ตัดภาพมาจากคลิปใน Gopro
วนดูกระเบนกันอยู่นาน ไกด์ก็พาไปดูเต่าต่อค่ะ แต่เราไม่ทันเห็น เพราะน้องเต่าว่ายเร็วและตรงนั้นน้ำค่อนข้างลึกค่ะ เสียดาย
หลังจากจบทริป... ก็กลับถึงรีสอร์ทช่วงบ่ายๆค่ะ ตรงทางเดินเข้า Water Villa ก็จะเจอเจ้า Baby Shark ขาประจำมาว่ายต้อนฝูงปลาทุกวันค่ะ
ปลาอะไรไม่แน่ใจ สีสวย บริเวณ Water Villa จะมีเยอะมากๆ ใช่ปลานกแก้วรึเปล่า ใครรู้บอกด้วยนะคะ แฮ่ๆ
นกเจ้าถิ่นขาประจำ ยืนกินน้ำสระทุกวัน
อากาศดีๆแบบนี้ อยากทำอะไรต้องรีบทำเลยค่ะ เพราะอากาศหน้าฝนนี่ไม่แน่นอนจริงๆ เลย Snorkel รอบๆวิลล่า
ประการังที่นี่อยู่ใกล้มากค่ะ ไม่ต้องว่ายไปไกลเลย
งานทะเลต้องไม่พลาดพก Dome มาด้วย
เพื่อนบ้านขึ้นมาเยี่ยมถึงที่
ดำน้ำเล่นกันหน่ำใจแล้ว ก็เดินชมวิวรอบๆรีสอร์ท ที่นี่เงียบสงบมากค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่านวุ่นวายเลย
ตรงนี้เป็นที่พักแบบ Beach ค่ะ เปิดประตูห้องเดินมาไม่กี่ก้าวก็ลงน้ำได้เลย แถมแนวประการังอยู่ใกล้มากๆ ใกล้กว่าตรง Water Villa ซะอีก
เก็บภาพวิวหน้า Beach Villas ซะหน่อย
ตรงนี้เป็นโซน Outdoor ห้องอาหารของ Water Villa ค่ะ
กลับมาที่โซน Water Villa >,,<
เดินมาจนสุด Water Villa ก็จะเจอที่นั่งชมพระอาทิตย์ตก ประทับใจวิวตรงนี้มากๆ มองได้ไม่มีเบื่อเลยค่ะ
จากนั้นก็ใช้แฟนให้เป็นประโยชน์ ถ่ายกันเป็นร้อยรูปเลยทีเดียว ฮ่าๆ แดดก็แรงมว้ากก SPF 50+ ก็เอาไม่อยู่
วั น ที่ ส า ม
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ วันนี้อากาศดีมากๆค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใส แดดแรงแต่เช้า
วิวสระว่ายน้ำหน้าห้องอาหาร Water Villa ค่ะ สระจะเงียบเกือบทั้งวัน มามัลดีฟส์ทั้งทีจะแช่น้ำสระอย่างเดียวคงจะไม่คุ้ม
ไ ป ดู โ ล ม า กั น เ ถ อ ะ
วันนี้เราจองทริป Sunset Cruise ไว้ช่วงเย็น ไปล่องเรือดูพระอาทิตย์ตก และดูโลมาค่ะ ลุ้นแทบแย่กลัวฝนจะตกอากาศไม่ดี
จะทำให้ไม่เจอโลมาค่ะ แต่โชคเข้าข้างอีกแล้ว อากาศดีทั้งวัน.... เราออกจากรีสอร์ทกันตอน 5 โมงค่ะ
เรือแล่นไปไม่นานก็เจอกับฝูงโลมาหลายตัว ทุกคนตื้นเต้นดีใจกันมาก ฝูงโลมาก็ดูเป็นมิตร มาว่ายเล่นกับเรือตลอด
ไกด์ก็สั่งวนเรือไปเรื่อยๆค่ะจนกว่าจะเจอโลมาอีก สรุปคือทริปนี้นอกจากประทับใจน้ำทะเลใสๆ ก็ประทับใจทริปดูโลมาที่สุด ^^
ระหว่างทางไกด์ชี้ให้ดูฝูงปลาทูน่าค่ะ สังเกตว่าเยอะมากๆ นึกถึงทูน่าซาซิมิขึ้นมาเลยย
เชื่อว่าใครที่ไปมัลดีฟส์มาแล้ว 4 วันไม่เคยพอแน่นอน ไปเกาะหลายๆวันไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเลยค่ะ มีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะ
แนะนำว่ามาถึงแล้วให้รีบจองทริปที่อยากทำก่อนเลยนะคะ ไม่งั้นเต็มแน่ๆ เราก็พลาดทริปดูฉลามวาฬไป แต่แอบถามคนที่ได้ไป
เค้าบอกว่าไม่เจอฉลามสักตัว ใครจองไปแล้วก็คงต้องวัดดวงกันเนอะ ว่าจะได้เจอรึเปล่า พนักงานบอกว่าโอกาสเจอมี 50/50 ค่ะ
ลาไปด้วยวิวพระอาทิตย์ตกนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่าา