สวัสดีครับปรกติเราจะเห็นแต่กระทู้จากเจ้าของบ้าน วันนี้เราลองอ่านกระทู้จากช่างบ้างครับ ไม่ใช่ว่าเจ้าของบ้านดีหรือไม่ดีนะครับ แค่อยากเล่าส่วนของช่าง ว่าเวลารับงาน ทำงาน บางทีจะเจอปัญหาอะใรบ้าง ที่ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของบ้านจะไม่รู้ครับ
ปรกติผมรับงานปูกระเบื้องให้กับห้างๆหนึ่ง ซึ่งก็ใด้ราคาดี มีงานให้ทำตลอดอยู่แล้ว มีงานทุกเดือนๆนึงทำงานประมาณ 20 วัน และพัก 10 วัน เฉลี่ยรายใด้พออยู่ใด้ 6-80,000 บาท โดยช่วงพักก็อาจจะรับงานเล็กๆน้อยๆแถวบ้านบ้าง และก็มีลูกค้าท่านนึงติดต่อมา พี่เค้าว่าตามมาจากพันทิป บอกว่าอยากปูกระเบื้องใหม่ เป็นพื้นระเบืองหน้าบ้านเพราะมัน ระเบิดร่อนขึ้นมา จากวันที่ติดต่อวันแรกพี่เค้าก็รอคิว อยู่เป็นเดือนครับ ผมเห็นว่าเป็นงานเล็ก และใกล้บ้านห่างจากบ้านผมไปร้อยกว่ากิโล
วันแรกไปดูหน้างาน วัดงานและตีราคา วัดพื้นที่ใด้ 20 ตรม. กระเบื้องเดิมเป็นดินเผาระเบิด ดันกันขึ้นมาบางส่วนแล้ว ตกลงว่ารื้อทั้งหมดแล้วปูใหม่ เปลื่ยนกระเบื้องใหม่ โดยลายปูกระเบื้องของเดิม เป็นลายข้ามหลามตัด แต่พี่เค้าปูใหม่จะเอาแบบแนวตรงธรรมดา ผมเสนอราคาที่ ค่ารื้อ ตรม.100 บาท และค่าปู ตรม.ละ 200 บาท ราคารวมปูนกาว เจ้าของบ้านจัดหาเฉพาะกระเบื้องและยาแนวแค่นั้นพอ รวมเป็นเงิน 6,000 บาท
เริ่มงานวันแรก ผมเข้ารื้อกระเบื้องเดิมออกพร้อมขนทิ้ง
วันที่ 2 ก่อนจะปู เจ้าของบ้านแจ้งว่าอยากปูแนวแบบข้าวหลามตัดมากกว่า เราก็ทำให้ครับ ซึ่งจริงแล้ว มันจะปูยากและเสียเวลากว่าเดิมเพราะต้องตัดเศษรอบตัว และเศษแบบสามเหลี่ยมจะตัดยากกว่าแบบตรง
จากที่คำนวนเวลาทำงานว่าไม่เกินสามวัน รื้อหนึ่ง ปูหนึ่ง ยาแนวหนี่ง ตอนนี้เพิ่มเวลาขึ้นแล้วครับ กลายเป็นปูสองวันและต้องมายาแนวในวันรุ่งขึ้น
ปัญหาอีกอย่างที่เจอคือ โครงการห้ามเสียงดังก่อนเก้าโมง และให้เก็บของออกจากโครงการก่อนห้าโมงเย็น ซึ่งทำให้เวลางานของเราลดลง
รวมแล้วเป็น 4 วันกับการทำงาน
เมือเส็ด เจ้าของบ้านบอกว่าต้องการปูบันไดด้วย มีบันไดขึ้นบ้านอีก 3 ขั้น ซึ่งกระเบื้องไม่พอเพราะไม่ใด้สั่งเผื่อบันได ผมเลยออกไปซื้อมาให้ และต้องกลับมาปูบันไดอีก หนึ่งวัน
เบ็จเส็ดทำงาน 5 จบงาน เมื่อคิดเงิน ผมขอค่าปูบันไดเพิ่ม 1,000 บาท พี่เจ้าของบ้านถามกลับว่า ต้องเพิ่มด้วยหรือ ผมเลยอธิบายว่าบันไดเป็นงานปูยากครับ และผมต้องเดินทางมาทำ เฉพาะค่าแรงลูกน้องก็วันละ 400 แล้ว พี่เจ้าของบ้านเลยต่อรองเพิ่มให้ 600 ครับ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,600 บาท
ทีนี้มาดูกันครับ เงิน 6,600 กับการทำงาน 5 วัน(ไม่รวมวันวัดหน้างาน) มีรายจ่ายตรงใหนบ้าง
1. ค่าปูนกาว 1,000 บาท
2.ค่าแรงลูกน้อง 1 คน วันละ 400 บาท 5วัน เป็นเงิน 2,000 บาท
3.ค่าน้ำมันเดินทาง ไปกลับวันละ 200 กิโล ประมาณ 1,000 บาท
งานนี้ผมเหลือเงิน 2,600 บาท กับการทำงาน 5 วัน หรือตกวันละ 500 กว่าบาท ซึ่งก้ไม่ซีเรียสครับ เพราะทำในเวลาพักดีกว่านอนเฉยๆ
นี่ครับเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะทำให้หลายคนหาช่างลำบาก ใด้ช่างไม่ดีมาทำงาน เห็นหลายกระทู้ที่ถามหาช่าง ขึ้นต้นต้องการฝีมือดี ลงท้ายขอราคาถูก ผมว่ามันผิดหลักการณ์นะครับ บริการและสินค้าหลายอย่างไม่มีคำว่าราคามาตรฐาน ตัดผมบางที่ 80บาท บางที่ หัวล่ะ 500 บาท กางเกงยีน บางตัว 199 บาท บางตัวหลักพัน หลักหมื่น งานก็เช่นกัน งานที่เนี๊ยบก็ต้องใช้เวลาและฝีมือ ถ้าใด้ราคาถูกๆ ช่างส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่รับงานนั้น ทำให้เกิดว่าหาช่างไม่ค่อยมี ส่วนที่หามาใด้ก็ฝีมือไม่ดี เพราะอะใร เพราะถ้าเค้าฝีมือดีแต่ก็ต้องทำแข่งเวลา เพื่อความคุ้มของตัวเงินก็เลยลดความเรียบร้อยลง หรือคือช่างที่ฝีมือไม่ดีแต่ต้นไม่มีงานทำ เลยรับราคาใด้ครับ
การหาช่าง ควรดูผลงานเป็นหลัก แล้วค่อยราคาตามหลัง เพราะงานมันจะอยู่กับผู้จ้างไปอีกนาน ถ้าใด้งานที่ไม่ถูกใจ อาจจะต้องเสียมากกว่าเดิมครับ
อย่างงานที่ผมทำให้กับห้างๆนึงนั้น ผมคิดว่า ราคาก็สูงอยู่ แต่ลูกค้าก็ใด้งานที่ถูกใจครับ
เมื่อจบงาน ก็จบไปด้วยดีครับ ในบางงานค่าแรงไม่กี่บาท แต่ใด้ทิปเป็นหมื่นก็มี
กระทู้นี้อยากสื่อให้เห็นว่า ช่างดี งานดี เจ้าบ้านดี คือทุกอย่างมันมีหลายองค์ประกอบครับ เจ้าของบ้านบางท่านอาจไม่รู้ว่า เพิ่มงานก็ควรเพิ่มเงิน งานบางตัวดูเล็กๆแต่ช่างต้องเดินทางมาทำนะครับ บางท่านคำนึงราคาเป็นหลักจะเอาถูกๆ ผมเคยเสนอราคา ปูพื้น 130 แต่ลูกค้าต่อราคาเหลือ 120 ใด้มั้ย เพราะช่างเก่าเค้าก็ปู 120 ผมถามว่าแล้วช่างเก่าไปใหนครับ ลูกค้าบอก อ้อ ไล่ไปแล้วปูไม่ผ่าน ฝีมือไม่ดี แบบนี้ก็มีครับ คืองานต้องการดีๆแต่ราคาขอถูกๆ
ช่างมีดีและไม่ดี ไม่ว่าจะในนี้หรือช่างในห้างหรือช่างข้างนอก เจ้าของบ้านก็มีดีและไม่ดีเช่นกันครับ เพียงแต่พื้นที่ตรงนี้ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบ้านแค่นั้นเอง
ส่วนใครจะหลังไมค์มาปรึกษาเรื่องงานยินดีครับ แต่จะจ้างงานผมไม่รับนะครับ เพราะผมไม่เก่งเรื่องคิดราคาครับ
เมื่อผมรับงานปูกระเบื้องกับลูกค้ารายแรกจากในพันทิป
ปรกติผมรับงานปูกระเบื้องให้กับห้างๆหนึ่ง ซึ่งก็ใด้ราคาดี มีงานให้ทำตลอดอยู่แล้ว มีงานทุกเดือนๆนึงทำงานประมาณ 20 วัน และพัก 10 วัน เฉลี่ยรายใด้พออยู่ใด้ 6-80,000 บาท โดยช่วงพักก็อาจจะรับงานเล็กๆน้อยๆแถวบ้านบ้าง และก็มีลูกค้าท่านนึงติดต่อมา พี่เค้าว่าตามมาจากพันทิป บอกว่าอยากปูกระเบื้องใหม่ เป็นพื้นระเบืองหน้าบ้านเพราะมัน ระเบิดร่อนขึ้นมา จากวันที่ติดต่อวันแรกพี่เค้าก็รอคิว อยู่เป็นเดือนครับ ผมเห็นว่าเป็นงานเล็ก และใกล้บ้านห่างจากบ้านผมไปร้อยกว่ากิโล
วันแรกไปดูหน้างาน วัดงานและตีราคา วัดพื้นที่ใด้ 20 ตรม. กระเบื้องเดิมเป็นดินเผาระเบิด ดันกันขึ้นมาบางส่วนแล้ว ตกลงว่ารื้อทั้งหมดแล้วปูใหม่ เปลื่ยนกระเบื้องใหม่ โดยลายปูกระเบื้องของเดิม เป็นลายข้ามหลามตัด แต่พี่เค้าปูใหม่จะเอาแบบแนวตรงธรรมดา ผมเสนอราคาที่ ค่ารื้อ ตรม.100 บาท และค่าปู ตรม.ละ 200 บาท ราคารวมปูนกาว เจ้าของบ้านจัดหาเฉพาะกระเบื้องและยาแนวแค่นั้นพอ รวมเป็นเงิน 6,000 บาท
เริ่มงานวันแรก ผมเข้ารื้อกระเบื้องเดิมออกพร้อมขนทิ้ง
วันที่ 2 ก่อนจะปู เจ้าของบ้านแจ้งว่าอยากปูแนวแบบข้าวหลามตัดมากกว่า เราก็ทำให้ครับ ซึ่งจริงแล้ว มันจะปูยากและเสียเวลากว่าเดิมเพราะต้องตัดเศษรอบตัว และเศษแบบสามเหลี่ยมจะตัดยากกว่าแบบตรง
จากที่คำนวนเวลาทำงานว่าไม่เกินสามวัน รื้อหนึ่ง ปูหนึ่ง ยาแนวหนี่ง ตอนนี้เพิ่มเวลาขึ้นแล้วครับ กลายเป็นปูสองวันและต้องมายาแนวในวันรุ่งขึ้น
ปัญหาอีกอย่างที่เจอคือ โครงการห้ามเสียงดังก่อนเก้าโมง และให้เก็บของออกจากโครงการก่อนห้าโมงเย็น ซึ่งทำให้เวลางานของเราลดลง
รวมแล้วเป็น 4 วันกับการทำงาน
เมือเส็ด เจ้าของบ้านบอกว่าต้องการปูบันไดด้วย มีบันไดขึ้นบ้านอีก 3 ขั้น ซึ่งกระเบื้องไม่พอเพราะไม่ใด้สั่งเผื่อบันได ผมเลยออกไปซื้อมาให้ และต้องกลับมาปูบันไดอีก หนึ่งวัน
เบ็จเส็ดทำงาน 5 จบงาน เมื่อคิดเงิน ผมขอค่าปูบันไดเพิ่ม 1,000 บาท พี่เจ้าของบ้านถามกลับว่า ต้องเพิ่มด้วยหรือ ผมเลยอธิบายว่าบันไดเป็นงานปูยากครับ และผมต้องเดินทางมาทำ เฉพาะค่าแรงลูกน้องก็วันละ 400 แล้ว พี่เจ้าของบ้านเลยต่อรองเพิ่มให้ 600 ครับ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,600 บาท
ทีนี้มาดูกันครับ เงิน 6,600 กับการทำงาน 5 วัน(ไม่รวมวันวัดหน้างาน) มีรายจ่ายตรงใหนบ้าง
1. ค่าปูนกาว 1,000 บาท
2.ค่าแรงลูกน้อง 1 คน วันละ 400 บาท 5วัน เป็นเงิน 2,000 บาท
3.ค่าน้ำมันเดินทาง ไปกลับวันละ 200 กิโล ประมาณ 1,000 บาท
งานนี้ผมเหลือเงิน 2,600 บาท กับการทำงาน 5 วัน หรือตกวันละ 500 กว่าบาท ซึ่งก้ไม่ซีเรียสครับ เพราะทำในเวลาพักดีกว่านอนเฉยๆ
นี่ครับเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะทำให้หลายคนหาช่างลำบาก ใด้ช่างไม่ดีมาทำงาน เห็นหลายกระทู้ที่ถามหาช่าง ขึ้นต้นต้องการฝีมือดี ลงท้ายขอราคาถูก ผมว่ามันผิดหลักการณ์นะครับ บริการและสินค้าหลายอย่างไม่มีคำว่าราคามาตรฐาน ตัดผมบางที่ 80บาท บางที่ หัวล่ะ 500 บาท กางเกงยีน บางตัว 199 บาท บางตัวหลักพัน หลักหมื่น งานก็เช่นกัน งานที่เนี๊ยบก็ต้องใช้เวลาและฝีมือ ถ้าใด้ราคาถูกๆ ช่างส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่รับงานนั้น ทำให้เกิดว่าหาช่างไม่ค่อยมี ส่วนที่หามาใด้ก็ฝีมือไม่ดี เพราะอะใร เพราะถ้าเค้าฝีมือดีแต่ก็ต้องทำแข่งเวลา เพื่อความคุ้มของตัวเงินก็เลยลดความเรียบร้อยลง หรือคือช่างที่ฝีมือไม่ดีแต่ต้นไม่มีงานทำ เลยรับราคาใด้ครับ
การหาช่าง ควรดูผลงานเป็นหลัก แล้วค่อยราคาตามหลัง เพราะงานมันจะอยู่กับผู้จ้างไปอีกนาน ถ้าใด้งานที่ไม่ถูกใจ อาจจะต้องเสียมากกว่าเดิมครับ
อย่างงานที่ผมทำให้กับห้างๆนึงนั้น ผมคิดว่า ราคาก็สูงอยู่ แต่ลูกค้าก็ใด้งานที่ถูกใจครับ
เมื่อจบงาน ก็จบไปด้วยดีครับ ในบางงานค่าแรงไม่กี่บาท แต่ใด้ทิปเป็นหมื่นก็มี
กระทู้นี้อยากสื่อให้เห็นว่า ช่างดี งานดี เจ้าบ้านดี คือทุกอย่างมันมีหลายองค์ประกอบครับ เจ้าของบ้านบางท่านอาจไม่รู้ว่า เพิ่มงานก็ควรเพิ่มเงิน งานบางตัวดูเล็กๆแต่ช่างต้องเดินทางมาทำนะครับ บางท่านคำนึงราคาเป็นหลักจะเอาถูกๆ ผมเคยเสนอราคา ปูพื้น 130 แต่ลูกค้าต่อราคาเหลือ 120 ใด้มั้ย เพราะช่างเก่าเค้าก็ปู 120 ผมถามว่าแล้วช่างเก่าไปใหนครับ ลูกค้าบอก อ้อ ไล่ไปแล้วปูไม่ผ่าน ฝีมือไม่ดี แบบนี้ก็มีครับ คืองานต้องการดีๆแต่ราคาขอถูกๆ
ช่างมีดีและไม่ดี ไม่ว่าจะในนี้หรือช่างในห้างหรือช่างข้างนอก เจ้าของบ้านก็มีดีและไม่ดีเช่นกันครับ เพียงแต่พื้นที่ตรงนี้ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบ้านแค่นั้นเอง
ส่วนใครจะหลังไมค์มาปรึกษาเรื่องงานยินดีครับ แต่จะจ้างงานผมไม่รับนะครับ เพราะผมไม่เก่งเรื่องคิดราคาครับ